บทที่ 305 ข้าไม่ใช่ทาสของเจ้าสักหน่อย

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

บทที่305 ข้าไม่ใช่ทาสของเจ้าสักหน่อย
“หรือว่า พวกเขาอยากใช้กลิ่นย่างหมู ดึงดูดสมบัติออกมา?”

“อาจจะเป็นไปได้ ไม่งั้นหมูเยอะขนาดนี้ พวกเขาจะกินหมดได้ยังไง”

“ไปกัน พวกเราไปดูกัน”

พวกนักเรียนพูดแล้วก็ไปทันที จับกลุ่มกันแอบวิ่งไปดู ตอนแรกอ๋องเจ๋อไม่อยากไป แต่เพราะสงสัยจึงตามไปดูด้วย

พวกเขาเห็นกองไฟหลายกองจากที่ไกลๆ เซียวอวี่เซวียนย่างหมูอยู่อย่างนั้น เหนื่อยจนเหงื่อแตกเต็มตัวไปหมด

กู้ชูหน่วนพัดไปด้วย และสาดเครื่องปรุงลงบนเนื้อหมูไปด้วย

และที่กำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย กลับเป็นงูตัวหนึ่ง

เป็นงูตัวเล็ก งูที่มีขนาดเล็กกว่าตะเกียบ แต่กลับกินเก่งมาก กัดกินเนื้อหมูคำโตๆ เหมือนไม่กลัวตัวเองจะกินจนท้องแตก

ไม่รู้ว่าเห็นว่าพวกเขาแอบดูอยู่รึเปล่า งูตัวเล็กเงยหน้าขึ้น ทำเสียงขู่ฟ่อๆๆไปยังพวกเขา

แล้วมองไปบนพื้น ขนาดเศษซากกระดูกหมูป่ายังไม่เหลือเลย เพราะเขาก็ไม่รู้ว่าเนื้อหมูปากพวกนั้นหายไปไหนหมดแล้ว

ด้วยเสียงขู่ฟ่อๆของงูเล็กดังขึ้น ทันใดนั้นไม่ไกลมากก็มีงูฝูงใหญ่เลื้อยเข้ามา งูพวกนี้มีหลากหลายสีและหลากหลายประเภท เป้าหมายคือพวกนักเรียนที่แอบมองอยู่

สีหน้าพวกเขาเปลี่ยนไปทันที งูพวกนั้นส่วนใหญ่ล้วนมีผิดกันทั้งนั้น ถ้าถูกกัดขึ้นมา ได้ตายทันทีโดยไม่ต้องสงสัยเลย

ทุกคนรีบวิ่งหนีกัน กลัวว่าถ้าช้าไปกว่านี้ คงจะกลายเป็นอาหารจานเด็ดของพวกมัน ขนาดอ๋องเจ๋อยังวิ่งหนีเลย

กู้ชูหน่วนกลอกตามองบนเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ “ไร้สาระ”

เพื่ออิ่มท้อง สั่งให้ลูกน้องมากมายมาขู่คน คงมีแต่มันถึงจะทำแบบนี้ได้

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ยิ้มฟ่อๆ ไม่คิดอะไรอีก เขมือบกินอย่างตะกละ

เซียวอวี่เซวียนเหนื่อยจนขาอ่อนทรุดลงไป หายใจหอบ “เหนื่อยจะตายอยู่แล้วเนี่ย เจ้านี่จะกินอีกเท่าไหร่ถึงจะอิ่ม ข้าย่างเนื้อหมูมาทั้งคืนแล้วนะ”

“ฟ่อๆๆ……”

หางงูกระดิก บนพื้นก็มีตัวหนังสือปรากฏขึ้น หนึ่งร้อย

เซียวอวี่เซวียนรีบลุกขึ้นมาทันที “หมูหนึ่งร้อยตัวหรอ? เจ้าไม่ให้ข้าไปขโมยเลยล่ะ ข้าไม่ใช่ทาสของเจ้านะ ข้าไม่ทำแล้ว”

กู้ชูหน่วนทนดูต่อไปไม่ได้ หมูกับกระต่ายสิบกว่าตัว พวกเขายังได้กินสักคำก็เข้าไปในท้องของมันหมดแล้ว แล้วดูตัวของมันที่มีขนาดเท่าตะเกียบ ไม่รู้ว่าเนื้อหมูสิบกว่าที่มันกินเข้าไปมันเอาไปกองไว้ในส่วนไหนของร่างกาย?

ไม่ไกลมากมีกลิ่นอายของแรงอาฆาตลอยเข้ามา

พอปรากฏตัวขึ้น ก็ล้อมพวกกู้ชูหน่วนเอาไว้

กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้น ชายวัยกลางคนสองคนนั้น ความสามารถไปถึงขั้นสูงสุดระดับหนึ่ง หน้าตาพวกเขาธรรมดา แต่ร่างกายกลับเต็มไปด้วยแรงอาฆาต

กู้ชูหน่วนย่างหมูต่อไป แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ใครใช้ให้พวกเจ้ามาฆ่าข้าอีก?”

