ตอนที่ 166 ทําความเข้าใจ

บุตรอสูรบรรพกาล

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 166 ทําความเข้าใจ

 

“กะ กรีดท้อง… เจ้าจะบอกว่าเจ้าจะผ่าท้องข้าแล้วเอาไส้อะไรนั่นออกมางั้นเหรอ”องค์จักรพรรดิกลืนน้ําลายลงคออย่างยากลําบาก หากไป๋จูเหวินไม่ใช่คนที่ท่านลงเทียนหมิ งยอมรับมันได้สั่งคนพามันออกไปนอกวังแล้วแน่ๆ

 

“ขอรับ อาจจะฟังดูประหลาด แต่นี่คือวิธีรักษาที่ได้ผลขอรับ”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองดวงตาขององค์จักรพรรดิด้วยท่าที่จริงจัง

 

“เรื่องแบบนั้น..”องค์จักรพรรดิก้มหน้าลง ตัวมันไม่ได้เป็นจักรพรรดิในยุคสงคราม เรียกได้ว่าตลอดชีวิตของมันแทบจะไม่ได้ร่วมสงครามเลย แถมเพราะบ้านเมืองสงบสุขมันเลยทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับการพัฒนาบ้านเมือง จนไม่ได้จับอาวุธเลย ทําให้มันแทบจะเหมือนคนธรรมดาที่ไม่ได้มีชีวิตไปเกี่ยวข้องกับความรุนแรงแต่อย่างไร ทําให้การโดนเอามีดกรีดนั้นเป็นเรื่องใหญ่สําหรับมันเลยทีเดียว แถมการเอามีดมาฟันมันไม่ใช่ว่ามันมีโอกาสจะตายด้วยงั้นเหรอ

 

“เจ้ารับประกันความปลอดภัยได้หรือไม่” อาวุโสเทียนหมิงถามพลางมองท่าทีของไป๋จูเหวิน มันท่าทางจะไม่ได้ล้อเล่น แถมอาการป่วยของจักรพรรดิยังเป็นที่ลําไส้จริงๆเสียด้วย

 

“สําหรับข้าแล้ววิธีนี้ปลอดภัยราวๆ 9 ส่วนขอรับ”ไป๋จูเหวินตอบ เพราะหากทราบสาเหตุและวิธีรักษา ไส้ติ่งอักเสบที่คร่าชีวิตคนไปเป็นจํานวนมากจะเป็นโรคที่รักษาได้ไม่ยากเลย เพียงตัดไส้ติ่งออกมาโดยไม่ให้เชื้อโรคภายในแตกออกมา และใช้เส้นด้ายที่สะอาดเย็บปิดที่ลําไส้และบาดแผลที่ผ่าลงไป โดยส่วนใหญ่หากรักษาไม่ผิดพลาดผู้ป่วยก็จะหายในไม่กี่วัน ยิ่งเป็นผู้มีพลังวิญญาณอยู่บ้างบาดแผลยิ่งหายเร็ว

 

“มากขนาดนั้นเลย” องค์จักรพรรดิมีท่าที่ลังเลเล็กน้อย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ที่มันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย

 

“เจ้าช่วยรอหน่อยได้หรือไม่ ข้าขอเวลาตัดสินใจสักพัก” องค์จักรพรรดิว่าพลางหันมามองไป๋จูเหวิน มันกังวลอย่างเห็นได้ชัดทําให้ไป๋จูเหวินได้แต่ยอมถอยออกมาก่อน สําหรับองค์จักรพรรดิแล้วไป๋จูเหวินเป็นเพียงคนใหม่ที่มันไม่รู้ฝีมือ แม้จะมีอาวุโสเทียนหมิงรับรองให้แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะทําอะไรก็ได้

 

เพียงแต่ว่า แค่พริบตาเดียวเรื่องที่หัวหน้าสมาคมแพทย์คิดจะเอามีดมาผ่าร่างขององค์จักรพรรดิก็รู้กันทั่ววังหลวง เพราะในห้องพักผ่อนนั้นนอกจากพวกไป๋จูเหวินแล้วยังมีสาวรับใช้และขุนนางอีกจํานวนหนึ่งนั่งฟังอยู่ด้วย แต่เพราะไป๋จูเหวินเป็นคนของอาวุโสเทียนหมิงพวกมันเลยไม่กล้าสอดปากสอดคําเสียเท่าไหร่

 

