ตอนที่ 354 เขาหมั้นคืนนี้ (3) / ตอนที่ 355 เขาหมั้นคืนนี้ (4)

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ตอนที่ 354 เขาหมั้นคืนนี้ (3)

 

 

ฉีเหยียนซีร้องคำราม เซิ่งอี่เจ๋อที่ปรากฏกะทันหันก็ยกแก้วขึ้นจิบด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “อืม รสชาติไม่เลว”

 

 

หลังจากที่ดื่มเสร็จแล้ว เขาก็ถามฉีเหยียนซีอย่างนิ่งๆ “ฉันดื่มไปแล้ว ถ้านายดื่มอีก นั่นก็หมายความว่าอยากจูบกับฉันทางอ้อม”

 

 

ฉีเหยียนซีตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด “ฉันไม่ถือ!”

 

 

นั่นเป็นกาแฟที่ยัยตัวเล็กซย่าซย่าทำเองกับมือ แถมยังวาดรูปหัวใจสวยๆ อีกต่างหาก! เขายังไม่ได้ดื่มสักคำก็ถูกแย่งไปเสียแล้ว

 

 

บ้าจริงๆ เลย!

 

 

“นายไม่ถือแต่ฉันถือ” เซิ่งอี่เจ๋อยักไหล่ “ฉันไม่ใช่เกย์”

 

 

อันซย่าซย่าเฝ้าดูสถานการณ์ คนโมโหง่ายอย่างฉีเหยียนซีโดนเซิ่งอี่เจ๋อกระตุกขนเข้าแล้ว

 

 

“นี่แน่ะ!” เขาชูนิ้วกลางไปทางเซิ่งอี่เจ๋อด้วยสีหน้าเหยียดหยาม แต่กลับไร้ผล

 

 

พรืด—-

 

 

อันซย่าซย่าอดขำออกมาไม่ได้ เธอคิดว่าการปะทะกันของพวกเขานั้นน่าเอ็นดูจริงๆ

 

 

“งั้นฉันจะทำให้นายใหม่อีกแก้วแล้วกัน…”

 

 

“ดีเลย!”

 

 

“ไม่ได้!”

 

 

ทันทีที่อันซย่าซย่าเอ่ยปากก็ได้รับความเห็นที่ไม่ตรงกัน

 

 

ฉีเหยียนซีข่วนกำแพงอย่างหดหู่ ป่าป๊าอันจึงยกชานมมาให้ “ไม่ต้องเสียใจ ดื่มนี่สิ ดื่มกาแฟมากๆ จะทำให้นอนไม่หลับ”

 

 

ฉีเหยียนซีนิ่งไปสักพัก เขารับมันมาด้วยความประหลาดใจแกมดีใจและดื่มชานมอย่างเชื่อฟัง

 

 

อันซย่าซย่าแปลกใจมาก ฉีเหยียนซีเป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียวคนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงเชื่อฟังคำพูดของพ่อเธอเป็นพิเศษ

 

 

เมื่ออยู่ต่อหน้าป่าป๊าอัน ปีศาจที่ดุร้ายป่าเถื่อนก็กลายเป็นเทวดาตัวน้อยที่น่ารักน่าชัง อันซย่าซย่าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะเป็นคนคนเดียวกัน!

 

 

“หืม…เซิ่งอี่เจ๋อ นายมาที่นี่ทำไม?” อันซย่าซย่าถาม

 

 

ใครบางคนที่กำลังนั่งจิบกาแฟสบายใจเฉิบตอบอย่างเฉื่อยชาว่า “มาทำงานไงล่ะ”

 

 

ฮะ? อันซย่าซย่างุงงง

 

 

ป่าป๊าอันที่รู้อยู่แล้วจึงอธิบายอยู่อีกด้าน “ก็ช่วงนี้ร้านเรายุ่งมากไง อี่เจ๋อบอกว่าอยากมาทำงาน ฉันก็เลยตกลง…”

 

 

“ไม่ใช่อย่างนั้น พ่อคะ! เขาเป็นดารา จะมาทำงานแบบนี้กับเราได้ยังไงล่ะ!” อันซย่าซย่าร้อนใจ

 

 

“ทำไมจะทำไม่ได้?” เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มมุมปากด้วยความมั่นใจ เขาถือถาดขึ้นมาเสิร์ฟกาแฟให้ลูกค้า

 

 

บังเอิญโต๊ะนั้นเป็นเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่งที่จำเซิ่งอี่เจ๋อได้ เธอร้องอุทานด้วยความตื่นเต้น “คุณคือซ่งอี่เจ๋อใช่ไหม? กรี๊ดดดด!”