“ชีวิตของเจ้าถึงจุดจบแล้ว”

เหอะ……

กู้ชูหน่วนแสยะยิ้ม ขนาดหัวยังไม่เงยขึ้นมามองเลยด้วยซ้ำ

ขั้นสูงสุดระดับที่หนึ่ง ความสามารถสูงจริง แต่บังเอิญจัง นางมีสัตว์เลี้ยงขั้นสูงสุดระดับสี่อยู่หนึ่งตัว อยากฆ่านาง เกรงว่าจะยังไม่ได้นะ

ครั้งนี้เซียนอวี่เซวียนไม่กลัวแล้ว เขาพัดหมูย่างในมือต่อไป เห็นได้ชัดว่าเขาใจเย็นมาก

เป็นไปตามที่คิดไว้ ยอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับหนึ่งเพิ่งเริ่มการต่อสู้ ก็ถูกเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์บดทับจนแหลกละเอียดแล้ว ส่วนรายละเอียดการบดขยี้ พวกเขาไม่ได้สังเกตเลย ได้ยินแค่เสียงร้องอย่างทรมาน ต่อมายอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับหนึ่งก็เข้าท้องของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ไปทันที

กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว “คนบางคนสกปรกเกินไป กินแล้วได้ท้องเสียหรอก ต่อไปอยากกินอะไรมั่วซั่วล่ะ”

“ฟ่อๆๆ……”

งูเล็กตอบรับ แล้วกินหมูย่างต่อไป

พระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า ภูเขาทั้งลูกนอกจากพวกเขาสี่คนกับงูเล็กหนึ่งตัวแล้ว ก็ไม่มีใครอีกเลย

กู้ชูหน่วนแปลกใจ “ปกติมีคนบนภูเขาลูกนี้เยอะไม่ใช่เหรอ? ทำไมวันนี้ไม่มีใครล่ะ? หรือว่าถูกพี่น้องของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ขู่?”

“ไม่ใช่อย่างงั้นนะ ได้ยินมาว่าภูเขาทางเหนือมีสมบัติชั้นดีอยู่ แต่มีสัตว์ร้ายเฝ้าอยู่ ทุกคนเข้าไปไม่ได้ มีคนอยากออกไป แต่ก็ไม่แล้วใจ ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงไปรวมตัวกันที่นั่นกันหมด”

“ลูกพี่ พวกเราก็ไปดูไหม วันนี้ก็เข้าวันที่สามแล้ว ตอนนี้พวกเรายังหาสมบัติไม่ได้สักชิ้นเลยนะ น่าอับอายและน่าหงุดหงิดจริงๆ”

“ได้ ไป พวกเราไปดูกันเถอะ” แล้วไปดูสิว่ากู้ชูหยุนอยู่ตรงนั้นไหม?

ตลอดสามวันเต็มๆ นางเจอผู้คนไม่น้อย แต่กลับไม่เห็นกู้ชูหยุนเลย

ยอดภูเขาลึกทางเหนือ มีนักเรียนจากราชวิทยาลัยไม่น้อยรีบวิ่งออกมา แต่ละคนมีสีหน้าตกใจกลัว เหมือนด้านหลังมีสัตว์ดุร้ายกำลังวิ่งไล่พวกเขาอยู่

เข้าไปใกล้อีกนิด นักเรียนไม่น้อยวิ่งหนีออกมาพร้อมกับบาดแผล และมีเสียงคำรามอย่างโมโหดังออกมาจากที่ไกลๆ

“เสียงเหมือนสิงโตเพลิงเลย สิงโตเพลิงน่าจะอยู่ที่ขั้นสูงสุดระดับสอง พวกเราจะเข้าไปอีกไหม?”

“ทำไมจะไม่เข้าไปล่ะ ไม่เข้าถ้ำเสือ ใยจะได้ลูกเสือ”

“โฮก……”

เสียงคำรามของสิงโตดังขึ้นเรื่อยๆ เหมือนอยู่ใกล้แค่ตรงหน้า อ๋องเจ๋อก็บาดเจ็บเหมือนกัน ถูกพวกนักเรียนของราชวิทยาลัยแบกออกมา

แต่สิงโตเพลิงวิ่งเร็วมาก แค่พริบตาเดียวเท่านั้น พวกเขาก็ถูกล้อมไว้แล้ว ขนาดกู้ชูหน่วนยังโดนล้อมไว้เลย

พวกนักเรียนต่างหวาดกลัวกันมาก

พวกเขามาภูเขาสืบมังกรแค่ต้องการค้นหาสมบัติ ทำไมถึงเจอสัตว์ร้ายบ่อยจัง

“ฟ่อๆๆ……”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์แลบลิ้นของมันออกมา สิงโตเพลิงที่เป็นเจ้าป่ากลับอดไม่ได้อยากหมอบลงไป

พวกมันถอยออกไป ไม่กล้าไล่ตามพวกนักเรียนที่วิ่งหนีไป

พวกนักเรียนวิ่งหนีออกไปอย่างบ้าคลั่ง และพูดประชดไปด้วยว่า “พวกกู้ชูหน่วนบ้าไปแล้วหรือเปล่า? ยังไม่รีบหนีอีก พวกเขาไม่กลัวโดนสิงโตเพลิงกินหรือไง”