“เจ้าว่าอะไรนะ”ในที่สุดข่าวเรื่องนี้ก็ลามไปถึงหูของเหล่า ทายาทขององค์จักรพรรดิจนได้

 

“จริงๆนะเจ้าคะองค์หญิง แม้แต่ท่านอาวุโสเทียนหมิงยังตกใจเลยเจ้าค่ะ” นางกํานัลที่ทําหน้าที่รับใช้องค์หญิง 2 ว่าพลางเล่าเรื่องราวในห้องอย่างละเอียดราวกับได้เห็นด้วยตาตนเอง

 

“เจ้าแก่นั่น”องค์หญิง 2 ว่าพลางกําหมัดแน่น นางไม่เคยได้ยินเรื่องการรักษาเช่นนี้มาก่อน แถมคราวก่อนนางก็พึ่งไล่มันกลับไปอยู่หมาดๆ หรือว่ามันคิดจะแก้แค้นเรื่องนั้นกัน…มันกล้าถึงขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ

 

“องครักษ์” องค์หญิง 2 ยืนขึ้นพลางกําพัดในมือแน่น นางเรียกองครักษ์ประจําตัวก่อนจะเดินออกมาหน้าห้องด้วยท่าทีเย็นยะเยียบ

 

“พาข้าไปพบหัวหน้าสมาคมแพทย์”องค์หญิง 2 ว่าพลางเดินออกไปจากห้องช้าๆ เพียงแต่การก้าวเท้าของ นางกลับดูคุกรุ่นอย่างประหลาด ทําเอาเหล่าองครักษ์พากันเหงื่อตกเพราะไม่ทราบว่าองค์หญิง 2 ไปโกรธอะไรมา

 

“หัวหน้า” ทันทีที่องค์หญิง 2 เดินทางมาถึงห้องของหัวหน้าแพทย์หลวงซึ่งตอนนี้เป็นที่ๆไป๋จูเหวินใช้พักผ่อนอยู่ ยู่หยวนที่บังเอิญอยู่หน้าห้องพอดีพอได้รับแจ้งว่าองค์หญิง 2 มาพบหัวหน้าสมาคมแพทย์นางก็รีบเข้ามาในห้องเพื่อแจ้งข่าวทันที แต่ยังไม่ทันที่ยู่หยวนจะรายงานอะไร เหล่าองครักษ์ก็เปิดประตูเสียก่อน

 

“ข้ามาพบหัวหน้าสมาคมแพทย์” องค์หญิง 2 ว่าพลางเดินออกมาด้วยท่าทีสง่างาม ราวกับเรื่องที่นางหัวเสียเมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้นเลย

 

“ข้าเองขอรับ”ไป๋จูเหวินว่าพลางประสานมือรับเล็กน้อย

 

“เจ้า? เจ้ากลายเป็นหัวหน้าสมาคมแพทย์ได้อย่างไร”องค์หญิง 2 ถามพลางขมวดคิ้วงุนงง คราวก่อนนางได้เห็นหัวหน้าสมาคมแพทย์แล้ว มันเป็นตาแก่ท่าทางหยิ่งผยองไม่เหมือนชายหนุ่มตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย จะบอกว่าเป็นลูกชายนางก็ไม่มีทางเชื่อหรอก

 

“เรื่องนั้น”ไป๋จูเหวินชะงักไปเล็กน้อย มันควรตอบดี หรือไม่ว่ามันและหวงหลงฆ่าหัวหน้าสมาคมคนก่อนทิ้งแล้วเข้ามารับตําแหน่งแทน

 

“ท่านหัวหน้าสมาคมผ่านการทดสอบของเหล่าอาวุโสและขึ้นเป็นหัวหน้าสมาคมอย่างสมเกียรติแล้วเจ้าค่ะ”ยู่หยวนว่าพลางหลบสายตาขององค์หญิง 2 อย่างยากลําบาก

 

“เช่นนั้นเจ้าก็เป็นคนเสนอเรื่องไร้สาระอย่างการใช้มีดกรีดท้องสเด็จพ่องั้นหรือ”องค์หญิง 2 ว่าพลางนั่งลงตรงกันข้ามกับไป๋จูเหวิน พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ใช่หัวหน้าสมาคมที่ตนเคยไล่ไป ท่าทีของนางก็สงบลงมาก แต่เรื่องที่มันจะผ่าท้องบิดาของนางก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ดี

 

