บทที่ 31 ชั้นเรียนแรกของครูถัง[รีไรท์] EnjoyBook
บทที่ 31 ชั้นเรียนแรกของครูถัง[รีไรท์]
เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดคนงานก็เปลี่ยนประตูเสร็จพอดี โม่หยูถังจ่ายค่าแรงและให้กลับไป
จากนั้นสักพัก ผู้คุ้มกันและบ่าวรับใช้จากตระกูลมี่ก็ถูกส่งมา
บ่าวรับใช้ 2 คนเป็นชาย 1 คนและหญิง 1 คน ลักษณะของชายที่มาเป็นบ่าวรับใช้คนดูเหมือนจะอยู่ในวัยกลางคนและดูเป็นคนซื่อสัตย์ สำหรับผู้หญิงตัวค่อนข้างเล็กและนางน่าจะมีอายุเพียง 14 หรือ 15 ปีเท่านั้น
ผู้คุ้มกันที่เหลืออีก 3 คนเป็นชาย 2 คนและหญิง 1 คน ผู้คุ้มกันหญิงสะพายดาบขนาดใหญ่ซึ่งดูหนักมาก กลิ่นอายของนางบ่งบอกว่านางเป็นปรมาจารย์ด้านดาบ สำหรับผู้คุ้มกันอีกสอง หนึ่งในนั้นดูเหมือนจะทรงพลังยิ่งกว่าในขณะที่อีกคนหนึ่งนั้นดูเจ้าเล่ห์
พวกเขาทั้งห้าเมื่อเห็นหลิงตู้ฉิงพวกเขาทั้งหมดก้มศีรษะลงและเรียกเขาว่าปรมาจารย์หลิง
หลิงตู้ฉิงเหลือบมองพวกเขาและพยักหน้าแล้วพูดกับโม่หยูถังและถังชี่หยุน
“มี่ตั้วตั้วช่างเป็นคนที่น่าสนใจจริง ๆ!”
โม่หยูถังหัวเราะและพูดว่า “สายตาของเขาไม่เลวเลย!”
“เขาเป็นคนที่ละเอียดพิถีพิถันมาก!” ถังชี่หยุนชื่นชม
ผู้คุ้มกันไม่ได้พูดอะไรเลยในขณะที่พวกเขากำลังรอคำสั่งจากหลิงตู้ฉิงเงียบ ๆ
“ไช่หยุนวันนี้นอนกับพ่อ ให้สองคนนี้นอนห้องเจ้าไปก่อน ว่านจุนและยี่เทียนวันนี้พวกเจ้านอนด้วยกัน แล้วให้อีกสองคนนอนห้องของพวกเจ้าไปห้องหนึ่ง วันพรุ่งนี้พ่อค่อยให้พวกเขาไปหาห้องนอนของพวกเขาเอง”
ทุกคนได้รับการจัดสรรที่พักเรียบร้อย เว้นก็ชายร่างผอมที่ดูเจ้าเล่ห์ อย่างไรก็ตามชายผู้นี้ก็เหมือนกับว่าเขาไม่ได้ใส่ใจกับการจัดห้องของหลิงตู้ฉิงมากนัก เขาเริ่มเดินกระโดกกระเดกไปรอบ ๆ ลานกลางเรือน
หลังจากที่ทุกคนจากไป ชายที่ใบหน้าดูเจ้าเล่ห์ก็ค่อย ๆ เดินหายไปภายใต้ความมืดของยามค่ำคืน ไม่มีใครบอกได้ว่าเขาซ่อนตัวอยู่ที่ใด
ในห้องนอนของหลิงตู้ฉิง หลิงไช่หยุนโน้มตัวเข้ามาในอ้อมกอดของพ่อนางและกระซิบว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่จะกลับมาเมื่อไหร่?”
