ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 1408-ความโกรธเกรี้ยวของชิงซา(2)

 

ในตอนนี้ชายชราทั้งสามมองไปที่ชิงสุ่ยด้วยสายตาโศกเศร้า

 

“การมีอยู่ของพวกเจ้าทั้งสามในทวีปแห่งนี้ เป็นสิ่งที่ข้าคาดไม่ถึงจริงๆ น่าเสียดายที่วันน้ำวกเจ้าทั้งหมดต้องตายเพราะผลพวงจากคนรุ่นหลัง”ชิงสุ่ยกล่าวออกมา

 

“ข้าไม่เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น หากให้มองดูคนในตระกุลของข้าต้องตาย ข้ายอมสู้ตายเสียดีกว่า”ชายชรากล่าวออกมาอย่างหมดใจ

 

“พวกนางทั้งสองเป็นบุตรสาวของตระกูลจันทราวารีสินะ พวกเขาช่างโชคดีจริงๆที่มีคนที่มีความสามารถเช่นนี้มาเกิดในตระกูล”ชายชราอีกคนกล่าวขึ้น

 

“ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยนั้นยอมส่งผลเสียที่ใหญ่หลวง”ชิงสุ่ยกล่าว

 

“ถูกต้องแล้ว โลกใบนี้นั้นไม่มีอะไรที่สามารถเชื่อถือได้ ไม่ว่าพี่น้อง ญาติมิตร พวกเขาอาจยอมแลกทุกๆสิ่งที่พวกเขามีเพื่อผลประโยชน์ที่พวกเขาต้องการ เป็นพวกเราผิดเองที่ไม่สั่งสอนคนของเราให้ดี”ชายชราอีกคนกล่าวออกมา

 

ในตอนนี้ชิงุ่สยสามารถเข้าใจจิตใจของพวกเขาได้ ในตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าตระกูลของพวกเขานั้นต้องจบลงอย่าแน่นอน พวกเขาทำได้แค่นึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต หากในวันนั้นพวกเขานั้นหนักแน่เพียงพอ เรื่องราวเช่นนี้คงไม่เกิดขึ้น

 

“วันนี้เรื่องราวความแค้นทั้งหมดของพวกเราจะจบลงที่นี่”ชิงซากล่าวออกมาด้วยสายตาอาฆาต

 

“แต่พวกเจ้าก็อย่างได้มั่นใจมากไป พวกเรานั้นไม่ยอมนิ่งเฉย รอให้พวกเจ้าสังหารอย่างแน่นอน วันนี้ข้าจะให้พวกเจ้าได้เห็นความลับของตระกูลของเรา”ชายชรามองไปที่ชิงสุ่ย

 

ชิงสุ่ยมองไปที่พวกเขาด้วยความแปลกใจ ทำไมพวกเขาถึงกล้ากล่าวเช่นนี้ออกมา แต่อย่างไรเขาก็ไม่สนใจมันมากนัก

 

“เข้ามาเถอะข้าไม่มีเวลามากนัก พวกเจ้าจะฆ่าตัวตายเองรึ ให้ข้าลงมือเองกันละ?”ชิงสุ่ยกล่าวออกมา พร้อมมองไปที่ทั้งสาม

 

“พี่ใหญ่ พวกเราคงหนีจากเขาไม่พ้นแน่นอน งั้นข้าขอสู้ตาย”ชายชราคนหนึ่งกล่าวออกมา ขณะมองไปที่ผู้นำของพวกเขา

 

“เห้อ เจ้าหนุ่มลองรับทักษะของพวกเราทั้งสามดูหน่อยเป็นยังไง!”ชายที่ดูเป็นผู้นำกล่าวออกมา

 

ในตอนนี้พวกเขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าชิงสุ่ยได้เรียกหุบเขาเก้าเทวาออกมาแล้ว

 

เรือนจำปฐพี!

