ตอนที่ 162 ต่อต้าน

บุตรอสูรบรรพกาล

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 162 ต่อต้าน

 

“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าจะมาเป็นรองหัวหน้าสมาคมแพทย์และนายน้อยไป๋จูเหวินจะเป็นหัวหน้าสมาคมแพทย์นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป” อดีตผู้ช่วยอาวุโสหน่วย 10 ที่ เคยช่วยไป๋จูเหวินเรื่องการฝึกแพทย์ของกลุ่มนักล่าอสูรยามนี้กําลังประกาศการมาเยือนของหัวหน้าและรองหัวหน้าคนใหม่แห่งสมาคมแพทย์ที่ถูกเปลี่ยนเป็นหน่วย 11 ของกลุ่มนักล่าอสูรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แถมนอกจากไป๋จูเหวินและ ผู้ช่วยอาวุโสหน่วย 10 ที่ตอนนี้กลายเป็นรองหัวหน้าหน่วย 11 แล้วยังมีเหล่าแพทย์จากกลุ่มนักล่าอสูรที่พึ่งฝึกฝนกันมาอีก 100 คนตามมาด้วย

“…” เหล่าอาวุโสภายในห้องต่างมีสีหน้าหมองหม่นอย่างเห็นได้ชัด หัวหน้าสมาคมตายไปแล้ว แถมสถาณการณ์ตอนนี้สมาคมแพทย์ก็ยังไม่มีอะไรไปต่อกรกับกลุ่มนักล่าอสูรอีกต่างหาก อย่าว่าแต่กําลังฝีมือของพวกกลุ่มนักล่าอสูรเลย ลําพังแพทย์ในสมาคมจะต่อต้านไป๋จูเหวินคนเดียวยังทําไม่ได้เลยกระมัง

 

“ข้าทราบดีว่ามันอาจจะทําใจยาก แต่การที่ข้ามารับตําแหน่งหัวหน้าต่อก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายทั้งหมดหรอกนะ” ไป๋จูเหวินว่าพลางเดินไปนั่งที่เก้าอี้ของหัวหน้าสมาคม ยามนี้มันกลายเป็นหัวหน้าสมาคมแพทย์และกลายเป็นอาวุโสของหน่วย 11 แล้ว เพียงแต่ในสมาคมตอนนี้อาจจะยังไม่ยอมรับเท่าไหร่

 

“แต่เพราะพวกข้าเป็นคนของกลุ่มนักล่าอสูร ทําให้การซื้อสมุนไพรจากกลุ่มนักล่าอสูรไม่มีปัญหาแต่อย่างไร” ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มบางๆ ปัญหาเรื่องสมุนไพรนั้นทําเอาเหล่าอาวุโสหัวหมุนไปหมด จํานวนสมุนไพรในคลังก็เหลือน้อยจะซื้อใหม่ก็ไม่ได้ ทําให้หัวหน้าสมาคมคนก่อนใช้เงินก้อนใหญ่ไปกับการขอเจรจากับกลุ่มนักล่าอสูร จน กระทั่งวันก่อนหัวหน้าสมาคมก็ออกไปโดยบอกว่าจะไปเคลียกับกลุ่มนักล่าอสูรด้วยตนเอง แต่กลายเป็นว่าผู้กลับมาดันกลายเป็นหัวหน้าคนใหม่เสียอย่างนั้น

 

“นอกจากนี้ ข้าก็ไม่ได้คิดจะทําอะไรให้สมาคมแพทย์ในตอนนี้ลําบากขึ้นหรอก ในเมื่อยามนี้สมาคแพทย์กลายเป็นหน่วย 11 ของกลุ่มนักล่าอสูรแล้ว ข้าเองก็ตั้งใจจะทําให้ที่นี่กลายเป็นหน่วยที่ดีเช่นกัน” ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มออกมาอย่างจริงใจ มันไม่ได้มีความแค้นอะไรกับคนในสมาคมเพราะเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะหัวหน้าสมาคมและอาวุโสไม่กี่คนเท่านั้น

