ตอนที่ 492 หวังเจียเหยามาที่ปราสาทเย่เอ้าย!
หวังเจียเหยาเอาแต่ฝันหวานมาตลอดสิบชั่วโมงที่เดินทางว่าหลังจากที่มาถึง
คนที่หลงใหลในแก้วแหวนเงินทองเกียรติยศอย่างหล่อนชอบฝันหวานถึงภาพเหตุการณ์แบบนี้เป็นที่สุด
หล่อนรู้สึกว่าวงหน้างดงามของตนเองจะต้องทำให้ตนเองติดฮอทเสิร์ชได้แน่นอน
เพื่อให้คนในโซเชียลได้รู้ว่าคนที่สวยที่สุดของประเทศไม่ใช่ซูมู่ชิง แต่เป็นหล่อนหวังเจียเหยา!
เย่เฉินตะคอกกลับ “หวังเจียเหยาคุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ? ตอนเราแต่งานกันคุณสวมเขาให้ผมตั้งสามรอบ ทรยศผมถึงสามครั้งสามคราว! คุณยังมีหน้าจะมาเจอปู่ผมอีกเหรอ? คุณคู่ควรหรือไง!”
เย่เฉินคิดไม่ถึงเลยว่าหวังเจียเหยาจะเสียสติไปจนถึงขั้นนี้ ด้วยเรื่องเหลวไหลที่หวังเจียเหยาเคยทำไม่ว่าจะเป็นตระกูลไหนก็ตามแต่ การกระทำนี้ถือเป็นโทษความผิดที่ร้ายแรงอย่างที่สุด!
แต่คิดไม่ถึงว่าหวังเจียเหยาจะยังมีความกล้าไปพบหน้าคนในครอบครัวเย่เฉิน ไม่กลัวตระกูลเย่จะซ้อมหล่อนหรือไง?
หวังเจียเหยากล่าว “ในเมื่อฉันมาพบคนในคอรบครัวนายก็ต้องเตรียมตัวเอาไว้แล้ว นายไม่ต้องสนใจหรอก มารับฉันก็พอ นายมารับฉันช้าไปแค่ไหนก็แปลว่าลูกชายของนายต้องทนหนาวอยู่ที่นี่เพิ่มอีกหนึ่งนาที แค่นี้นะ!”
พูดจบหวังเจียเหยาก็กดตัดสาย
“แม่ง! ผู้หญิงสารเลวคนนี้!”
เย่เฉินโกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยง
ความตั้งใจเดิมที่จะเดินชมสวนโดนสายจากหวังเจียเหยาทำลายจนหมดสิ้น
ซูมู่ชิงถามอย่างห่วงใย “ที่รักคะ หวังเจียเหยา พูดอะไรเหรอ?”
เย่เฉินกล่าวอย่างไม่พอใจ “ก็ผู้หญิงคนนั้นอยากจะนั่งรถม้าที่เรานั่งกันเมื่อคืน ผมล่ะไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ หล่อนลำบากถ่อมาที่นี่เพียงเพื่อนั่งรถม้าของที่บ้านเราเท่านั้นเองเหรอเนี่ย?”
