ตอนที่ 1405 เก็บเกี่ยว

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 1405 เก็บเกี่ยว โดย Ink Stone_Fantasy

สีหน้าการแสดงออกของฉินหยวนหลงผลัดเปลี่ยนแปรผันอยู่หลายครา เขาทราบดีถึงผลที่ตามมาหลังจากนี้ แต่ฉินหนานเทียนจงเกลียดจงชังเย่หยวนถึงขั้วกระดูกดำตั้งแต่ไหนแต่ไร แผนการในคราวนี้เองเขาก็นำจ่ายไปในราคาที่สูงลิบลิ่วเพื่อเตรียมการหลายอย่างจนพร้อมเสร็จสรรพแบบนี้ หากคว้าน้ำเหลวกลับไปมือเปล่าเช่นนี้ ฉินหนานเทียนไม่ปล่อยเขาง่ายๆเป็นแน่

 “หึ! ฉินคนนี้เองก็ไม่ค่อยชอบใจนักไฉนต้องฆ่าเจ้าเด็กนี่? นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าฉินหยวนหลงขอลี้ภัยออกจากเมืองหลวงหวูเมิ่งและตระกูลฉิน จากวันนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับข้าอีกต่อไป! ขอลา!” ทันทีที่กล่าวจบ ฉินหยวนหลงก็หมุนตัวกลับจากไป

ท่าทีการแสดงออกของอัสนีคำรนเปลี่ยนไปในทันใด ใครจะไปคิดว่าฉินหยวนหลงจะเปลี่ยนสีไวขนาดนี้

 “หึ! คิดหนีกระมัง? แต่จะง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร! ในเมื่อเจ้าถอนตัวออกจากตระกูลฉิน ยามนี้เจ้าถือเป็นอาจารย์ของสถานศึกษาหวูเมิ่งเต็มตัว แต่เจ้ากลับซุ่มโจมตีศิษย์ของสถานศึกษาหมายเอาชีวิต! โทษทัณฑ์ประหารสถานเดียว!”

อัสนีคำรนระเบิดพลังเดือดแผดขยายแรงกดดันปกคลุมทั่วบริเวณ ร่างประกายโฉบแล่นแปรเปลี่ยนเป็นสายหนึ่ง ไล่ล่าฉินหยวนหลงประดุจดาวหาง

ฉินหยวนหลงฉายแววตะลึงหนัก คาดไม่ถึงเลยว่า อัสนีคำรนกลับตามตื้อไม่ลดละน่ารำคาญขนาดนี้ เร่งฝีเท้ากระตุกวูบ เงาร่างอันตรธานหายวับทะยานเตลิดหนีไปโดยเร็ว

ทั้งสองเปิดฉากไล่ล่าพัลวันตีฝีเท้าหายลับไปจากสายตาของทุกคน

ณ มุมลับตาผู้คน ฉินเทียนกัดฟันเคี้ยวดังกรอด เห็นภาพฉากเหล่านี้สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวน่ารังเกียจยิ่งล้มเหลวอีกแล้ว!

แผนลอบสังหารเย่หยวนล้มเหลวอีกแล้ว!!

ไอ้เด็กเหลือขอนั้นมันเป็นอมตะหรืออย่างไร? ไฉนตระกูลฉินที่ลงทุนลงแรงถึงขั้นส่งเซียนอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าออกไป แต่สุดท้ายก็ยังฆ่ามันไม่ได้! เห็นได้ชัดแจ้ง อีกฝ่ายเป็นเพียงเด็กน้อยอาณาจักรปฐมพระเจ้าคนหนึ่ง แต่ไยถึงตายยากตาเย็นนักหนา? ไม่เพียงฆ่าไม่ตายเท่านั้น แต่ตระกูลฉินยังสูญเสียทายาทสายเลือดตรงอย่างฉินหยู และอาจารย์สถานศึกษาอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าที่คิดทรยศหนีไปอีก! ราคานำจ่ายในครั้งนี้หนักหนาสาหัสเกินไป!

“พี่ใหญ่ฉินเทียน พวกเรา…พวกเราควรทำอย่างไรต่อไปดี?” ฉินเจิ้งเอ่ยถามด้วยความกังวล

“ถอยไปตั้งหลักก่อน!” ฉินเทียนกัดฟันแน่น นัยน์ตาคู่นั้นเจือสุดอาฆาต

เขาตระหนักดีว่า ระหว่างงานชุมนุมร้อยเมืองต่อจากนี้ พวกเขาไม่มีโอกาสอีกแล้ว แผนการที่เตรียมการมาเป็นอย่างดีกลับไม่ได้อะไรกลับไปเลย!

