ภาค 3 บทที่ 119 คุณชายไม่พอใจ

Jun Jiu Ling หวนชะตารัก

บทที่ 119 คุณชายไม่พอใจ Ink Stone_Romance

หนิงอวิ๋นเจาทิ้งม้าให้เด็กรับใช้ ก้าวยาวๆ เดินไปด้านใน

“ท่านไปในเมืองมาหรือ?” หนิงอวิ๋นเยี่ยนตามหนิงอวิ๋นเจาไปติดๆ เอ่ยอีกครั้ง “ท่านไปพบจวินเจินเจินใช่หรือไม่?”

“ใช่” ก้าวเท้าของหนิงอวิ๋นเจาหยุดลง ยิ้มเอ่ยตอบ

เขายอมรับตรงไปตรงมาเช่นนี้ ยังยิ้มอีกด้วย!

หนิงอวิ๋นเยี่ยนกัดริมฝีปากล่าง เล็บที่กำอยู่ในมือแทบหัก

“ท่านพี่ ท่านแม่เป็นเช่นนี้แล้ว ท่านยังไปพบนาง” นางกระทืบเท้าร้องตะโกน “เพื่อผู้หญิงคนนั้น ท่านไม่สนว่าท่านแม่จะเป็นหรือตายแล้วรึ?”

พูดพลางปิดหน้าร้องไห้ไร้น้ำตา

สาวใช้หญิงรับใช้ด้านหน้าด้านหลังเห็นฉากนี้เข้ารีบหลบออกไป

แม้นายหญิงใหญ่หนิงฝั่งนี้ปิดบัง แต่บ้านใหญ่อีกเท่าใดก็คนแค่นี้เท่านั้น บวกกับหนิงอวิ๋นเยี่ยนทั้งวันหน้าบึ้งเดินไปเดินมา นายหญิงใหญ่หนิงเพราอะไรล้มป่วยจึงเล่าลือกันไปอย่างลับๆ แล้ว

นายหญิงใหญ่หนิงคัดค้านการแต่งงานระหว่างหนิงอวิ๋นเจากับคุณหนูจวิน ทั้งยังอดอาหารข่มขู่

ที่จริงเรื่องที่ส่งข่าวมากะทันหันว่าสัญญาหมั้นระหว่างหนิงอวิ๋นเจากับคุณหนูจวินมีผล ตระกูลหนิงบนล่างล้วนตกตะลึงมาก คำอธิบายที่นายท่านใหญ่หนิงกับนายท่านรองหนิงให้แก่ทุกคนเหมือนกับข้างนอก

การถอนหมั้นที่ตอนนั้นพูดกัน เป็นเพียงการเล่นละครร่วมกับตระกูลฟาง เพื่อจะได้จับศัตรูที่ซุ่มซ่อนอยู่ของตระกูลฟาง

คนในบ้านฟังแล้วเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง หากบอกว่าเป็นการเล่นละคร ถ้าอย่างนั้นละครนี่ก็เล่นสมจริงเกินไปแล้ว อย่างไรท่าทีต่อจวินเจินเจินที่นายหญิงใหญ่หนิงแสดงออกมา ทุกคนล้วนเคยเห็นมากับตา

แต่ในเมื่อนายท่านใหญ่หนิงกับนายท่านรองหนิงพูดเช่นนี้แล้ว คนหนึ่งบิดา คนหนึ่งท่านอา เพียงพอเป็นคำสั่งบิดามารดาแล้ว พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องชี้มือชี้ไม้ในเรื่องการแต่งงานของหนิงอวิ๋นเจา อีกอย่างคู่สมรสเป็นคุณหนูจวินเชียวนะ

เป็นคุณหนูจวิน ไม่ใช่จวินเจินเจิน

แม้เป็นคนคนเดียวกัน แต่เรียกขานไม่เหมือนกัน ฐานะก็ไม่เหมือนกันแล้ว

คุณหนูจวินในวันนี้ไม่ใช่จวินเจินเจินที่ตอนนั้นถูกพวกเขาหยามหยันดูแคลนแล้ว

คุณหนูจวินแห่งโรงหมอจิ่วหลิงถูกยกย่องเป็นเจ้าแม่ฝี มีชื่อเสียง มีเงินทอง มีวิชาหมอเทวดา

เทพองค์นี้หากเชิญมาอยู่ในบ้าน ใยไม่ใช่สรรพชีวิตในบ้านสงบสุข!

