เมืองศักดิ์สิทธิ์?!

เซี่ยปิงขมวดคิ้วขึ้นมา เขาก็ล่วงรู้ว่าเมืองศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นสำนักงานใหญ่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ข้างในมียอดฝีมือที่มากมายดั่งก้อนเมฆบนฟากฟ้า อีกทั้งยังมียอดฝีมือระดับจักรพรรดิถึงสามคน

หากเป็นก่อนหน้านี้ บางทีเขาอาจจะมีความสนใจที่จะพบปะกับผู้คนของเมืองศักดิ์สิทธิ์ ทว่าตอนนี้การที่รู้ว่ายวีชีชีและคนอื่นๆอยู่ที่ไหนนั้น เขาก็ไม่ต้องการที่จะเสียเวลาอยู่ในสถานที่แห่งนี้อีก

“ไว้ครั้งหน้า ตอนนี้ข้ามีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำ”

เซี่ยปิงกวักมือ

“มีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำ? เรื่องอะไรหรือ?” บาหลีหู่ถามขึ้นมาอย่างสงสัย

เซี่ยปิงยิ้มออกมาเล็กน้อย “เดินทางไปที่เมืองเทพเจ้ามังกร”

อะไรนะ?!

บาหลีหู่มองอย่างตกตะลึง ไปที่เมืองเทพเจ้ามังกร? นั่นคือสำนักงานใหญ่ของเผ่าพันธุ์ดราโกเนี่ยน มีการคุ้มกันที่แน่นหนายิ่งกว่าเมืองศักดิ์สิทธิ์เสียอีก ยอดฝีมือระดับจักรพรรดิทั้งหกคนก็อยู่ในเมืองแห่งนั้น มีพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งไม่สามารถมองข้ามได้

การที่เซี่ยปิงจะเดินทางไปที่นั่น มันจะไม่ใช่เป็นการนำพาภัยพิบัติมาสู่ตนเองหรือ?!

ทว่าไม่ทันรอให้เขาได้พูดอะไรออกมา วินาทีต่อมาเซี่ยปิงก็ได้บินทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า เดินทางออกไปจากบ้านของผู้ปกครองเมืองอย่างรวดเร็ว

ผู้คุ้มกันของเมืองร้อยลี้ก็เห็นเหตุการณ์นี้เช่นกัน ทว่าเมื่อเห็นว่าเป็นวีรบุรุษเซี่ยของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ได้เดินทางออกไปนั้น พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ละคนต่างก็ยืนอกผายไหล่ผึ่ง มองดูเซี่ยปิงเดินทางออกไปด้วยสีหน้าที่เคารพนับถือ

…………

หลังจากนั้นไม่กี่วัน

ณ เมืองเขามังกร นี่คือเมืองที่อยู่รอบนอกจากเมืองเทพเจ้ามังกรของเผ่าพันธุ์ดราโกเนี่ยน มันเป็นที่ล่วงรู้ว่าเป็นทางเข้าไปสู่เมืองเทพเจ้ามังกร เทียบเท่าได้กับป้อมปราการ เป็นที่รู้จักกันดีว่าคือป้อมปราการที่ไม่เคยถูกตีแตก

ในการที่จะบุกรุกเข้าไปในเมืองเทพเจ้ามังกรนั้น มีเพียงแค่การพิชิตเมืองเขามังกรเท่านั้นจึงจะมีโอกาส ทว่าตั้งแต่หลายหมื่นปีที่แล้ว เมืองเขามังกรก็ไม่เคยถูกทำลายผ่านไปได้ อย่าพูดถึงการที่จะบุกรุกเข้าไปในเมืองเทพเจ้ามังกรเลย

นอกจากนี้เนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของเมืองเขามังกรมีความสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงส่งผลให้เมืองมีชีวิตชีวาอย่างมาก กลายเป็นจุดศูนย์กลางของเศรษฐกิจที่มีมานานหลายหมื่นปี คึกคักกันอย่างมาก