 

ท่าทางของพวกเขาเปลี่ยนไป แทนที่จะจู่โจมเข้าใส่ชิงสุ่ยพวกเขากับเล็งไปที่ชิงซาแทนในตอนนี้

 

“วอนหาที่ตายซะแล้ว”

 

ชิงสุ่ยไม่คิดว่าทั้งสามจะเล็งไปที่ชิงซาในก่อนหน้านี้ มันไม่มีทางเลือกที่จะสังหารพวกเขาในพริบตา

 

ด้วยความแข็งแกร่งของชิงสุ่ย  เขาสามารถสังหารทั้งสามได้ง่ายเพียงแค่ฝ่ามือเดียว ถึงทั้งสามจะรู้ว่าชิงสุ่ยนั้นแข็งแกร่งแต่พวกเขาก็ไม่เคยคิดว่ามันจะถึงระดับนี้  ร่างกายของชายชราทั้งสามลอยไปข้างหลังอย่างรวดเร็วในตอนนี้ถึงพวกเขาจะยังไม่ตายแต่พวกเขาคงอยู่ได้อีกไม่นานเท่านั้น อวัยวะ เส้นลมปราณของพวกเขานั้นถูกทำลายจนหมดสิ้นแล้วในตอนนี้

 

สุดท้ายวันนี้คือวันสุดท้ายของตระกูลหมาป่าวารี

 

เมื่อเห็นทุกอย่างจบลง สาวน้อยอาบไปด้วยเลือดได้เดินเข้าไปใกล้ชิงซาและร้องไห้ออกมา

 

“น้องเล็ก”

 

“พี่ใหญ่วันนี้ข้าได้ล้างแค้นให้ครอบครัวของเราแล้ว!”ชิงซากอดไปพี่สาวของเธอในตอนนี้ ทั้งคู่ต่างกอดกันและกันแล้วร้องไห้ออกมา

 

…..

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยไม่ได้ใส่จักรวรรดิมังกรสมุทรแต่อย่างใด  เขารู้ดีเมื่อตระกูลหนึ่งถูกทำลายอีกตระกูลหนึ่งก็จะขึ้นมาแทนที ดังนั้นชิงสุ่ยจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับมัน

 

ตอนนี้ทั้งหมดได้ออกเดินทางกลับไปยังสำหนักสวรรค์เร้นลับ ในวันแรกระหว่างเดินทางชิงสุ่ยได้ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้กับพี่สาวของชิงซา  ในตอนนี้ถึงเธอจะยังไม่หายดีแต่อาการทั้งหมดของเธอนั้นก็เป็นปกติเกินกว่าครึ่งเลยทีเดียว มันจึงสร้างความประหลาดใจให้กับเธอย่างมาก

 

โดยเวลาส่วนมากหลังจากการรักษาชิงซาจะใช้เวลาที่เหลือในการพูดคุยกับพี่สาวของเธอ

 

ส่วนชิงสุ่ยนั้นจะเลี่ยงข้าไปในดินแดนหยก

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยนั้นยังไม่สามารถศึกษารูปแบบวิหคเพลิงต่อไปได้ แต่ถึงอย่างไรเขานั้นก็ยังดีใจที่เขาได้รับกรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาตมา ด้วยพลังของมันในตอนนี้มากพอที่จะทำลายสวรรค์ในพริบตา

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยรู้สึกมีความสุขอย่างมากเขานั้นสามารถช่วยแก้ปัญหาที่ติดอยู่ในใจของชิงซาได้ในเวลานี้มันทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก นอกจากนี้เขาหวังว่าหลังจากนี่ไปเธอจะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ดังคนทั่วๆไป

 

…….

 

“ขอบคุณที่ช่วยดูแลน้องสาวของข้าเป็นอย่างดีตลอดสอง สามปีที่ผ่านมา” เธอกล่าวออกมา

 

ในวันที่สองพี่สาวของชิงซาได้ออกมาและกล่าวขอบคุณกับชิงสุ่ย

 

“ไม่ต้องคิดมาก ยังไงซะนางนั้นก็เป็นลูกบุตรธรรมของข้า มีหรือที่ข้าจะไม่ช่วยเหลือนาง นอกจากนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องมากพิธีกับข้าหรอก”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

“แล้วตกลงว่าท่านพ่อสามารถรักษาแผลเป็นองพี่ใหญ่ได้รึไม่?”ชิงซากล่าวขึ้นมาขัดจังหวะ

 

“ข้าต้องลองดูก่อน”ชิงสุ่ยกล่าวออกมา ก่อนที่จะหยิบน้ำหอมมรกตทองคำออกมา

 