 

“แต่ว่า… หัวหน้าสมาคมจะเป็นคนธรรมดาไม่ได้หรอกนะ หัวหน้าสมาคมแพทย์เป็นตําแหน่งสูงสุดของเหล่าแพทย์ในสมาคม จะให้คนไม่รู้วิชาแพทย์มาเป็นได้อย่างไร”ได้ยินอาวุโสคนหนึ่งพูดออกมา รองหัวหน้าหน่วย 11 ก็พลันยิ้มกว้างทันที

 

“ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา นายน้อยของข้าได้เรียนตําราแพทย์โบราณของพวกเจ้าจนแตกฉานแล้ว ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะสามารถเรียกนายน้อยของพวกเราว่าเป็นผู้ไม่รู้วิชาแพทย์ได้หรอกนะ” รองหัวหน้าหน่วย 11 หัวเราะออกมาเพราะตนได้เห็นความสามารถของนายน้อยมาแล้ว มันเหลือเชื่อจนเรียกได้ว่าน่ากลัวเลยทีเดียว

 

“วิชาแพทย์ของหัวหน้าสมาคมแพทย์เป็นวิชาที่สืบทอดกันมานาน แม้แต่หัวหน้าสมาคมแพทย์ที่เก่งที่สุดในอดีตยังต้องใช้เวลาศึกษาหลายปี เจ้าจะบอกว่านายน้อยของเจ้าสามารถเข้าใจทั้งหมดได้ภายในไม่กี่สัปดาห์งั้นเหรอ” ชายชราว่าพลางตบโต๊ะเสียงดัง

 

“เช่นนั้นไม่ลองทดสอบดูล่ะ” รองหัวหน้าหน่วย 11 ไม่มีท่าที่หวาดหวันแต่อย่างไรกับคําท้าทาย ตรงกันข้ามมันกลับยินดีเสียด้วยซ้ำ

 

“ได้ หากนายน้อยของเจ้าสามารถเรียนรู้วิชาแพทย์ของหัวหน้าสมาคมได้หมดจริง ข้าจะเรียกมันว่าหัวหน้าและเคารพมันทุกครั้งที่เดินผ่าน” ชายชราอีกคนว่าพลางมองด้วยดวงตาแข็งกร้าว

 

“เช่นนั้นจะทดสอบกันเลยหรือไม่” รองหัวหน้าหน่วย 11 ถามราวกับมันเป็นคนทดสอบเอง แต่เห็นว่าหากทดสอบผ่านพวกมันจะยอมรับ ไป๋จูเหวินเลยไม่ได้ขัดอะไร

 

“ตอนเที่ยง พบกันที่ห้องประชุมใหญ่”เหล่าอาวุโสของสมาคมแพทย์ลุกขึ้นยืนพลางพากันเดินออกไปอย่างรวดเร็ว แม้ตําราแพทย์โบราณของหัวหน้าสมาคมแพทย์จะมีแต่หัวหน้าสมาคมแพทย์เท่านั้นที่เรียนได้ แต่ก็มีการแบ่งความรู้จากตําราโบราณพวกนี้ให้แก่อาวุโสบ้าง ทําให้พวกมันสามารถนําความรู้เหล่านั้นมาทดสอบไป๋จูเหวินได้ไม่ยาก

 

ในตอนเที่ยงของวันเดียวกัน ไป๋จูเหวินและคนของกลุ่มนักล่าอสูรมารอที่ห้องประชุมตามที่นัดเอาไว้ โดยคราวนี้นอกจากเหล่าอาวุโสทั้ง 5 คนแล้วยังมีคนของสมาคมแพ ทย์อีกจํานวนมากรวมๆแล้วภายในห้องประชุมมีคนกว่า 800 คน นับเป็นคนทั้งหมดของสมาคมแพทย์ในตอนนี้

 

“เกิดอะไรขึ้น…”

 

“ได้ข่าวว่าจะมีการทดสอบหัวหน้าคนใหม่นะ”

 

