“นี่คือสามีที่ไม่ได้เรื่องของเธอคนนั้นหรอ”
หงเสี่ยวเหมยมองเย่เซิ่งเทียน สายตานั้นเต็มไปด้วยความเหยียดหยามดูถูก เหลือบมองทีหนึ่งแล้วหันหน้าหลบด้วยความรังเกียจ และพูดกับหวางซีว่า “หน้าตาดูพอใช้ได้ แต่จะมีประโยชน์อะไร? มันก็แค่คนไร้ประโยชน์ ฉันว่านะหวางซี ฉันทำแบบนี้ก็เพราะหวังดีกับเธอ คนอื่นเขาขอร้องฉัน ฉันยังไม่ตกลงเลย อีกอย่างนะ ที่เธอตั้งใจมารอฉันอยู่ที่นี้ก็เพราะเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เหรอ? เธอยังจะเสแสร้งอะไรอีก”
เย่เซิ่งเทียนเอือมระอาอย่างมาก
ผู้หญิงคนนี้เป็นบ้าเหรอ? รู้จักกันเหรอถึงมาพูดร้ายใส่กัน?
สมองกลวงสินะ
ทำไมคืนนี้เอาแต่เจอคนงี่เง่าหลงตัวเองแบบนี้
ใบหน้าของหวางซีนิ่งขรึมและพูดอย่างโกรธเคืองว่า “หงเสี่ยวเหมย ฉันเห็นเธอเป็นรูมเมทของฉัน และเป็นเพื่อนสาวของฉัน แล้วเธอเห็นฉันเป็นอะไร? อีกอย่าง เธอเคารพสามีของฉันหน่อย สามีฉันไม่ใช่คนที่เธอจะมาว่าได้”
หงเสี่ยวเหมยตกตะลึง
ยังจะเสแสร้งอะไรอีก?
คิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าคนจนอย่างพวกเธอเป็นยังไง?
ก็หวังที่จะได้ผลประโยชน์จากฉันไม่ใช่เหรอ?
แล้วก็พูดประชดประชันว่า “หวางซี เธอจะตอแหลอะไรฉันอีก? ขายตัวแล้วยังอยากจะรักษาชื่อเสียง? ดูท่าทียากจนแบบนี้ของพวกเธอสิ เข้ามาในนี้ก็เพื่อขายไม่ใช่เหรอ มาทำตัวสูงส่งอะไรกัน ถ้าไม่ใช่เห็นแก่เราเคยเป็นรูมเมทกัน แค่การมาคุยกับเธอฉันยังรู้สึกอับอายขายหน้าเลย!”
หงเสี่ยวเหมยเชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง และพูดว่า “รู้ไหมว่าพวกคนที่ฉันคบหาด้วยเป็นใครบ้าง? แม้แต่ดาราดังอย่างซุนผิงก็เป็นเพื่อนสนิทของฉัน และผู้กำกับไป๋ก็เป็นเพื่อนของฉัน ฉันนึกไว้แล้ว ครั้งนี้ที่มาเมืองเฉียนถัง คนสนิทจนๆอย่างเธอจะต้องมาหาแน่นอน”
“ฉันอุตส่าห์ให้โอกาสเธอ เธอกลับไม่ขอบคุณฉันดีๆ ยังจะเลือกมากอีก เธอคิดว่ายังเป็นสาวบริสุทธิ์ไร้มลทินอยู่อีกหรือไง? เสียตัวไปตั้งกี่ครั้งกี่หนก็ไม่รู้แล้ว ยังจะเสแสร้งทำตัวใสซื่อบริสุทธิ์อีก นอนกินกับผัวไม่เอาถ่านแบบนี้ ไปหาคนรวยๆไม่ดีกว่าเหรอ”
หวางซีโกรธจนตัวสั่น ไม่คิดเลยว่าหงเสี่ยวเหมยจะเป็นคนแบบนี้ เธอจึงพูดอย่างเย็นชาว่า “เห็นแก่ที่เราเคยเป็นเพื่อนร่วมห้องกัน ฉันจะไม่ถือสาแล้ว ต่อไปถือว่าเราไม่รู้จักกัน!”
หลังจากที่พูดจบ เธอก็คิดจะดึงเย่เซิ่งเทียนจากไป
แต่ในขณะนี้ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินมา มีทั้งดารา ผู้กำกับและนักธุรกิจ
“ผู้กำกับไป๋?”
หงเสี่ยวเหมยรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา และพูดกับหวางซี่อย่างเย่อหยิ่ง “หวางซี่ ชีวิตนี้เธอไม่มีทางจินตนาการได้เลยว่าสังคมที่ฉันอยู่มีอำนาจมากแค่ไหน”
หวางซีเห็นคนพวกนั้น ล้วนเป็นผู้กำกับและดาราที่มีชื่อเสียง และบางคนก็ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเวลานี้
อู๋เฟิง หัวหน้าผู้นำตระกูลอู๋ก็อยู่ในนั้นเช่นกัน
“ผู้กำกับไป๋คะ ฉันชื่อหงเสี่ยวเหมยค่ะ เคยสัมภาษณ์กับคุณครั้งที่แล้ว ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอคุณที่นี่อีก”
หงเสี่ยวเหมยทักทายเขาด้วยใบหน้าที่ประจบประแจง ดูท่าทีแทบอดใจไม่ไหวอยากถอดเสื้อเสนอตัวซะเหลือเกิน
“อืม”
ไป๋เฉินพยักหน้าอย่างมีมารยาท สายตาของเขาจับจ้องไปที่เย่เซิ่งเทียนรู้สึกตื่นเต้นตระหนกไปหมด
ต้องคว้าโอกาสไว้ให้ได้และขอโทษอาจารย์เย่ มิฉะนั้น หลังจากนี้ต้องตายแน่!
แต่หงเสี่ยวเหมยคิดว่าไป๋เฉินถูกหวางซีดึงดูด ไม่พูดไม่ได้จริงๆว่าหวางซีเป็นคนที่สวยมากจริงๆ ถ้าหากคิดคะแนนเต็มร้อย หวางซีต้องได้เก้าสิบเจ็ดคะแนนขึ้นไปแน่นอน! แม้แต่เธอก็ยังรู้สึกอิจฉา
“ผู้กำกับไป๋ นั่นคือเพื่อนร่วมชั้นของฉันค่ะ ชื่อหวางซี ฉันจะแนะนำให้คุณรู้จักค่ะ ส่วนคนข้างๆเธอคือสามีแต่งเข้าบ้านที่ไม่ได้เรื่องของเธอ ไม่ต้องไปสนใจมันหรอกค่ะ”
หงเสี่ยวเหมยเป็นเหมือนดั่งขี้ข้า เธอรีบแนะนำอย่างรวดเร็ว แล้วยังผลักเย่เซิ่งเทียนออกอีกด้วย “ผู้กำกับไป๋คะ เพื่อนร่วมชั้นของฉันไม่เลวเลยใช่ไหมคะ? ขอแค่คุณชอบ เธอจะรู้สึกยินดีมากที่ได้รู้จักคุณค่ะ”
ไป๋เฉินตะลึง!
กว่าฉันจะหาโอกาสมาขอโทษอาจารย์เย่ได้ แต่เธอกลับผลักอาจารย์เย่หลบไปอยู่ข้างๆ?