เขาส่งมันให้เธอในทันที เช่นเดียวกับหญิงสาวเธอไม่รอช้าก่อนที่จะรีบใช้มันในตอนนี้

 

ในตอนแรกสภาพของเธอนั้นไม่สู่ดีนักเนื่องจากอาการบาดเจ็บแต่ถึงอย่างไรชิงสุ่ยก็สามารถบอกได้ว่าเธอนั้นก็เป็นสาวงามคนหนึ่ง เธอนั้นมีรูปร่างให้หน้าที่คล้ายกับชิงซาอย่างมาก แต่ที่ต่างออกไปคือแผลเป็นสองแผลที่อยู่บนแก้มของเธอในตอนนี้

 

อย่างไรก็ตามหลังจากได้ดื่มน้ำหอมมรกตทองคำออกมาลงไปใบหน้าของเธอนั้นก็ค่อยๆดีขึ้น เพียงแค่สองสามวันมันก็จะหายดี

 

เดิมทีเธอนั้นไม่คิดว่ามันจะสามารถหายขาดได้ เธอได้แค่หวังว่ามันนั้นจะไม่ดูน่าเกลียดจนเกินไปเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้มันกลับเกินกว่าที่เธอคิดอย่างมาก แผลเป็นของเธอนั้นหายไปจนหมด เผยให้เห็นความงามที่แท้จริงของเธออกมา

 

เธอนั้นแก่กว่าชิงซาประมาณ3เท่า อาการได้ว่าเธอนั้นมีอายุที่ใกล้เคียงกับชิงสุ่ยในเวลานี้ แต่ถึงอย่างไรเธอนั้นก็รู้สึกว่าชิงสุ่ยนั้นดูเด็กกว่าเธอมากนัก อาจเพราะเขานั้นมีหน้าตาที่หล่อเหล่าก็ได้

 

ตอนนี้เธอรู้สึกขอบคุณเขาอย่างมากและรู้สึกว่าเขานั้นเป็นคนที่เชื่อถือได้ อาจเพราะเขานั้นช่วยเหลือเธอในการแก้แค้น และยังช่วยรักษาเธอ ในตอนนี้หากชิงสุ่ยต้องการอะไรเธอนั้นก็พร้อมยินดีให้เขา

 

“จะว่ายังไงบ้างหากข้าจะส่งเจ้าไปอยู่ที่สำนักสวรรค์เร้นลับ ที่แห่งนั้นสามารถช่วยให้ที่พักและยังเป็นบ้านหลังใหม่ให้เจ้าได้ ”ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าว

 

“ได้!”เธอกล่าวออกมาโดยไม่ลังเล

 

เธอนั้นไม่มีปัญหาใดๆในตอนนี้หากได้อยู่ร่วมกับน้องสาวของเธอ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนเธอนั้นก็พร้อมจะไป

 

หลังจากที่มาถึงชิงสุ่ยนั้นพักอยู่ที่นั้นไม่นานนักก่อนที่จะกลับไปยังทวีปวิหคเพลิงร่ายระบำ

 

ในตอนแรกเมื่อเขารู้ว่าศัตรูของชิงซานั้นอยู่ที่ทวีปอู่เซีย ชิงสุ่ยนั้นรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย นั้นเพราะมันนั้นยังไม่เกินความสามารถของเขาที่จะช่วยเหลือเธอ แต่ถึงอย่างไรชิงสุ่ยนั้นก็แทบจะไม่ได้ทำอะไร ในตอนสุดท้ายถ้าหากเขาปล่อยชิงซาจัดการปัญหาเอง ก็ได้ แต่ด้วยสัญชาตญาณของคนเป็นพ่อ เขาจึงเลือกลงมือเสียเอง

 

หลังจากที่มาถึงหอคอยจักรพรรดิ เขาใช้เวลาเพียงแค่เล็กน้อยเพื่อพักอยู่ที่นี่ นั้นเพราะเขายังคงต้องการออกไปสำรวจทวีปแห่งนี้ เพื่อเพิ่มพูนความสามารถและเพิ่มพูนข้อมูลให้กับตัวเอง ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะออกเดินทางอีกครั้ง

 

ในตอนนี้ที่ๆเขาสนใจจะไปอย่างมาก็คือ พระราชวังจอมอสูร!

