กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 544
“อืม ตั้งใจกลั่นยา”

เฉินเชาสูดหายใจเข้าลึกๆ และใส่ฟื้นเพิ่มเข้าไปยังเตากลั่นยา

กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าจะจะอธิบายถึงพวกเขาอย่างไรดี

น่าเสียดายที่พวกเขาเป็นถึงนักกลั่นปรุงยา

วิธีการกลั่นยา นอกจากเคล็ดลับและสูตรยาจะมีความสำคัญแล้วนั้น ความร้อนก็สิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน

อีกอย่าง ความร้อนแต่ละระดับนั้นก็ทำให้การกลั่นปรุงยาอายุวัฒนะที่ได้แตกต่างกันออกไป ไม่เช่นนั้น “สมาธิไฟแท้ชั้นสูง” และ “ศูนย์กลางของไฟ” จะมาจากที่ใดกัน?

ไม่รู้ว่าควรจะบอกว่าพวกเขาโง่เขลาดี หรือจะบอกว่าพวกเขาไม่ฉลาดดี

วิธีการควบคุมความร้อนของนางนั้นมีไม่มาก และนางเพียงสามารถควบคุมความร้อนบริสุทธิ์ของตัวเองเท่านั้น

ทุกคนต่างรู้สึกแปลกใจ

และนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นว่ามีคนใช้พลังลมปราณแท้ในการควบคุมความร้อน

สมองของนางปกติจริงๆ หรือ?

ฮวาฉี่หลัวเห็นเข้าก็เกิดความร้อนรนกระวนกระวายขึ้น “ท่านพี่ไป๋จิ่น ท่านดูสิท่านพี่กู้ใช้พลังลมปราณแท้ของตัวเองในการควบคุมความร้อนตลอดเวลาเลย เช่นนั้นนางก็จะต้องใช้พลังลมปราณแท้ของตัวเองจนหมดแน่ๆ?”

ใบหน้าที่งดงามของไป๋จิ่นแสดงถึงความพิจารณาไตร่ตรองและพูดอย่างแผ่วเบา “พลังลมปราณแท้ที่นางใช้นั้นไม่มากนัก หากข้าเดาไม่ผิดละก็ นี่เป็นหนึ่งในวิธีการควบคุมไฟ ต่อให้ทำการกลั่นยาสิบวันสิบคืน พลังลมปราณแท้ที่ใช้ไปก็ไม่ได้มากแท้อะไร”

“วิธีการควบคุมไฟ? อะไรคือวิธีการควบคุมความร้อนหรือ?”

ทุกคนที่ได้ยินบทสนทนาของนางต่างพากันเงี่ยหูฟัง แต่ไป๋จิ่นกลับไม่พูดอะไรต่อ เพียงแค่มองกู้ชูหน่วนด้วยแววตาที่มีรอยยิ้มและมีความยกย่องชื่นชม

ใบหน้าที่เย้ายวนและมีเสน่ห์ของสีชิ่นเผยถึงความภาคภูมิใจเล็กน้อย

โดยธรรมชาติแล้วคือวิธีการควบคุมไฟ และวิธีการควบคุมความร้อนของเจ้าหอของพวกนางนั้น ไม่ได้มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น

เมื่อพูดถึงการปรุงกลั่นยา คาดว่าบนอาณาจักรนี้คงมีไม่กี่คนที่มีความสามารถเทียบเท่าเจ้าหอของพวกนางได้

เพียงแค่เจ้าหอของพวกนางถ่อมตนและไม่เคยเปิดเผยมาก่อน และทุกคนบนโลกนี้ก็ไม่มีใครรู้ว่านางคือปรมาจารย์นักกลั่นปรุงยาระดับขั้นที่แปดที่มีชื่อเสียงอย่างมาก

นักปรุงกลั่นยามีทั้งหมดเก้าระดับขั้นและคนที่สามารถไปถึงระดับขั้นที่แปดได้นั้น บนโลกนี้มีน้อยอย่างมาก