ในช่วงเวลานี้ ณ ถนนเส้นหลักที่ห่างจากเมืองเขามังกรไป50กิโลเมตร กลุ่มของกองทัพดราโกเนี่ยนกำลังเดินอย่างช้าๆ มีจำนวนนับพันคน ทุกๆคนต่างก็ติดอาวุธกันครบครัน ทว่าข้างหลังของพวกเขาก็มีทาสมนุษย์จำนวนหลายหมื่นคนที่ติดตามมาเช่นกัน

ก่อนหน้านี้กองทัพดราโกเนี่ยนนี้ได้บุกรุกเข้าไปในเมืองของมนุษย์เมืองหนึ่งและได้จับตัวนักโทษเหล่านี้มา

ในตอนนี้ ทั่วทั้งร่างกายของทาสมนุษย์เหล่านี้ต่างก็ถูกตรวนไว้ด้วยโซ่เหล็ก มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทว่าแต่ละคนมีใบหน้าที่เหลืองซูบซีด ดูไร้เรี่ยวแรง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้หิวโหยมาเป็นระยะหลายวัน

สายตาของพวกเขานั้นต่างก็อดอาลัยตายอยาก เหมือนกับจะไม่มีความหวังกับโลกใบนี้

“ใกล้ถึงเมืองเขามังกรแล้ว พวกทาสเดินให้มันเร็วกว่านี้ หากเดินช้าแม้แต่ก้าวเดียว พ่อจะหักขาของพวกเจ้าซะ” เจ้าหน้าที่ดราโกเนี่ยนตะโกนเสียงดังออกมา เตือนทาสมนุษย์เหล่านี้ให้เดินเร็วขึ้นอีก

“ไม่ ข้าทำไม่ได้ การที่เดินมาเป็นระยะเวลาสามวันสามคืนและแม้แต่น้ำหยดเดียวก็ไม่ได้ดื่มนั้น ข้าไม่สามารถที่จะเดินต่อได้อีกแล้ว” ทันใดนั้นก็มีทาสมนุษย์คนหนึ่งที่อดทนไม่ได้อีกต่อไป ตะโกนออกมาทันทีและล้มลงไปกับพื้น

ปัง!

ทันทีที่ทาสมนุษย์ล้มลงไป ทหารดราโกเนี่ยนที่อยู่ด้านข้างก็ได้นำแส้ออกมาทันทีและฟาดออกไปพร้อมกับสบถต่อว่า “กลุ่มของพวกสุนัข เดินทางเพียงไม่กี่ก้าว ไม่ได้กินอาหารเพียงไม่กี่วัน กลับส่งเสียงร้องน่ารำคาญอยู่ที่นี่ เสแสร้งทำเป็นเดินไม่ได้ แต่ละคนต่างก็ขี้เกียจสันหลังยาว ข้าจะฟาดเจ้าจนกว่าเจ้าจะเดินได้!”

เขาได้ฟาดแส้ออกไป ทาสมนุษย์ที่อยู่ที่พื้นถูกแส้นี้ฟาดเข้าไปเต็มๆ เลือดไหลออกมา ส่งเสียงร้องน่าสมเพชออกมาอย่างต่อเนื่อง ฟาดจนกว่าทาสมนุษย์คนนี้จะลุกขึ้นมาได้

ทว่าก็มีทาสมนุษย์บางคนที่หิวโหยอย่างถึงที่สุดและไม่สามารถที่จะต้านทานแสงแดดที่ร้อนระอุได้ ล้มลงไปโดยตรง คอพับลงไป ไม่สามารถที่จะลุกขึ้นมาได้อีก เห็นได้ชัดว่าตายไปแล้ว

“เสแสร้งทำเป็นตาย เจ้าบัดซบนี่เสแสร้งทำเป็นตายที่นี่ รีบลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ มนุษย์อย่างพวกเจ้าเป็นได้เพียงแค่ทาสของพวกเราเผ่าพันธุ์ดราโกเนี่ยนเท่านั้น หากไม่เป็นทาสล่ะก็ พวกเจ้าจะมีคุณค่าอะไรอีก” ทหารดราโกเนี่ยนคนนี้พูดไปด่าไป ยังคงทุบฟาดซากศพของมนุษย์ที่พื้นอย่างรุนแรง เกือบที่จะฟาดจนชิ้นเนื้อกระจุยกระจายออกมา

