บทที่ 659 ผิดพลาด / บทที่ 660 จงใจหาเรื่อง

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 659 ผิดพลาด

การตายของชิงชิงเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่เร่งให้หลินลั่วเฉินเปลี่ยนไป และเป็นสิ่งต้องห้ามในใจของหลินลั่วเฉิน

หลังจากหลินลั่วเฉินเข้าร่วมลัทธิมาร บุคลิกนิสัยก็เปลี่ยนไปมาก ตัดขาดจากความรัก

จนกระทั่งในระหว่างสงครามหนึ่ง หลินลั่วเฉินบังเอิญเจอเมิ่งเสี่ยวโหรวลูกศิษย์หญิงของลัทธิหนึ่งซึ่งหน้าตาคล้ายคลึงกับชิงชิงมาก

เมิ่งเสี่ยวโหรวหน้าตาคล้ายกับหญิงที่ตัวเองรัก หลินลั่วเฉินจึงไม่ได้ฆ่าเธอ แต่กลับพาเธอกลับมารักษาบาดแผลที่ลัทธิของตน

ระหว่างที่ทั้งสองทำความรู้จักกัน เมิ่งเสี่ยวโหรวค่อยๆ พบว่าหลินลั่วเฉินไม่เหมือนกับจอมปีศาจในความคิดของตัวเองเลย นานวันไปจึงก่อเกิดเป็นความรัก

ส่วนหลินลั่วเฉินก็ตกอยู่ในห้วงความอึดอัด รู้อยู่แก่ใจว่าไม่ใช่ชิงชิง แต่ก็อดไม่ได้เห็นเงาของชิงชิงจากตัวเธอ จนกระทั่งรู้สึกว่ารักเธอ…

ฉากวันนี้คือฉากที่เมิ่งเสี่ยวโหรวสารภาพรักกับหลินลั่วเฉิน

“3 2 1! แอคชั่น!”

การถ่ายทำเริ่มขึ้นภายในป่า

หญิงสาวสวมชุดกระโปรงสีเขียวน้ำทะเล หน้าตาน่ารักมีเสน่ห์ ชายหนุ่มสวมชุดคลุมสีดำ สีหน้าเย็นชาราวหิมะขาวบนทุ่งน้ำแข็ง

หญิงสาวจ้องชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความรักความหลง ไม่อาจปิดบังความรักในสายตาได้เลย แก้มสองข้างแดงระเรื่อ “อา…อาเฉิน…ข้าชอบท่าน…”

เผชิญหน้ากับจอมปีศาจในสายตาของทุกคน ใบหน้าของหญิงสาวไม่มีความรังเกียจและเกลียดชังเลย มีแต่เต็มไปด้วยความนับถือ แสดงบทของสาวน้อยที่กำลังมีความรักได้อย่างเข้าถึงอารมณ์

ต่อมา กล้องถ่ายไปที่ลั่วเฉิน

เวลานี้ลั่วเฉินควรจะแสดงออกว่าตกใจ ที่สำคัญที่สุดคือต้องแสดงออกถึงความรักผสมปนเปกับความเกลียดชัง รวมทั้งความรู้สึกที่ควรประหม่าเขินอายของชายหนุ่ม ซึ่งเดิมทีถูกทำลายไปแล้ว และแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา

ทว่าเวลานี้ สีหน้าของลั่วเฉินยังคงเย็นชาราวน้ำแข็ง เพียงแค่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แต่สีหน้าเห็นได้ชัดว่ายังแข็งทื่ออยู่…

“คัท!” ผู้กำกับโยนบทในมือลง “สิบเจ็ดครั้งแล้ว! ฉากธรรมดาขนาดนี้ นายจะต้องถ่ายอีกกี่ครั้ง ลั่วเฉิน นายยังเล่นได้ไหม! เล่นไม่ได้ก็รีบไสหัวออกไปเลย!”

หลายวันนี้ฉากของลั่วเฉินกับเมิ่งเสี่ยวโหรวไม่ราบรื่นมาตลอด วันนี้ยิ่งทำแย่ต่อเนื่องมาทั้งวัน ในที่สุดซ่งจินหลินก็ระเบิดลง

ปกติซ่งจินหลินดูท่าทางอ่อนแอเหมือนหนอนหนังสือ แต่พอถ่ายละครขึ้นมาจะเข้มงวดมาก ด่าคนก็ไม่ไว้หน้า

สีหน้าของลั่วเฉินซีดขาว “ขอโทษครับ ผู้กำกับ…”

“ฉันจะให้โอกาสนายครั้งสุดท้าย ตอนนี้ไปถ่ายฉากคนอื่นก่อน นายไปสร้างอารมณ์มา ถ้ายัง NG อีกก็ไม่ต้องมาแล้ว!!”