“ขอรับ ข้าเป็นคนเสนอเอง”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มบางๆ เห็นนางเป็นห่วงบิดาเช่นนี้ไปจูเหวินก็ไม่ถือสาที่นางสงสัยในเรื่องการรักษาหรอก

 

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าสเด็จพ่อไม่ใช่ผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณ ท่านเพียงแต่มีพลังวิญญาณตามธรรมชาติเท่านั้น” องค์หญิง 2 ว่าพลางจ้องมองไป๋จูเหวินอย่างจับผิด

 

“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลขอรับ ต่อให้เป็นคนธรรมดาที่ไม่มี พลังวิญญาณเลย ข้าก็มั่นใจว่าจะสามารถรักษาได้ขอรับ”ไป๋จูเหวินตอบ เพราะแม้แต่คนธรรมดายังสามารถรักษาบาดแผลของตัวเองได้เพียงแต่ต้องใช้เวลาเท่านั้น

 

“วิธีของเจ้าวิเศษเช่นนั้นเลย” องค์หญิง 2 ว่าพลางเลิกคิ้วอย่างสงสัย

 

“ถ้าองค์หญิงไม่รังเกียจ ข้าจะอธิบายให้ท่านเข้าใจเอง ขอรับ”ไป๋จูเหวินว่าพลางเรียกเอากระดาษและหมึกออกมาวางตรงหน้า ทําให้องค์หญิง 2 ขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจ ปกติแพทย์ไม่ได้มีการฝึกฝนพลังวิญญาณอะไรมากมาย ทําให้แพทย์ส่วนใหญ่เป็นคนที่มีพลังวิญญาณน้อย แต่ไป๋จูเหวินสามารถเรียกของออกมาจากมิติของมันเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาแหวนมิติ ท่าทางมันเองก็จะมีพลังวิญญาณไม่น้อยเลย

 

“เช่นนั้นเจ้าก็ลองอธิบายมา”องค์หญิง 2 ว่าพลางครพัดออกช้าๆ ดวงตาของนางเพ่งมองไป๋จูเหวินอย่างตั้งใจราวกับจะดูว่ามันจะโกหกอะไรหรือไม่

 

“เช่นนั้น…”ไป๋จูเหวินว่าพลางเริ่มอธิบายช้าๆ ความรู้ที่จะอธิบายกับองค์หญิง 2 นับจากนี้เรียกได้ว่าเป็นความรู้ใหม่ของคนยุคนี้ด้วยซ้ํา หากไม่ใช่เพราะน้ามังกรเคยศึกษาเรื่องพวกนี้ไป๋จูเหวินเองก็คงไม่ทราบไปด้วย แม้วิชาแพทย์ของน้ามังกรจะเน้นไปทางร่างกายของอสูร แต่เพราะไป๋จูเหวินเองก็ไม่ธรรมดาทําให้มันสามารถนําความรู้เหล่านี้มาใช้กับร่างกายมนุษย์ได้อีกด้วย

 

ไป๋จูเหวินออธิบายสาเหตุของโรคไส้ติ่งอักเสบอย่างช้าๆ ทําให้คิ้วที่แทบจะติดกันขององค์หญิง 2 เริ่มคลายลงช้าๆ หลังจากอธิบายมาพักใหญ่ในที่สุดองค์หญิง 2 ก็เข้าใจเสียที่ว่าทําไมต้องผ่าเอาไส้ติ่งที่อักเสบแล้วออกมา

 

“ร่างกายคนเรามีอวัยวะที่เสียเปล่าแบบนั้นด้วยงั้นหรือ”องค์หญิง 2 พึมพําอย่างสนใจ นางไม่คิดว่าจะมีอวัยวะที่สามารถตัดทิ้งได้โดยไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายอยู่

 

“ขอรับ หากองค์จักรพรรดิอนุญาตข้าจะสามารถผ่าตัดและรักษาท่านได้เลยขอรับ”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มบางๆ เห็นอีกฝ่ายยอมฟังและทําความเข้าใจเช่นนี้ไป๋จูเหวินก็สบายใจขึ้นเยอะ อย่างน้อยก็ดีกว่านางเข้ามาด่าทอแล้วไม่ฟังอะไรเลยละนะ เพียงแต่ท่าทีขององค์หญิงจะยังเป็นกังวลอยู่

 

