บทที่ 80 หน้าเหมือนกันมาก

รักหวานอมเปรี้ยว

ทามทอยคาดเข็มขัดไปด้วย แล้วก็ยิ้มตอบกลับไป: “ไม่มีอะไร แค่เล่าเรื่องน่ากลัวให้เธอฟังเรื่องหนึ่ง”

“ฉันดูโง่มากใช่ไหม?” มายมิ้นท์มองเขาอย่างหมดคำพูด

ทามทอยสตาร์ทรถ สีหน้าจำใจ “ ฉันพูดเรื่องจริงนะ เธอไม่เชื่อฉันจะทำอะไรได้!”

“น่าเบื่อ!” มายมิ้นท์ค้อนขวับแล้วหันกลับมา

จู่ๆทามทอยก็หันไปมองเธออย่างรวดเร็ว “ประธานมายมิ้นท์ จู่ๆฉันก็รู้สึกว่า เธอกับคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์หน้าตาค่อนข้างเหมือนกันนะ”

“ห๊ะ?” มายมิ้นท์งุนงง “ฉันเหมือนเธองั้นเหรอ?”

“ใช่”

“จะเป็นไปได้ยังไง!” มายมิ้นท์ส่ายหน้า “อย่ามาล้อเล่น”

“ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันจริงจังนะ โครงหน้ากับดวงตาของเธอ เหมือนเธอมากจริงๆ” ทามทอยพยักหน้าอย่างจริงจัง

แล้วเขาก็พูดเพิ่มเติม “แทบจะเหมือนกันเป๊ะเลย ถ้าบอกว่าพวกเธอเป็นแม่ลูกกันใครๆก็เชื่อทั้งนั้นแหละ”

มายมิ้นท์แน่ใจแล้วว่า ทามทอยไม่ได้ล้อเล่นจริงๆ จึงตะลึงงันไปชั่วครู่

แต่อย่างรวดเร็ว เธอก็กลับมาสงบนิ่ง โบกๆมือ “เหมือนก็เหมือนสิ บนโลกนี้คนที่หน้าเหมือนกันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มี ไม่มีอะไรน่าแปลกซะหน่อย”

“ก็จริง” ทามทอยตอบรับ

ทั้งสองคนไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ ทิ้งไว้ข้างหลังอย่างรวดเร็ว

มายมิ้นท์ลดกระจกลง ยอมให้ลมหนาวปะทะเข้ามาที่ใบหน้า “ใช่สิ ฉันมีคำถามอยากถามนาย”

“เธอว่ามา” ทามทอยฟังเพลงที่เปิดอยู่ในรถ ร่างกายจึงโยกเบาๆไปตามจังหวะเพลง

มายมิ้นท์มองค้อนใส่คนขับรถที่ไม่มีความรับผิดชอบคนนี้ แล้วพูดขึ้น: “เพื่อนของนาย วีแชทของใครเหรอที่ชื่อว่า Z-H?”

“อะไรนะ?” เพลงดังเกินไป ทามทอยจึงได้ยินไม่ชัด

มายมิ้นท์ขมวดคิ้วด้วยความปวดหัว ตะโกนถามออกมาดังๆ: “Z-H เป็นใคร!”

เอี๊ยด!

หลังจากเสียงแหลมๆของล้อรถที่เสียดสีกับพื้นถนนจบลง รถก็หยุดนิ่ง ร่างของทั้งสองคนในรถพุ่งไปข้างหน้า เกือบจะกระแทกอยู่แล้ว แต่โดนเข็มขัดดึงกลับมาบนที่นั่งซะก่อน

มายมิ้นท์ตกใจจนหน้าซีด สักพักถึงจะกลับมาเป็นปกติ หันหน้าไปด้วยความโมโห ฟาดไปที่แขนของทามทอย “นายทำอะไรเนี่ย?”

ทามทอยก็รู้ว่าเมื่อกี้ตนเองเกือบจะก่ออุบัติเหตุแล้ว ปล่อยพวงมาลัยแล้วเช็ดๆหน้า “แค่กๆ โทษที พลาดไปหน่อย”

ถ้าเมื่อกี้เธอไม่ถามถึง Z-H อย่างกะทันหัน เขาคงไม่ตกใจจนเหยียบเบรกอย่างฉับพลันหรอก

มายมิ้นท์นวดๆขมับ “พอเลย นายไปอธิบายตัวตนที่แท้จริงของนายกับชาหวานเองนะ คนขับรถอย่างนี้ ฉันทนไม่ไหว”

“อย่าสิ เพราะฉันขับรถพลาดแค่ครั้งเดียว เธอก็จะตัดสินฉันทั้งหมดไม่ได้นะ” ทามทอยยิ้มมองเธอ

มายมิ้นท์ส่งเสียงเฮอะๆออกมา “ขับรถ !”

ทามทอยยักไหล่ ขับรถไปบนถนนอีกครั้ง แต่หางตากลับแอบมองเธอ “เมื่อกี้เธอถามฉันว่า Z-H เป็นใครใช่ไหม?”