ซูมู่ชิงเองก็รู้ว่าหวังเจียเหยาเป็นคนที่หลงใหลแก้วแหวนเงินทอง หญิงสาวจึงกล่าว “หวังเจียเหยาเป็นผู้หญิงที่รักหน้าตาตัวเองจริงๆ อีกทั้งยังเป็นคนใจร้อน ทำอะไรไม่คิดถึงผลที่จะตามมาเลย หล่อนจะต้องเห็นรูปถ่ายชองเราเมื่อวานถึงได้อิจฉาแล้วเสียใจทีหลังที่หย่ากับคุณ อย่างไรเสียถ้าพวกคุณไม่ได้หย่ากัน คนที่นั่งรถม้าเมื่อวานก็จะเป็นหล่อน”
เย่เฉินหัวเราะเสียงเย็น “ผมต้องขอบคุณที่หล่อนนอกใจผมจริงๆ ไม่อย่างนั้นเราสองคนก็คงไม่ได้อยู่ด้วยกัน”
และในตอนนี้เองเย่เทียนและคงยูมิก็เดินควงแขนกันเข้ามา
“น้องสามมีเรื่องอะไร? ได้ยินเสียงนายโวยวายมาแต่ไกลเลยนะ” เย่เทียนหัวเราะขณะเดินมาใกล้ๆ
“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้”
เย่เฉินและซูมู่ชิงกล่าวทักทายคนทั้งสอง
เย่เฉินกล่าว “หวังเจียเหยาเมียเก่าผมน่ะครับ หล่อนหอบลูกมาที่ประเทศอังกฤษ แถมยังบอกว่าต้องการจะมาที่บ้านเรา แล้วก็อยากให้ผมเอาราชรถทองคำของบ้านเราไปรับหล่อน”
เย่เทียนพูดไม่ออก “อะไรนะ? ผู้หญิงแพศยาคนนั้นทรยศนาย ลบหลู่เกียรติของบ้านเราแต่ยังกล้ามาที่บ้านเราอีกเหรอ? คิดไม่ถึงว่าจะมีหน้าพูดว่าอยากนั่งรถม้าทองคำของเราด้วยเหรอ? น่าขำจริงๆ รถม้าทองคำคันนั้น นอกจากเราคนตระกูลเย่แล้วคนที่มีคุณสมบัติจะนั่งได้ในโลกใบนี้มีไม่ถึงสิบคนด้วยซ้ำ! หล่อนเป็นผู้หญิงจากตระกูลชั้นต่ำจะมีสิทธิ์ขึ้นไปนั่งได้ยังไง!”
คงยูมิไม่ชอบหวังเจียเหยาเช่นกัน “จริงด้วย เย่เฉิน เธอไม่ต้องไปสนใจหล่อนหรอกนะ”
เย่เฉินกล่าว “ครับ ผมไม่มีทางให้หล่อนเหยียบเข้าประตูบ้านเราแน่ๆ แต่ว่าในเมื่อหล่อนเอาลูกมาแล้ว ผมเลยตั้งใจว่าจะให้ชิงหลงไปรับตัวลูกผมมาให้คุณปู่”
ตอนเย่เทียนได้ยินชื่อชิงหลงก็เกิดท่าทีผิดปกติเพียงเล็กน้อยก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็ว
เย่เทียนเป็นลูกชายคนโต ส่วนชิงหลงเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาคนที่ตระกูลเย่บ่มเพาะ
ตามหลักแล้วชิงหลงควรเป็นมือขวาให้เย่เทียน แต่เย่ฉงไห่กลับยกชิงหลงให้เย่เฉิน
เย่เทียนกล่าว “น้องสาม ไม่ต้องลำบากชิงหลงหรอก พี่ให้พ่อบ้านฟางแวะไปรับแล้วให้นังแพศยาคนนั้นตามมาด้วย ที่นู่นพี่ไม่อยากก่อเรื่อง เลยไม่ได้ช่วยนายระบายความแค้น ในเมื่อหล่อนเป็นฝ่ายเสนอตัวมาหาเราที่นี่ พี่จะทวงความยุติธรรม จะสั่งสอนหล่อนให้นายเอง!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้วเย่เฉินก็เห็นใจหล่อน
พูดตามความจริงถึงแม้ว่าเย่เฉินจะเกลียดชังหวังเจียเหยา แต่อย่างไรก็เคยรักกัน เขาล้างแค้นหมดแล้วจึงอยากให้เลิกแล้วต่อกันไป
เขาไม่คิดดอยากจะตบหวังเจียเหยาหรือคิดว่าจะสั่งสอนหล่อนยังไง
ในเมื่อเป็นอดีตที่ผ่านมาแล้ว เย่เฉินไม่อยากจะเสียเวลาไปสนใจแม่นี่อีก
“พี่ใหญ่…”
เย่เฉินอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เย่เทียนกัลยื่นมือเข้ามา “เฮ้อ น้องสาม พี่รู้ว่านายใจอ่อน เรื่องนี้ยกให้พี่จัดการเถอะนะ นายไม่ต้องสนใจหรอก”
พูดจบแล้วเย่เทียนก็เรียกพ่อบ้านฟางมาหาแล้วให้เขาขับเบนท์ลี่ย์ของเขาไปรับหวังเจียเหยา
……
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ณ จตุรัสทัลฟาการ์
หวังเจียเหยามือหนึ่งเข็นรถเข็นเด็ก อีกมือถือโทรศัพท์ถ่ายภาพทิวทัศน์ในจตุรัส
แล้วในตอนนี้ หล่อนกำลังถือมือถือถ่ายภาพของคู่รักวัยกลางคนที่กำลังให้อาหารนกอยู่
คู่รักคู่นี้เป็นชาวเอเชียเหมือนกัน ผู้ชายก็หล่อเหลาผู้หญิงก็สะสวย นั่นมันเริ่นเฉาเหว่ยกับหลิวเจียหลิงดาราชื่อดัง
“ที่นี่ดีจริงๆ ก็แค่จตุรัสทั่วๆ ไป ก็เจอดาราได้ ฉันชอบที่นี่จังเลย!”