ถึงแม้ว่าเจ้าหอจะสูญเสียความทรงจำของนางไปทั้งหมด แต่เคล็ดลับวิธีการปรุงกลั่นยาที่ถูกตราตรึงอยู่ในจิตวิญญาณนั้น กลับไม่ได้ถูกทำลายไปทั้งหมด

ผู้อาวุโสเจ็ดและผู้อาวุโสสูงทำสีหน้าเคร่งขรึมและมองไปที่กู้ชูหน่วน ในใจของพวกเขามีความสุขอย่างมาก

นางเป็นหัวหน้าเผ่าของพวกเขา

คนอื่นอาจจะไม่รู้เคล็ดลับวิธีการปรุงกลั่นยาของหัวหน้าเผ่า แต่พวกเขารู้ดีเป็นอย่างยิ่ง

ช่วงหลายปีมานี้ หัวหน้าเผ่าทำการปรุงกลั่นยาน้อยครั้งนัก แต่ยาอายุวัฒนะที่นางกลั่นปรุงออกมาทั้งหมดนั้น ไม่มีเลยที่จะไม่เกิดปรากฏการณ์แย่งชิงเพื่อได้มาครอบครองเกิดขึ้น

ดวงตาอันอบอุ่นของเหวินเส่าอี๋และอารมณ์ความประณีตที่แผ่กระจายออกมาจากร่างกายของเขา

แผ่นหลังของเขาเหยียดตรงและนั่งในตำแหน่งหน้าสุด และแววตาที่ถ่อมตนและดูซับซ้อน เขามักเหลือบมองไปยังกู้ชูหน่วนบ่อยครั้ง

ภายในหุบเขาโลหิตหูหลู ภาพเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายไม่เรียบร้อยของพวกเขา และภาพการโอบกอดกันของพวกเขาก็สะท้อนอยู่ในใจของเขาตลอดเวลา

กลิ่นกายของนางยังคงตราตรึงอยู่รอบๆ ตัวของเขา

การได้กลับมาพบกันอีกในครั้งนี้นั้น เขาคิดว่ากู้ชูหน่วนคงมีทีท่าเขินอายหรือทำตัวไม่ถูกอยู่บ้าง

แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น

นางทำราวกับลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนั้นไปทั้งหมด และแววตาที่มองดูเขานั้นสะอาดบริสุทธิ์ราวกับน้ำที่ใสสะอาด ไม่แม้แต่จะสะทกสะท้านเลยสักนิดเดียว

หากมี เช่นนั้นก็คงเป็นเพียงความรู้สึกที่เยือกเย็นเท่านั้น

ความเยือกเย็น……

ดูเหมือนว่านางจะไม่พอใจในเผ่าเพลิงฟ้า

หรือเป็นเพราะเรื่องของเยี่ยเฟิงอย่างนั้นหรือ?

หรือว่าเป็นเพราะเรื่องที่เผ่าเพลิงฟ้าลงมือแย่งชิงไข่มุกมังกรไป?

“ออกมาจากเตากลั่นแล้ว ยาอายุวัฒนะออกมาจากเตาแล้ว” เสียงอุทานเรียกความสนใจของทุกคน

หม้อกลั่นบนเตาถูกยกขึ้น และศิษย์ของหุบเขาตันหุยหยิบถาดออกมา และบนถาดนั้นมียาล้างไขกระดูก

ทุกคนต่างพากันพูดด้วยความตกใจ “พระเจ้า นี่เป็นเพียงหม้อกลั่นยาหม้อเดียวเท่านั้นก็สามารถทำยาล้างไขกระดูกออกมาได้ถึงห้าเม็ด ประสิทธิภาพของความสำเร็จช่างล้ำเหลือเกิน”

