เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1200 วิญญาณอมตะลมหายใจมังกร

แปลโดย iPAT

“ถูกต้อง นี่คือข้อได้เปรียบของข้า จากนี้ไปข้าจะทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่!”

“ข้าจะใช้สิ่งนี้เพิ่มความเร็วในการบ่มเพาะของตนเอง”

“ด้วยวิธีนี้ข้าจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ นิกายจะต้องการข้ามากขึ้น เมื่อข้าบรรลุระดับเดียวกับผู้อาวุโสฟางหยวน แต้มผลงานทั้งหมดของนิกายจะเป็นของข้าเพียงผู้เดียว!”

“ผมที่สิบสอง เจ้าต้องทำงานหนักต่อไปและก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด!”

เจตจำนงแห่งการต่อสู้ของผมที่สิบสองพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง

ในขณะที่เขานึกถึงฟางหยวน เขามองไปยังชื่อแรกที่อยู่ในตารางผลงานของนิกายหลางหยาโดยไม่รู้ตัว

เมื่อพันธมิตรสี่เผ่าพันธุ์ถือกำเนิดขึ้น ฟางหยวนได้รับแต้มผลงานหนึ่งพันแต้มและทำให้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนรู้สึกอิจฉา

แต่ไม่นานมานี้ฟางหยวนสร้างภารกิจหลอมรวมวิญญาณและใช้จ่ายแต้มผลงานไปมากมาย นั่นทำให้แต้มผลงานของเขาลดลงอย่างต่อเนื่อง

ชื่อของฟางหยวนยังอยู่ในอันดับแรกแต่ช่องว่างระหว่างเขากับผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนคนอื่นๆก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนส่วนใหญ่กำลังรอเวลาที่จะก้าวข้ามฟางหยวน

ฟางหยวนเป็นผู้อมตะเผ่ามนุษย์ที่มีพลังการต่อสู้ระดับแปด หากชื่อของผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนคนใดก้าวนำชื่อของฟางหยวน พวกเขาจะรู้สึกว่าตนเองมีความพิเศษ

มันจะเป็นช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ของพวกเขา

อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาต่อมาร่างกายของผมที่สิบสองกลับกลายเป็นแข็งทื่อ

เขาหยุดนิ่งราวกับรูปปั้นหินเพราะตัวเลขที่อยู่ด้านหลังชื่อของฟางหยวน

‘มากกว่าหนึ่งหมื่นห้าพันแต้ม! นี่เป็นไปได้อย่างไร!?’ ผมที่สิบสองรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

ตั้งแต่นิกายหลางหยาก่อตั้งขึ้น นี่เป็นตัวเลขที่สูงที่สุด

เหลือเชื่อ!

มันคือประวัติการณ์!

หัวใจของผมที่สิบสองสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรงแต่ฉากต่อมายิ่งทำให้เขาตกใจมากขึ้น

แต้มผลงานของฟางหยวนยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ!

หนึ่งหมื่นห้าพัน หนึ่งหมื่นแปดพัน สองหมื่น สามหมื่น ห้าหมื่น หกหมื่น…

บ้าไปแล้ว!

“ทะลุ…แปดหมื่น!” ผมที่สิบสองตะลึง สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือแต้มผลงานของฟางหยวนยังไม่มีวี่แววว่าจะหยุดเพิ่มขึ้น!

แต่เมื่อถึงเก้าหมื่นแต้ม แต้มผลงานของฟางหยวนก็ลดลงมากกว่าเจ็ดหมื่นแต้มอย่างกะทันหัน

“เกิดสิ่งใดขึ้น!?”

“ข้าตาฝาดงั้นหรือ?”

“หรือมันคือความฝัน?”

“อา…ไม่!”

ทันใดนั้นร่างกายของผมมี่สิบสองพลันสั่นสะท้านขึ้น เขาตระหนักถึงบางสิ่ง

“แต้มผลงานเจ็ดหมื่นแต้มหายไปอย่างกะทันหัน นี่หมายความว่าฟางหยวนใช้มันแลกเปลี่ยนกับวิญญาณอมตะบางดวง เขาไม่ได้แลกเปลี่ยนวิญญาณอมตะทาสสัตว์อสูรของข้าใช่หรือไม่?”

ผมที่สิบสองรีบตรวจสอบข้อมูล

หลังจากตรวจสอบ เขาจึงสามารถพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก “เขาไม่ได้แลกเปลี่ยนวิญญาณอมตะทาสสัตว์อสูรแต่เป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ดดวงหนึ่ง มันเป็นสิ่งที่ดีตราบเท่าที่มันไม่ใช่วิญญาณอมตะทาสสัตว์อสูร”

ผมที่สิบสองหมดสติไปหลังจากนั้น

เขาได้รับบาดเจ็บจากการหลอมรวมวิญญาณ อารมณ์ที่ปะทุขึ้นอย่างกะทันหันทำให้เขาหมดสติหลังจากผ่อนคลายลง

เมื่อบรรลุเป้าหมาย ฟางหยวนกลับไปยังเมืองเมฆาของเขา

ในห้องลับ ฟางหยวนนำวิญญาณอมตะดวงใหม่ออกมา

มันดูคล้ายกลุ่มเมฆหมอกสีม่วงอ่อนที่อยู่ในรูปลักษณ์ของมังกร

วิญญาณอมตะระดับเจ็ด ลมหายใจมังกร!

