เขาทรนทรายตลอดทั้งคืน ความเจ็บปวดลามไล้ไปทั่วร่าง เขาอยากตายให้พ้นไปเสีย
เขาอยากตาย เขาคิดจะกัดลิ้นตัวเองเพื่อฆ่าตัวตาย แต่กลับพบว่าเขาไม่มีแรงแม้แต่จะเปิดปากเขาทําได้เพียงนอนหายใจอยู่บนอยู่บนพื้นเท่านั้น
ความรู้สึกอยากตายแต่ตายไม่ได้นั้นน่าหวาดหวั่น
คืนนั้น หวังเย้าโทรหาซูเสี่ยวซวีและบอกเรื่องที่เขาเจอคนที่ทําร้ายเธอเมื่อหลายปีก่อนซูเสี่ยวซวีเงียบไปนาน
“เชียนเชิงคิดจะทํายังไงกับเขาคะ?” เธอถาม
“เขาคงมีชีวิตได้อีกไม่กี่วัน” หวังเย้าพูด
“ไม่นะคะ” ซูเสี่ยวซวีรีบพูด “ฉันไม่อยากให้เขียนเชิงฆ่าคนเพราะฉัน มันผิดกฎหมาย!”
“ตัวเขามีชีวิตอยู่ได้ไม่นานอยู่แล้ว” หวังเย้าพูด “เขาป่วยหนัก เพราะอยู่กับยาพิษเป็นเวลานานทําให้พิษเข้าสู่ร่างกายและทําลายตัวเขาอย่างช้าๆ”
“โอ้ ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วล่ะค่ะ” ซูเสี่ยวซวีรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย
“เธอใจดีเกินไป” หวังเย้าพูด “ไม่มีใครหาเรื่องเธอที่มหาลัยใช่รึเปล่า?”
“ไม่มีค่ะ ฉันอยู่ที่นี่สบายดี” เสี่ยวซวีตอบ
“ดีแล้ว อากาศเริ่มเย็นลงใส่เสื้อผ้าหลายๆชั้น แล้วก็ระวังเรื่องสุขภาพด้วยนะ”
“ค่ะ”
หลังจากคุยกันสักพัก พวกเขาก็วางสาย
กลางคืนนั้นยาวนาน สําหรับบางคนมันคือความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสและเนินนานหนึ่งวันเหมือนหนึ่งปีเมื่อแสงของวันใหม่ส่องเข้ามาในตัวบ้านเขาที่นอนอยู่บนพื้นหรี่ตา
ฉันยังไม่ตาย! ทําไมฉันถึงยังไม่ตาย?
เขาอยากตะโกนถามและสาปแช่ง แต่เขาก็ไม่แรงมากพอ เขาไม่มีแม้แต่แรงที่จะขอให้ตัวเองตายเขาทําได้เพียงนอนรับความเจ็บปวดที่ทรมานเขาไม่รู้จบ
คนสามคนอยู่ในคลินิก เป็นคู่สามีภรรยาและชายหนุ่มในชุดนักพรตเต๋
“สวัสดีครับ หมอหวัง ผมขอโทษที่มารบกวนหมออีกแล้ว” ชายวัยกลางคนพูด “ผมมาเพราะเรื่องอาการป่วยของลูกชาย”
“อ่อ ผมจําได้” หวังเย้าพูด “เขาอยากเป็นเซียนใช่ไหมครับ?”
ครั้งนี้ สภาพของชายหนุ่มเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม
“เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?” หวังเย้าถาม
“เอ่อ เขาท่ายาด้วยตัวเองที่บ้าน แล้วดื่มยาทั้งสองตัวนั้นเข้าไป” พ่อของชายหนุ่มพูด “จากนั้นเขาก็ถูกส่งไปล้างท้องที่โรงพยาบาล
“โอ้”
“เฮ้อ พ่อ พ่อกําลังทําลายความสําเร็จของผมอยู่นะ พ่อไม่เคยได้ยินเหรอ? หากกลายเป็นเซียน ครอบครัวและญาติพี่น้องจะติดตามเขา ถ้าผมกลายเป็นเซียนขึ้นมาได้จริงๆผมจะลืมพ่อกับแม่ได้ยังไง?”ชายหนุ่มถอนหายใจและส่ายหน้า “ช่างเถอะช่างเถอะมันคงเป็นอุปสรรคที่ผมต้องก้าวผ่านไปให้ได้”
ฮาฮา เขาเป็นหนักยิ่งกว่าเดิม หวังเย้าคิด
“ผมจะลองรักษาเขาด” หวังเย้าพูด ในตอนที่เขาพูด หวังเย้าก็หยิบเข็มเงินออกมาจากกระเป๋าและเข้าไปหาชายหนุ่ม
“หมอจะทําอะไร?” สีหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนไปทันที
“ใจเย็นๆ อย่าตื่นตระหนก” หวังเย้าพูด
ชายหนุ่มอยากลุกขึ้นต่อต้าน แต่เขากลับรู้สึกว่าร่างกายไม่ยอมฟังเขาราวกับว่ามีบางอย่างเหนี่ยวรั้งเขาเอาไว้เขาทําได้เพียงมองหมอถือเข็มแล้วแทงลงไปบนศีรษะของเขาและรู้สึกเจ็บเล็กน้อยร่างกายของเขาสั่นสะท้านทันทีที่ลืมตา ความรู้สึกบางอย่างก็เกิดขึ้นกับเขามันคล้ายกับว่าความคิดทั้งหลายแหล่กลับกลายเป็นว่างเปล่า
มันได้ผลไหม?
