ตอนที่ 261 ข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพ

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

หีบนี้เป็นหีบที่ดูเก่าและมีขนาดไม่ใหญ่มาก บรรยากาศและกลิ่นอายที่ฉินอวี้โม่สัมผัสได้เปี่ยมไปด้วยความลึกลับโบราณ

“คุณชาย ของสิ่งนี้โรงประมูลของเราได้รับมาโดยบังเอิญ มันเป็นสิ่งที่ล้ำค่าเกินจะประเมินได้ ท่านลองเปิดดูก่อนก็ได้ บางทีท่านอาจจะสนใจ”

เถ้าแก่ของโรงประมูลกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขามั่นใจเต็มเปี่ยมว่าฉินอวี้โม่ต้องถูกใจของชิ้นนี้แน่

ฉินอวี้โม่ในคราบคุณชายพยักหน้าก่อนจะเปิดหีบอย่างช้า ๆ

เมื่อหีบไม้โบราณถูกเปิดออก สิ่งที่อยู่ด้านในก็เผยออกมาให้เห็น

มันเป็นเพียงม้วนกระดาษที่ทำจากวัสดุที่ดูแปลกตา ถูกมัดด้วยเชือกเล็ก ๆ ให้ความรู้สึกลึกลับและกระตุ้นความอยากรู้ของมนุษย์

หลังจากแก้เชือกและคลี่แผ่นกระดาษออกดู ฉินอวี้โม่ก็เห็นตัวอักษรขนาดใหญ่สี่ถึงห้าตัวที่กำลังสะกดสายตาและดึงดูดความสนใจของนาง

“ข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพ!”

ความหมายของตัวอักษรนั้นทำให้ฉินอวี้โม่เบิกตากว้าง หัวใจของนางเต้นรัวขึ้น หากไม่มีหน้ากากปกปิดเอาไว้ คนอื่นคงเห็นใบหน้าที่ตื่นเต้นถึงขีดสุดของนางไปแล้ว

ในฐานะที่เป็นผู้ศึกษาวิชาข่ายอาคมมือใหม่ ฉินอวี้โม่ไม่สามารถทำความเข้าใจกับข่ายอาคมที่ซับซ้อนได้ แต่กระนั้นนางก็พอจะมีความรู้ในด้านนี้อยู่บ้าง

ข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพเป็นข่ายอาคมที่ปรากฏอยู่ในตำราที่ผู้อาวุโสลึกลับแห่งโรงเรียนราชสำนักเคยมอบให้นางศึกษา มันเป็นข่ายอาคมระดับสูงสุดที่มีพลังทำลายล้างเหนือจินตนาการ การเตรียมการเพื่อใช้ข่ายอาคมนี้มีความซับซ้อนและยุ่งยากมาก

ยิ่งกว่านั้น การจะทำความเข้าใจและใช้ข่ายอาคมนี้ ผู้ใช้จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับปรมาจารย์เท่านั้น

ด้วยระดับความรู้ความเข้าใจของฉินอวี้โม่ในตอนนี้ยังถือว่าห่างไกลจากจุดนั้นมาก

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ไม่อาจจะลดทอนความน่าสนใจและความล้ำค่าของอาคมเก้ามังกรทลายพิภพได้เลย เพราะถ้านางฝึกจนถึงขั้นที่สามารถใช้งานมันได้จริง มันจะเป็นไพ่ตายที่มีพลังทำลายล้างรุนแรงที่สุดเท่าที่นางเคยมี

“ฮ่า ๆ ๆ ดูจากท่าทางของคุณชาย ท่านคงพอจะเข้าใจถึงความล้ำค่าของข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพนี้ดี แม้ว่ามันจะเป็นเพียงเศษชิ้นส่วน แต่เรื่องนี้ก็มิอาจลดความล้ำค่าของมันลงได้”

