ตอนที่ 484 การรับรองที่เลิศเลอที่สุดในโลก

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

ตอนที่ 484 การรับรองที่เลิศเลอที่สุดในโลก!!

เย่เฉินจับมือภรรยาแน่นใบหน้าเปื้อนยิ้มแต่ไม่ได้ตอบหล่อน

เพราะเขาไม่อยากใช้ปาก ใช้คำพูดบรรยายว่าเขาเก่งขนาดไหน

เขาอยากให้ซูมู่ชิงสัมผัสด้วยตัวเอง!

ที่มาไม่ใช่แค่รถคันเดียว แต่ที่มากับด้านหน้าหลังของรถม้ายังมีราชองครักษ์หลวงในมือพวกเขาถืออาวุธ ที่พอจะดูออกว่ามาปกป้องคนในรถม้า

รถม้าเข้าใกล้พวกเย่เฉินเรื่อยๆ ฟางชิงที่ทรุดลงคุกเข่าเห็นเย่เฉินกับซูมู่ชิงกลับยังคงยืนนิ่งก็ไม่พอใจ

ฟางชิงคุกเข่าลงบนพื้นแล้วกล่าวกับซูมู่ชิงและเย่เฉิน “นี่! พวกเธอสองคนเป็นอะไรไป! รีบคุกเข่าลงได้แล้ว! ที่นี่คือประเทศอังกฤษนะไม่ใช่ประเทศจีน ที่นี่ยังมีคิงกับควีนอยู่นะ! เราอุตส่าห์เรียกเธอเป็นองค์หญิง ราชวงศ์ชิงล่มไปแค่กี่ปีเชียว ตอนนี้เห็นพวกเชื้อพระวงศ์ก็ลืมคุกเข่าแล้วเหรอ?”

ซูมู่ชิงเองก็ตื่นเต้นจึงหันไปถามเย่เฉิน “ควีนของที่นี่อยู่ในรถจริงๆ เหรอ”

เย่เฉินส่ายหน้า “ไม่อยู่ครับ”

รถม้าหยุดลงตรงหน้าเย่เฉินและซูมู่ชิง

ในวินาทีที่หยุดลง สองข้างทางก็มีคนจำนวนมากล้อมเข้ามาแล้วใช้มือถือถ่ายรูป

รถจำนวนมากก็หยุดลงเช่นกัน หยุดลงเพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

รถม้ามีฝรั่งในชุดข้าราชบริพารสองคนเดินลงมาจากรถม้า

ทั้งสองคนเดินนำหน้าโดยมีราชองครักษ์ส่วนพระองค์ถืออาวุธเดินตามมาด้วย

“คุณท่าน!”

ทั้งสองคนวางมือขวาไว้ที่หน้าอกแล้วค้อมตัวลงทำความเคารพเย่เฉินและซูมู่ชิง

พวกฟางชิงตกใจตัวแข็งค้าง คนที่เดินลงมาจากรถม้ากลับเดินมาหาซูมู่ชิงและเย่เฉิน! อีกทั้งยังเคารพพวกเขาอย่างมาก!

“หรือว่า…ราชรถทองคำมารับพวกเขาเหรอเนี่ย? เป็นไปได้ยังไง!”

ฟางชิงตกใจจนอ้าปากค้าง!

แล้วหนึ่งในนั้นก็กล่าว “คุณและคุณนายเย่ ยินดีต้อนรับท่านทั้งสองสู่ประเทศอังกฤษนะครับ!ท่านทั้งสองจะไปที่ไหนครับ?”

เย่เฉินกล่าว “อยากไปชมบาร์ทุกแห่งในลอนดอน”

แล้วพนักงานทั้งสองท่านก็รีบยื่นมืออกมาแล้วกล่าวอย่างเคารพ “เชิญทั้งสองท่านขึ้นรถเลยครับ!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นพวกฟางชิงก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินตามไป

ราชรถทองคำถูกส่งมาเพื่อรับเย่เฉินและซูมู่ชิงจริงๆ ด้วย!

นี่มันคนกันเองชัดๆ!

ทันใดนั้นเอง รถราคาแพงหูฉี่ของฟางชิงก็เป็นเหมือนแค่ขยะเมื่อเทียบกับราชรถทองคำคันนี้!

สิบกว่าล้านแล้วมันยังไง?

