ฉางกวนหลงที่นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างจวงฮงและตวนเจียงเหว่ยหันไปทางชูฮันที่กำลังค่อยๆลุกขึ้นยืนช้าๆ

 

นี่คือชูฮันที่ลูกสาวเขาพูดถึงงั้นสินะ?

 

ฉางกวนหลงเพียงแค่มองจากนั้นก็ดึงสายตากลับไป

 

ชูฮันที่ยืนอยู่ท่ามกลางสายตาที่เป็นประกายจ้าของหลายคนที่มองมา แววตาของชูฮันนิ่งเรียบไร้คลื่นอารมณ์ใดๆ ฝีเท้าการเดินของเขาก็นิ่งสงบขณะก้าวเดินไปทางแท่นสูง เครื่องแบบทหารเต็มยศบนตัวชูฮันดูพิถีพิถัน กระดุม 56 เม็ดบนหน้าอกส่องประกายสะท้อนไฟแวววาวสวยงาม

 

“พรึบ!”

ร่างของชูฮันได้ปรากฏต่อสายตาของทุกคน ทุกคนตื่นเต้นอย่างมากขณะมองไปที่ท่าเดินของชูฮันขณะก้าวเท้าขึ้นไปบนแท่นสูง เสียงพูดคุยของเหล่านายทหารทั้งหลายยิ่งดังลั่นไม่หยุดกว่าเดิม

 

“กลายเป็นว่าผู้ชายคนนี้คือชูฮัน”

 

“เร็วเข้ารีบจำหน้าเขาไว้!”

 

“ยังเด็กอยู่เลย! เขาดูหนุ่มมาก!”

 

“แน่นอน เขาอายุแค่ 20 ปีเอง ฉันได้ยินว่าปีนี้เขาอายุ 21 และเขาเป็นนายพลเอกที่เด็กที่สุด”

 

“ครองแผ่นฟ้า วันแรกของปีใหม่ เหล่าผู้คนทั้งค่ายซางจิงกำลังเฝ้าดูชูฮันได้รับการแต่งตั้ง!”

 

“น่าอิจฉา”

 

“ฉันอิจฉา”

ในขณะที่สายจองทุกคนเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อนมากมายหลากหลาย ชูฮันก็เดินขึ้นไปหาผู้บัญชาการมู๋ที่อยู่ตรงกลางของแท่นสูง ความเร็วไม่ได้ล่าช้าแม้แต่น้อยกว่าการก้าวปกติ และภายในพริบตาเดียวชูฮันก็ไปถึงที่หมาย

 

จากนั้นชูฮันก็ทำท่าพิธีการทางทหารเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้บัญชาการมู๋

 

ผู้บัญชาการมู๋ที่รู้สึกจะเป็นลมเมื่อเห็นชูฮันกำลังเดินมาโดยไม่รู้กฏระเบียบอะไรเลย หากทันทีที่ชูฮันมาถึง ผู้บัญชาการมู๋ก็ต้องตะลึงกับพิธีการทางทหารที่ชายหนุ่มตรงหน้าแสดงออกมา ไม่เพียงแต่ผู้บัญชาการมู๋ หากเหล่านายทหารยศสูงที่อยู่บนเวทีทั้งหลายต่างก็ตะลึงกันหมด รวมถึงเจ้าหน้าที่และทหารทุกตำแหน่งที่ตะลึงค้างกันถ้วน แม้แต่เฉินช่าววเย่ก็ยังอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ

 

นี่มันมาตรฐานสูงสุดของพิธีการทางทหาร!

 

ตั้งแต่ท่าเดินออกไปและทำท่าวันทยาหัตถ์แสดงความเคารพ ทุกท่วงท่าของชูฮันนั้นเรียบรื่นอย่างไร้ที่ติราวกับว่าชูฮันคุ้นเคยกับการทำแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วน

 

แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ชูฮันขึ้นมายืนบนแท่นสูงนี่ มันเป็นครั้งแรกที่ชูฮันเข้าร่วมกับกองทัพใช่มั้ย?