ในฐานะที่เป็นเถ้าแก่แห่งโรงประมูล ตัวเขามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข่ายอาคมเป็นอย่างดี ส่วนความรู้สึกของฉินอวี้โม่หลังจากที่ได้เห็นมันนั้นเขาพอจะสัมผัสได้ เขามั่นใจเต็มร้อยว่าฉินอวี้โม่รู้ถึงคุณค่าของข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพนี้

“เถ้าแก่กล่าวไม่ผิด ของสิ่งนี้ยากจะประเมินค่าได้”

ฉินอวี้โม่กล่าวด้วยรอยยิ้มบาง ๆ

“แต่น่าเสียดายที่ข้ามิใช่ผู้ใช้ข่ายอาคม แม้ว่าข้าจะรู้ถึงคุณค่าของข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพ แต่ก็ไม่มีวิธีที่จะใช้ประโยชน์จากมันได้ ดังนั้นแล้ว สำหรับข้าข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพนี้คงมีค่าเป็นเพียงของสะสมเท่านั้น”

ฉินอวี้โม่ไม่ได้กล่าวตามความจริง เรื่องที่นางมีความรู้เรื่องข่ายอาคมและมีแผนที่จะใช้มันในอนาคต ให้ตายนางก็จะไม่มีวันพูดเด็ดขาด

ที่สำคัญจะให้เถ้าแก่รู้ว่านางสนใจมันมากก็ไม่ได้ เพราะถ้าเขารู้ขึ้นมาก็อาจจะถือโอกาสนั้นขึ้นราคาจนสูงเกินเอื้อมถึง

เศษชิ้นส่วนของตำราข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพถือเป็นสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้ ฉินอวี้โม่ไม่แน่ใจว่าเงินที่นางมีจะพอสำหรับมูลค่าของสมบัติเช่นนี้หรือไม่ ถ้าเถ้าแก่ขึ้นราคาของมันสูงขึ้นไปอีก มันจะไม่เป็นผลดีกับนาง

เมื่อได้ยินคำตอบด้วยท่าทีสงบนิ่งของฉินอวี้โม่ เถ้าแก่ก็ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้

“ฮ่า ๆ ๆ คุณชายเป็นคนที่น่าสนใจจริง ๆ”

เถ้าแก่กล่าวต่อด้วยรอยยิ้ม “คุณชายมั่นใจได้เลย ถึงแม้เราจะทราบว่าท่านเป็นผู้ใช้ข่ายอาคม เราก็จะไม่ขึ้นราคา ข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพเป็นสมบัติที่หายากเกินบรรยาย ฉะนั้นการขายของชิ้นนี้เราจะใช้วิธีการพิเศษ เราจะให้โชคชะตาเป็นตัวตัดสิน”

เมื่อได้ฟังคำพูดของเถ้าแก่ ฉินอวี้โม่ก็พยักหน้าพอใจ โรงประมูลแห่งนี้น่าสนใจทีเดียว นางไม่กล่าวสิ่งใดอีกเพื่อเปิดโอกาสให้เถ้าแก่ได้พูดต่อ

“ข้าจะไม่ขอปิดบังอะไรคุณชาย ข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพนี้ถูกยอดฝีมือผู้หนึ่งทิ้งเอาไว้ การจะนำของสิ่งนี้ไปนั้นไม่ยาก ขอเพียงคุณชายมีโชคชะตาที่เหมาะสมกับมันก็เอาของสิ่งนี้ไปได้เลย”

เถ้าแก่แห่งโรงประมูลบอกเล่าถึงความจริงเท่าที่เขาพอทราบให้ฉินอวี้โม่ฟังโดยไม่ลังเล

“แล้วอย่างไหนถึงเรียกว่ามีโชคชะตาที่เหมาะสมล่ะ ?”