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มแหยราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขากะพริบตา “ใช่แล้วครับ”

 

 

หน้าตาเขาดูซื่อบื้อมาก ทำให้หัวใจของสาวน้อยอย่างอันซย่าซย่าเต้นกระหน่ำ แต่หญิงสาวคนนั้นกลับแสดงรอยยิ้มผิดหวัง “อ้อ ฉันเข้าใจแล้ว คุณดูเหมือนเขามากจริงๆ”

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อพยักหน้าพลางยกถาดกลับมาและส่งยิ้มให้อันซย่าซย่าอย่างอ่อนโยน “ทำไมล่ะ?”

 

 

อันซย่าซย่าเริ่มคิดได้ว่าแท้ที่จริงแล้วเซิ่งอี่เจ๋อมีภาพลักษณ์เงียบขรึมและเย็นชาเมื่ออยู่ต่อหน้าสาธารณะชน พอเขายิ้มออกมาแบบนั้นแล้วบวกกับยอมรับทันทีว่าตัวเองคือเซิ่งอี่เจ๋อ คนจะเชื่อได้อย่างไร!

 

 

เทพบุตรคนนี้มีฝีมือการแสดงที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ขอชื่นชม!

 

 

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเซิ่งอี่เจ๋อก็กลายเป็นพนักงานเสิร์ฟร้านกาแฟบ้านอัน

 

 

เมื่อมีสองหนุ่มหล่อมาร่วมด้วย กิจการในช่วงปิดเทอมฤดูหนาวก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เด็กสาวและคุณป้าวัยกลางคนมาที่นี่กันหลายคนเพื่อชื่มชม อันซย่าซย่าอดทอดถอนใจไม่ได้

 

 

โลกนี้มองกันที่หน้าตาสินะ

 

 

 

 

วันนี้อันซย่าซย่าเดินงัวเงียในชุดนอนกระต่ายและสวมรองเท้าสลิปเปอร์ออกมาจากห้องนอน แต่เธอกลับถูกใครบางคนดึงหมวกหูกระต่ายเอาไว้ “ว้าว ยัยตัวเล็กซย่าซย่า แอ๊บแบ๊วแบบนี้ผิดกฏหมายนะ!”

 

 

อันซย่าซย่าปัดมือเขาออกอย่างอารมณ์เสีย “ฉีเหยียนซี นายขึ้นมาข้างบนทำไม?”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 355 เขาหมั้นคืนนี้ (4)

 

 

ฉีเหยียนซี “ฉันกับเจ้าเซิ่งอี่เจ๋อปัญญาอ่อนนั่นเพิ่งมาถึง แต่คุณอาบอกว่าวันนี้มีธุระ ร้านหยุดหนึ่งวัน ฉันก็เลยขึ้นมาดูข้างบน”

 

 

มือใหญ่ของเขารั้งหูกระต่ายของอันซย่าซย่าอย่างอดใจไม่ไหว

 

 

ให้ตายเถอะ ยัยนี่น่ารักขนาดนี้ได้ยังไง!

 

 

อยากกดเธอไว้ใต้ล่างแล้วกัดสักคำจริงๆ เลย…

 

 

ดูเหมือนว่าอันซย่าซย่าจะรู้สึกได้ถึงแววตาอันร้อนแรงของเขา จึงปัดมือเขาออกอีกครั้ง

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อเดินขึ้นมาพร้อมกับถืออาหารเสริมที่ซื้อมาให้อันอี้เป่ย

 

 

เมื่อเห็นว่าเขาขึ้นมา ฉีเหยียนซีก็หันไปกลอกตาใส่เขา “อ้าว ไอ้ปัญญาอ่อนเซิ่งมาแล้ว”

 

 

“ไอ้ปัญญาอ่อน…ว่าใคร?” เซิ่งอี่เจ๋อถามกลับอย่างเฉยเมย

 

 

“ว่านายไงไอ้ปัญญาอ่อน!” ฉีเหยียนซีตะโกนออกไปเต็มปากโดยเพิ่งจะรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

 

 

ไอ้บ้าเอ๊ย! แค่กับดักง่ายๆ เขาติดกับไปได้ยังไง!

 

 

พรืด—

 

 

อันซย่าซย่าหัวเราะเสียงดัง “ฉีเหยียนซีนายนี่โง่จังเลย!”

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อส่ายหน้าพลางถอนหายใจ “ฉันรู้ว่าสมองนายมีปัญหา แต่ไม่ต้องพูดออกมาเองก็ได้ ซย่าซย่า วันหลังเราต้องดีกับเขาเสียหน่อยแล้ว มันเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องดูแลวัยรุ่นพิการทางสมอง”

 

 

ฉีเหยียนซีโมโหจะเป็นจะตาย เขาวางตูดนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นและออกคำสั่งเหมือนคุณปู่แก่ๆ คนหนึ่ง “นี่ ยัยตัวเล็กซย่าซย่า ไปรินน้ำมาให้ฉันแก้วนึงซิ”

 

 

ก่อนที่อันซย่าซย่าจะพูดก็ได้ยินเสียงเย็นชาดังเข้ามา “เหอะ…นายเรียกใครนะ?”