 

ฉางกวนหลงและตวนเจียงเหว่ยต่างนิ่วหน้าพร้อมกันทั้งคู่ ตามข้อมูลที่ได้รับมา ชูฮันไม่เคยเข้าร่วมกับกองทัพหรือมีอะไรเกี่ยวข้องกับกองทัพมาก่อนเลย มีเพียงแค่ไม่กี่คนรอบตัวเขาเท่านั้นที่เป็นคนของกองทัพ ใครสอนพิธีการทางทหารที่แสนจะสง่างามแบบนี้ให้เขากัน? พวกเขาเกรงว่าทักษะการเคลื่อนไหวแบบนี้มันน่าจะทำมาแล้วมากกว่าพันครั้ง

 

ทว่าในโลกาวินาศเช่นนี้ ชูฮันไม่น่าจะมีเวลาหรือโอกาสที่จะฝึกฝนเรียนรู้ได้

 

จวงฮงแทบจะกระอักเลือดในอก แม่งใครก็ได้บอกเขาทีว่าทำไมชูฮันถึงทำท่าได้มาตรฐานมากกว่าเขาซะอีก?!

 

แววตาของผู้บัญชาการมู๋เป็นประกายอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากมองชูฮันลึกลงไป ความพึงพอใจและความซาบซึ้งในสายตาของผู้บัญชาการมู๋ก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น แม้มันจะสายไปมาก แม้ว่ามันเกือบจะผิดพลาด แม้ว่ามันจะเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย หลายคนในซางจิงต้องหัวปั่นกันไม่หยุด แม้ท่าทางที่หยิ่งผยองและอวดดีของชูฮันจะน่าหมั่นไส้

 

ทว่าพิธีการทางทหารที่ชูฮันแสดงออกมานี่เห็นได้ชัดว่ามันได้รับการฝึกมาโดยเฉพาะ ดูภายนอกชูฮันอาจจะดูไม่เหมือนทหารเลย หากพิธีการทางทหารสูงสุดที่ชูฮันแสดงออกมาได้บ่งบอกทัศนคติของเขาแล้ว

 

ชูฮันไม่ใช่คนอ่อนน้อมถ่อมตน หากเขายังคงแสดงความเคารพตามควรจะเป็น และแม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกของชูฮันในการเข้าร่วมกับกองทัพแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รู้ถึวมารยาทปฏิบัติของทหาร ในชาติที่แล้วเขาเดินทางไปทั่วทุกหนแห่งและได้พบเจอกับผู้คนมาหน้าหลายตา

 

ผู้บัญชาการมู๋ยกมือขึ้นตอบรับชูฮัน แม้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าผู้บัญชาการมู๋จะเด็กกว่าท่านอยู่หลายเท่า หากชายแก่ก็ยอมรับนับถือชูฮันจากหัวใจ

 

ผู้ชายสองคนในชุดเครื่องแบบยืนอยู่บนแท่นสูงและมองหน้ากันและกัน ภาพนี้ปรากฏต่อสายของทุกคน

 

วินาทีต่อมา ทั้งสองก็ชักมือลงพร้อมๆกัน

 

ตามกระบวนการของพิธีการ ผู้บัญชาการมู๋หยิบตราตำแหน่งมาจากนายทหารข้างๆที่ส่งมาให้และติดตราให้กับชูฮันด้วยตัวท่านเอง

 

พรึบ! พรึบ! พรึบ!

พายุของเสียงปรบมือดังสนั่น ทุกคนต่างตื่นเต้นจนปรบมือกันอย่างแรง ผู้บัญชาการมู๋ที่เป็นผู้นำสูงสุดของค่ายซางจิงส่งมอบตราตำแหน่งให้ชูฮันด้วยตัวเอง ช่างเป็นเกียรติอย่างยิ่ง!

 

ผู้บัญชการมู๋กระซิบพูดกับชูฮัน “คำสาบานตนคือสิ่งที่จำเป็นอย่างมากของค่ายซางจิง แต่นายยังไม่ได้ดูหรือซ้อมส่วนนี้เลย เดี๋ยวจะมีคนส่งระเบียบขั้นตอนการพูดเป็นลายลักษณ์อักษรให้ ส่วนพิธีการทางทหารก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้จริงๆว่านายรู้ได้ไง”

 

ชูฮันมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าให้กลับมานิ่งเฉยเหมือนเดิม

 