 

ในตอนแรกชิงสุ่ยรู้สึกอับอายอย่างมากในความอ่อนแอของตัวเอง จึงไม่ได้ไปหาเธอ ดังนั้นเขาจึงพยายามฝึกฝนอย่างหนักเพื่อสักวันหนึ่งเขาจะสามารถไปหาเธอได้

 

เขานั้นไม่สนใจว่าเธอนั้นจะเป็นคนยังไง แม้มีข่าวลิว่าเธอนั้นเป็นคนของ4พญามาร แต่นี่ไม่ใช่สิ่งสำคัญ เขานั้นเพียงแค่เชื่อในตัวของเธอเท่านั้น แม้ว่าเขาจะต้องเป็นศัตรูกับคนอื่นๆเขาก็ยินที่จะทำมันเพื่อได้อยู่ข้างๆเธอ ยิ่งไปกว่านั้นชิงสุ่ยรู้สึกได้ว่าเธอนั้นไม่ใช่คนเช่นเดียวกับข่าวลือที่เขาได้ยินมาอีกด้วย

 

ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าตอนนี้เขานั้นคิดอย่างไรกับเธอ แต่ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้เธอนั้นคือผู้หญิงของเขาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเขาจะพยายามให้ถึงที่สุดเพื่อดูและเธอ และพยายามอย่างที่สุดเพื่อให้เขาสามารถยืนอยู่เคียงข้างเธอได้

 

รอยแยกระหว่างสามทวีป!

 

เขาได้เดินทางออกมาจากทวีปวิหคเพลิงร่ายระบำ และเข้าสู้ดินแดนรกร้างอันกว้างใหญ่  ดังความอันตรายและกันดารจึงทำให้มีคนน้อยมากที่อาศัยอยู่ในที่แห่งนี้

 

สำหรับพระราชวังจอมอสูรนั้น เขาไม่รู้ว่ามันตั้งอยู่ที่ใดในพื้นที่รกล้างแห่งนี้ แต่ที่เขารู้มันคือนิกายใน 4พญามารที่แข็งแกร่งที่สุด

 

เมื่อเขาเข้ามาในดินแดนรอยแหกแห่งนี้ชิงสุ่ยนั้นสัมผัสได้ถึงพื้นที่แห้งแล้งกันดารที่ไม่มีที่สิ้นสุด แต่อย่างไรก็มีหมู่บ้านเล็กอยู่ตลอดดินแดนแห้งนี้ ถึงจะมันจะเป็นหมู่บ้านเล็กๆจำนวนน้อยนิด แต่เขาก็รู้สึกอุ่นใจที่ได้เห็นผู้คนอาศัยอยู่

 

ในตอนแรกชิงสุ่ยได้ยินมาว่าพระราชวังจอมอสูรนั้นตั้งอยู่บนเทือกเขาโม่หยุน ที่แห่งนั้นเป็นเทือกเขาขนาดใหญ่ที่รวบรวมเอาไว้ซึ่งปราณฟ้าดินเอาไว้ ซึ่งมันนั้นอยู่ในส่วนลึกของรอยแยกแห่งสามทวีปแห่งนี้ทั้งสี่นั้นก็เป็นศัตรูกันเอง เพื่อช่วงชิงเขตแดนที่อุดมสมบูรณ์มากกว่าไปเป็นของตัวเอง

 

ในครึ่งเดือนที่ผ่านมาชิงสุ่ยได้ใช้ย่างก้าวเก้าเทวานับครั้งไม่ถ้วน นอกเหนือจากนั้นเขาได้อาศัยวิหคเพลิงในการเดินทาง ชิงสุ่ยมักจะใช้ย่างก้าวเก้าเทวาก็เมื่อเดินทางผ่านทะเลสาบขนาดใหญ่ หรือไม่ก็เดินทางผ่านพื้นที่เขาคิดว่ามันอันตราย

 

ตึมๆ!

 

เสียงกลองได้ดังสะนั้นขึ้นมาจากบริเวณข้างหน้าของเขามันเป็นเสียงของกลองโบราณที่ใช้กันในยามศึกสงคราม เสียงของมันได้กระตุ้นให้เลือดในร่างกายของเขาเดือดพล่านขึ้นมาในทันที