เย่หยวนลดดาบในมือลงอย่างแช่มช้า แหงนศีรษะมองฟ้าพลางครืนหัวร่อคำโตและเอ่ยเสียงแผ่วเบาว่า

“หนีได้ก็หนีไป ใครหนีไม่ทันมันตาย!”

วูบบบ!

เย่หยวนไม่พูดไม่จาอันใดอีกต่อไป หมุนโคจรพลังปราณเทวะเร็วจี๋ เหวี่ยงดาบกระหน่ำซัดเต็มสูบ พื้นดินแตกระแหงฝูงชนแตกกระจาย

เย่หยวนปลิดชีพผู้คนไปนับหลายสิบภายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว ส่วนที่เหลือต่างกระเจิงหนีเตลิดหายไป แลเห็นผู้คนแตกกลุ่มดั่งฝูงมดแยกย้ายคนละทิศละทาง เย่หยวนก็พลันหยุดมือและเริ่มตามเสาะแหวนเก็บของจำนวนมากที่ร่วงหล่นตามพื้นดินอย่างสบายอารมณ์

ศึกสัประยุทธ์คราวนี้ เขาได้รับผลกำไรเป็นจำนวนมหาศาล มีแหวนเก็บของกว่าห้าร้อยวงที่เย่หยวนตามเก็บได้และสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกโล่งใจที่สุดคือ ฉินหยวนหลงที่แปรพักตร์ถอนตัวออกจากตระกูลฉินไปดื้อๆ ซึ่งนี่ส่งผลให้กำลังรบของตระกูลฉินสูญเสียแม่ทัพไปอีกหนึ่งราย

ที่ผ่านมา ฉินหยวนหลงคนนี้คิดว่าตนเองซ่อนตัวปกปิดร่องรอยได้อย่างแนบเนียน แต่ในความเป็นจริง ทุกการเคลื่อนไหวของเขาล้วนอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังของหวูเฉินโดยตลอด เมื่ออีกฝ่ายเตรียมพร้อมซุ่มโจมตี เย่หยวนเองก็เตรียมขี่ดาบหนีแล้วเช่นกัน ความเร็วของดาบพิชิตมารฟ้าในปัจจุบันเหาะเหินอากาศคล่องแคล่วกว่าก่อนหน้าไม่รู้กี่เท่าทวี และไม่มีทางถูกฉินหยวนหลงลอบโจมตีโดนง่ายๆแน่นอน

ในขณะนั้นเอง จินอวี้เดินกะเผลกมาหาเย่หยวนโดยมีเฉวียนซุยเซิงคอยประคองอยู่

เขาถอดแหวนเก็บของตนเองออกมาและส่งให้เย่หยวน “ข้าแพ้แล้ว นี่เป็นของเจ้า”

เย่หยวนยิ้มและหยิบแหวนวงนั้นมาเก็บเข้าตัว สิ่งนี้เปรียบเสมือนถ้วยรางวัลของเขา ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่รับไว้

“ข้าไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่า เมืองหลวงหวูเมิ่งจะมียอดอัจฉริยะอย่างเจ้าอยู่ด้วย! ข้าพ่ายต่อเจ้าอย่างหมดท่าจริงๆ!” จินอวี้เอ่ยปากกล่าวไปตามตรงจากใจจริง

เย่หยวนยิ้มและกล่าวตอบว่า “ท่านเองก็แข็งแกร่งยิ่งเช่นกัน! แต่ถึงแม้ขอบเขตความเข้าใจของท่านพี่จินจะลึกล้ำ ทว่าระหว่างต่อสู้จริง กลับประยุกต์ใช้ได้ไม่ค่อยหลากหลายเท่าที่ควร เมื่อเวลาผ่านไป ประสบการณ์จักหล่อหลอมให้ท่านกล้าแกร่งขึ้นเอง!”

หากเป็นก่อนหน้า เย่หยวนที่เอ่ยสอนสั่งด้วยวาจาเช่นนี้ต่อหน้าจินอวี้ เขาคงถูกมองว่าสติไม่สมประกอบแน่นอนทว่าในปัจจุบัน ไม่ว่าใครมาได้ยินต่างหาได้รู้สึกผิดประหลาดแม้สักนิด ต่อให้เป็นเฉวียนซุยเซิงก็ตาม ผลลัพธ์ในขณะนี้เป็นที่พิสูจน์แล้วว่า เย่หยวนมีคุณสมบัติมากพอที่จะสอนสั่งจินอวี้ได้!