ทุกคนยินดีเห็นเรื่องนี้สำเร็จ ถึงขั้นดีใจไม่คลาย ขนาดนายหญิงผู้เฒ่าหนิงที่พักผ่อนยามชราอยู่ที่คฤหาสถ์นอกเมืองยังดีใจมาก แน่นอนนี่ก็เพราะนายท่านรองหนิงบอกนางอ้อมๆ  ว่าคู่ครองที่หาให้หนิงอวิ๋นเจาเป็นตระกูลแพทย์ตระกูลหนึ่งที่มีชื่อเสียงเป็นหมอเทวดาโด่งดังที่เมืองหลวง

นายหญิงผู้เฒ่าหนิงชื่นชอบชื่อเสียงโด่งดังนัก กับตระกูลแพทย์ก็พอใจมากเช่นกัน ลูกชายคนรองเลือกยิ่งวางใจ จึงไม่สนใจอีกรอเพียงดื่มสุราของหลานสะใภ้

คนทั้งหมดล้วนดีใจสุขสันต์ นอกจากนายหญิงใหญ่หนิงกับหนิงอวิ๋นเยี่ยน

นี่ทำให้คนมากมายไม่เข้าใจ

“ก่อนหน้านี้ไม่ชอบคุณหนูจวินก็ช่างเถิด แต่ตอนนี้คุณหนูจวินไม่ใช่คุณหนูจวินก่อนหน้านี้แล้ว”

“ใช่แล้ว ไม่เข้าใจว่าคิดยังไงกัน”

“ลูกสะใภ้เก่งปานนี้ตระกูลกี่แห่งแย่งชิงกันต้องการนะ”

“ใช่น้องสามียุยงหรือไม่? พูดขึ้นมาอวิ๋นเยี่ยนแต่งงานแล้ว วันวันอยู่ที่นี่…”

คำพูดนี้ลอยเข้าหูหนิงอวิ๋นเยี่ยน ทำนางโกรธแทบตาย

นี่เกี่ยวอะไรกับนาง!

นางไม่ได้ทำอะไรชัดๆ คนเหล่านี้ถึงกับว่าร้ายล้อเลียนนางเพราะจวินเจินเจินคนนั้น!

นางสกุลหนิงนะ จวินเจินเจินคนนั้นยังเป็นคนนอกนะ!

คนเหล่านี้ช่างไม่มีหัวใจดีงามจริงๆ

ยังมีท่านพี่

ท่านแม่ด้านนี้ยังล้มหมอนนอนเสื่อไม่กินไม่ดื่ม ด้านนั้นได้ยินว่าจวินเจินเจินกลับมา เขากลับวิ่งไปพบนางทันที

จบสิ้นแล้ว จบสิ้นแล้ว กระทั่งท่านแม่เขาก็ไม่สนแล้ว จวินเจินเจินคนนี้ยังไม่ทันเข้าประตูมาก็ปีนขึ้นไปบนศีรษะท่านแม่แล้ว

หนิงอวิ๋นเยี่ยนยิ่งคิดยิ่งโศกเศร้าเจ็บปวด เปล่งเสียงร้องไห้เสียงดัง

“ไม่ต้องร้องไห้แล้ว” หนิงอวิ๋นเจาเอ่ย “ท่านแม่ยังป่วยอยู่ เจ้าก็ร้องไห้ร้องห่มที่บ้านเช่นนี้ จะทำให้ท่านแม่กลัดกลุ้ม”

เสียงของเขาแม้ไม่ดัง แต่ไม่มีรอยยิ้มทั้งยังเย็นชาอยู่บ้าง

เสียงร้องไห้ของหนิงอวิ๋นเยี่ยนชะงักไป ท่าทางหวาดกลัวนิดๆ มองหนิงอวิ๋นเจาทีหนึ่ง แต่จากนั้นก็เศร้าใจคับแค้น

ใครกันทำให้ท่านแม่กลัดกลุ้ม? เป็นเพราะเสียงร้องไห้ไม่กี่ทีของนางเป็นเหตุรึ?