…….

ตอนกลับมาถึงจุดพักผ่อน

เห็นได้ชัดว่านักแสดงในจุดพักผ่อนแบ่งพรรคพวกกันชัดเจน นำโดยหลิงเส่าเจ๋อจากหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์

เห็นว่าวันนี้ทั้งวันลั่วเฉินโดนผู้กำกับด่าสาดเสียเทเสีย นักแสดงตัวเล็กๆ ไม่กี่คนจากหวงเทียนที่อยู่รอบหลินเส่าเจ๋อกำลังกระซิบกระซาบกัน

“ชิ ไอดอลรุ่นใหม่ทรงพลังอะไรกัน มีฝีมือแสดงแค่นี้เอง! ขี้โม้แท้ๆ!”

“เมื่อก่อนยังคิดว่าฝีมือการแสดงเขาดีมากนะ แสดงได้แค่หน้าที่เป็นอัมพาตเท่านั้นเหรอ ฉากที่แสดงความรักนิดหน่อยก็ยังเล่นออกมาแบบนี้เลย!”

“ยังมีคนวิจารณ์เอาเขาไปเทียบกับเส่าเจ๋อของพวกเรา พวกคนข้างนอกนั่นน่าจะตาบอดละมั้ง!”

“นั่นแหละ…ศิลปินที่หมดยุคแล้วก็คือศิลปินที่หมดยุคแล้ว เอาไปโชว์ใครไม่ได้!”

……..

“เฮ้ พวกนาย…” เสี่ยวชิงผู้ช่วยของลั่วเฉินกำลังจะพูด แต่ลั่วเฉินส่ายหน้าเบาๆ ห้ามเขาไว้

เขาเคยชินกับการอดทนมานานแล้ว และไม่อยากหาเรื่องให้พี่เยี่ยเดือดร้อน อีกทั้งเดิมทีก็เป็นปัญหาของเขาเองด้วย

………………………………………………………………

บทที่ 660 จงใจหาเรื่อง

ลั่วเฉินกำหมัดอยู่ข้างลำตัว เดินกลับไปที่เก้าอี้พักผ่อนโดยไม่พูดอะไร

เพิ่งยกกาแฟข้างๆ ขึ้นมา ข้างตัวก็มีนักแสดงหญิงคนหนึ่งแกล้งทำเป็นไม่ระวังยื่นขามาขัดเขา

มือลั่วเฉินที่ถือกาแฟแกว่ง กาแฟหกราดลงไปที่ตัวหลิงเส่าเจ๋อทันใด

“ตายแล้ว ทำไมไม่ระวังเลย! ทำเสื้อผ้าเส่าเจ๋อสกปรกหมดแล้ว!” นักแสดงหญิงตำหนิเสียงแหลมทันที ในขณะเดียวกันก็ทำหน้ากระตือรือร้นหยิบทิชชูเข้าไปให้หลิงเส่าเจ๋อเช็ดคราบสกปรกบนหน้าอก

หลิงเส่าเจ๋อเป็นพวกรักความสะอาด จึงขมวดคิ้วทันที “สกปรกหมดแล้ว!”

“ใช่ไหมล่ะ ขยะแบบนี้! อยู่กองถ่ายเดียวกับเขาก็ขยะแขยงพออยู่แล้ว! นี่ นายยืนอึ้งอะไรอยู่ ยังไม่รีบขอโทษเส่าเจ๋ออีก!” นักแสดงหญิงพูดเสียงดุร้าย

เสี่ยวชิงทนไม่ไหวแล้ว ออกมาปกป้องเหมือนแม่ไก่ “ว่านชานชาน เธอเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า เห็นอยู่ว่าเธอยื่นขาออกไปขัดลั่วเฉินของพวกเราเอง กาแฟลั่วเฉินถึงได้หก ถ้าจะขอโทษก็ควรเป็นเธอที่ต้องขอโทษมากกว่า!”

“ตาข้างไหนของนายที่เห็นฉันขัดขา พวกเธอเห็นไหม” ว่านชานชานกวาดตามองไปยังนักแสดงคนอื่นหลายคนรอบๆ

คนพวกนั้นรีบพูดเป็นเสียงเดียวกัน

“ไม่เห็นๆ…ลั่วเฉินทำหกเอง!”