“เหอะ ดูเหมือนว่าจะตายไปจริงๆ ช่างอ่อนแอยิ่งนัก”

ทหารดราโกเนี่ยนคนนั้นก็ค้นพบว่าการที่ตนเองได้ฟาดจนถึงขั้นนี้ เจ้ามนุษย์คนนั้นกลับไม่ลุกขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าตายโดยที่ไม่สามารถตายได้อีก ทว่าเขาก็ไม่ได้สนใจ ถึงอย่างไรซะที่นี่ก็มีทาสมนุษย์อยู่อีกเป็นหมื่นคน ตายไปเพียงไม่กี่คนก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร

“เจ้าบัดซบ!”

ทาสมนุษย์จำนวนมากต่างก็กำหมัดขึ้นมาพร้อมกับกัดฟันอย่างแน่น หน้าอกของพวกเขาเต็มไปด้วยความเดือดระอุ เมื่อมองเห็นพวกพ้องมนุษย์ที่ได้ตายไป พวกเขาก็รู้สึกโศกเศร้าอย่างถึงที่สุด

เมื่อใดที่ได้เข้าไปในเมืองเขามังกรนั้น ทั้งชีวิตของพวกเขาจะต้องจบสิ้น เป็นไปไม่ได้ที่จะหลบหนี ทายาทแต่ละรุ่นของพวกเขาก็จะต้องกลายเป็นทาสรับใช้เผ่าพันธุ์ดราโกเนี่ยนเช่นกัน

ทว่าพวกเขาก็ล่วงรู้เหมือนกันว่าดราโกเนี่ยนนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก พวกเขาไม่สามารถที่จะต่อกรด้วยได้

แม้แต่เมืองมนุษย์ก็ถูกฝ่าทะลวงเข้ามาได้อย่างง่ายดายโดยกองทัพดราโกเนี่ยนเหล่านี้ ตอนนี้พวกเขาที่ไร้อาวุธและไร้อุปกรณ์ป้องกันนั้น เป็นไปได้อย่างไรที่จะต่อสู้กับกลุ่มดราโกเนี่ยนเหล่านี้

“ลืมมันไปเถอะ อย่าสังหารพวกเขา นี่คือสินค้าที่ล้ำค่าของบรรดาขุนนาง ในอนาคตจะขายได้ในราคาที่งดงาม หากสังหารพวกเขาไป จะทำให้บรรดาขุนนางสูญเสียความมั่งคั่งไปอย่างมหาศาล เมื่อถึงเวลานั้นพวกเจ้าอาจจะต้องรับผิดชอบ”

กัปตันดราโกเนี่ยนได้เริ่มพูดออกมา ขัดขวางพฤติกรรมที่รุนแรงของกลุ่มทหารดราโกเนี่ยนเหล่านี้

“รับทราบ กัปตัน”

ทหารดราโกเนี่ยนจำนวนมากก็รับคำสั่งในทันที ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่สนใจชีวิตของทาสมนุษย์เหล่านี้ ทว่าก็ยังคงเกรงกลัวขุนนางดราโกเนี่ยน เพราะว่าถึงอย่างไรฝ่ายตรงข้ามนั้นก็ควบคุมความเป็นความตายของพวกเขา

การที่ก่อเรื่องให้ขุนนางดราโกเนี่ยนเดือดระอุขึ้นมานั้น พวกเขาเกรงกลัวว่าตนเองจะต้องรับกับผลที่จะตามมา

“กัปตัน เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมานี้เป็นความจริงหรือ? ว่ากันว่ากองทัพดราโกเนี่ยนที่โจมตีเมืองมนุษย์แห่งหนึ่งได้พ่ายแพ้ไปอย่างราบคาบ ดราโกเนี่ยนระดับราชันหนึ่งร้อยคนถูกสังหารจนตายไปทั้งหมด ทหารนับล้านถูกกองทัพของเผ่าพันธุ์มนุษย์ฆ่าล้าง”