“อืม” มายมิ้นท์พยักหน้า

ทามทอยกลอกตาไปมา “เธอถามถึงเขาทำไม?”

มายมิ้นท์หลบตาลง ปกปิดความรู้สึกในแววตา พูดนิ่งๆ: “ไม่มีอะไร ฉันบังเอิญเพิ่มเขาเป็นเพื่อน เขาเองก็ช่วยฉันมาสองครั้งแล้ว ก็เลยอยากรู้สถานการณ์ของเขา เขาบอกว่าเขาเป็นเพื่อนของนาย ฉันจึงถามนายดู”

“อย่างนี้เอง” ทามทอยไม่กล้ามองเธอ กลัวจะโดนเธอมองเห็นความไม่มั่นใจในแววตา “เขาเป็นเพื่อนฉันจริง แต่ฉันกับเขาก็ไม่ได้สนิทกันมากเป็นพิเศษ แม้แต่ชื่อยังไม่รู้เลย แค่เคยดื่มด้วยกันไม่กี่ครั้งเอง ตอนนี้เขาไปต่างประเทศแล้ว”

“อ้อ” มายมิ้นท์พยักหน้า

ไปต่างประเทศ ก็แสดงว่าตนเองจะไม่เจอเขาแล้ว

ในทันที มายมิ้นท์ก็คลายกังวล

จริงๆเธอกลัวว่าจะได้เจอกับเขาเข้าสักวัน แล้วจะเพิ่มความอึดอัดให้ตนเอง ถึงยังไงเธอกับทามทอยก็สนิทกัน

ตอนนี้เขาอยู่ต่างประเทศ งั้นเธอก็ไม่ต้องกังวลแล้ว

แต่ไม่รู้ว่าทำไม ในใจกลับรู้สึกผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก

มายมิ้นท์มองทิวทัศน์นอกหน้าต่าง ไม่ได้พูดอะไรอีก

ทามทอยคลายกังวลลงเงียบๆ แต่ในใจกำลังคิดว่าอีกเดี๋ยวต้องไปหาเปปเปอร์แล้ว ไปเอาเปรียบเปปเปอร์ที่นั่นสักหน่อย

ถึงยังไงเขาก็เสียแรงไปตั้งมากมาย จึงช่วยเปปเปอร์ปกปิดตัวตนเอาไว้ได้เป็นอย่างดี

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป มาถึงคอนโดพราวฟ้าแล้ว

มายมิ้นท์ลงจากรถ กระทุ้งไม้เท้าสองอันเดินกะโผลกกะเผลกเข้าไปในอาคาร

เธอเพิ่งออกมาจากลิฟต์ ดวงตาของเด็กหนุ่มที่นั่งยองๆอยู่หน้าห้องของเธอก็เปล่งประกาย รีบยืนขึ้นมาทันที “ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้ว ฉันรอเธอตั้งนาน……เท้าเธอเป็นอะไรไป?”

เด็กหนุ่มมองเท้าที่เข้าเฝือกของเธอด้วยความตกใจ รวมทั้งไม้เท้าสองอันที่ใต้รักแร้ของเธอ

มายมิ้นท์ไม่ได้ตอบคำถามของปีโป้ แต่ขมวดคิ้วสวยๆมองเขา “นายมาได้ยังไง?”

ปีโป้ก้มหัวลง ตอบกลับอย่างกลุ้มใจ: “ฉันทะเลาะกับแม่อีกแล้ว แม่ให้ฉันออกจากทีมบาสเกตบอล ฉันไม่ยอมจึงหนีออกมา”

มายมิ้นท์ยิ้มเยาะ “นายคิดว่าที่นี่เป็นอะไร แค่ออกจากบ้านก็หนีมาที่นี่?”

“ฉันไม่มีที่ไป” ปีโป้พูดอย่างไม่สบอารมณ์

จริงๆเขาก็ไม่รู้ว่าทำไมตนเองถึงต้องมาหาเธอที่นี่

เขารู้แค่ว่า หลังจากมาที่นี่ ในใจของเขาจะสงบลงได้

“ตระกูลนวบดินทร์ของพวกนาย บ้านใหญ่โตธุรกิจใหญ่โต ที่ไหนๆก็เป็นทรัพย์สินของพวกนายทั้งนั้น ยังกลัวไม่มีที่ไปอีกหรือไง?” มายมิ้นท์หยิบกุญแจออกมา “ถอย ฉันจะเปิดประตู”

ปีโป้ขยับออกไปข้างๆก้าวหนึ่ง เพื่อให้ประตูใหญ่เปิดออกมาได้

มายมิ้นท์ก้าวเข้าไปเปิดประตู เขาก็ยืนอยู่ด้านหลังเธอ ท่าทางพร้อมจะตามเข้าไปทุกเมื่อ

มายมิ้นท์หยุดเปิดประตูเล็กน้อย แล้วหันไปมองเขา “นายคิดจะเข้าไปกับฉันจริงๆ?”