“หากท่านกังวล ข้าจะใช้พลังของข้าช่วยรักษาบาดแผลขององค์จักรพรรดิด้วยดีหรือไม่ขอรับ”ไป๋จูเหวินถามด้วยท่าทีเป็นมิตร แม้พลังธาตุศักดิ์สิทธิ์จะใช้รักษาคนอื่นไม่ได้ แต่ก็พอช่วยเพิ่มความสามารถในการรักษาตัวเองได้ อย่างน้อยก็ทําให้แผลที่ควรใช้เวลา 1 เดือนหายได้ใน 3 อาทิตย์ละนะ

 

“พลังของเจ้าสามารถช่วยได้งั้นเหรอ”องค์หญิง 2 ถามซ้ํา ถึงอย่างไรนางก็ยังวางใจไม่ได้อยู่ดี

 

“ขอรับ”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มบางๆ

 

“เช่นนั้น…” อยู่ๆองค์หญิง 2 ก็หยิบมีดเล่มหนึ่งออกมาจากแหวนของนาง ก่อนจะเฉือนไปที่แขนของนางเอง จนเลือดไหลออกมา ทําเอาเหล่าองครักษ์และแพทย์หลวงตกอกตกใจกันอย่างมาก

 

“ไหนเจ้าลองรักษาให้ข้าดู หากเจ้าทําได้ข้าจะยอมให้เจ้ารักษาสเด็จพ่อ” พูดจบองค์หญิง 2 ก็ยืนมือที่สันเล้กน้อยมาทางไป๋จูเหวิน ทําให้ไป๋จูเหวินรีบคว้ามือของนางเอาไว้แล้วใช้มืออีกข้างทาบลงบนบาดแผลของนาง

 

วูบแสงสีทองของพลังธาตุศักดิ์สิทธิ์เปล่งประกายออกมาจากบาดแผลขององค์หญิง 2 ไม่นานเลือกดที่ไหลออกมาก็หยุดลงก่อนที่ไป๋จูเหวินจะดึงมือออกช้าๆ ทําให้เห็นว่าบาดแผลขององค์หญิง 2 เหลือเพียงรอยจางๆเท่านั้น

 

“เจ้าเป็นผู้ถือครองพลังธาตุศักดิ์สิทธิ์นี่เอง”องค์หญิง 2 ว่าพลางมองบาดแผลของตนเอง แต่เพราะยังมีรอยสีชมพูอยู่บนผิวขาวๆของนางไป๋จูเหวินเลยเลือกยาทาชนิดหนึ่งออกมาจากมิติของมันพลางทามันลงไปที่แขนของนางอย่างช่วยไม่ได้

 

“ท่านวู่วามเกินไปแล้ว แบบนี้หากเป็นแผลเป็นจะทําอย่างไร”ไป๋จูเหวินว่าพลางทายารักษาแผลลงไปช้าๆ

 

“ก็ถ้าเจ้ารักษาข้าได้จริง มันก็คงไม่เหลือบาดแผลหรอก” องค์หญิง 2 หัวเราะพลางมองแขนของตนเอง

 

“แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันนี่ขอรับว่าข้าจะรักษาจนหายสนิทได้ หากทําแขนขององค์หญิง 2 มีแผลเป็นข้าคงรู้สึกผิดไปอีกนานแน่ๆ “ไป๋จูเหวินว่าพลางปล่อยมือออกจากแขนขององค์หญิง 2 ช้าๆ องครักษณ์ทั้ง 2 เองก็มีท่าที่เหนื่อยใจ ไม่ต่างจากไป๋จูเหวินเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่านางทําเรื่องแบบนี้ประจําหรอกนะ

 

“ไม่หรอก”องค์หญิง 2 ว่าพลางยิ้มบางๆ พริบตานั้นบาดแผลที่แขนของนางก็ปรากฏแสงสีทองออกมาเช่นเดียวกับตอนที่ไป๋จูเหวินช่วยรักษาให้นางไม่มีผิด

 

“ร่างกายของข้าไม่มีทางเป็นแผลเป็นได้หรอก”องค์หญิง 2 พูดจบแสงสีทองก็หายไปพร้อมบาดแผลที่ปิดสนิทราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ท่าทางนางเองก็เป็นผู้ถือครองธาตุศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกันกระมัง

 

“เอาเถอะ ข้าจะไปอธิบายการรักษาของเจ้ากับสเด็จพ่อเอง ถือเป็นคําขอโทษเรื่องเมื่อครู่ก็แล้วกัน”องค์หญิง 2 หัวเราะกับท่าทีตื่นตูมจองไป๋จูเหวิน ก่อนจะลุกขึ้นยืนช้าๆ