แล้วในเวลานี้เองพ่อบ้านฟางก็เดินมา
“พ่อบ้านฟาง! คุณมาแล้วเหรอคะ!”
เมื่อเห็นพ่อบ้านฟาง หวังเจียเหยาก็ดีใจจนเนื้อเต้น
“คุณหนูหวัง เราเจอกันอีกแล้ว”
ก่อนหน้านี้เย่เฉินจัดแจงให้หวังเจียเหยากับลูกชายของพ่อบ้านฟางดูตัวกัน ผลกลายเป็นว่าหวังเจียเหยาโกรธจนกระทืบเท้าเร่าๆ
หวังเจียเหยามีมารยาทอย่างยิ่ง “พ่อบ้านฟาง ดูคุณหน้าตาสดใสดีนะ หลานชายคุณเป็นยังไงบ้าง? ขาดีขึ้นบ้างหรือยัง?”
พ่อบ้านฟางเอ่ย “ขอบคุณที่เป็นห่วง เขาสบายดีครับ เชิญตามผมมานะครับ”
“อืมๆ”
หวังเจียเหยาเดินตามพ่อบ้านฟางไปยังจุดที่จอดรถ
เห็นรถเบนท์ลี่ย์รุ่นเก่าคันหนึ่งจอดอยู่ ไม่ใช่รถม้าสีทองหรูหรา หวังเจียเหยาก็ตื่นตระหนกทันที
“รถอะไรกันเนี่ย? ฉันอยากจะนั่งรถม้าคันหรู! ไม่ใช่รถคันที่ซูมู่ชิงนั่งเมื่อวาน!”
หวังเจียเหยาอ้อนวอน
พ่อบ้านฟางระบายยิ้ม “คุณหนูหวัง ผมขอแนะนำนะครับว่าคุณอย่าเรื่องมาก ถ้านายท่านไม่ได้สั่ง เกรงว่าไม่ว่าจะรถคันไหนคุณก็ไม่มีสิทธิ์เหยียบเท้าเข้าประตู”
หวังเจียเหยาชะงักไปไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อบ้านฟางถึงได้พูดแบบนั้น
หล่อนมาที่นี่ไม่ใช่แค่จะมานั่งรถม้าหรูหรานั่นเท่านั้น หล่อนมีเรื่องสำคัญกว่าต้องทำ
ดังนั้นหล่อนจึงไม่พูดอะไรอีก แล้วเดิมดุ่มๆ เข้าไปในรถ
แล้วก็มาถึงปราสาทอ้ายเย่อย่างรวดเร็ว
“สวรรค์! ปราสาทสวยจังเลย! บ้านของเย่เฉินเป็นปราสาทเหรอเนี่ย! เมื่อก่อนตอนที่ถามเขาเขาไม่เคยบอกฉันเลย!! ลูกรักรีบลืมตามาดูบ้านของคุณพ่อหนูเร็วๆ นี่คือบ้านของเรา เราถึงบ้านแล้วนะจ๊ะ”
เมื่อลงจากรถหวังเจียเหยาก็อุ้มลูกชายเดินเข้าไปในปราสาท
และในตอนนี้เองคนตระกูลเย่ต่างก็มารอหล่อนกันที่ห้องโถงใหญ่
“นายท่าน คุณชายใหญ่ คุณชายสาม คุณหวังเจียเหยาและคุณชายน้อยมาแล้วครับ”
พ่อบ้านฟางเดินเข้ามารายงาน
หวังเจียเหยาที่กำลังอุ้มลูกอยู่เห็นเย่ฉงไห่เข้าก็ทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้นทันที “คุณปู่ หนูชื่อหวังเจียเหยาหลานสาวของหวังอันอวี่ค่ะ เป็นหลานสะใภ้ที่คุณปู่และคุณปู่ของหนูเลือกให้เย่เฉินค่ะ!”