ฉินอวี้โม่กล่าวถามด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงของนางยังคงสงบนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง

“ฮ่า ๆ ๆ ขอเพียงท่านทำการทดสอบง่าย ๆ เราก็จะรู้เองว่าโชคชะตาของท่านจะคู่ควรกับข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพหรือไม่”

เถ้าแก่กล่าวด้วยรอยยิ้มกว้าง

“หึ ๆ ๆ ในเมื่อสมับติล้ำค่าอยู่ตรงหน้าข้าแล้ว คงจะปล่อยผ่านไปเฉย ๆ ไม่ได้ ถ้าท่านไม่รังเกียจ ข้าขอลองดูหน่อยว่าโชคชะตาของข้าจะคู่ควรกับมันหรือไม่”

ฉินอวี้โม่กล่าว ถ้าเถ้าแก่ไม่มีปัญหา นางก็อยากจะขอลองทดสอบดู

“วิธีการทดสอบนั้นง่ายมาก ถ้าท่านไม่มีโชคชะตาที่ต้องกันกับข่ายอาคมนี้ ท่านก็จะไม่เห็นเนื้อหาภายในกระดาษ ขอเพียงคุณชายเห็นเนื้อหาข้างใน จะเป็นส่วนน้อยเพียงใดก็ได้ ทางเราจะนำมันไปเทียบกับข้อความที่เราจดบันทึกเอาไว้ ถ้ามันตรงกัน ท่านก็เอาข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพไปได้เลย”

เถ้าแก่กล่าวถึงวิธีการทดสอบ

ฉินอวี้โม่อึ้งไม่น้อย นางไม่เคยได้ยินว่ามีการทดสอบเช่นนี้มาก่อน มันฟังดูเหมือนกับนิยายที่นางเคยอ่านในชีวิตก่อนไม่มีผิด เรื่องนี้ชักจะน่าสนใจขึ้นมาแล้ว

“คุณชายลองนำมันออกมาดูและกล่าวในสิ่งที่ท่านเห็นออกมา ขอเพียงตรงกับบันทึกของเรา ข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพก็จะเป็นของท่าน”

เมื่อเห็นฉินอวี้โม่ยังคงนิ่งเฉย เถ้าแก่ก็กล่าวขึ้นมาอีกครั้ง เขาเองก็อยากจะเห็นเช่นกันว่าผลจะเป็นอย่างไร

ฉินอวี้โม่ไม่ลังเลอีก นางนำม้วนกระดาษของข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพขึ้นมาดูทันที

เมื่อมองดูครั้งแรก นางก็พบว่ามันเป็นเพียงแผ่นกระดาษสีขาวธรรมดา ๆ นอกเหนือจากชื่อข่ายอาคมที่อยู่ด้านบนแล้วก็ไม่มีตัวอักษรอื่นอีกเลย

เถ้าแก่ยืนดูอย่างใจจดใจจ่อ ขณะที่ฉินอวี้โม่กำลังลองถ่ายเทพลังมายาของนางเข้าไปในแผ่นกระดาษ

ในตอนนั้นเอง แผ่นกระดาษก็มีปฏิกิริยา

มีแสงสว่างปรากฏขึ้นจนทำให้ห้องที่พวกนางนั่งอยู่ในตอนนี้จากเดิมที่เคยมืดสลัวก็สว่างขึ้นในพริบตา

ข่ายอาคมที่อยู่ในมือของฉินอวี้โม่ปลดปล่อยควันกลุ่มหนึ่งออกมา ก่อนที่ควันเหล่านั้นจะลอยเข้าไปในหัวของฉินอวี้โม่ทันทีราวกับจะทะลวงเข้าไปสู่สมองของนาง

แน่นอนว่าเมื่อเถ้าแก่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ร่างของเขาก็แข็งค้าง เขายืนมองฉินอวี้โม่ด้วยตาที่เบิกกว้าง

เจ้าของเดิมของข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพไม่เคยบอกเขาเลยว่าจะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น

เมื่อมีปฏิกิริยาเกิดขึ้น เช่นนั้นก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฉินอวี้โม่ก็คือผู้ที่มีชะตาต้องกันกับข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพ

ทว่าเขาก็รีบสงบอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ก่อน ถ้าจะยืนยันให้แน่ชัดจริง ๆ จะต้องนำข้อความที่ฉินอวี้โม่เห็นไปยืนยันเสียก่อน

“คุณชายรีบบอกมาเถิดว่าเนื้อหาที่ท่านเห็นคืออะไร?”