ต่อให้มีรถราคาร้อยล้านก็ช่างเถอะ!

จะเทียบเคียงกับราชรถทองคำที่สูงส่งเลอค่าได้ยังไง!

ยิ่งไปกว่านั้นมูลค่าของราชรถคันนี้แพงกว่ารถของหล่อนเสียอีก!

แค่เพชรนิลจินดาที่ประดับบนนั้นก็น่าจะมากกว่าสิบล้านแล้ว!

ล้อรถเพียงข้างเดียวก็ซื้อบ้านในเมืองใหญ่ๆ ของประเทศได้แล้ว!

จะเอาอะไรมาเปรียบกัน!

“ราชรถทองคำ! สวรรค์! คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าที่ฉันมาประเทศอังกฤษครั้งนี้ คิดไม่ถึงว่าจะได้เห็นราชรถทองคำของควีน! แหมดีจริงๆ หรูหรามากเหลือเกิน ฉันน้ำตาจะไหล อยากถ่ายรูปแล้วแชร์ในโซเชียลจัง กรี๊ด!”

จางเหมิงปลื้มปริ่มจนพร่ำพรรณนาออกมา!

ราชรถทองคำคันนี้เป็นเสมือนอาวุธสังหารสำหรับอิสตรีที่บ้าคลั่งในเงินทอง!

สามารถเอาชนะทุกความอดทนในใจผู้หญิงที่ชอบในเงินทอง เอาชนะทุกขีดจำกัด!

หลินเป้ยเป้ยก็กระโดดโลดเต้นน้อยๆ พลางคว้ามือจางเหมิงแล้วกล่าว “โง่จริงๆ เลย! จะถ่ายทำไมข้างนอก เดี๋ยวเราก็จะได้เข้าไปนั่งข้างใน ก็ค่อยไปถ่ายในราชรถเอาสิ!”

ถ่ายตัวรถจากด้านนอกออกจะไร้รสนิยม

คนที่รู้แจ้งในด้านการอวดรวยจะรู้ว่าการได้เซลฟี่ด้านในตัวรถจะชวนน่าอิจฉามากกว่า!

“จริงด้วยๆ! เดี๋ยวเราจะได้นั่งในรถม้านี่! ฟางชิงขอโทษด้วยนะเราไม่นั่งรถเธอแล้วนะ”

จางเหมิงและหลินเป้ยเป้ยวิ่งไปหาซูมู่ชิงและเย่เฉินอย่างร่าเริง

จางเหมิงชมเย่เฉินไม่ขาดปาก “เย่เฉิน ลูกพี่เย่ คุณชายเย่ วันนี้คุณหล่อสุดยอดไปเลย!!! ได้เห็นมู่ชิงแต่งงานกับคนดีๆ แบบคุณฉันล่ะดีใจแทนเพื่อนรักของฉันจริงๆ ดีใจจนน้ำตาจะไหล!”

หลินเป้ยเป้ยคว้ามือซูมู่ชิงราวเสียสติ “เพื่อนรัก เธอตาถึงจริงๆ ผู้ชายอย่างเย่เฉินเหมือนสมบัติล้ำค่าเลยนะ! ถ้าฉันเป็นเธอเนี่ยจะมีลูกให้เย่เฉินเยอะเป็นทีมฟุตบอลเลย! ฮ่าๆ”

ซูมู่ชิงไม่ใช่คนบ้ายอ แต่หลังจากที่โดนคนพวกนี้เยาะเย้ยเมื่อครู่ หล่อนก็รู้สึกว่าได้ยินคำพูดอะไรพวกนี้ก็เพลินดีเหมือนกัน!

สะใจดีจริงๆ!

หล่อนมีสามีที่สุดยอดแบบนี้ทำให้หล่อนรู้สึกภูมิใจอย่างเหลือเกิน!

จางเหมิงเห็นว่าในรถม้ามีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ แถมยังมีสี่ที่นั่งจึงกล่าว “เย่เฉิน มู่ชิง ฉันกับเป้ยเป้นขอนั่งรถ้วยคน อยากนั่งชมวิวยามค่ำคืนในรถม้า จะต้องสุดยอดมากแน่!”