เข็มแทงลงไปยังจุดที่ส่งผลกับความทรงจําและความคิดของเจ้าของกําแพงที่มองไม่เห็นหายไปชายหนุ่มรู้สึกได้ว่าเขาสามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้อีก
“เมื่อกี้หมอทําอะไรกับผม?” เขาถาม
“เธอรู้สึกยังไงบ้าง?” หวังเย้าถาม
ชายหนุ่มคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “มันเหมือนวิญญาณของผมกําลังออกจากร่าง”
“อืมมม” หวังเฝ้าสังเกตชายหนุ่ม
“หมอก็เป็นผู้ฝึกตนเหรอ?”
“ค่าพูดของเธอแทบจะแยกจากความจริงและความฝันไม่ได้!”
“แล้วผมก็เป็นแพทย์ปรุงยา”หวังเย้าตอบ“ผมรักษาและช่วยผู้คน
“ผมไม่ได้ป่วย” ชายหนุ่มพูด “ผมกําลังบ่มเพาะ แบบนั้นเรียกว่าป่วยได้เหรอ?”
“ได้ ความจริง ผมคิดว่าคุณมาผิดทาง” หวังเย้าพูด
“ผิดทาง? ผมทําพลาดตรงไหน?” ชายหนุ่มถาม
“ถ้าเธอบ่มเพาะและฝึกฝน แล้วสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สําหรับการฝึกตนอยู่ที่ไหน?”หวังเย้าถาม
“เขาบัติ้ง, เขาซานชิง, และเขาหลงหู” ชายหนุ่มตอบ
“แล้วเธอเคยไปที่นั่นแล้วรึยัง?”
“ผมเคยไปเขาบู๊ตึงมาก่อน” ชายหนุ่มพูด
“แล้วได้พบกับผู้ฝึกตนรึเปล่า?”
“มีแต่คนที่มีชื่อเสียง แต่ไร้ความสามารถ” ชายหนุ่มพูด
“คุณได้เจอศิษย์พี่ที่มีแรงบันดาลใจเหมือนกับคณบ้างไหม?”
“วิถีหมายถึงการเดินเพียงล่าพัง” ชายหนุ่มพูดด้วยความมั่นใจ
“คุณไม่กลัวว่าคุณจะเดินผิดทาง แล้วร่วงหล่นลงไปในหลุมบ่อเหรอ?”
“ในเมื่อผมเบิกทางสายนี้ ผมไม่กลัวอยู่แล้ว” ชายหนุ่มพูด “หมอกําลังพยายามจะพูดอะไรกันแน่?”
“ลองไปที่อื่นและไปที่เขาซานชิงกับเขาหลงหูดูสิ”หวังเย้าพูด “เธออาจได้เจอกับปรมาจารย์ที่สามารถแนะแนวทางการฝึกตนให้เธอได้”
ชายหนุ่มตกตะลึง พ่อแม่ของเขาก็เหมือนกัน
“เอ่อ ได้” หลังจากได้สติ ชายหนุ่มก็พยักหน้าเพื่อแสดงให้รู้ว่า เขายอมรับค่าแนะนําของหวังเย้า
“กลับไปที่รถกับเขา ฉันจะอยู่คุยกับหมอหวังก่อน” พ่อของชายหนุ่มพูดกับภรรยาของเขา
“ได้”
หลังจากสองแม่ลูกออกไปแล้ว คนเป็นพ่อก็ถามขึ้นมาว่า “หมอหวัง ที่หมอพูดออกไปแบบนั้นมันหมายความว่ายังไง?” เขามาหาหมอเพื่อให้รักษาลูกชายของเขาแต่หลังจากฝังเข็มลงไปบนศีรษะของลูกชายเขาแล้วหมอที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้กลับแนะนําให้ลูกชายของเขาไปเขาซานซึ่งกับเขาหลงหูมันดูเหมือนว่าเขาไม่ได้คิดจะหยุดลูกชายของเขาแถมยังยุยงส่งเสริมการฝึกตนของเขาแทน
“อย่ากังวลไปเลยครับ นั่งก่อน มาคุยกันเรื่องอาการของลูกชายคุณกัน”หวังเย้าพูด
“ลูกชายของคุณไม่ได้มีโรคร้ายอะไรในร่างกายของเขา อาการที่เขาเป็นอยู่เกิดจากจินตนาการที่ค่อนข้างหนัก เรามักจะเรียกมันว่าอาการทางจิตคุณก็น่าจะรู้เรื่องนี้”
“ใช่ ผมรู้” เขาผงกหัว
“ถ้าอย่างนั้น เรามาพูดกันถึงแผนการรักษาที่เป็นไปได้ของผมกัน” หวังเย้าพูด “สิ่งแรกคือทําให้เขารู้ว่าความดื้อรั้นก่อนหน้านี้ของเขานั้นผิดโดยใช้สิ่งภายนอกเป็นตัวขึ้นเขาแล้วมันจะเป็นผลให้เขายอมแพ้ไปเอง”
“ชี้นํา? แล้วเราจะชี้นําเขาได้ยังไง?”