“พ่อก็ไม่แน่ใจเช่นกัน” ในขณะที่เขาตอบ หลิงตู้ฉิงก็เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง
“ข้าอยากรู้จังว่านางได้ฝึกฝนวิชาพลังชีพหวนคืนไปถึงไหนแล้ว” หลิงไช่หยุนกระซิบ “ตอนนี้ข้ารู้สึกเหมือนตัวเองสูงขึ้นมากหลังจากฝึกเคล็ดวิชาพลังชีพหวนคืนด้วยล่ะท่านพ่อ!”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพูดว่า “เจ้าสูงขึ้นหนึ่งในสามของนิ้วแล้ว เจ้าต้องพยายามให้มากขึ้นเพื่อที่จะได้โตไว ๆ เจ้าเข้าใจไหม?”
“แน่นอน ข้าจะขยันฝึกฝน! ข้าต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญให้ได้!” หลิงไช่หยุนพูดคุยกับพ่อของนางซักพักก่อนที่จะรู้สึกง่วงและนอนหลับไป
หลิงตู้ฉิงเงยหน้าขึ้นมองเพดานและขมวดคิ้ว เขาลุกขึ้นจากเตียงและคลุมผ้าห่มให้หลิงไช่หยุน เขาเดินไปหยุดใต้ชายคาเรือน โบกมือให้ผู้คุ้มกันร่างผอม และพูดอย่างใจเย็น “ในฐานะนักฆ่า เจ้าเคลื่อนไหวเสียงดังขนาดนี้ ไม่กลัวชาวบ้านเขาจะรู้เหรอว่าเจ้าอยู่ที่นี่?”
“เจ้ากำลังมองหาอะไร? ข้ากำลังพูดถึงเจ้าอยู่! และไอ้การที่เจ้าไต่ไปไต่มาบนชายคาเรือนนอกห้องข้า เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันกำลังรบกวนเวลาส่วนตัวของข้า!”
ชายร่างเตี้ยผอมบางเดินงุ่มง่ามออกมาจากที่มืด
เขาเป็นนักฆ่าที่ได้รับการฟูมฟักอย่างลับ ๆ จากตระกูลมี่และมีชื่อที่โด่งดังในทวีปเทียนหยวน เขาถูกเรียกว่า ‘ไร้เงา’ มีไม่กี่คนที่ได้เห็นตัวจริงของเขา ตอนนี้เขาถูกมี่ตั้วตั้วมอบหมายให้เป็นผู้คุ้มกันของหลิงตู้ฉิง เขารู้สึกประหลาดใจมาก เขาต้องการที่จะรู้ว่าหลิงตู้ฉิงเป็นใครและคุ้มหรือไม่ที่มี่ตั้วตั้วส่งผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากมาดูแล
เขากล้าเอาหัวรับประกันได้ว่าเมื่อครู่เขาไม่ได้ส่งเสียงอะไรเลย และเขาก็ไม่ได้ทำตัวเป็นจุดสนใจอะไร
แต่เมื่อเขามาถึงนอกห้องของหลิงตู้ฉิง สัญชาตญาณนักฆ่าของเขาแจ้งเตือนถึงอันตรายให้เขารู้ทันที ไร้เงาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องโคจรทักษะลบตัวตนของเขาเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ
แต่ไม่ว่าเขาจะลบตัวตนหรือกลบกลิ่นอายไปขนาดไหน เขาก็ยังรู้สึกว่าอันตรายยังคงอยู่เหมือนเดิมจนกระทั่งหลิงตู้ฉิงเอ่ยถึงตำแหน่งเขาออกมา
“อย่าเตร็ดเตร่ไปรอบ ๆ หาที่พักผ่อนซะ หรือไม่อย่างน้อยก็อย่ารบกวนการนอนของข้า ไม่อย่างนั้นเจ้าจะเสียใจ” หลิงตู้ฉิงเมื่อเตือนไร้เงาเสร็จเขาจึงเดินกลับไปนอน
‘ไร้เงา’กลั้นลมหายใจของเขาเมื่อมองไปที่หลิงตู้ฉิง ทักษะพลางตัวของเขามันไร้ค่าต่อหน้าชายคนนี้ขนาดนั้นเลยหรือไง?
