ตอนที่ 257 แคว้นเย่หลาง

” สักการะไผ่ ? ” หลูตงซิงมองมาอย่างประหลาดใจ

หยางโปพยักหน้า ” ใช่ครับ เป็นการสักการะต่อต้นไผ่ ! “

ชายหนุ่มเผ่าอี๋ที่เป็นผู้นำเอ่ยปากอธิบาย ” บรรพบุรุษของเผ่าอี๋เป็นคนเชียง นับขึ้นไปอีกก็เป็นคนแคว้นเย่หลางโบราณ พวกเราล้วนมีการส่งต่อวัฒนธรรมที่เหมือนกัน นั่นก็คือการสักการะต่อต้นไผ่ ช่วงบูชายัญของทุกปีก็จะวางไผ่ท่อนหนึ่งเอาไว้ด้านหน้าศาลบรรพชน เพื่อเป็นการบอกว่าพวกเราเป็นชนรุ่นหลังของแคว้นเย่หลาง “

ถ้อยคำของคนหนุ่มเผ่าอี๋ดึงดูดความสนใจของทุกคน ปกติแล้วทุกคนศึกษาเกี่ยวกับแคว้นเย่หลางโบราณไม่มาก เย่หลางตั้งอยู่ที่บริเวณซีหนาน เศรษฐกิจของที่นั่นค่อนข้างย่ำแย่ อีกทั้งการขุดค้นพบโบราณวัตถุเกี่ยวกับแคว้นเย่หลางโบราณก็มีน้อยมาก แคว้นเย่หลางสูญสลายกลายเป็นปริศนาไปแล้ว มันไม่ใช่จุดสนใจของผู้คนเลยสักนิด

 

หยางโปเองก็เข้าใจไม่มาก เขาจ้องมองคนหนุ่มเผ่าอี๋ผู้นำกลุ่ม

ได้ยินเขาเอ่ยต่อไปว่า ” เผ่าอี๋ของพวกเรามีตำนานหนึ่งมาตลอด บอกว่าในสมัยโบราณมีหญิงสาวซักผ้าอยู่ที่ริมน้ำ จู่ๆ ลำไผ่ใหญ่มีขนาดยาวสามส่วนก็ลอยขึ้นมาจากในน้ำมาถึงด้านข้างเท้าของหญิงสาว หญิงสาวอยากจะดันไผ่ออกไปแต่ดันอยู่หลายครั้ง ต้นไผ่ก็ยังคงลอยกลับมา เวลานี้หญิงสาวโมโหขึ้นมาบ้างแล้ว คิดจะพับแขนเสื้อให้ดีแล้วดันไผ่ท่อนนี้ออกไป แต่ว่าเวลานี้ก็ได้ยินเสียงเด็กทารกร้องดังออกมาจากในต้นไผ่ “

” เธอประหลาดใจมาก แล้วจึงเอาต้นไผ่กลับบ้านแล้วใช้ขวานผ่าออก ข้างในนั้นถึงกับมีเด็กทารกผู้ชายคนหนึ่ง หลังจากเด็กทารกเติบโตขึ้นมาแล้วก็มีพรสวรรค์เหนือธรรมดา ทั้งเรียนรู้อย่างยากลำบากจนกลายเป็นผู้เก่งกาจทั้งบุ๋นบู๊ เป็นคนที่ทั้งกล้าหาญและชาญฉลาด เขาอาศัยปัญหาความสามารถของตนเองพลันแผ่อำนาจอย่างรวดเร็ว กลายเป็นปฐมกษัตริย์ของแคว้นเย่หลาง เพื่อให้โลกจารึกตัวเขา เขายังใช้แซ่จู๋ (ไผ่) เป็นแซ่ของตนเอง “

 

ทุกคนต่างก็มองปิ่นที่อยู่บนโต๊ะ เมื่อครู่ทุกคนล้วนสังเกตเห็นรอยสลักด้านบนนั้นแล้ว เพียงแต่คนจำนวนมากยังคิดไปไม่ถึงจุดนี้ เมื่อได้ยินอีกฝ่ายมาเอ่ยเตือนแล้วทุกคนถึงได้คิดออก

คนหนุ่มที่เป็นผู้นำชี้ไปที่ปิ่นหยกแล้วกล่าว ” ปิ่นหยกเริ่มประมูลที่สามพันหยวน “

ทุกคนเหมือนจะเข้าใจกันโดยนัย โดยรอบถึงกับไม่มีใครตอบกลับ ผ่านไปครู่หนึ่งแล้วถึงได้มีคนยกมือขึ้นกล่าว ” สามพันหยวน “

ถึงกับไม่เพิ่มขึ้นสักนิด การประมูลเช่นนี้ทำให้ชายหนุ่มเผ่าอี๋ทั้งสามคนกระอักกระอ่วนอย่างมาก