เถ้าแก่กล่าวถามฉินอวี้โม่ด้วยน้ำเสียงที่แฝงด้วยความกังวลอยู่ส่วนหนึ่ง

ก่อนหน้านี้มีจอมยุทธ์หลายคนมาลองทดสอบโชคชะตาแบบเดียวกันกับนาง แต่ไม่เคยมีผู้ใดเห็นเนื้อหาของมันมาก่อน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ไม่เคยเกิดขึ้น เรื่องนี้จุดประกายความหวังของเถ้าแก่ เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าฉินอวี้โม่จะมีโชคชะตาที่ผูกกับข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพแผ่นนี้

ถ้าฉินอวี้โม่ไม่ยอมตอบ เขากลัวว่านี่อาจจะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เขาต้องพบกับความผิดหวัง

“ข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพแบ่งออกเป็นเก้าขั้น แต่ละขั้นจะเป็นตัวแทนของมังกร ยิ่งทำความเข้าใจกับมังกรได้มากเท่าไหร่ พลังทำลายล้างของข่ายอาคมนี้จะเพิ่มขึ้นตามจำนวนมังกรในแต่ละขั้น โดยทุก ๆ ขั้นจะมีพลังแตกต่างกันหลายเท่า หากทำความเข้าใจได้ทั้งหมดจะทำให้มังกรทั้งเก้าปรากฏ เมื่อนั้นข่ายอาคมนี้ก็จะมีพลังพอจะทำลายล้างพิภพได้ แม้จะเป็นจอมยุทธ์ขอบเขตเซียนนับร้อยคน หากตกไปอยู่ในข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพที่สมบูรณ์ ผลลัพธ์ที่รออยู่ก็จะมีเพียงความตายเท่านั้น…”

เมื่ออ่านถึงตรงนี้ ฉินอวี้โม่ก็นิ่งไป ถ้าหากที่นางอ่านมาเป็นเรื่องจริง ข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพก็มีพลังทำลายที่น่ากลัวเหนือจินตนาการ

เมื่อได้ยินข้อความยาวยืดที่ฉินอวี้โม่อ่าน เถ้าแก่ก็พยักหน้าด้วยความพอใจ แต่ภายในสีหน้าแววตาปรากฏความประหลาดใจให้เห็นอย่างเด่นชัด

“ไม่น่าเชื่อจริง ๆ ข้าขอแสดงความยินดีกับคุณชายด้วย ท่านมีชะตาต้องกันกับข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพนี้ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปมันถือเป็นของของท่านแล้ว”

น้ำเสียงของเถ้าแก่แฝงไปด้วยความพึงพอใจ ดูเหมือนเขาจะมีความสุขมากที่สามารถส่งมอบข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพนี้ให้กับผู้ที่คู่ควร

“เช่นนั้นข้าก็ต้องขอบคุณท่านมาก”

ฉินอวี้โม่กล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้มโดยไม่ถามอะไรอีก นางเชื่อในตัวเถ้าแก่ ตั้งแต่ที่ได้เข้ามาที่นี่และได้สนทนากับเขา นางสัมผัสได้แต่ความจริงใจเท่านั้น