เป็นเพราะเขาทำให้ท่านแม่ผิดหวังชัดๆ

หนิงอวิ๋นเยี่ยนสะอื้นฮึกทีหนึ่ง ปิดหน้าวิ่งผ่านเขาไปทางห้องของนายหญิงใหญ่หนิง

หนิงอวิ๋นเจาสีหน้าไม่ร้อนรนไม่หงุดหงิด ก้าวยาวๆ ต่อ สาวใช้หญิงรับใช้ข้างทางตอนนี้ถึงกล้าก้มหน้าเดินผ่านไป

หนิงอวิ่นเจากลับพลันหยุดเท้า ร้องเรียกหญิงรับใช้คนหนึ่ง

“เจ้าไปตระกูลสือสักเที่ยว” เขาเอ่ย “บอกน้องเขยประโยคหนึ่ง บอกว่าข้าบอก ให้เขามารับอวิ๋นเยี่ยนกลับไป”

หญิงรับใช้ตกใจสะดุ้งโหยง

แต่ไหนแต่ไรเคยได้ยินแต่สามีให้ครอบครัวมารดามารับคน ครอบครัวมารดาให้ตระกูลสามีมารับคนนี่เพิ่งเป็นครั้งแรก

ครอบครัวสามีให้ครอบครัวมารดามารับคนเพราะไม่พอใจ ถ้าอย่างนั้นครอบครัวมารดาให้ครอบครัวสามีมารับคนก็เพราะไม่พอใจด้วยหรือเปล่า?

ครอบครัวสามีไม่พอใจ ตระกูลมารดาคือที่พึ่งและที่พักของผู้หญิง นี่ตระกูลมารดาไม่พอใจไล่ออกไป ตระกูลสามียังมองสูงได้อีกหรือ?

คุณหนูหาเรื่องให้คุณชายไม่พอใจแล้ว! คุณชายไม่พอใจแล้ว!

ความโกรธนี่จุดขึ้นมาไม่น้อยจริงๆ!

ทำอย่างไร?

หญิงรับใช้สีหน้าวิตกกังวงล เรื่องในบ้านเช่นนี้ตลอดมาเป็นนายหญิงใหญ่หนิงตัดสินใจ นี่ นี่ต้องบอกนายหญิงใหญ่หนิงหรือไม่?

ความคิดแล่นผ่าน สายตาหนิงอวิ๋นเจาก็จับอยู่บนร่างนาง

“ทำไม? ไม่เข้าใจรึ?” เขาเอ่ย เสียงอ่อนโยน หน้าตาเป็นมิตร “ต้องให้ข้าพูดอีกรอบไหม? หรือให้ข้าไปหาคนอื่นสั่ง?”

คุณชายตลอดมาอ่อนโยนประหนึ่งหยก อ่อนโยนมีมารยาทกับคน แต่เสียงนี้คำพูดนี้ฟังเข้าหู หญิงรับใช้ที่แทรกซึมอยู่ในเรือนในมาหลายสิบปีก็อดไม่ไหวสะท้านทีหนึ่ง

ในคำพูดนี้มีคำพูด ในคำพูดมีคำเตือนมีข่มขู่ มีเอ่ยออกมาต้องทำ

เจ้าฟังไม่เข้าใจ เจ้าไม่เชื่อฟัง ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ไสหัวออกไปได้แล้ว

ทำให้นายหญิงใหญ่หนิงโกรธ นางอยู่ไม่เป็นสุข ทำให้คุณชายสิบหนิงโกรธ นางก็อยู่ไม่เป็นสุข ยังมีคุณหนูจวินในอนาคต….

              บ้านหลังนี้เป็นของนายหญิงใหญ่หนิง แต่พูดให้ถึงที่สุดแล้วเป็นของคุณชายสิบหนิงรวมถึงนายหญิงน้อยหนิง

หญิงรับใช้พริบตาก็ตัดสินใจ

“บ่าวฟังเข้าใจเข้าค่ะ จะไปเตรียมรถเดี๋ยวนี้” นางเอ่ยอย่างนอบน้อม

หนิงอวิ๋นเจาพยักหน้าให้นาง

“น้องเขยมาแล้วให้เขามาพบข้าด้วย” เขาเอ่ย

หญิงรับใช้ขานรับอีกครั้ง มองหนิงอวิ๋นเจาก้าวยาวจากไป ตอนนี้นางถึงยกมือเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก สาวใช้หญิงรับใช้ด้านข้างตอนนี้ถึงแห่เข้ามา

“เกิดอะไรขึ้น?”

“คุณชายสั่งอะไร?”