“หัวหน้าคนใหม่? หรือว่าท่านหัวหน้าคนเก่าลาออกไปเพราะเรื่องการซื้อสมุนไพรกัน”

 

เสียงซุบซิบดังกระจายออกไปทั่วห้องประชุมเพราะอยู่ๆ เหล่าแพทย์ฝึกหัดแพทย์ชํานาญการ และแพทย์อาวุโส ต่างโดนเรียกมาประชุมทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น ทําเอาเหล่าแพทย์ต่างประหลาดใจเป็นอย่างมาก พวกมันทราบแต่ว่าจะมีการทดสอบหัวหน้าคนใหม่เท่านั้น

 

“เริ่มทดสอบได้” เหล่าอาวุโสทั้ง 5 พูดพลางเปิดผ้าที่คลุมผนังเอาไว้ บนผนังเหล่านั้นปรากฏคําถามทางวิชาการจํานวนมากเขียนเอาไว้นับรวมแล้วมีมากกว่า 300 ข้อ โดยคําถามบนกําแพงนั้นมีตั้งแต่วิชาแพทย์พื้นฐานไปจนถึงวิชาแพทย์ชั้นสูง นอกจากนี้ยังมีคําถามเกี่ยวกับวิชาแพทย์ของหัวหน้าสมาคมอีก 50 ข้อ แต่มันถูกเขียนเอาไว้บนกระดาษที่วางไว้บนโต๊ะเพราะไม่อาจเผยความลับของตําราให้เหล่าแพทย์ทั้งหลายให้ทราบได้ นอกจากนี้ที่ด้านหน้ากําแพงยังมีเตาหลอมยาอีก 3 ใบโดยแต่ละใบจะมีการเตรียมสมุนไพรเอาไว้ให้ปรุงยาตามสั่งออกมาให้ได้

 

“นายน้อยเชิญขอรับรองหัวหน้าหน่วย 11 ว่าพลางนําพู่กันออกมาให้ไป๋จูเหวิน เพียงแต่สําหรับไป๋จูเหวินที่มีความทรงจําเป็นเลิศนั้นการทําข้อสอบพวกนี้ราวกับนั่งเปิดตําราทําข้อสอบไม่มีผิด เพียงพริบตาเดียวคําตอบกว่า 300 ข้อก็ถูกเติมคําตอบลงไปได้จนหมด แถมยังไม่มีข้อไหนผิดเลยแม้แต่ข้อเดียว แม้แต่คําถามที่ต้องตอบตามสภาพร่างกายของผู้ป่วย ไป๋จูเหวินก็สามารถเขียนวิธีรักษาออกมาได้อย่างไร้ที่ติ

 

จนกระทั่งมาถึงคําถามของวิชาแพทย์ของหัวหน้าสมาคม เพียง 5 นาที ไป๋จูเหวินก็เขียนคําตอบลงไปจนหมด ชนิดที่ว่าเหล่าอาวุโสทั้ง 5 ยังตรวจคําตอบ 300 ข้อก่อนหน้านี้ไม่เสร็จไป๋จูเหวินก็ทําข้อสอบที่ปกติต้องใช้เวลาเป็นวันๆเสร็จหมดแล้ว

 

“ต่อไปก็ปรุงยาสินะ” ไป๋จูเหวินว่าพลางเดินมาที่หม้อยา ซึ่งยาที่ให้ปรุงออกมานั้นล้วนแล้วแต่เป็นยาที่ทําได้ยาก แถมยังต้องใช้เวลานานอีกต่างหาก

 

พรึบ! ไป๋จูเหวินใช้พลังอสูรเรียกลูกไฟออกมา 3 ลูกโดยไม่ได้สนเตายาแต่อย่างไร

 

“เหอะ ในสมาคมแพทย์ไม่มีใครเขาสนพลังวิญญาณกันหรอกนะ” แสงไฟเมื่อครู่ทําให้เหล่าอาวุโสหันมามอง แต่พวกมันกลับคิดว่าไป๋จูเหวินเพียงจะจุดไฟเตายาด้วยพลังวิ ญญาณเท่านั้น