“ก็ใช่น่ะสิ โดยปกติแล้วอย่างน้อยเจ็ดแปดหม้อถึงจะกลั่นยาออกมาได้หนึ่งเม็ด แต่หม้อกลั่นของเขากลั่นยาออกมาได้ถึงห้าเม็ด นับว่าเป็นเรื่องน่าทึ่งอย่างมาก”

“นักปรุงยาคนนี้ดูไปแล้วอายุก็ไม่มากเท่าไรนัก เหตุใดถึงเก่งกาจเช่นนี้นะ”

“คนที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ ไม่ว่าเขาจะมาจากสำนักไหนก็ตาม ล้วนแล้วแต่เป็นยอดนักฝีมือพรสวรรค์อันโดดเด่น”

“น่าเสียดายที่สำนักของพวกเราไม่มีนักปรุงยาเลยแม้แต่คนเดียว”

ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานลูบเคราสีเทาของเขาและแสดงสีหน้าภาคภูมิใจเล็กน้อย

เขากวาดสายตาไปที่เผ่าน้ำแข็ง เผ่าหยก เผ่าเพลิงฟ้าและคนอื่นๆ

แต่กลับเห็นสีหน้าของพวกเขาดูปกติ ดูเหมือนไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ เลย

รอยยิ้มของผู้นำแห่งหุบเขาหายไปในทันที

เป็นเพราะยาล้างไขกระดูกเป็นเพียงยาระดับกลางขั้นที่หนึ่งเท่านั้น คนสำคัญเหล่านั้นจะให้ความสำคัญอะไร

และมีหลายสำนักนิกายถามขึ้นมาว่า “ท่านผู้นำแห่งหุบเขา ไม่ทราบว่ายาล้างไขกระดูกห้าเม็ดนี้มีราคาเท่าไร สำนักนิกายลิขิตสวรรค์ของข้าต้องการประมูลมาทั้งหมด”

“สำนักไร้กังวลของข้าก็ต้องการประมูลด้วยเช่นกัน”

“ท่านผู้นำแห่งหุบเขา ท่านเชิญพวกข้ามาร่วมการชุมนุมแบ่งปันยาอายุวัฒนะ แต่กลับมไ่บอกพวกข้าว่ากฎเกณฑ์ในปีนี้มีว่าอย่างไรบ้างและแตกต่างกันกับปีที่แล้วหรือไม่?”

ผู้นำแห่งหุบเขาหัวเราะและกล่าวว่า “เหมือนกันทุกปี เช่นนั้นก็คงน่าเบื่อหน่ายเกินไป ฉะนั้นปีนี้เราคาดว่าจะใช้วิธีการประมูลที่แตกต่างออกไป”

“อ้อ……ไม่ทราบว่าเป็นวิธีการประมูลอย่างไรหรือ?”

“ง่ายมาก ประมูลหม้อกลั่นก่อนที่จะทำการยกหม้อลงจากเตากลั่นและผู้ที่ทำการประมูลในราคาสูงจะได้ครอบครองยากลั่นนั้น”

ทันใดนั้นก็เกิดความโกลาหลขึ้นในกลุ่มคนทั้งหมด

“ประมูลโดยการดูจากหม้อกลั่น? เช่นนั้นหากหม้อกลั่นนั้นไม่มียาอายุวัฒนะที่กลั่นออกมาสำเร็จล่ะ? เงินที่จ่ายไปก็เสียเปล่าอย่างนั้นหรือ”

“ใช่ หากหม้อกลั่นยาที่ประมูลได้นั้น มียาอายุวัฒนะที่กลั่นออกมาได้เป็นจำนวนมากละก็ เช่นนั้นก็จะได้กำไรนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว”

