บทที่ 277 “สนิทสนม” สองคำ

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

“เจ อะไรเหรอ?”

ตอนที่เส้นหมี่และผู้ช่วยคนนี้ที่ถกเถียงกันอยู่ตรงหน้าประตูนั้น ในคฤหาสน์ แครอทที่อาบน้ำออกมาแล้วได้ยินความเคลื่อนไหวอยู่ทางด้านนอก ก็เอ่ยถามขึ้นมาจากทางด้านบน

ผู้ช่วยถึงได้สติกลับมา แล้วรีบวิ่งเข้าไป

หลังจากนั้นไม่กี่นาที เส้นหมี่ที่อยู่ทางด้านนอกประตู ก็ถูกพาเข้าไปในที่สุด

“ฉันยังรู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อยจริงๆนะคะ ไม่คิดว่าคุณจะมารับเขา”

แครอทที่ได้เจอหน้ากันอีกครั้ง บนร่างกายสวมเพียงแค่ชุดคลุมอาบน้ำเท่านั้น ผมยาวสีไวน์นุ่มสลวยปกคลุมลงมา เธอถือแก้วไวน์มาสองแก้ว แก้วหนึ่งวางไว้ตรงหน้าของเส้นหมี่

และอีกแก้วหนึ่ง แล้วจิบไวน์ด้วยท่าทางที่เนือยๆ

เส้นหมี่ไม่ได้รับแก้วไวน์นั้น หลังจากที่เข้ามาแล้วนั้นสายตาของเธอก็มองไปรอบๆเพื่อหาคนที่เธอจะมารับ

แต่น่าเสียดายที่เธอไม่เห็น

“ทำไมต้องประหลาดใจด้วยล่ะคะ? ฉันมารับเขาเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ?”

“ไม่ปกติอยู่แล้วสิคะ ข้อแรก พวกคุณไม่ใช่สามีภรรยากันจริงๆ ข้อสอง ฉันไปส่งเขากลับเองได้ คุณเส้นหมี่ ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเขา สนิทสนมกันมากกว่าที่คุณคิดเอาไว้มากนะ”

เธอพูดตรงไปตรงมาเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแค่ปฏิเสธกับคำพูดของเส้นหมี่เท่านั้น

แม้กระทั่งในตอนสุดท้ายเธอยังเอ่ยพูดถึงคำว่า “สนิทสนม”สองคำนี้อีกด้วย

สีหน้าของเส้นหมี่นั้นซีดเผือดลงทันที

ไม่คิดว่าเธอจะรู้ว่าพวกเขาไม่ใช่สามีภรรยากันจริงๆ?

และยังมีว่าทำไมจู่ๆเธอถึงได้เอ่ยขึ้นใช้ถ้อยคำแบบนี้? หรือว่าตอนเช้าที่เธอไป ความจริงแล้วเห็นเธอที่อยู่ชั้นสามเป็นที่เรียบร้อยแล้วกัน?

แล้วจู่ๆเธอก็นึกถึงตอนเด็กๆข่าวลือเรื่องที่ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเด็กอัจฉริยะ ทันใดนั้นเองเธอก็มองสบตาคู่นั้นที่กำลังมองถากถางตัวเองอยู่ ดูเหมือนกับถูกคนถอดเสื้อผ้าออกแล้วยืนเปลือยอยู่ตรงนั้นเลยอย่างไรอย่างนั้น

ช่างเป็นการดูถูกเหลือเกิน!

“คุณกำลังสอดแนมฉันอยู่?”

“คุณคิดมากแล้วล่ะ ทำไมฉันจะต้องสอดแนมเรื่องคุณด้วย? คุณต่างหากที่เขียนความรู้สึกของคุณไว้บนหน้าน่ะ คุณดูสิ คืนนี้ที่คุณมา ความจริงแล้วไม่แน่ว่าจะมารับเขาหรอก คุณหยิบยืมสาเหตุนี้มาก็เพื่อมาหาฉันใช่ไหม?”

“…….”

“คุณอยากจะถามฉัน ว่าตอนนั้นทำไมฉันถึงพูดว่าคุณเป็นระเบิดเวลาใช่ไหม? และคุณยังอยากรู้ด้วยว่าฉันกับเขาสรุปแล้วเรามีความสัมพันธ์อะไรแน่ใช่ไหม?”

ผู้หญิงคนนี้ถือแก้วไวน์เอาไว้ในมือ แล้วเอ่ยพูดออกมาอย่างเอื่อยๆ

ทั้งๆที่เป็นเรื่องที่น่ากลัวขนาดนั้น แต่เวลานี้หลังจากที่ออกมาจากปากของเธอแล้ว แต่กลับกำลังพูดคุยได้อย่างหลีกเลี่ยงปัญหาสำคัญเหมือนกับเรื่องสัพเพเหระทั่วไปอย่างนั้น

ใบหน้าของเส้นหมี่ไม่มีสีของเลือดฟาดอยู่เลย!

เธอเองก็เป็นหมอ มีความเกี่ยวเนื่องไปถึงจิตวิทยาด้วยเช่นกัน แต่เวลานี้ ได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้วกลับทำให้เหงื่อออกไปทั้งตัว และรู้สึกขนลุกอีกด้วย!

เหมือนกับว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นไม่ใช่คน แต่เป็นปิศาจร้ายที่ออกมาจากตรงนั้น หล่อนใช้ดวงตาคู่นั้นสอดแนมในส่วนลึกที่สุดในใจของเธอ แล้วเอาลอกออกมาวางเอาไว้อีก

น่ากลัวเหลือเกิน!