ชายหนุ่มที่เป็นผู้นำกำมือ เป็นสัญญาให้อีกสองคนด้านหลังอย่าขยับ แล้วค่อยมองไปทางทุกคน ” ไม่มีคนเพิ่มราคาขึ้นอีกแล้วเหรอ ? “

 

หยางโปมองไปรอบด้าน ประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าทำไมทุกคนถึงทำแบบนี้ ถึงแม้ว่าปิ่นหยกนี้จะทำขึ้นอย่างหยาบๆ แต่อาศัยยุคสมัยที่ยาวนานของมันก็เพียงพอที่จะเพิ่มราคาขึ้นสูงได้ อีกอย่างภายใต้เงื่อนไขความหายากของเย่หลางโบราณ ปิ่นหยกชิ่นนี้ก็พอที่จะมีราคามากกว่าหนึ่งหมื่นหยวน

ไม่มีใครเอ่ยปาก ผ่านไปครู่หนึ่ง ชายหนุ่มเผ่าอี๋ที่เป็นหัวหน้าจึงได้เอ่ยอย่างจนปัญญา ” จบการประมูล ปิ่นหยกสามพันหยวน ! “

สีหน้าของคนหนุ่มไม่ได้เสียศูนย์เท่าไหร่นัก หยางโปพอเดาออกได้ว่าชายหนุ่มทั้งสามคนนี้จะต้องถามราคากันมาที่อื่นแล้วแน่ๆ ราคานี้นับว่าสูงแล้ว

ไม่นานชายผู้เป็นหัวหน้าก็หยิบของชิ้นที่สองออกมา ครั้งนี้เป็นเครื่องลายครามชิ้นหนึ่ง สีสันภายนอกของเครื่องลายครามซีด มีแค่ลายเส้นเป็นรูปสามเหลี่ยมอย่างง่ายๆ แล้วก็ไม่มีการตกแต่งอื่น ภายนอกของเครื่องลายครามตะปุ่มตะป่ำไม่สม่ำเสมอกัน ดูไปแล้วธรรมดาอย่างที่สุด

 

ราวกับเข้าใจความคิดของทุกคน คนหนุ่มเผ่าอี๋ก็เอ่ยขึ้นมาทันทีอย่างไม่ลังเล ” ราคาขั้นต่ำห้าหมื่นหยวน ! “

ทุกคนจ้องมองเครื่องลายครามแล้วต่างก็ขมวดคิ้วแน่น

หยางโปเหลือบตามองเครื่องลายคราม เขามั่นใจได้อย่างแน่นอนว่าเครื่องลายครามชิ้นนี้น่าจะมาจากสมัยแคว้นเย่หลางโบราณ แต่ว่าชิ้นงานหยาบเรียบแบบนี้สู้โถดินเผาของวัฒนธรรมหยางโซวในมือเขาไม่ได้เลยสักนิด

ทุกคนภายในนี้ก็เงียบงันกันอีกครั้ง ผ่านไปครู่หนึ่งถึงได้มีคนเอ่ยปากว่า ” พ่อหนุ่ม ราคาของเครื่องลายครามนี้ไม่ถึงห้าหมื่นหยวน อย่างมากนี่ก็มาจากสุสานของคนธรรมดา ไม่ได้มีมูลค่าสูงขนาดนั้นเลย “

” แต่ว่านี่คือวัตถุโบราณของเย่หลางโบราณ หาไม่เจอในท้องตลาดเลยนะ ” คนหนุ่มผู้นั้นกล่าว ตั้งแต่ต้นจนจบเขาก็ไม่ได้แนะนำชื่อของตนเอง ชัดเจนว่าเขาน่าจะเอาของพวกนี้มาจากเฉียวโจว แต่ว่าขายไม่ดีถึงได้แล่นมาถึงที่นี่

 

หยางโปเอ่ยถามตาอ้วนหลิวเสียงเบา ” ทำไมทุกคนถึงเข้าใจกันมากขนาดนี้ ? “

” ระดับไม่เหมือนกัน ” ตาอ้วนหลิวเอ่ยเสียงเบา ” ที่นี่คนมากมายต่างก็แจ้นมาดูลายแทงสมบัติ ของชิ้นเล็กๆ พวกนี้ซื้อมาก็ได้กำไร แต่นายดูที่นี่สิมีใครสนใจไหม ? แต่เจ้าโง่สามคนนั่นก็ยังไม่รู้ตัว “

หยางโปเงยหน้ามองไปทางทุกคน เห็นคนจำนวนมากปิดตาพักผ่อนไม่ได้สนใจเลยสักนิด ตอนนี้เครื่องลายครามชิ้นนี้ก็ประมูลไม่ออกแล้ว

ชายหนุ่มเผ่าอี๋ก็รู้ว่าราคาของตนเองแพง เขาหันหน้ามองไป ” เมื่อกี้ท่านที่เอ่ยถามราคา ท่านให้ได้มากสุดเท่าไหร่ครับ ? “