“ยอดฝีมือผู้นั้นกล่าวว่าคนที่มีชะตาต้องกับข่ายอามคมนี้สักวันหนึ่งจะกลายเป็นยอดฝีอมือระดับแนวหน้าของแผ่นดิน หากมีสงครามเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ข่ายอาคมนี้มีพลังพอจะพลิกสถานการณ์ของสงครามได้ ข้าหวังมาตลอดว่าสักวันจะมีคนที่คู่ควรมารับมันไป ในที่สุดข้าก็เติบเต็มความปรารถนาของยอดฝีมือท่านนั้นได้เสียที”

เถ้าแก่จ้องมองฉินอวี้โม่ด้วยแววตาที่เคารพยำเกรงพลางกล่าวถึงข้อความที่ยอดฝีมือผู้นั้นฝากเอาไว้ สิ่งนี้เป็นความปรารถนาของผู้ที่ทิ้งชิ้นส่วนข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพเอาไว้ที่โรงประมูลแห่งนี้

ตอนนี้เมื่อเจอคนที่คู่ควรกับมันแล้ว ก็ถือว่าสิ่งที่ยอดฝีมือลึกลับฝากฝังเอาไว้สำเร็จลุล่วงไปเสียที

ส่วนฉินอวี้โม่ที่อยู่ตรงหน้า ในอนาคตจะต้องกลายเป็นจอมยุทธ์ระดับแนวหน้าของแผ่นดิน ด้วยเหตุนี้ทำให้เถ้าแก่มองนางด้วยแววตาที่เคารพเลื่อมใส

เมื่อได้ยินคำพูดของเถ้าแก่ นางก็พยักหน้าและไม่มีข้อสงสัยใด ๆ อีก

“ชิ้นส่วนของข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพมีอยู่ทั้งหมดสามชิ้น มีแต่ต้องรวบรวมให้ครบทั้งสามชิ้นถึงจะใช้พลังที่แท้จริงของมันได้ ดังนั้นถ้าคุณชายมีโอกาาสก็ขอให้หาชิ้นส่วนที่เหลือให้พบ”

เถ้าแก่มองฉินอวี้โม่พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

ฉินอวี้โม่พยักหน้าเป็นการตอบรับว่านางจะทำให้สำเร็จ

“แล้วท่านพอจะมีข้อมูลของชิ้นส่วนอีกสองชิ้นหรือไม่ ?”

แน่นอนว่าเถ้าแก่ของโรงรับประมูลตอบโดยไม่ปิดบัง “หลังจากส่งคนไปรวบรวมข่าวมาหลายปี ในที่สุดข้าก็ได้เบาะแสบางอย่าง ชิ้นส่วนอีกสองชิ้นไม่ได้อยู่ในดินแดนอ้างว้างแห่งนี้ ยิ่งกว่านั้นมันยังอยู่ในมือของผู้อื่น ถ้าคุณชายอยากจะได้มันมาครอบครอง เห็นทีว่าคงไม่ใช่เรื่องง่าย”

“มันอยู่ในดินแดนเทพมายาอย่างนั้นรึ ?”

ฉินอวี้โม่ขมวดคิ้ว ไม่คิดเลยว่าชิ้นส่วนอีกสองชิ้นจะไปอยู่ในดินแดนเทพมายา

“ใช่ มันอยู่ในดินแดนเทพมายาไม่ผิดแน่ ส่วนคนที่ครอบครองมันอยู่ก็ไม่ใช่คนธรรมดา แม้แต่ขุมกำลังใหญ่ของดินแดนเรายังไม่สามารถสืบข่าวเกี่ยวกับคนเหล่านั้นได้”

เถ้าแก่พยักหน้า ดูเหมือนว่าเขาจะกังวลเกี่ยวกับเรื่องของชิ้นส่วนข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพอีกสองชิ้นไม่น้อย

เรื่องนี้ฉินอวี้โม่เข้าใจดี ผู้ที่จะครอบครองสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ได้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาอยู่แล้ว ที่สำคัญหากคนเหล่านั้นนำมันไปศึกษาก็จะยิ่งทำให้พวกเขาครอบครองพลังทำลายล้างที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก

.