“คุณ–”

“คุณไม่ต้องตื่นเต้นหรอก วางใจได้ ที่คุณอยากจะถาม ฉันจะบอกคุณทั้งหมด ตอนนี้สิ่งที่คุณอยากรู้มากที่สุด ก็คือความสัมพันธ์ของฉันกับเขาใช่ไหม? ได้ ถ้าอย่างนั้นเราก็เริ่มพูดกันถึงตรงนี้ก่อนแล้วกัน ฉันกับเขาความจริงแล้วเริ่มต้นก็เป็นความสัมพันธ์ของคนไข้ แต่จากที่ฉันรักษาเขา พวกเราอยู่ด้วยกันเป็นเงาตามตัวกันตลอดเวลา เขาก็ค่อยๆเกิดความรู้สึกอาลัยอาวรณ์อย่างลึกซึ้งกับฉัน ต่อมาทั้งสองครอบครัวก็ให้พวกเราแต่งงานกัน และเขาก็ไม่ได้คัดค้านด้วยเหมือนกัน”

“!!!”

เส้นหมี่เหมือนกับถูกฟ้าผ่า รูม่านตาสั่นไหวอย่างรุนแรง

แต่งงาน?

ไม่คิดว่าพวกเขาสองคนจะแต่งงานกัน?!!

สมองของเธอนั้นกลายเป็นความว่างเปล่า……

แครอทเห็นท่าทางนี้ของเธอแล้ว มุมปากก็ยิ่งเผยความเยาะเย้ยออกมามากขึ้น : “ตกใจล่ะสิ? คุณวางใจได้ ฉันไม่ได้ตอบตกลงหรอก ฉันไม่สนใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นหลังจากที่พวกเขายื่นข้อเสนอออกมาแล้ว ฉันก็หนีไปแล้ว”

เส้นหมี่ : “……”

และก็เหมือนกับเป็นศตวรรษที่ยาวนานมากอีกครั้ง เธอยืนงงมองผู้หญิงคนนี้อยู่ตรงนั้น ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ

พวกเขาทั้งสองคน สุดท้ายแล้วคือเธอหนีไป

หรือจะพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ถ้าหากเธอไม่หนีไป ตอนนั้นเธอก็จะกลายมาเป็นภรรยาของเขา อีกทั้งเขายังอยากจะแต่งงานกับเธออีก เป็นแบบนี้ใช่หรือเปล่า?

ถ้าอย่างนั้นในใจของเขาเธออยู่ในตำแหน่งอะไรกันแน่?

เธอต่างห่างถึงจะเป็นคนรักที่เขาไม่สามารถแต่งงานด้วยใช่หรือเปล่า? ช่วงเวลานั้น เป็นช่วงที่กำลังลำบากมาก เธอในฐานะที่เป็นจิตแพทย์ของเขา จะต้องคอยประคับประคองความชื่อและความหวังทั้งหมดของเขา ถึงจะทำให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไปได้

น้ำหนักเช่นนี้ ใครจะสามารถเทียบได้กัน?

เส้นหมี่นึกไปถึงฉากเมื่อเช้าที่ตัวเองเห็นตอนอยู่บนชั้นสาม ความสนิทสนมและความคุ้นเคยที่เธอรู้สึกอิจฉาแบบนั้น ทันใดนั้นเองในอกก็รู้สึกแย่เหมือนกับหายใจไม่ออก รู้สึกว่าบาดแผลในใจที่หายสนิทมาไม่นานของตัวเองนั้นค่อยๆฉีกออกมาทีละนิดๆ เลือดหยดลงด้วยความเจ็บปวดเสียจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป!

“ดังนั้นในตอนนั้นที่คุณแต่งงานกับเขาอย่างกะทันหัน ฉันรู้สึกไม่เข้าใจมากๆเลยว่าคุณท่านตระกูลหิรัญชาทำไมถึงทำแบบนั้น? ทั้งๆที่เขารู้ดีถึงสถานการณ์ของลูกชายตัวเองดีกว่าใคร”

“…….”

ประโยคนี้น่ากลัวมากเหลือเกิน เป็นเวลานาน เส้นหมี่ถึงได้ยินตัวเองเอ่ยถามขึ้นมา : “คุณ….หมายความว่าอะไร?”

แครอทยักไหล่ขึ้น : “ฉันไม่รู้ ฉันรู้สึกว่ามันแปลกมาก หลังจากที่ฉันหนีไป สภาพจิตใจของเขาก็ย่ำแย่มากถึงขั้นสุด ตอนนั้นไม่ใช่ว่าควรจะเป็นการปลอบประโลมเขาก่อนเหรอคะ? ทำไมยังต้องบังคับให้เขาต้องแต่งงานกับคุณด้วย? หรือว่าอยากจะใช้วิธีแบบนี้เพื่อเป็นการปิดปากพยานที่รอดมาได้อย่างคุณก่อน?”

แล้วจู่ๆดวงตาของแครอทก็เป็นประกายขึ้นมา

ผู้หญิงคนนี้ ไอคิวสูงมากถึง แต่ในบางที่ ก็กลายเป็นคนโง่ปัญญาอ่อน

เส้นหมี่ไม่ได้พูดออกมาแล้ว

เธอเพียงแค่รู้สึกถึงน้ำเย็นที่รดลงบนศีรษะของเธอจนมิด แสงสว่างทั้งหมดหายไป เธอยืนอยู่ตรงนั้น เหมือนกับมีโรคภัยไข้เจ็บมาเยือนอย่างถล่มทลาย แม้แต่ยืนให้มั่นคงนั้นก็เกือบจะยืนไม่ได้เลย

หมดหนทางจนปัญญา แต่ก็เพียงเท่านี้เหมือนกัน