“ท่านผู้นำแห่งหุบเขา เช่นนี้คงไม่ดีกระมัง ยาอายุวัฒนะที่กลั่นสำเร็จออกมาเป็นเม็ดนั้นมีราคาแพงมาก อย่างที่เราทุกคนทราบกันดีว่ามีสำนักนิกายจำนวนมากที่ไม่สามารถประมูลยาอายุวัฒนะได้ทั้งหมด หากไม่รู้แม้แต่ยากลั่นข้างในหม้อนั้นคือยาอะไรและมีหรือไม่มีแล้วยังต้องทำการประมูลออกไป เช่นนั้นแล้วนับเป็นความเสี่ยงที่สูงอย่างมาก”

“ทุกคนวางใจได้ การคัดเลือกนักปรุงกลั่นยาในครั้งนี้นั้น ได้ทำการคัดเลือกนักปรุงกลั่นยาที่มีฝีมือสุดยอดที่สุดในหุบเขาตันหุย ทุกคนล้วนต่างมีประสบการณ์ปรุงกลั่นตัวยาอายุวัฒนะที่สำเร็จแล้วทั้งสิ้น และยังได้ผ่านการปรุงกลั่นยาอายุวัฒนะระดับขั้นที่สามกันทั้งนั้น”

“ระดับขั้นที่สาม……สูงเช่นนั้นเลยหรือ……”

“เช่นนั้นหากบังเอิญประมูลได้หม้อกลั่นยาอายุวัฒนะระดับขั้นที่สามละก็ เช่นนั้นก็คงร่ำรวยมหาศาลอย่างแน่นอนเลยสิ?”

“ไม่ง่ายเช่นนั้นหรอก นักปรุงกลั่นยามีด้วยกันสิบกว่าคน ทุกคนล้วนไม่คุ้นหน้า เราต่างก็ไม่รู้ว่าใครเก่งกาจหรือไม่เก่งกาจ ทำได้เพียงคาดเดาเท่านั้น”

มีคนชี้ไปที่กู้ชูหน่วนที่กำลังทำการปรุงกลั่นยาและถามขึ้นว่า “ท่านผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลาน ท่านบอกว่านักปรุงยาในครั้งนี้ผ่านการคัดเลือกเฟ้นหามาจากหลายพันหลายหมื่นคน เช่นนั้นแล้วนางล่ะ? นางก็รู้วิธีการปรุงกลั่นยาด้วยอย่างนั้นหรือ?”

ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานชะงัก

เดิมทีกู้ชูหน่วนก็มาเพื่อเป็นสีสันของงานเท่านั้น

นางสามารถปรุงกลั่นยาอายุวัฒนะอะไรออกมาได้

หากพูดเช่นนี้ออกไป เช่นนั้นแล้วจะเป็นการไม่ให้เกียรติและหักหน้ากู้ชูหน่วนอย่างมาก

น่าหลานหลิงลั่วที่นั่งอยู่ข้างเขากล่าวว่า “นางก็เป็นนักปรุงกลั่นยาเช่นกัน ไม่แน่ยาอายุวัฒนะที่นางปรุงกลั่นออกมานั้น อาจจะไม่ด้อยไปกว่านักปรุงยาคนอื่นเลยก็เป็นได้?”

“จริงหรือ?”

นอกเหนือจากสำนักนิกายใหญ่ๆ แล้ว คนอื่นๆ ดูเหมือนจะไม่มีใครเชื่อเลยด้วยซ้ำ

เพียงแค่เด็กผู้หญิงปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนหนึ่ง แถมยังไม่เคยเรียนรู้วิธีการปรุงกลั่นยา หากนางสามารถกลั่นยาสำเร็จออกมาได้ เช่นนั้นแล้วแม่หมูก็คงสามารถปีนต้นไม้ได้แล้วกระมัง

แม้ว่านายน้อยน่าหลานต้องการปกปิด เช่นนั้นก็ควรหาเหตุผลที่ฟังขึ้นกว่านี้ แต่เหตุผลที่บอกในตอนนี้นั้น ช่างง่อยเปลี้ยไม่มีแรงชักจูงเอาเสียเลย