 

 

ฉีเหยียนซีรูดตัวลงจากโซฟา ใครก็อย่าได้มาแหย่คนคลั่งน้องสาวคนนี้ได้!

 

 

“พี่อัน นั่งๆๆ!” ฉีเหยียนซีพูดอย่างเกรงใจ

 

 

อันอี้เป่ยชำเลืองมองเขาอย่างเมินเฉยแล้วหันกลับไปมองอันซย่าซย่า สายตาอ่อนโยนกว่าเมื่อกี้นี้มาก

 

 

“ทุกคนว่างอยู่พอดี มาตีเซิร์ฟด้วยกันหน่อยสิ”

 

 

ทั้งสามไม่แสดงท่าทีคัดค้านใดๆ แต่ละคนย้ายโต๊ะคอมพ์ในบ้านออกมาเชื่อมต่อกันเป็นแถวเดียวและเข้าระบบเกมเฟิงอวิ๋นพร้อมๆ กัน

 

 

เมื่อเข้ามาในเซิร์ฟเกม อันซย่าซย่าเล่นเป็นแม่นม ส่วนอีกสามคนก็กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด มีเพียงไม่กี่คนที่มีสกิลระดับเทพ ใช้เวลาไม่นานเซิร์ฟก็ถูกกวาดล้างจนหมด

 

 

หลังจากเล่นมาเกือบทั้งวันก็ถึงเวลาอาหาร

 

 

อันซย่าซย่าอาสา “ฉันทำกับข้าวเอง!”

 

 

อันอี้เป่ยมองเธอด้วยความประหลาดใจ แต่เพราะเขายังป่วยอยู่จึงไม่ได้แย่งเธอทำ

 

 

ส่วนเซิ่งอี่เจ๋อกับฉีเหยียนซีต่างมีความคิดไปในทิศทางเดียวกันคือ…อยากกินอาหารที่อันซย่าซย่าทำเองกับมือ

 

 

อันซย่าซย่าเข้าไปในห้องครัวที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ โดยที่ทั้งสามคนเปิดทีวีดูการแข่งขันฟุตบอลอยู่ในห้องนั่งเล่น

 

 

ปังปังปัง

 

 

ฉีเหยียนซี “….นี่มันเสียงอะไร?”

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อ “ลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีเลยแฮะ…”

 

 

อันอี้เป่ย “นิ่งไว้ พวกเราต้องเชื่อในตัวซย่าซย่า…โว้ว ลูกสวย!”

 

 

ทั้งสามคนพยายามบังคับตัวเองให้หันมาสนใจการแข่งขันฟุตบอล แต่เสียงความเคลื่อนไหวที่อยู่ในครัวทำให้พวกเขามีความคิดเพียงหนึ่งเดียวจากส่วนลึกของหัวใจ…

 

 

นี่ซย่าซย่าทำกับข้าวหรือระเบิดห้องครัวกันแน่…

 

 

หลังจากดูการแข่งขันฟุตบอลจบด้วยหัวใจที่อกสั่นขวัญแขวน อันซย่าซย่าก็ทำกับข้าวเสร็จพอดี เธอยกกับสี่แกงหนึ่งออกมา

 

 

ชายร่างใหญ่สามคนเข้ามาล้อมรอบ

 

 

จากนั้น…

 

 

เงียบ…

 

 

เงียบ….

 

 

เงียบปางตาย…

 

 

ดูจากรูปลักษณ์ภายนอก…สภาพมันแย่มาก

 

 

นี่คงไม่ใช่อาหารมืดในตำนานหรอกนะ?

 

 

“ฉีเหยียนซี มาๆ นายทานเยอะๆ หน่อย”

 

 

“ใช่ๆ นายชิมก่อน”

 

 

คนเจ้าเล่ห์ทั้งสองโยนภาระให้ฉีเหยียนซี

 

 

ฉีเหยียนซีตบโต๊ะ “พวกนายคิดจะให้ฉันเป็นหนูทดลองหรือไง!”

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อกับอันอี้เป่ยส่งสายตาให้เขาราวกับพูดว่า “ไม่ต้องพูดก็เข้าใจได้”

 

 

“เฮ้! พวกนายช่วยเคารพผลงานที่ฉันอุตส่าห์ทำหน่อยได้ไหม กินด้วยกันนี่แหละ!” อันซย่าซย่าเท้าสะเอวสั่ง