” สองหมื่นหยวน ” คนผู้นั้นกล่าว

” ตกลง จบการประมูล ” ชายหนุ่มปิดการประมูลอย่างไม่มีลังเล

 

ของชิ้นที่สามเป็นนกนางยูงทองแดง ดูไปเหมือนราวกับนกแก่ตัวผู้ หงอนไก่ใหญ่ หางชี้ขึ้นสูง ทั้งตัวเต็มไปด้วยรอยกระดำกระด่าง แต่รูปทรงนี้เป็นเอกลักษณ์ ดึงดูดความสนใจของทุกคนได้ในทันที ราคาก็เพิ่มจากราคาตั้งต้นสามหมื่นหยวนเป็นหนึ่งแสนแปดหมื่นหยวนแล้วค่อยปิดการประมูล

การซื้อขายท่าทีดูเหมือนไม่รีบไม่ร้อน แต่เนื่องด้วยของที่คนหนุ่มเผ่าอี๋หยิบออกมาจากในห่อหนังน้อยลงเรื่อยๆ โดยรอบก็ค่อยๆ ตึงเครียดขึ้นมา แทบจะทุกคนหลังจากที่ได้รับข่าวแล้วต่างก็รอการปรากฏตัวของลายแทงสมบัติชิ้นสุดท้าย

คนหนุ่มผู้นำก็ไม่ได้ทำให้ทุกคนต้องคอยนาน ครั้งนี้เขาหยิบกล่องหนึ่งออกมาจากในห่อหนังทันที สีหน้าแฝงด้วยความตื่นเต้น ” ขอบคุณการมาเยือนของทุกท่านมาก ผมเองก็รู้ว่าทุกท่านจะต้องมาเพื่อลายแทงสมบัติแน่ ลายแทงสมบัตินี้ผมได้มาจากในสุสานที่หนึ่ง ส่วนจะเป็นของจริงหรือไม่ ต่อไปหลังจากที่ประมูลกันแล้วก็ตรวจสอบสินค้ากันตรงนี้เลย “

 

ทุกคนต่างก็พยักหน้า ” ความคิดนี้ดี ! “

ลายแทงสมบัติไม่เหมือนกับสิ่งของอื่นๆ มันไม่สามารถเอาให้ทุกคนดูได้ ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นการเปิดเผยข้อมูล ดังนั้นจึงทำได้แค่ประมูลมาแล้วพิสูจน์กัน

” เริ่มการประมูลที่ราคา… หนึ่งแสนหยวน ! ” คนหนุ่มเผ่าอี๋ตื่นเต้นเล็กน้อย ของที่ขายไปก่อนหน้านี้รวมกันแล้วก็หลายหมื่นหยวน พวกเขาไม่ขาดทุนแล้ว แต่ว่าการขายลายแทงสมบัติชิ้นนี้ออกไป พวกเขาก็จะได้กำไรก้อนใหญ่

” สามแสนหยวน ! “

การขายราคาต่อจากนั้นพลันตื่นตะลึงคนหนุ่มเผ่าอี๋ทั้งสาม พวกเขามองหน้ากันและกัน เผยให้เห็นความยินดี

แต่ว่านี่ยังเป็นแค่จุดเริ่มต้น

” ห้าแสนหยวน ! “

 

” แปดแสนหยวน ! “

” หนึ่งล้านหยวน ! “

ราคาภายในตอนนี้เพิ่มขึ้นรวดเร็วมาก ไม่นานก็มาถึงระดับล้านหยวนแล้ว แต่ในนี้กลับไม่ได้สงบลงเลยแม้แต่น้อย ยังคงสู้ราคากันอย่างดุเดือด

หลูตงซิงเห็นสถานการณ์ในนี้แล้วก็ทนไม่ไหว รออยู่ชั่วครู่หนึ่งแล้วเห็นขานราคามาถึงสองล้านหยวน เขาก็ถือโอกาส ” สามล้านหยวน ! “

 

รอบด้านพลันเงียบสงบ ทุกคนต่างก็มองมาอย่างตกตะลึง ควรรู้ว่าตอนนี้ยังไม่ได้พิสูจน์ที่ตั้งของขุมทรัพย์เลย ถ้าหากลายแทงสมบัติอยู่ที่เค่อเล่อ ถ้างั้นไม่กลัวจะเสียเงินเปล่าเหรอ ?

หลูตงซิงกลับไม่ได้สนใจ แต่จ้องมองไปด้านหน้า ราคานี้แพงมาก แต่คำนึงถึงกำไรที่จะได้หลังจากนี้แล้วก็นับว่าธรรมดา ที่สำคัญที่สุดก็คือก่อนหน้าที่จะจ่ายเงินก็ยังสามารถตรวจสินค้าก่อนได้