ฟางหยวนเลือกท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นมังกรดาบเพราะในคลังสมบัติของนิกายหลางหยามีวิญญาณอมตะดวงนี้

เพื่อแลกเปลี่ยนกับมัน ฟางหยวนต้องขายดวงวิญญาณของผู้อมตะทั้งหมดพร้อมกับข้อมูลการบ่มเพาะจำนวนมากที่เขาได้รับจากการค้นวิญญาณ

โดยธรรมชาติฟางหยวนเก็บข้อมูลบางส่วนเอาไว้ ตัวอย่างเช่นข้อมูลบนเส้นทางแห่งปัญญาของตงฟางชางฟาน ข้อมูลเกี่ยวกับมรดกของไห่ฟาน และอื่นๆ

สิ่งเหล่านี้ทำให้แต้มผลงานของฟางหยวนบบรรลุถึงระดับเก้าหมื่นแต้ม ในอนาคตอันใกล้เป็นเรื่องยากที่ฟางหยวนจะได้รับแต้มผลงานระดับนี้อีก

ฟางหยวนใช้แต้มผลงานเจ็ดหมื่นแต้มแลกกับวิญญาณอมตะระดับเจ็ดลมหายใจมังกร

แม้แต้มผลงานของเขาจะลดลงแต่ชื่อของเขายังอยู่บนจุดสูงสุดของตารางผลงาน

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนที่อยู่ในอันดับสองมีแต้มผลงานหลักพันแต้มเท่านั้น

นี่เป็นช่องว่างขนาดใหญ่

ตำแหน่งของฟางหยวนมั่นคงราวกับภูผา

แน่นอนว่าฟางหยวนไม่สนใจเรื่องเหล่านี้

นอกจากนั้นเขายังไม่รู้ว่าผมที่สิบสองได้ร้บผลกระทบอย่างมากจากเหตุการณ์นี้และกระทั่งหมดสติไป

ไม่ใช่ทุกคนในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาที่จะสามารถแลกเปลี่ยนวิญญาณอมตะ โดยเฉพาะวิญญาณอมตะทาสสัตว์อสูร จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเก็บมันไว้ให้กับผมที่สิบสองโดยเฉพาะ

แม้ฟางหยวนจะต้องการแลกเปลี่ยนมัน เขาก็ไม่สามารถทำได้

นอกจากนี้วิญญาณบัวสวรรค์อมตะก็ไม่สามารถแลกเปลี่ยนเช่นกัน

เดิมทีวิญญาณอมตะระดับแปดดวงนี้เป็นของเทพอมตะบัวสวรรค์ แต่ต่อมามันถูกหลอมรวมขึ้นใหม่โดยบรรพชนผมยาวและถูกรวมเข้ากับคฤหาสน์วิญญาณอมตะหม้อหลอมรวมของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

แม้นิกายเงาจะสามารถฉกชิงบางส่วนของคฤหาสน์วิญญาณอมตะหม้อหลอมรวม แต่วิญญาณบัวสวรรค์อมตะยังอยู่

สิ่งสำคัญก็คือมันไม่คุ้มค่าที่จะจ่ายด้วยราคามหาศาลเพื่อแลกเปลี่ยนกับมัน

ฟางหยวนใช้เวลาพอสมควรก่อนที่จะสามารถผสานวิญญาณอมตะลมหายใจมังกรระดับเจ็ดเข้าไปในท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นมังกรดาบ

วิญญาณอมตะลมหายใจมังกรมีความเกี่ยวข้องกับท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นมังกรดาบโดยธรรมชาติ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะหลอมรวมกัน

ยิ่งไปกว่านั้นฟางหยวนยังเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง

ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณอมตะลมหายใจมังกร ฟางหยวนจึงไม่ต้องการวิญญาณลมหายใจมังกรระดับมนุษย์อีกต่อไป

เช่นเดียวกับท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของไห่ฟาน ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณปีอมตะ ฟางหยวนไม่จำเป็นต้องพึ่งพาวิญญาณปีระดับมนุษย์อีก

วิญญาณอมตะจะทำให้ทุกอย่างสะดวกสบายมากขึ้น

นอกจากนั้นมันยังลดความยุ่งยากในการกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอีกด้วย

สิ่งสำคัญที่สุดคือพลังอำนาจของท่าไม้ตายจะพุ่งสูงขึ้นอีกมาก!