 

“ไม่ใช่” อาวุโสคนหนึ่งเบิกตากว้างมองลูกไฟตรงหน้าจนลืมตรวจข้อสอบไปเสียสนิท

 

“นั่นมันการหลอมยาด้วยพลังวิญญาณ” อาวุโสคนนั้นว่าพลางทิ้งพู่กันลงจากมือตัวเอง มันเดินเข้าไปหาลูกไฟทั้ง 3 พลางมองอย่างจดจ่อราวกับแมงเม่าที่กําลังจะบินเข้ากองไฟ

 

“เหลือเชื่อ แม้แต่หัวหน้าคนก่อนยังทําแบบนี้ไม่ได้เลย” เหล่าแพทย์ในห้องประชุมว่าพลางมองเหล่าสมุนไพรที่ค่อยๆลอยเข้าไปในลูกบอลไฟอย่างช้าๆ การหลอมยาเช่น นี้นอกจากจะต้องมีพลังพอที่จะสร้างไฟอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานซึ่งพลังอสูรสามารถทําเช่นนี้ได้ง่ายกว่าพลังวิญญาณมาก และต่อให้ไม่มีพลังอสูรไป๋จูเหวินก็สามารถใช้พลังวิญญาณได้ไม่ต่างกัน แต่นั่นถือเป็นเรื่องยากแล้วสําหรับคนของสมาคมแพทย์ นอกจากนี้การควบคุมไฟยังละเอียดอ่อนอย่างมากเพราะไม่มีหม้อเป็นตัวกลางนั่นเอง

 

วูม…..เหล่าอาวุโสต่างตรวจข้อสอบของไป๋จูเหวินจนหมดแล้ว แต่ก็ยังหาจุดผิดไม่ได้ ทําให้พวกมันได้แต่มองดวงไฟที่ไป๋จูเหวินกําลังหลอมอยู่ด้วยสีหน้าเหม่อลอย สําหรับไป๋จูเหวินที่เรียนวิชามาจากท่านน้ามังกรและการหลอมยาจากน้าราชสีห์แล้ว การสอบครั้งนี้แทบไม่ต่างจากเรื่องเล่นสนุกเลย ยาที่ท่านน้าราชสีห์ให้หลอมออกมานั้นมีความยากและการใช้สมุนไพรมีค่าที่ต้องใช้วิธีจําเพาะมากมายในการสกัดตัวยาออกมาเรียกได้ว่ายากเกินกว่าที่มนุษย์ธรรมดาจะสามารถเข้าใจได้ ส่วนสูตรยาทั้ง 3 ที่ความซับซ้อนเพียงเล็กน้อยนั้น ไม่อาจสร้างความตื่นเต้นให้กับไป๋จูเหวินได้เลย

 

ตุบ… เม็ดยาจํานวน 30 เม็ดถูกวางลงบนโต๊ะเบื้องหน้าเหล่าอาวุโส โดยดวงไฟแต่ละลูกต่างทําให้สมุนไพรที่มันเตรียมมาให้กลายเป็นยาได้ 10 เม็ดพอดี นั่นคือจํานวนสูงสุดที่จะทํายาออกมาได้แล้ว ส่วนคุณภาพนั้นแม้แต่อาวุโสเองก็ไม่อาจมั่นใจได้ว่าตนเองจะสามารถปรุงยาได้เช่นนี้

 

“หัวหน้า” อาวุโสคนที่ประกาศตนว่าหากไป๋จูเหวินสอบผ่านจริงมันจะเรียกว่าหัวหน้านั้นคุกเข่าลงกับพื้นพลางประสานมือรับทันที ความสามารถของไป๋จูเหวินยามนี้ราวกับ ทําให้มันตาสว่าง

 

“ท่านหัวหน้า” เหล่าอาวุโสเห็นวิชาที่ไป๋จูเหวินแสดงออกมาก็พากันคุกเข่าลงทันที ในเมื่อตนเองไม่อาจทําอะไรได้ แถมความสามารถของหัวหน้าคนใหม่ก็มีมากกว่าคนเก่าเสียอีก พวกมันก็ได้แต่ยอมรับเท่านั้น