ศาสตร์แห่งดาบของเย่หยวนอาจเป็นเพียงจุดสูงสุดแห่งชั้นสวรรค์ระดับหนึ่งที่ยังไม่สมบูรณ์นักก็จริง แต่เขาก็สามารถเอาชนะยอดฝีมือสุดแกร่งกล้าได้ด้วยสัญชาตญาณและประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอดทั้งชีวิต และอีกสิ่งหนึ่งที่คาดไม่ได้ก็คือ เต๋าแห่งดาบอันน่าสะพรึงของตัวเย่หยวนเอง! ในแง่มุมนี้ จินอวี้ไม่สามารถทัดเทียมเขาได้เลย

สิ่งที่เย่หยวนเก็บเกี่ยวมาจากสุสานดาบมาได้ มิใช่เพียงความเข้าใจต่อศาสตร์แห่งดาบเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังของดาบแต่ละเล่มอีกด้วย ดาบทุกเล่มภายในสุสานแห่งดาบล้วนมีเรื่องราวความเป็นมาของตัวเอง

ด้วยเหตุนี้ เย่หยวนจึงสามารถหลอมสร้างกระบวนดาบที่ทรงพลังยิ่งเฉกเช่น สยบดาราขึ้นมาได้

สยบดาราเป็นกระบวนดาบที่สามารถเพิ่มพูนพลังทำลายล้างได้ตามความลึกล้ำต่อศาสตร์แห่งดาบ และด้วยประสบการณ์มากมายนับไม่ถ้วนที่เล่าผ่านตัวดาบแต่ละเล่มภายในสุสานดาบ จึงทำให้เย่หยวนสามารถปลดปล่อย อานุภาพเกินจินตนาการขนาดนี้ได้

จินอวี้คลี่ยิ้มกว้างพร้อมประสานมือกล่าวว่า “น้องชาย ขอบคุณที่ชี้แนะ! การต่อสู้ในวันนี้นับเป็นประสบการณ์ที่มีค่าชั่วชีวิต จินอวี้ได้รับประโยชน์มากมายนัก! โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคมดาบกระบวนสุดท้าย สิ่งนี้ย่อมส่งผลสำคัญต่อความสำเร็จในอนาคตของข้า!”

กระบวนดาบสุดท้ายที่เย่หยวนฟาดฟันออกไปทำให้ฟ้าดินตื่นตะลึงอย่างแท้จริง เพราะกระบวนดาบนี้หาใช่แค่แสดงให้เห็นถึงประสบการณ์การต่อสู้อันมากมายของเขาที่ตกผลึกแล้วเท่านั้น แต่มันยังเผยถึงเจตจำนงที่เย่หยวนเลือกยืนหยัดต่อสู้และจิตวิญญาณอันแกร่งกล้านั้น มีไม่มากนักที่ได้รับประโยชน์จากสยบดาราของเย่หยวน สิ่งนี้กลับมีค่ากว่าชัยชนะด้วยซ้ำ! และจินอวี้สามารถกล่าวได้อย่างเต็มปาก ต่อให้มีใครบางคนแกร่งกล้าพอๆกับเย่หยวน แต่อีกฝ่ายก็ไม่มีทางทำแบบนี้ได้เลย! วาจาคำกล่าวของจินอวี้มิใช่คำเยินยอเย่หยวนแต่อย่างใด กระบวนดาบสุดท้ายนั้นได้ล้มล้างความเข้าใจเก่าๆของเขาไปจนหมด

เย่หยวนยิ้มตอบว่า “เจ้าพวกนั้นวิ่งเตลิดหนีไปไหนต่อไหนแล้ว ข้าจำต้องตามล่าคิดบัญชีรายคน คาดการณ์ได้ว่า ในมืออีกฝ่ายน่าจะยังมีแหวนเก็บของอีกหลายวงเก็บซ่อน ข้าจะไปตามเก็บให้ครบ! เช่นนั้นเย่คนนี้ขออำลา!”

จินอวี้และเฉวียนซุยเซิงกล่าวตอบ “อำลา!”

กริ๊ง…

ก่อนลาลับจากไป เย่หยวนโยนแหวนเก็บของนับร้อยวงให้แก่ฉินส่าวและขี่ดาบทะยานฟ้าหายไปโดยตรง

“ขอบพระคุณยิ่งพี่ฉิน!”

