แดนนิรมิตเทพ บทที่ 461
เฉินโม่กลับสู่มุมห้อง นั่งคนเดียวที่ตรงนั้น แล้วหลับตาลงบำรุงจิตต่อไป

คนอื่นๆเองก็พยายามออกห่างจากเขา แล้วยังคอยหันมองด้วยสายตาเยาะเย้ยอยู่ตลอด เฉินโม่จึงดูเหมือนถูกทอดทิ้งจากโลกใบนี้

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ แขกรับเชิญต่างก็มาถึงกันถ้วนหน้าแล้ว ทั่วทั้งห้องโถงถูกแบ่งออกเป็นสองโซน โซนหนึ่งคือที่ตำแหน่งตรงกลางที่พวกผู้ใหญ่รวมตัวกัน อีกโซนหนึ่งก็คือรอบข้างที่พวกหนุ่มสาวรวมตัวกัน

เสียงหนึ่งตะโกนดังขึ้น “ดูสิ คุณหนูยานเอ๋อร์ออกมาแล้ว!”

สายตาของทุกคน ถูกมู่หรงยานเอ๋อร์ที่กำลังค่อยๆเดินลงมาจากบันไดดึงดูดสายตา

มู่หรงยานเอ๋อร์สวมใส่เสื้อราตรีสีขาวลากพื้น สง่างามไม่มีใครเทียบได้ เหมือนดั่งเทพธิดามาสถิต บนหัวสวมใส่มงกุฎฝังเพชร ส่องแสงเป็นประกาย โดดเด่นอย่างมาก

เท้าสวมใส่รองเท้าแก้ว ทำให้รูปร่างที่สูงสง่าของมู่หรงยานเอ๋อร์ดูสูงโปร่งดูดีมากขึ้นกว่าเดิม

ผิวพรรณสวยงาม ใบหน้าไร้ที่ติ ส่องแสงแพรวพราวไปทั่วทั้งตัว มู่หรงยานเอ๋อร์ในตอนนี้ เหมือนดั่งเจ้าหญิงคนหนึ่งที่หลุดออกมาจากเทพนิยาย สวยงามจนมิอาจละสายตาออกได้

“ว้าว ยานเอ๋อร์สวยมากจริงๆ!” หยางเชี่ยนเชี่ยนสองมือกุมหน้า สีหน้าเต็มไปด้วยอิจฉา แววตาเป็นประกาย

อานเข่อเยว่เองก็หวั่นไหวเล็กน้อยด้วยเช่นกัน เธอและมู่หรงยานเอ๋อร์ต่างก็เป็นดาวโรงเรียนของโรงเรียนตี้ยีแห่งอู่โจวเหมือนกัน แต่ในวินาทีนี้ แม้แต่เธอเองยังมีความรู้สึกละอายใจที่เทียบกันไม่ได้

ในแววตาของเจิ้งหยวนฮ่าวมีความร้อนระอุ แต่ไม่นานก็กลับสู่สภาพปกติ แม้ว่าเขาจะมีฐานะเป็นถึงลูกชายของรองนายกเทศมนตรี แต่ก็มีความเจียมตัว รู้ว่าตระกูลมู่หรงคงไม่ยอมรับเขา

ดังนั้น ในตอนนั้นเจิ้งหยวนฮ่าวจึงเลือกอานเข่อเยว่ ไม่เลือกมู่หรงยานเอ๋อร์ที่ฐานะทางบ้านแข็งแกร่งกว่าอานเข่อเยว่เป็นร้อยเท่า

ลูกคนรวยพวกนั้นในเขตเจียงหนานเองต่างก็ตกตะลึง สายตาของพวกชายหนุ่ม ดุเดือดจนเหมือนจะพ่นไฟออกมา

หยู่เหวินฟางเฟยสีหน้าตะลึง “พี่คะ น้องยานเอ๋อร์สวยงามมากจริงๆ พี่ต้องสู้ๆนะ อย่าได้ปล่อยให้เธอถูกคนอื่นแย่งไปเด็ดขาดละ!”

ในแววตาของหยู่เหวินเฉิงเหมือนมีเปลวไฟกำลังเต้นระบำอยู่ สองมือกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว “วางใจได้ ยานเอ๋อร์เป็นผู้หญิงที่ฉันเลือกไว้แล้ว ใครที่กล้าจะไปยุ่งกับเธอ ต้องได้รับผลลัพธ์ที่สมควรโดน!”

มู่หรงยานเอ๋อร์ค่อยๆเดินลงมาจนถึงตรงหน้าของผู้คนภายใต้การพยุงของมู่หรงเค่อ เธอสวยสง่าดูดีอย่างมาก

“ยานเอ๋อร์ขอบคุณคุณลุงคุณอาทุกท่านมากๆนะคะ ที่สามารถเสียสละเวลาอันล้ำค่ามาร่วมงานวันเกิดของยานเอ๋อร์ ยานเอ๋อร์ขอแสดงความขอบคุณด้วยความจริงใจแก่ทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ!”

คำพูดประโยคเดียว ไม่ถ่อมตนและหยิ่งยโสจนเกินไป สงบเยือกเย็น อายุเพียงน้อยนิดแต่กลับแสดงออกมาได้อย่างมีความน่าเกรงขาม

ผู้มีอิทธิพลในเขตเจียงหนานพวกนี้ต่างก็ชื่นชม “สมแล้วที่เป็นคนของตระกูลมู่หรง แม้ว่าจะอายุเพียงสิบแปดปีเท่านั้น แต่เมื่อเผชิญหน้ากับงานที่รวมตัวผู้มีชื่อเสียงของเขตเจียงหนานกว่าครึ่งเช่นนี้ กลับมีกิริยามารยาทที่สง่างามเหมาะสม ไม่มีความอวดดีของการเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่เลยสักนิด และไม่เหมือนหญิงสาวบ้านคนจนที่ไม่เคยพบปะสังคมมาก่อนเช่นนั้น”

“มู่หรงเค่อมีลูกสาวที่น่าภาคภูมิใจจริงๆ!สามีในอนาคตของหญิงสาวคนนี้ คงจะมีแค่ลูกชายจากหกตระกูลมหาอำนาจของยานจิงเท่านั้นถึงจะสามารถคู่ควรได้!”

มู่หรงยานเอ๋อร์พูดจบ มู่หรงเค่อที่อยู่ข้างกายก็ยิ้มเล็กน้อย ท่าทางของความเป็นใหญ่แผ่ซ่านออกมา ทำให้ผู้คนรู้สึกเกรงกลัว

“ทุกท่านครับ วันนี้เป็นวันเกิดบรรลุนิติภาวะของลูกสาวมู่หรงยานเอ๋อร์ ผมมู่หรงเค่อขอขอบคุณทุกท่านที่เดินทางมาร่วมงาน ณ ที่นี้ด้วยครับ!”

มู่หรงเค่อพนมมือไหว้เล็กน้อย แววตาที่มีอำนาจกวาดมองผู้คน

ทุกคนรีบรับไหว้ “คุณมู่หรงเกรงใจเกินไปแล้วครับ!”

ทั่วทั้งห้องโถง นอกจากเฉินโม่เพียงคนเดียวแล้ว แทบทุกคนที่เหลือต่างก็ก้มหัวให้กับมู่หรงเค่อ เพื่อแสดงออกถึงความเคารพนับถือ

เจียงหนานมีมู่หรง เพียงมู่หรงเค่อแค่คนเดียว ก็สามารถเหยียบย่ำกดดันผู้มีชื่อเสียงในเขตเจียงหนานได้กว่าครึ่ง!