“ฉันบอกแล้วไง ฉันไม่มีที่ไป คืนนี้ฉันจะอยู่กับเธอที่นี่” ปีโป้ก้มหน้ามองเธอ ท่าทางแน่วแน่ยังไงก็จะไม่ยอมไป

แม้เขาเพิ่งจะกี่สิบปี แต่เนื่องจากเล่นบาสเกตบอล จึงสูงถึง 180 กว่าแล้ว

มายมิ้นท์ต้องเงยหน้าคุย ถึงจะเห็นหน้าเขา

“อยู่ที่นี่ก็ได้ แต่มีเหตุผลอะไรฉันถึงต้องให้นายอยู่ฟรีๆ คืนละหนึ่งแสน” มายมิ้นท์ทำมือเป็นจำนวนเงินใส่เขา

ปีโป้โมโหแล้ว “หนึ่งแสน ทำไมเธอไม่ไปปล้นเอาล่ะ?”

“ทำไม จ่ายไม่ไหวเหรอ จ่ายไม่ไหวก็อย่าอยู่” มายมิ้นท์แบมือข้างหนึ่ง แสดงให้รู้ว่าหมดหนทางช่วยเหลือ

ปีโป้หน้าแดงระเรื่อขึ้นมา “ใครบอกว่าฉันจ่ายไม่ไหว ฉันแค่ไม่ได้พกเงินติดตัวมา คราวหน้าฉันจะให้เธอไม่ได้หรือไง?”

“ไม่ได้ จ่ายเงินไม่ได้ก็รีบกลับไป ฉันไม่ขายเชื่อ อีกอย่างฉันมีเหตุผลอะไรถึงต้องรับลูกชายของศัตรูไว้ดูแลด้วย” มายมิ้นท์พูดจบ ก็เปิดประตูจะเข้าไป

ปีโป้โดนเธอพูดใส่หน้าว่าเป็นลูกชายของศัตรู ทำให้เขาหน้าซีดไปทันที แต่ก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว จะเดินตามเข้าไป

มายมิ้นท์รีบปล่อยประตูให้ปิดเข้ามา เหลือไว้แค่ซอกเล็กๆ “ฉันบอกแล้วนะ ไม่มีเงินก็ไปซะ”

“ฉันไม่ไป!” ปีโป้มองผ่านซอกประตู มองเธอด้วยความโมโห “ฉันรู้ว่าแม่ฉันทำไม่ถูก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรคราวหน้าฉันจะให้เงินเธอมากขึ้นจำนวนหนึ่งถือเป็นการชดเชย”

มายมิ้นท์ยิ้มเล็กน้อย “ไม่ได้!”

ความเจ็บปวดตลอดหกปี เงินเพียงพอที่จะชดใช้ได้หรือไง?

“นั่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้ สรุปเธอจะเอายังไงกันแน่?” ปีโป้กระทืบเท้า

มายมิ้นท์มองเขา “ง่ายมาก ฉันอยากให้นายกลับไป”

“ฉันไม่ไป!” ปีโป้ยืนหยัด

“ไม่ไป งั้นนายก็อยู่ข้างนอกนั่นแหละ อย่าหวังว่าฉันจะใจอ่อนปล่อยให้นายเข้ามา”

พูดจบ เธอก็ปิดประตูทันที

ปีโป้มองประตูตรงหน้าอย่างตกตะลึง ไม่อยากเชื่อว่าเธอจะทำอย่างนี้จริงๆ บอกจะปิดก็ปิดประตูไปเลย

ตอนนี้ ปีโป้อดไม่ได้ที่จะน้อยใจ แล้วก็นั่งลงไปบนพื้นด้วยความโกรธกระฟัดกระเฟียด พร้อมกับตำหนิมายมิ้นท์ว่าใจร้ายอยู่ในใจ ค่อนข้างเสียใจอยู่ลางๆ ถึงขั้นหวนกลับไปครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา

หวนกลับมาคิดถึงการกระทำต่างๆนานาที่ตนเองทำกับเธอตลอดหกปีนี้ ยิ่งครุ่นคิด เขาก็ยิ่งรู้สึกเสียใจ

หลังจากมายมิ้นท์เข้าไปในห้อง ก็ไม่ได้เดินไปไหน แต่ยืนมองเขาอยู่หลังประตู

เห็นปีโป้ดื้อดึงไม่ยอมไปจริงๆ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะปวดหัว

เจ้าเด็กนี่ พระเจ้าตั้งใจส่งมาทรมานเธอสินะ?

มายมิ้นท์หยิบมือถือออกมา โทรไปหาเปปเปอร์

เปปเปอร์เห็นสายที่โทรเข้ามา หลังจากที่แววตาเปล่งประกายอย่างเป็นพิเศษออกมาชั่วครู่ เขาก็กดรับ

“ฮัลโหล?”