ทว่าเย่เ่ฉินกลับปฏิเสธพวกหล่อน

“ขอโทษด้วยนะครับ พวกคุณขึ้นรถม้าคันนี้ไม่ได้”

เย่เฉินเองก็อยากจะสวีทหวานกับซูมู่ชิงเพียงสองคน ไม่อยากให้มีคนนอก

แล้วอีกอย่างราชรถคันนี้ไม่ได้เป็นแค่รถหรูทั่วๆ ไป ไม่ใช่ทุกคนที่จะขึ้นไปนั่งได้ จะต้องเป็นคนที่สูงศักดิ์มากพอถึงจะมีสิทธิ์นั่งรถคันนี้ได้!

จางเหมิงและหลินเป้ยเป้ยเป็นเพียงเพื่อนในสมัยมหาวิทยาลัยของซูมู่ชิงอีกทั้งเมื่อกี้ไม่รู้ว่าพวกหล่อนพูดอะไรทำร้ายจิตใจซูมู่ชิงไปบ้าง

แล้วเย่เฉินจะปล่อยให้พวกหล่อนนั่งรถม้าได้อย่างไร?

จางเหมิงเห็นรถม้าคันนี้ก็อยากนั่งจนห้ามใจไม่ได้ จึงเว้าวอน “เย่เฉินคะ นะ ขอเราไปนั่งด้วยคนนะคะ ไปเสพสุขหน่อยนะ”

เย่เฉินยังคงแน่วแน่“ผมไม่อยากพูดจาให้มันไม่น่าฟังหรอกนะ แต่ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะนั่งราชรถคันนี้ได้ นี่คือกฎที่ตราเอาไว้ตั้งแต่ตอนสร้างราชรถคันนี้”

อันที่จริงก็ไม่ใช่ว่าเย่เฉินจะไร้น้ำใจ แต่กฎของตระกูเลย่ก็คือกฎของประเทศนี้เหมือนกัน

แต่จางเหมิงก็ยังไม่นำพา หล่อนมีแอลกอฮอลล์ในเลือดทำให้เริ่มงอแง ใจกล้าคว้าแขนเย่เฉินมาเขย่าอย่างออดอ้อน แถมยังจงใจเขย่าแขนเขาจนสัมผัสเข้ากับหน้าอกหน้าใจของหล่อนด้วย

เย่เฉินจะสนใจผู้หญิงธรรมดาแบบนี้ได้ยังไง?

เย่เฉินสะบัดมือจางเหมิงทิ้งไปแล้วกล่าว “ในเมื่อคุณดึงดันจะให้ผมพูดจาแรงๆ ล่ะก็นะ ก็ได้ ขอโทษด้วยนะครับ คุณไม่คู่ควรจะนั่งรถม้าคันนี้!”

ราชรถทองคำเป็นของสูงค่าขนาดนี้ ไหนเลยจะปล่อยให้ใครต่อใครนั่งได้ตามอำเภอใจ!

นั่นเป็นดั่งการดูถูกแขกผู้สูงศักดิ์คนอื่นๆ!

เย่เฉินไม่มีทางลดค่าราชรถคันนี้เด็ดขาด!

“ที่รัก พวกเราขึ้นรถกันเถอะครับ”

เย่เฉินไม่สนใจความรู้สึกของพวกสาวๆ คนอื่นอีก เขาดึงมือภรรยาให้นั่งลงในราชรถทองคำนั้น

ทันทีที่เพิ่งนั่งเข้าไป แสงแฟลชจากทั้งกล้องและมือถือก็สว่างวาบ

ดูท่าแล้วรูปภาพพวกนี้คงจะโดนแชร์ไปทั่วโลกกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งของสื่อใหญ่ต่างๆ อย่างรวดเร็วแน่!

รถม้าก็เริ่มเคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็ว รถทุกคันก็หลีกทางให้ ราชรถทองคำนั้นเคลื่อนตัวไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ไม่แม้แต่จะดูไปจราจรด้วยซ้ำ!

คนที่เดินอยู่ตามข้างทางต่างก็ทำความเคารพเย่เฉินและซูมู่ชิง!

ซูมู่ชิงตื้นตั้นใจจนร้องไห้ ต่อให้เป็นคนที่เกิดในตระกูลที่ร่ำรวยแบบหล่อน ชีวิตนี้ก็ยังไม่เคยได้สัมผัสกับอภิสิทธิ์ระดับนี้!