ทุกคนพากันเอ่ยถามเสียงเบา

หญิงรับใช้โบกมือให้ทุกคน

“หลังจากนี้ทุกคนทำความเข้าใจสักหน่อย” นางกดเสียงเบา ชี้ไปเรือนด้านในอย่างมีนัยยะ “ในบ้านนี้น่ะไม่เหมือนก่อนหน้านี้แล้ว”

พูดจบก็ไม่พูดมากอีกหมุนตัวรีบร้อนจากไปแล้ว ทิ้งคนที่ไม่เข้าใจถกเถียงคาดเดากลุ่มหนึ่งไว้

หนิงอวิ๋นเจาเดินเข้ามาในห้องของนายหญิงใหญ่หนิง หนิงอวิ๋นเยี่ยนฟุบอยู่บนเตียงนายหญิงใหญ่หนิงร้องไห้ นายท่านใหญ่หนิงกำลังนวดหูอย่างรำคาญอยู่

มองเห็นหนิงอวิ๋นเจาเข้ามา นายหญิงใหญ่หนิงยื่นมือทันที

“เจ้าออกไปซะ” นางตะโกนเอ่ยเสียงแหบ

หนิงอวิ๋นเจาแน่นอนไม่ได้ออกไป นายท่านใหญ่หนิงขมวดคิ้ว

“มีอะไรพูดกันดีๆ เถอะ” เขาเอ่ยผ่อนคลายบรรยากาศ

“พูดกันดีๆ? เจ้าพูดสิเจ้าไปทำอะไรมา?” นายหญิงใหญ่หนิงมองหนิงอวิ๋นเจาตวาด

“ท่านแม่ คุณหนูจวินกลับมาแล้ว ข้าไปพบนาง” หนิงอวิ๋นเจาเอ่ยตรงไปตรงมา

เสียงร้องไห้ของหนิงอวิ๋นเยี่ยนยิ่งดัง

นายหญิงใหญ่หนิงก็ยื่นมือกุมหน้าอก ราวกับหายใจไม่ออก

“เจ้าไปหานางก็ไม่ต้องมาหาข้าอีก” นางเอ่ยเสียงแหบ

“ท่านแม่ เรื่องราวอย่างไรก็ต้องจัดการ” หนิงอวิ๋นเจาเอ่ยเสียงอ่อนโยน “ร้องไห้โวยวายเช่นนี้ อย่างไรก็ไม่ใช่หนทาง ข้าไปพบคุณหนูจวิน เพื่อถามนางว่าทำไมกลับมา ตอนนั้นคุยกันแล้วว่านางจะยังไม่กลับมาชั่วคราว นางกลับมากะทันหันเช่นนี้ ในเมืองต้องมีเรื่องไม่ดีแน่ ข้ากังวลตระกูลของพวกเรา…”

ได้ยินเขาพูดถึงตรงนี้ นายท่านใหญ่หนิงที่อยู่ด้านข้างเลิกคิ้วขึ้น รอฟังต่ออยู่ นายหญิงใหญ่หนิงก็เปิดปากขัดหนิงอวิ๋นเจา

“เจ้าไม่ต้องลากหลักการยิ่งใหญ่เหล่านี้มาพูดกับข้า ข้าไม่รู้จักพวกเจ้าบุรุษรึ พูดจาสง่าผ่าเผยแต่ก็แค่เพื่อความอยากในหัวใจตนเองเท่านั้น ผู้หญิงต่ำช้าคนนั้นกลับมาไม่กลับมาฟ้าจะถล่มได้หรือ รีบร้อนไปถามก็แค่อยากพบ…” นางเอ่ยสีหน้าเย็นชา

“พอเสียที!”

นายท่านใหญ่หนิงตวาดโกรธเกรี้ยวคำหนึ่งขัดนายหญิงใหญ่หนิง

ในห้องหยุดนิ่ง นายหญิงใหญ่หนิงไม่อยากเชื่ออยู่บ้างมองเขา หนิงอวิ๋นเยี่ยนก็ตกใจสำลัก หยุดร้องไห้ ในแววตามองนายท่านใหญ่หนิงหวาดผวาอยู่บ้าง

นางโตมาขนาดนี้เพิ่งเคยเห็นท่านพ่อเป็นเช่นนี้ครั้งแรก บางทีเหตุเพราะจัดการงานทั่วไปในตระกูล นายท่านใหญ่หนิงจึงเป็นคนยิ้มแย้มเป็นมิตรคนหนึ่งมาตลอด พูดจาเสียงดังยังน้อยครั้งนัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบันดาลโทสะ

ทำไมอยู่ดีๆ โกรธขึ้นมาแล้ว?

ท่านแม่ก็ยังไม่ได้พูดอะไรนี่….

หนิงอวิ๋นเยี่ยนกุมหน้าอก เสียงร้องไห้สักนิดก็ไม่กล้าส่งออกมา แววตามีความหวาดกลัว ที่มากกว่าก็คือความสิ้นหวัง

ในบ้านแห่งนี้ ท่านพ่อคนเพียงคนเดียวที่ตัดสินเลือกสิทธิของท่านแม่ได้ในที่สุดก็จะลงมือแล้วหรือ?

……………………………………….