“อะไรนะ?หยางเฟิง!”
จ้าวเทียนหลงถามอย่างร้อนรนว่า “หยางเฟิงไหน?”
ในตอนนี้เอง เขาเอาแต่สวดภาวนาอยู่ในใจ ว่าอย่าให้เป็นหยางเฟิงคนนั้นเลย!
ไม่อย่างนั้น ครั้งนี้ ตระกูลจ้าวได้จบเห่แน่
“ก็ หยางเฟิงคนที่เพิ่งขึ้นนั่งบัลลังก์ภาคใต้ เจ้าพันธมิตรบู๊คนนั้นไง!”
โครม!
คำพูดของจ้าวหาน ราวกับฟ้าผ่าในตอนกลางวัน ผ่าลงกลางศีรษะของจ้าวเทียนหลง
เป็นหยางเฟิงคนนั้นจริงๆ!
ไอ้สารเลวสองคนนี้ อยู่ดีไม่ว่าดีไปหาเรื่องเขาทำไม?
ต้องรู้ว่า ตอนนี้ตัวเขาเองก็แทบเอาตัวไม่รอดแล้ว
ไอ้ชั่วสองคนนี้ กลับหาเหาใส่หัวซะงั้น!
ปัง!
ทันทีทันใด
จ้าวเทียนหลงก็ล้มไปกองกับพื้นในทันที
พ่อบ้านที่อยู่ข้างๆมีอาการตกใจอย่างมาก
นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมจ้าวเทียนหลงผู้ซึ่งสงบเสงี่ยมเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ได้ ?
จ้าวเทียนหลงพูดเน้นทีละคำว่า“ ไอ้พวกชั่ว คุกเข่าเอาไว้ให้ดีเลยนะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ !”
หลังจากที่พูดจบ เขาก็กดวางสายไปทันที
จ้าวเทียนหลงหันมาพูดกับพ่อบ้านว่า “รีบไปเตรียมรถให้ฉัน ฉันจะไปเหม่ยเหว้ยเซวียน”
พ่อบ้านถามด้วยความสงสัยว่า“ นายท่าน ให้ผมตามคนให้ด้วยไหมครับ?”
เพี๊ยะ!
ยังไม่ทันที่จะได้พูดจบ ฝ่ามือของจ้าวเทียนหลงก็ตบเข้ามาอย่างแรง
ใบหน้าของเขาดุร้าย ก่นด่าเสียงดัง“ยังจะตามใครอีก ? นี่แกกลัวว่าตระกูลจ้าวของเราจะตายช้าไปอย่างนั้นเหรอ?”
ได้ยินดังนั้น พ่อบ้านก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก รีบไปจัดเตรียมรถในทันที!
เมื่อเห็นพ่อบ้านจากไปแล้ว
จ้าวเทียนหลงก็เงยหน้าขึ้น ถอนหายใจเสียงเบาแล้วพูดว่า“ หวังว่าเจ้าชั่วสองคนนั้นจะไม่ก่อเรื่องร้ายแรงขึ้น ไม่อย่างนั้นครั้งนี้ ตระกูลจ้าวของเราคงยากที่จะหลบหนีพ้นแล้ว!”
ที่เหม่ยเหว้ยเซวียน
หยางเฟิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ พูดเสียงเรียบว่า“ว่ายังไง โทรเสร็จหรือยัง?”
จ้าวหานเก็บมือถือ หัวเราะแหะๆแล้วพูดว่า “โทรเสร็จแล้ว !”
หยางเฟิงยกมือขึ้น ฉันจะหักแขนของแกทิ้งซะ ให้แกเป็นเหมือนกับลูกชาย”
หืม ?
ได้ยินดังนั้น สีหน้าของจ้าวหานก็เปลี่ยนไปทันที
ในตอนนี้ เขาทำได้เพียงอธิษฐานในใจอย่างเงียบๆ หวังให้คนเป็นพ่อมาให้เร็วที่สุด
ไม่อย่างนั้น ตัวเองก็จะกลายเป็นคนพิการไปซะ !
“ที่รัก!”
ในตอนนี้เอง เย่เมิ่งเหยียนก็ขานเรียก
หยางเฟิงหันไปมอง พูดด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนว่า“ที่รัก ทำไมคุณอิ่มแล้วเหรอ ?”
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของหยางเฟิง
จ้าวเทียนหลงกับจ้าวหานต่างก็พากันประหลาดใจขึ้นในทันที
นี่ยังใช่ปีศาจคนเดิม ที่เย็นชาและไร้หัวใจคนก่อนหน้านั้นอยู่หรือเปล่า ?
ทำไมจู่ๆก็ถึงได้อ่อนโยนขนาดนี้ขึ้นมาได้ ?
เย่เมิ่งเหยียนพยักหน้าและยิ้มอย่างมีความสุข“อิ่มแล้ว!”
“อิ่มแล้วเหรอ งั้นผมสั่งผลไม้ให้นะ ?”
พูดจบ หยางเฟิงก็ตะโกนเสียงดัง “บริกร!”
สิ้นเสียง
บริกรที่รออยู่ตรงประตูมาสักพักแล้วก็เข้ามา
ก่อนหน้านี้ บริกรก็รออยู่ที่ประตูตลอด
แต่เขาไม่กล้าเข้ามา พอเข้ามาแล้วในตอนนี้ ก็ถึงกับตกตะลึง
เห็นเพียงนักเลงตระกูลจ้าว นอนเกลื่อนกันอยู่เต็มพื้น และร้องโอดโอยไม่หยุด
ที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ
จ้าวหานกับจ้าวช่าวหลงสองคนพ่อลูก สองขาถูกทำร้ายจนหัก และคุกเข่าอยู่ตรงหน้าหยางเฟิง
ต้องรู้ว่า นี่มันคนของตระกูลจ้าวเชียวนะ!
ทั่วทั้งจินหลิง ใครกล้าไปมีเรื่องด้วย ?
แต่ในตอนนี้ พวกเขากำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าหยางเฟิงราวกับสุนัขที่จนตรอก
โดยเฉพาะจ้าวหานไม่ได้มีความน่าเกรงขามอย่างที่ผ่านมาอีก?
บริกรเงยหน้าขึ้นมองหยางเฟิง ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวั่นเกรง
นี่มันคนหรือเทพเจ้ากัน?
กล้าถึงขั้นมาหักขาของสองคนพ่อลูกตระกูลจ้าวได้ ?
นี่เขาไม่กลัวตระกูลจ้าวจะแก้แค้นเอาคืนเลยหรือยังไง ?
บริกรถามอย่างสุภาพว่า “คุณผู้ชาย ต้องการอะไรครับ?”
หยางเฟิงพูดเสียงเรียบว่า“ภรรยาฉันอิ่มแล้ว ต้องการผลไม้หลังมื้ออาหาร ”