“นั่นคือสาเหตุที่ผมบอกให้เขาไปที่เขาซานชิงกับเขาหลงหูยังไงล่ะครับ” หวังเย้าพูด “ถ้าเขาอยากไป นั่นถือเป็นสัญญาณที่ดีพยายามหาปรมาจารย์จากทั้งสองที่นั้นขอให้พวกเขาร่วมมือชี้ทางให้ลูกชายของคุณและเปลี่ยนใจเขา”
“มันจะได้ผลเหรอ?” เขายังคงไม่มั่นใจ
“ลองดูครับ” หวังเย้าพูด “บอกตามตรง ผมไม่คิดว่าความเป็นไปได้ที่จะประสบความสําเร็จจะมีมากนักแต่มันก็อาจมากพอที่จะสะกิดความคิดและความเชื่อของเขาได้บ้าง”
“อื้ม ได้ ผมจะทําด” เขาพูด “ยังมีวิธีอื่นอยู่ไหมครับ?”
“มีครับ แต่วิธีนั้นมีความเสี่ยงอยู่”หวังเย้าพูด
“ผมจะทําให้เขาสูญเสียความทรงจํา
“สูญเสียความทรงจํา?” เขาตกตะลึง
“หมอหมายความว่ายังไง?”
ความทรงจําทั้งหมดในอดีตหายไป เรื่องที่เขาพยายามทําอยู่ก็จะหายไปเช่นกัน”
“ถ้าเป็นแบบนั้น เขาก็จะลืมพวกเราด้วยใช่ไหม?”
“ใช่ครับ” หวังเย้าพูด
“หมอหมายความว่า ลูกชายที่ผมเลี้ยงดูมานานกว่า 20 ปีจะจ่าผมไม่ได้ใช่ไหม?”
“ใช่ครับ” หวังเย้าตอบ “พวกคุณต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น และสร้างความทรงจําหรือฟื้นความทรงจําให้เขาแต่คุณต้องเลี่ยงที่จะไปกระตุ้นเรื่องการฝึกตน”
“วิธีการรักษาอะไรกัน? ลูกชายจะจําผมไม่ได้!” เขาหัวเราะและพูดว่า“ถ้าเป็นแบบนั้นผมยอมปล่อยให้เขาเป็นแบบนี้ต่อไปดีกว่ายังมีวิธีอื่นอีกไหม?”
หวังเย้ายิ้ม เขาคิดเอาไว้แล้วว่าอีกฝ่ายจะต้องถามแบบนี้
“มีวิธีที่สามครับ”
“คืออะไร?” เขาถาม
“ผมจะทําให้เขาฝันและชี้นําเขาจากภายนอก เพื่อให้ความฝันเหล่านั้นว่างเปล่า”หวังเย้าพูด“เคยได้ยินเรื่องฝันแห่งการเริ่มต้นไหมครับ?”
“แบบนั้นจะได้ผลเหรอ?” พ่อของชายหนุ่มตกตะลึง
“ในทางทฤษฎี มันได้ผลครับ” หวังเย้าพูด “มันคล้ายกับการสะกดจิตคุณเคยดูหนังดังอย่าง Inception ไหมครับ?
“ผมเคยดู”
“มันเป็นทฤษฎีที่คล้ายกับหนังเรื่องนั้น แต่ไม่ได้ลึกลับมากมายอะไร”
หวังเย้าได้การรักษานี้มาจาก “ตราโรคทั่วไป” ที่ได้จากระบบ มันมีการรักษาอาการทางจิตที่คล้ายกันนี้ ซึ่งเขายังไม่เคยลองมาก่อน
“แล้วมันปลอดภัยไหม?” เขาถาม
“โอ้ ก็ไม่แน่เหมือนกันครับ”หวังเย้าพูด“เขาอาจจะอยู่ในความฝันและไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลยก็ได้”
“ยังมีทางอื่นอีกไหม?”
“ทั้งสามวิธีที่พูดมาเป็นทั้งหมดที่ผมคิดได้แล้วครับ”หวังเย้าตอบ