หลังจากได้รับการติดตราตำแหน่งเรียบร้อย ผู้ชายทั้งสองคนก็ผ่านกันไป ผู้บัญชาการมู๋เดินลงไปจากแท่นสูง ส่วนชูฮันก็เดินไปที่แท่นเพื่อกล่าวคำสาบานตนในขณะเดียวกันนั้นเองก็ทหารที่ยืนอยู่ถัดไปก็ยืนถือขั้นตอนการปฏิบัติอยู่ในมือ

 

เสียงปรบมือของผู้คนเริ่มซาลงจนในที่สุดมันก็กลับมาเงียบดังเดิม สายตาของทุกคนจับจ้องมาที่ชูฮันที่อยู่บนแท่นสูง รอคอยชูฮันให้กล่าวคำสาบานตน

 

ชูฮันที่ยืนอยู่บนแท่นสูงและถือลายลักษณ์อักษณ์ไว้ก็เปิดออกอ่าน และเมื่อเขาเห็นบรรทัดแรกในกระดาษ เขาก็หัวเราะออกมา

 

กลุ่มมคนที่นั่งไม่ไกลออกไปต่างส่งเสียงกระซิบกระซาบไม่หยุด ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ประสิทธิภาพของชูฮันนั้นไร้ที่ติ หากสำหรับการกล่าวคำสาบานตนถือเป็นครั้งแรกที่ผู้คนได้เห็นชูฮันต้องอ่านกระบวนการปฏิบัติ ซึ่งมันทำให้หลายคนเริ่มมีเหงื่อซึมจากความกังวล หากในขณะเดียวกันก็มีหลายคนที่ยิ้มมุมปากด้วยความสะใจ หึ! ไหนชูฮันที่คำนวนทุกอย่างล่วงหน้าไว้แล้ว ไม่ได้คำนวนเรื่องพิธีกล่าวสาบานตนนี้ไว้ด้วยเหรอ!

 

พิธีการสาบานตนนี่คือโอกาสที่จะจัดการกับชูฮัน ช่องโหว่นี้สามารถทำให้ชูฮันเสียศักดิ์ศรีในกองทัพได้ ถึงแม้ตำแหน่งพลเอกของชูฮันจะไม่สามารถเปลี่ยนแปงได้ แต่เขาสามารถทำให้คุณค่าของพลตรีนั้นเพิ่มพูนขึ้นได้ โดนเฉพาะในตอนนี้ที่มีสายตาของผู้คนมากมายจับจ้องกันอยู่

 

“ฉันค่อนข้างกังวล” ผู้บัญชาการมู๋พูดออกมาเมื่อกลับมาถึงเก้าอี้นั่ง

 

เลาหมิงมองชูฮันจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นสายตาเรียบเฉย “จะต้องมีคนใช้โอกาสของช่องโหว่นี่แน่ๆ พวกเราไม่ปลอดภัยแล้ว”

 

ผู้บัญชาการมู๋ถอนหายใจและเมื่อกระพริบตาอีกครั้งท่าทางของผู้บัญชาการมู๋ก็กลายเป็นนิ่งสงบ “ใจเย็นไว้ ฉันได้พูดเตือนเขาแล้วว่ามันอาจจะมีอะไรเกิดขึ้น มันไม่ง่ายสำหรับเขาที่จะทำมันตอนนี้ แต่เราจะได้อะรได้? ดูเขาตอนนี้สิ?”

 

“ไม่รีบเหรอไง?” มีน้ำเสียงยิ้มเยาะของทหารคนหนึ่งที่กำลังมองชูฮันที่อยู่บนแท่นสูงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความล้อเลียน “ผมชูฮัน สาบานต่อตราพลเอกนี่จะปฏิบัติตามคำสั่งของค่ายซางจิงอย่างจริงจัง ยึดมั่นตามกฏระเบียบ จะไม่เพิ่มภาระให้กับค่ายหรือผู้ลี้ภัย จะทำให้ค่ายเป็นค่ายแห่งการเพาะปลูกที่แรก และจะส่งมอบอาหาร 80% ให้ซางจิง ชีวิตของผู้คนและความตายไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของฉัน…ฮ่าฮ่าฮ่า!”

 

และในขณะที่เสียงนั้นกำลังล้อเลียนและหัวเราะเยาะชูฮันอยู่ จู่ๆเสียงของชูฮันก็ดังออกไปก้องกังวานไปทั่วทั้งค่ายซางจิงผ่านลำโพง “ผมชูฮัน สาบานกับตราพลเอกของจีน—–“