“ลั่วเฉินนั่นแหละที่จงใจราดกาแฟใส่หลิงเส่าเจ๋อ!”

“ใช่ๆๆ เขาอิจฉาเลยตั้งใจแกล้ง ทำเกินไปจริงๆ!”

……..

“พวก…พวกนาย! พูดใส่ร้ายคนอื่นชัดๆ!” เสี่ยวชิงโมโหแทบบ้า

หลังจากหลิงเส่าเจ๋อมีชื่อเสียงก็ชอบทำท่าโอหัง กดขี่นักแสดงใหม่ ยิ่งไปกว่านั้นลั่วเฉินคือศัตรูเก่าด้วย

เวลานี้ เขากวาดตามองไปที่ลั่วเฉินก่อน แล้วจึงพูดด้วยสีหน้าเย่อหยิ่ง “อย่ามาบอกว่าฉันรังแกเด็กใหม่ ไม่ขอโทษก็ได้ เสื้อผ้านี่ราคาแปดแสน ชดใช้มา แล้วเรื่องนี้จะถือว่าแล้วกัน”

พอทุกคนได้ยินราคาเสื้อผ้าต่างก็แสดงความตกใจออกมา…

“มายก๊อด! เสื้อผ้านี้แพงขนาดนี้เลยเหรอ”

“แพงแน่นอนอยู่แล้ว นี่เป็นรุ่นลิมิตเต็ดของแบรนด์ H เลยนะ ทั้งโลกมีแค่สิบชุด แค่กระดุมฝังเพชรนี่ก็แสนหนึ่งแล้ว…”

พอได้ยินว่าเสื้อชุดนี้แพงขนาดนี้ เสี่ยวชิงตกใจทันที “แค่… แค่เลอะหน่อยเดียวเอง ซักก็ได้แล้วไหม จำเป็นด้วยเหรอ”

ว่านชานชานพูดเสียงแหลม “แค่ซักก็ได้แล้ว นายล้อเล่นหรือเปล่า เสื้อผ้าแบบนี้ซักได้? ถึงแม้จะเลอะนิดเดียว ทั้งชุดก็เสียหายแล้ว ok! ช่างเถอะ พูดไปคนบ้านนอกอย่างนายก็ไม่เข้าใจหรอก!”

สีหน้าลั่วเฉินเคร่งขรึม กำหมัดอยู่ข้างลำตัว ละครเรื่องนี้ทั้งเรื่อง ค่าตัวที่ได้มาไม่เกินล้าน อีกทั้งทั้งหมดนั้นจ่ายไปกับค่ายาและค่าผ่าตัดของแม่หมดแล้ว เขาจะไปหาเงินมากขนาดนี้มาจากไหน…

“ทำไม ไม่มีปัญญาจ่ายเหรอ?”

“ชิ ไม่มีเงินยังมาสร้างภาพสูงส่งอีก!”

“ใช่แล้ว ขอโทษแต่โดยดีก็จบ! เสแสร้งอะไรกัน!”

ที่ผ่านมาหวงเทียนและโกลบอลไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว ความแค้นของหลิงเส่าเจ๋อกับลั่วเฉินก็มีมานาน คนพวกนี้อยากจะก่อเรื่องมานานแล้ว

ก่อนหน้านี้แค่ก่อเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ครั้งนี้เห็นลั่วเฉินโดนผู้กำกับด่า ย่อมใช้โอกาสนี้เริ่มเหยียบย่ำเขาอยู่แล้ว

หลิงเส่าเจ๋อมองใบหน้าหล่อของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่รู้สึกรู้สา พอนึกถึงปีนั้นตอนที่เขาเล่น ‘มังกรผงาด1’ เขาเป็นพระเอกของเรื่องชัดๆ ปรากฏว่าโดนอีกฝ่ายที่เป็นนักแสดงตัวประกอบข้ามหน้าข้ามตา จึงมีไฟโกรธสุมในอก

เรื่องที่ทำให้เขายิ่งโมโหคือ พอข่าว ‘มังกรผงาด2’ ออกมา ก็เริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง บางครั้งจะมีคนเอาพวกเขามาเปรียบเทียบกัน อีกทั้งคาดการณ์กันว่าภาคสองลั่วเฉินต้องแสดงได้โดดเด่นกว่า

………………………………………………………………