 

“นายน้อย ให้ข้านําออกมาเลยหรือไม่ขอรับ” รองหัวหน้าหน่วย 11 ว่าพลางยิ้มกว้าง

 

“ได้ เอาออกมาเลย” ไป๋จูเหวินพยักหน้า ในเมื่อพวกมันยอมรับแล้วก็คงถึงเวลาซื้อใจแล้ว

 

“นี่คือของขวัญจากหัวหน้าคนใหม่ของพวกเจ้า” รองหัวหน้าหน่วย 11 ว่าพลางนําสมุนไพรออกมาจากมิติของมัน จํานวนสมุนไพรที่ไป๋จูเหวินนํามาคือสมุนไพรทั้งหมดที่สมาคมแพทย์เคยสั่งซื้อนั่นเอง นี่คือของขวัญที่หวงหลงจัดหามาให้เพื่อซื้อใจเหล่าสมาคมแพทย์เลยทีเดียว

 

“นี่มัน”เหล่าอาวุโสต่างเบิกตากว้าง ไม่นึกเลยว่าไป๋จูเหวินจะนําสมุนไพรที่พวกตนต้องการออกมาทั้งหมด แถมยังเป็นจํานวนที่สามารถใช้ได้ทั้งเดือนอีกต่างหาก

 

“แน่นอนว่าหลังจากนี้ เรายังสามารถซื้อขายกับกลุ่มนักล่าอสูรได้ตามปกติ” ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มบางๆ การที่ไป๋จูเหวินมาเป็นหัวหน้าของสมาคมแพทย์ทําให้เส้นทางการค้าของพวกมันกลับมาเปิดอีกครั้งแล้ว

 

“นี่มัน…” อาวุโสคนหนึ่งขมวดคิ้วพลางมองกล่องสมุนไพรที่วางกองเอาไว้ นอกจากสมุนไพรที่รับมาปกติแล้ว ยังมีสมุนไพรที่มันไม่เคยเห็นอยู่อีก

 

“นั่นเป็นสมุนไพรที่เราเอาไว้ใช้กับยาตัวใหม่” ไป๋จูเหวินยิ้มพลางเรียกเอาสูตรยาตัวใหม่ออกมาอีก 3 ชนิด โดยแต่ละชนิดล้วนเป็นยาที่ดีกว่าสูตรเดิมของสมาคมแพทย์อยู่แล้ว น่าเสียดายที่ไม่อาจสร้างยาหายากได้เพราะสมุนไพรที่ต้องใช้มีไม่พอ หากอยากจะทํามีแต่ต้องนําสมุนไพรในมิติของไป๋จูเหวินออกมาทําเท่านั้น ซึ่งนั้นจะทําให้ได้ยาราคาแพงลิบลิ่วมาอย่างแน่นอน

 

“”เหล่าอาวุโสถึงกับนิ่งไปหลายอึดใจ นอกจากจะไม่ต้องกังวลเรื่องสมุนไพรอีกต่อไปแล้ว พวกมันยังได้สูตรยาใหม่อีกด้วย แต่ก่อนพวกมันครองแค่สูตรเดียวก็ทําให้การ ค้ามั่งคั่งมหาศาลแล้ว นี่กลับได้มาเพิ่มอีก 3 สูตร แถมนอกจากนี้ การที่พวกมันกลายเป็นหน่วย 11 ของกลุ่มนักล่าอสูรนั่นเท่ากับว่าการคุมยาในตลาดกลับมาเป็นของพว กมันอีกครั้ง แม้ไม่ทราบว่าไป๋จูเหวินจะใช้ยาเป็นเครื่องมือกดดันเมืองต่างๆเหมือนหัวหน้าคนก่อนหรือไม่ก็ตาม แต่ยามนี้การค้าของพวกมันก็ปลอดภัยแล้ว