หลังจากหลิงตู้ฉิงเดินเข้าไปในห้อง ไร้เงาก็รวบรวมพลังทั้งหมดในร่างกาย โคจรพลังจิตของเขาไปสู่ระดับสูงสุดและแผ่สัมผัสทั้งห้าของเขาทั้งหมดไปยังพื้นที่บริเวณภายในเรือนทั้งหมด
นี่อาจเป็นการเปิดใช้ทักษะทั้งหมดของเขาจนถึงจุดสูงสุด ซึ่งเทียบได้กับก่อนหน้านี้ที่เขาเคยเข้าไปลอบสังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตประสานทะเลปราณเมื่อปีที่แล้ว และในตอนนี้เขาจะทดสอบหลิงตู้ฉิงด้วยความสามารถทั้งหมดที่เขามี
เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อม ไร้เงาจึงเริ่มก้าวไปยังห้องของหลิงตู้ฉิง แต่เมื่อเขาเริ่มก้าวไปได้เพียง 3 ก้าว ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาหยุดแข็งเหมือนรูปปั้นและไม่สามารถขยับได้
“ช่างน่ารำคาญจริง ๆ” หลิงตู้ฉิงบ่น เขาหันกลับมากอดลูกสาวของเขาและหลับไปอย่างเงียบ ๆ
เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อทุกคนตื่นขึ้นมา พวกเขาเห็นร่างของไร้เงายืนแข็งเหมือนหินอยู่ตรงทางเดิน เด็ก ๆ แกล้งทำเป็นไม่เห็นและมารวมตัวกันที่ลานกลางเรือน เพราะวันนี้เป็นวันแรกที่ถังชี่หยุนจะเปิดชั้นเรียนสอน!
แม้ว่าถังชี่หยุนและโม่หยูถังจะเห็นร่างของ ‘ไร้เงา’ แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรจริงจัง
ถังชี่หยุนมองดูเด็กทั้งเจ็ดที่กำลังนั่งอย่างเป็นระเบียบ นางแนะนำตัวของนางกับเด็ก ๆ และเริ่มบทเรียนอย่างช้า ๆ ว่า “เด็ก ๆ บทเรียนของเราวันนี้ครูจะสอนบทเรียนพอเศษให้กับพวกเจ้า วันนี้ครูจะสอนพวกเจ้าถึงความหมายของคำง่าย ๆ คำนี้!”
ในขณะที่นางพูด นิ้วของถังชี่หยุนวาดไปในอากาศเป็นอักษร 一 (หนึ่ง) “คำง่าย ๆ นี้คือต้นกำเนิดของทุกคำ บางคนอ่านเป็น ‘หนึ่ง’ ในขณะที่บางคนอาจเรียกว่า ‘เต๋า’ จริง ๆ แล้ว สิ่งที่สำคัญคือการเข้าใจความหมายของมัน” ถังชี่หยุนพูดช้า ๆ นางพยายามอย่างที่สุดเพื่ออธิบายให้เด็ก ๆ เข้าใจ
หลิงตู้ฉิงที่เดินช้า ๆ เข้าไปในลานกลางเรือนได้ยินคำอธิบายของถังชี่หยุน เขาพยักหน้าอย่างพึงพอใจขณะที่เขาหยิบเก้าอี้มานั่งฟังชั้นเรียนของถังชี่หยุนไปด้วย
