เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 381
บอกว่าท้าประลองสองคณะในเวลาเดียวกัน ว่าอวดดีแล้ว คิดไม่ถึงว่าไม่ได้สู้แค่ทีละคน รอบแรกก็สู้แบบหนึ่งต่อสองแล้ว

ท่านผอ.หัวเราะขึ้นมา หันไปมองลู่ฝานแล้วพูดว่า “นี่คือแผนของพวกนายเหรอ น่าสนใจๆ วัยรุ่นไม่มีกำลังฮึกเหิม จะเรียกว่าวัยรุ่นได้ยังไง เป็นวัยร่นก็ต้องอวดดีสิ ดี!”

พวกลู่ฝานกลับยิ้มแหยออกมา นี่ไม่ใช่แผนของพวกเขา ให้ตายเถอะ นี่ศิษย์พี่หานเฟิงต้องคลั่งเองแน่นอน

สีหน้าฉู่เทียน ฉู่สิงและลู่ฝานไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะศิษย์พี่ฉู่เทียน เขาแทบอยากจะพุ่งเข้าไปลากหานเฟิงลงมาตอนนี้เลย

อาจารย์เมิ่งอวิ๋นโมโหมากๆ สะบัดมือพูดว่า “ลู่หลิน ขึ้นไปกำราบความฮึกเหิมของเขาสิ ถ้าแพ้ เตรียมกลับไปเก็บตัวที่คณะหนึ่งปี”

นักเรียนที่ชื่อลู่หลินรีบเด้งตัวออกไปทันที สีหน้าแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าโกรธมาก

อาจารย์เสวียนเจินยังคงใจเย็น ไม่ได้ให้คนออกไป

แต่เสวียนเฟิงที่อยู่ข้างๆ ทนดูไม่ไหว พูดเสียงดังว่า “พ่อ ผมทนไม่ไหวแล้ว”

เสวียนเจินมองเสวียนเฟิง พยักหน้าเบาๆ แล้วพูดว่า “ฉันเข้าใจความรู้สึกแก นานแล้วที่คณะกระบี่ไม่ได้โดนดูถูกแบบนี้ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงนาย มู่ซั่วนายขึ้นไป เขาจะสู้สองคนไม่ใช่เหรอ สั่งสอนเขาซะให้เข็ด”

มู่ซั่วที่อยู่ลำดับสุดท้ายของนักเรียนชั้นยอดของคณะกระบี่ลุกขึ้นยืน ถือกระบี่ไม้ท้อในมือ เด้งตัวออกไปเช่นกัน

ลู่ฝานพอจะจำมู่ซั่วได้บ้าง เขาจำได้ว่ามู่ซั่วน่าจะเป็นนักเรียนที่เพิ่งเข้ามาในปีนี้เหมือนกัน ตอนนั้นยังเป็นสิบอันดับแรกด้วย เลื่อมใสคณะกระบี่ทั้งใจ แค่หนึ่งปี ได้ตำแหน่งห้านักเรียนชั้นยอด ท่ามกลางนักเรียนที่มีความสามารถมากมายของคณะกระบี่ ศักยภาพเช่นนี้ เรียกได้ว่าน่ากลัว

ลู่หลินกับมู่ซั่วมองหานเฟิงนิ่งๆ และปล่อยพลังปราณของตัวเองออกมา

แดนปราณนอก!

ไม่มีคนไหนที่แตกต่าง เป็นแดนปราณนอกทั้งหมด

คนพวกนี้ มีคนไหนบ้างที่ไม่ใช่คนมีชื่อเสียงในรายชื่อบู๊ ไม่อยู่ในแดนปราณนอก ก็อายที่จะออกมาต่อสู้

ทั้งสามคนยืนตั้งท่าอย่างดี หานเฟิงประสานมือคารวะแล้วพูดว่า “เชิญ!”

ลู่หลินกับมู่ซั่วต่างประสานมือคารวะ จากนั้นพลานุภาพของทั้งสองคนเริ่มพลุ่งพล่าน

พลานุภาพที่เหมือนคลื่นทั้งสอง พุ่งตรงเข้าไปหาลู่ฝาน ขณะเดียวกันลู่หลินกับมู่ซั่วก็ขมวดคิ้วเบาๆ พวกเขากำลังอดกลั้นกับความเจ็บปวดที่หัว

เป็นแดนปราณนอกเหมือนกัน แต่หานเฟิงไม่ได้มีความสามารถต้านทานผู้แข็งแกร่งสองคน เหมือนกับลู่ฝาน

สิ่งเดียวที่หานเฟิงสามารถทำได้ คือชิงลงมือก่อน

การต่อสู้ของยอดฝีมือ ไม่จำเป็นต้องพูดพร่ำทำเพลง กระบวนท่าแรก

วิชากระบี่ชิงสวรรค์!

กระบี่ฟ้าครามยกขึ้น ปราณกระบี่นับไม่ถ้วนพลุ่งพล่าน

ลู่หลินแตะฝ่าเท้าลงบนพื้นเบาๆ ตัวเหมือนใบหลิวหลบแสงกระบี่

ย่ำก้าวตามลม!

มู่ซั่วแทงกระบี่ไม้ท้อมากลางอากาศ กระบี่ทำลายปราณ!

ตู้มๆๆๆ!

เสียงระเบิดอันน่ากลัวดังขึ้น

ตัวของทั้งสามคนโดนกลบไปจนหมด ขึ้นมาก็ต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่ง จุดความคึกคักของนักเรียนทุกคน

วงแสงกลมใต้ฝ่าเท้า พบความแข็งแกร่งของตัวเอง ปราณกระบี่อันบ้าคลั่งเช่นนี้ ถึงเป็นหินศิลาดำชั้นดี ก็โดนทำลายไม่น้อย แต่วงแสงกลมกะพริบเพียงแสงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เป็นอะไรเลย

ในเสียงระเบิดที่ดังอย่างต่อเนื่อง มีเสียงอาวุธปะทะกันดังออกมา

นักเรียนที่มีพละกำลังค่อนข้างแข็งแกร่ง รีบเพ่งมองทันที เห็นหานเฟิง ลู่หลินกับมู่ซั่ว ต่อสู้กันในปราณกระบี่อันบ้าคลั่ง

“ใช้วิชากระบี่ไปหลายครั้ง ยังอยากให้เห็นผล ตลก!”

ลู่หลินพูดพลาง ฝีเท้าว่องไว แต่ละกระบี่มาพร้อมกับกระแสลม มีเหงื่อตรงหน้าผาก ค่ายกลแว้งกัดทำให้เขาปวดหัวขึ้นเรื่อยๆ แต่ในตอนนี้ ลู่หลินยังพออดทนได้

กระบี่ไม้ท้อของมู่ซั่ว เหมือนงูเลื้อยไปบนตัวหานเฟิง

วิชากระบี่ชาญฉลาดราวกับศิลปะ เห็นแล้วเพลิดเพลินใจ

การเคลื่อนไหวทุกครั้งสง่างามมาก แต่ละกระบวนท่างดงามไร้ที่ติ

บทที่ 380

บทที่ 382