ฟางหยวนสูดหายใจลึกก่อนจะเปลี่ยนร่างเป็นมังกรดาบอีกครั้ง

แสงสีเงินพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า

เพียงสิ่งนี้ฟางหยวนก็ตระหนักแล้วว่าพลังอำนาจของมังกรดาบเพิ่มขึ้นหลายเท่า

มังกรดาบปรากฏตัวขึ้น ตอนนี้ร่างกายของมันมีขนาดใหญ่ขึ้นสองเท่า

ดวงตาของมันยังเป็นสีขาว เกล็ดของมันใหญ่และหนาขึ้น เดิมทีมันเป็นมังกรสองกรงเล็บ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นมังกรสี่กรงเล็บ เขาของมันยื่นออกมาและพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า

ฟางหยวนตรวจสอบและตระหนักว่าคุณภาพของมันเพิ่มสูงขึ้นในทุกแง่มุม

‘หลังจากเพิ่มวิญญาณอมตะลมหายใจมังกรระดับเจ็ดเข้าไป ตอนนี้มันกลายเป็นมังกรดาบบรรพกาลไปแล้ว’ ฟางหยวนประเมิน

ด้วยวิธีนี้ท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นมังกรดาบจึงเพียงพอที่จะใช้ในงานประลองทุ่งโลหิต

มังกรดาบบรรพกาลในปัจจุบันสามารถเทียบเคียงกับผู้อมตะระดับเจ็ด

ส่วนถัดไปเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ฟางหยวนรู้สึกประหม่าเล็กน้อยอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยง

เขายืดร่างมังกรออกเบาๆและบินไปที่ผลึกหมึกดำก้อนใหม่

ลมหายใจมังกร!

ฟางหยวนเปิดปากและพ่นลมหายใจออกไป

แสงดาบสีขาวบริสุทธ์พุ่งออกมาและตัดผลึกหมึกดำออกเป็นสองส่วนในเสี้ยวพริบตา

นอกจากนั้นแสงดาบยังเหลือพลังอำนาจเพียงพอที่จะทำลายห้องลับทั้งหมด

เมืองเมฆาของฟางหยวนเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรง

‘ลมหายใจมังกรสามารถตัดผลึกหมึกดำได้อย่างง่ายดายและยังมีพลังเหลืออยู่เล็กน้อย’ ความสุขปรากฏขึ้นในดวงตาของมังกรดาบบรรพกาล

ฟางหยวนปล่อยพลังออกมาเพียงเล็กน้อยแต่สภาพแวดล้อมรอบตัวเขากลับไม่สามารถรับมือ

เมืองเมฆาเป็นคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์ แน่นอนว่ามันไม่สามารถต่อต้านลมหายใจมังกรดาบบรรพกาล

องุ่นเขียวอมตะยังถูกใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษารูปลักษณ์ของมังกรดาบบรรพกาลเอาไว้

เห็นได้ชัดว่ามันมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นหลายเท่า

ที่ใดมีกำไร ที่นั่นย่อมมีขาดทุน

ท้ายที่สุดแล้ววิญญาณอมตะลมหายใจมังกรก็เป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ด มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดเหตุการณ์นี้

‘ข้าไม่สามารถฝึกฝนอยู่ในเมืองเมฆาอีกต่อไป แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีผู้สังเกตการณ์อยู่มากมาย แต่หากข้าออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ข้าจะดึงดูดความสนใจของเจตจำนงสวรรค์’

‘ดูเหมือนข้าต้องวางมิติช่องว่างจักรพรรดิลงและทดสอบขีดจำกัดของท่าไม้ตายนี้’

‘ลมหายใจมังกรที่ข้าส่งออกไปก่อนหน้าบรรลุระดับเจ็ดแล้ว ผลลัพธ์ของมันโดดเด่นมาก แต่มันจะมีพลังอำนาจถึงระดับใดหากข้าใช้ท่าไม้ตายอมตะดาบประหารชีวิต ท่าไม้ตายอมตะลอบสังหารในความมืด หรือท่าไม้ตายอมตะคลื่นดาบสามชั้นด้วยร่างมังกรดาบบรรพกาล?’

ฟางหยวนเต็มไปด้วยความคาดหวัง

เขาบินออกจากเมืองเมฆาทันที

‘ฟางหยวนออกไปแล้ว เขาแลกเปลี่ยนวิญญาณอมตะลมหายใจมังกรเพื่อสิ่งใด?’ ผมที่หกลอบตรวจสอบฟางหยวนอย่างใกล้ชิดกระทั่งฟางหยวนกระตุ้นใช้ค่ายกลวิญญาณขนส่งและหายตัวไป ณ จุดนั้น

หลังจากผมที่หกเรียนรู้เกี่ยวกับแต้มผลงานของฟางหยวน เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

ความเร็วในการพัฒนาของฟางหยวนเกินความคาดหมายของเขาอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังไม่รู้ว่าฟางหยวนจะเติบโตไปในทิศทางใด

‘ฟางหยวนจะไม่แลกเปลี่ยนวิญญาณอมตะหากมันไม่มีประโยชน์ต่อเขา ไม่ ข้าต้องรายงานเรื่องนี้กับท่านอิงอู๋เซี่ยโดยเร็วที่สุด!’ ผมที่หกเต็มไปด้วยความกังวล