สำหรับพวกผู้คุ้มกัน เมื่อพวกเขาตื่นขึ้น พวกเขาได้เห็น ‘ไร้เงา’ ที่ยืนแข็งข้างเหมือนรูปปั้นอยู่ที่ทางเดิน พวกเขามองหน้ากันอย่างประหลาดใจและจากนั้นก็ไม่สนใจไร้เงาอีกและเดินเข้าไปหาถังชี่หยุน ซึ่งกำลังบรรยายบทเรียนให้กับพวกเด็ก ๆ เมื่อเห็นเช่นนั้นพวกเขาหยิบเก้าอี้มานั่งลงฟังอย่างเงียบ ๆ
ไม่นานหลังจากนั้นโม่หยูถังก็เข้ามาในลานกลางเรือน เขานำเก้าอี้มาวางใกล้ ๆ หลิงตู้ฉิงและนั่งลง เขายังฟังชั้นเรียนของถังชี่หยุนอย่างเงียบ ๆ เช่นกัน
ภายในเรือนหลิง บุคคลเดียวที่ไม่ได้ฟังบทเรียนของถังชี่หยุนคือมี่ไล
นางนั่งอยู่ที่สวนหลังบ้านตลอดทั้งคืนเพื่อฝึกฝนเคล็ดวิชาเรียกฝนใบไม้ผลิ
เมื่อนางเริ่มเข้าใจในเคล็ดวิชา นางค้นพบว่ามันเป็นเคล็ดวิชาที่สามารถฟื้นฟูพลังงานสิ่งมีชีวิตได้แทบทั้งหมด อย่างไรก็ตามในขณะที่นางเข้าใจมากขึ้นเรื่อย ๆ นางค้นพบว่าเคล็ดวิชานี้ลึกลับอย่างมาก
นางไม่เพียงแค่ไม่นอนหลับเท่านั้น ซ้ำยังไม่ลุกจากไปไหน
ทุกคนเพิกเฉยมี่ไลราวกับว่าพวกเขาลืมนางไว้ในสวนหลังบ้าน
อีก 2 ชั่วโมงต่อมาหลังจากที่ถังชี่หยุนบรรยายจบ นางโบกมือให้เด็ก ๆ แล้วพูดว่า “เอาล่ะ จบบทเรียนสำหรับวันนี้แล้ว!”
เมื่อมองดูที่สีหน้าซีดเซียวของถังชี่หยุนนั้น หลิงตู้ฉิงยืนขึ้นแล้วพูดกับเด็ก ๆ ว่า “ทำไมพวกเจ้าไม่ขอบคุณครูถัง?”
“ขอบคุณครูถัง!” เด็ก ๆ รีบขอบคุณนาง
“เอาล่ะ หลังอาหารเช้าทุกคนเริ่มทำภารกิจของตัวเอง แต่พวกเจ้าควรจะรีบจบภารกิจของวันนี้ให้เร็วกว่าเดิมสักหน่อยเพราะคืนนี้เราจะไปฉลองกันที่ร้านอาหาร” หลังจากกล่าวกับเด็ก ๆ หลิงตู้ฉิงหันกลับมามองที่ถังชี่หยุนและพูดว่า “ชั้นเรียนลักษณะนี้สอนเดือนละครั้งก็เพียงพอแล้ว มิฉะนั้นความแข็งแกร่งทางจิตของเจ้าจะไม่สามารถทนได้ ส่วนบทเรียนปกติสิ่งที่ครูถังต้องทำก็คือสอนการอ่านและเขียนหนังสือธรรมดาให้พวกเขาก็พอ”
“ขอบคุณท่านหลิง” ถังชี่หยุนขอบคุณและพูดว่า “เมื่อได้รับค่าจ้างงาม ข้าก็ต้องตอบแทนกลับไปให้คุ้มค่าเช่นกัน”
“อืม” หลิงตู้ฉิงยิ้มและไม่ได้แสดงออกอะไรอื่น
จากนั้นเขาก็จำได้ว่าเขาทำให้ ‘ไร้เงา’ ขยับตัวไม่ได้ตั้งแต่เมื่อคืน เขาจึงเดินไปคลายมนต์สะกดปล่อยไร้เงาให้เป็นอิสระ