เหตุการณ์เมื่อครู่ เขาเองก็สังเกตเห็นสิ่งที่ฉินส่าวทำลงไป แม้สหายคนนี้จะมาจากตระกูลฉิน แต่บุกคลิกนิสัยกลับแตกต่างไปจากคนอื่นในตระกูลฉินโดยสิ้นเชิง ทั้งๆที่ฉินส่าวเคยพ่ายแพ้ให้แก่เขาอย่างหมดท่า แต่ตอนนี้กลับตะโกนเอ่ยเตือนเขากลางสถานการณ์คับขัน นี่หาใช่เรื่องง่ายเลย ดังนั้นแล้ว เขาควรจะแสดงความขอบคุณผ่านแหวนเก็บของเหล่านี้ เย่หยวนไม่เปิดช่องมอบโอกาสให้ฉินส่าวเอ่ยตอบใดๆ ทันทีที่โยนให้เสร็จก็พลันขี่ดาบเหาะทะยานจากไปโดยตรง

ยามเห็นร่างของเย่หยวนหายวับลับเส้นขอบฟ้าไป เฉวียนซุยเซิงก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่และกล่าวว่า

“เจ้าหนุ่มคนนี้ไม่ควรยุ่งย่ามด้วยเด็ดขาด! ใครก็ตามที่แสหาเรื่องเขา เกรงว่าฝันร้ายไม่เว้นวัน!”

จินอวี้ผงกศีรษะคล้ายเห็นด้วยและกล่าวว่า “แยกแยะเจตนาดีชั่วเลือกปฏิบัติต่างกันไป มาด้วยความคับแค้นย่อมได้รับผลกรรมเป็นสิ่งตอบแทน นี่แหละคือเส้นทางที่เขาก้าวเดิน! สำหรับเย่หยวนคนนี้ แค่สถานที่เล็กๆอย่างเมืองหลวงหวูเมิ่ง เกรงว่าจะไม่สามารถรองรับเขาได้อีกนานนัก!”

เฉวียนซุยเซิงตรงมาหาฉินส่าวและเอ่ยขึ้นว่า “น้องชาย ข้าขอโทษ! อย่าได้ตำหนิกัน ที่ก่อนหน้าข้ากล่าววาจาไม่เหมาะสมออกไป!”

ฉินส่าวกล่าวตอบพร้อมรอยยิ้มบางว่า “ไม่เป็นไร หาใช่เรื่องใหญ่สักนิด! กล่าวตามสัตย์จริง ความแข็งแกร่งของชายคนนี้เข้าขั้นวิปลาสเกินไป หากมิได้ประมือแลกกระบวนด้วยตัวเองจะไม่มีทางทราบเลยว่า เขาน่าเหลือเชื่อเพียงใด!” เฉวียนซุยเซิงพยักหน้าเห็นด้วยอย่างลับๆ เฉพาะยามนี้เขารู้ซึ้งถึงความหมายในคำกล่าวของฉินส่าวก่อนหน้าเป็นอย่างดี

งานชุมนุมร้อยเมืองมีระยะเวลาทั้งหมดหนึ่งปี ซึ่งช่วงเวลาที่เหลือต่อจากนี้ ต่างเป็นฝันร้ายที่แท้จริงของศิษย์ชั้นนอกที่เหลือรอดทุกคน ยามเสียงตัวดาบเหินหาวกังวานดังกลางน่านฟ้า ดั่งแววเสียงของปีศาจกระหายโลหิตออกล่า ตลอดช่วงเวลาที่เหลือ เหล่าศิษย์ทุกคนต้องทนอยู่ภายใต้ความหวาดกลัวสุดขั้วหัวใจ

พวกเขาล้วนตระหนักทราบดีเยี่ยม เย่หยวนคนนี้น่ากลัวเพียงใด หลังจากทุกคนวิ่งเตลิดหนีตายได้ในตอนนั้น แต่ละคนต่างแยกย้ายหาที่หลบภัยจนกว่างานชุมนุมร้อยเมืองจะสิ้นสุดลง แม้กระทั่งจะโผล่หัวออกมายังไม่กล้าด้วยซ้ำด้วยเหตุนี้ บริเวณของศิษย์ชั้นนอกในดินแดนลึกลับจึงกลายมาเป็นงานเลี้ยงล่าสังหารสีเลือดไปโดยปริยาย

ในเวลาต่อมา เนื่องจากบางคนไม่สามารถทนต่อแรงกดดันนี้ได้ไหวอีกต่อไป พวกเขาจึงคิดริเริ่มอพยพหนีตายออกจากเขตของศิษย์ชั้นนอกไปยังเขตของศิษย์ชั้นใน อย่างไรก็ตาม เย่หยวนก็ยังขี่ดาบทะยานไล่ล่าพวกเขาตามติด คล้อยหลัง แม้ว่าพวกศิษย์ชั้นในพบเจอเขา แต่พวกนั้นก็ไม่สามารถทำอะไรเย่หยวนได้อยู่ดี แน่นอนว่า ก็ยังมีคนบางกลุ่มโชคดีพบเจอพี่น้องตัวเองพร้อมพาหนีไปได้ก่อน จึงรอดตายจากคมดาบของเย่หยวนไปได้

ในพริบตาเดียวก็จวนจะครบหนึ่งปี งานชุมนุมร้อยเมืองในตอนนี้ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว

………………………………………………….