ทหารดราโกเนี่ยนคนหนึ่งที่ถามขึ้นมาอย่างสงสัย เพราะว่าข้อเท็จจริงนี้มันใหญ่โตเกินไป ไม่สามารถที่จะปกปิดได้ ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตทั่วทั้งทวีปเทพเจ้ามังกรล่วงรู้ถึงเรื่องนี้

แม้แต่ทหารอย่างพวกเขาก็ได้รับข่าวมามากมาย ดังนั้นนี่จึงทำให้พวกเขาเกลียดชังมนุษย์มากขึ้นไปอีก ระบายความโกรธแค้นของการสูญเสียราชันจำนวนมากของเผ่าพันธุ์ไปกับทาสมนุษย์เหล่านี้

“เป็นความจริง”

กัปตันดราโกเนี่ยนพยักหน้า “ข้าได้ยินขุนนางบางคนที่พูดคุยถึงเรื่องนี้เช่นกัน บอกว่ามีราชันของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ทรงอำนาจปรากฏตัวขึ้นมา มีพลังอำนาจที่เทียบได้กับระดับจักรพรรดิ มีชื่อว่าเซี่ยปิง”

“เป็นเขาเองที่ลงมือสังหารดราโกเนี่ยนระดับราชันหนึ่งร้อยคนของพวกเรา”

อะไรนะ?!

ทหารดราโกเนี่ยนที่พูดออกมาอย่างตกใจ “เป็นไปได้หรือไม่ว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์จะมีจักรพรรดิคนที่สี่กำเนิดขึ้นมา?”

ตอนนี้เผ่าพันธุ์ดราโกเนี่ยนนั้นมีความได้เปรียบ พวกเขามีจักรพรรดิหกคน ทว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์มีเพียงสาม หากมีมากขึ้น บางทีความแตกต่างระหว่างเผ่าพันธุ์ก็อาจจะลดน้อยลง

บางทีหากเวลาผ่านไปมากกว่านี้ เผ่าพันธุ์มนุษย์อาจจะมียอดฝีมือในระดับจักรพรรดิคนที่ห้าและคนที่หกปรากฏขึ้นมาก็เป็นได้

ซึ่งหากเป็นในกรณีนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาเผ่าพันธุ์ดราโกเนี่ยนจะมีอำนาจเหนือทวีปเทพเจ้ามังกรอีก

ทาสมนุษย์จำนวนมากก็ได้ยินคำพูดเหล่านี้เช่นกัน พวกเขาแอบตื่นเต้นและดีใจอยู่ในความรู้สึกลึกๆ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะกลายเป็นนักโทษ ทว่าการที่ได้ยินดราโกเนี่ยนระดับราชันจำนวนมากเช่นนี้ถูกสังหารไปนั้น ก็ยังคงทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก คิดว่าความโกรธแค้นครั้งนี้ได้รับการชำระแล้ว

“ไม่ต้องเป็นกังวล”

กัปตันดราโกเนี่ยนแสยะออกมา “เรื่องนี้ได้ทำให้ท่านจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เดือดระอุและถ่ายทอดคำสั่งฆ่าของดราโกเนี่ยนออกมา แม้แต่ท่านจักรพรรดิก็จะลงมือด้วยตนเอง เพื่อกำจัดเจ้ามนุษย์คนนี้ให้ได้ คาดการณ์ได้ว่าในอีกไม่นาน เจ้ามนุษย์เซี่ยปิงนี่ก็จะต้องตาย การที่เผ่าพันธุ์มนุษย์จะมียอดฝีมือในระดับจักรพรรดิคนที่สี่นั้นก็จะเป็นเพียงแค่เรื่องที่เพ้อฝัน”

ทหารดราโกเนี่ยนจำนวนมากก็พยักหน้า หากดราโกเนี่ยนระดับจักรพรรดิเคลื่อนไหวด้วยตนเอง ไม่ว่าเจ้ามนุษย์คนนั้นจะมีพรสวรรค์มากแค่ไหน ก็จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย