บทที่ 99 คฤหาสน์ราคาหนึ่งพันกว่าล้าน
เห็นท่าทีพนักงานขายตกตะลึง น่าจะเป็นเพราะได้ล่วงเกินเย่เฉินแล้วจะทำให้ตกงาน เย่เฉินกลับโบกมือพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “เรื่องเล็ก ผมไม่ถือสาคุณหรอก”
พูดเสร็จ เย่เฉินก็พูดขึ้นอีกว่า “ใช่ คุณช่วยแนะนำคฤหาสน์A05 ให้กับพวกไม่รู้จักมองการณ์ไกลพวกนี้ฟังด้วย”
พนักงานขายได้สติขึ้นมา รีบพูดกับคนอื่นว่า “คฤหาสน์Tomson Rivieraของเรา ทั้งหมดแบ่งออกเป็นประเภทABCD หนึ่งในนี้ที่มีพื้นที่มากที่สุดเป็นพิเศษก็คือประเภทA ประเภทAเป็นคฤหาสน์สามชั้น ชั้นใต้ดินอีกสองชั้น ภายในมีลิฟต์ส่วนตัว พื้นที่ใช้สอยทั้งหมดมีมากกว่าหนึ่งพันตารางเมตร และยังมีสวนหย่อมหน้าบ้าน หลังบ้านอีกกว่าร้อยตารางเมตร ราคาขายมากกว่าพันล้านหยวน เป็นคฤหาสน์ที่หรูหราที่สุดเมืองจินหลิงของเรา”
เมื่อคำพูดพวกนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนต่างก็ตกใจ อ้าปากค้างจนคางแทบหลุด
คฤหาสน์ที่ราคาขายอยู่ที่หลักพันกว่าล้าน หลังเดียวเทียบเท่าหลายสิบหลังของบ้านสามห้องนอน เย่เฉินที่แต่งตัวธรรมดา กลับสามารถครอบครองคฤหาสน์ที่หรูหราที่สุดแบบนี้ได้หรือ?
ท่าทีเซียวไห่หลงย่ำแย่มาก น้องสาว พ่อแม่ของเขา กลับอิจฉาจนจะเป็นบ้าแล้ว
เซียวเวยเวยถามอย่างไม่อยากเชื่อว่า “เย่เฉิน คุณมีคฤหาสน์ที่นี่ได้ยังไง?”
เย่เฉินยิ้มพูดขึ้นว่า “มีคนยกให้ ไม่ได้หรือ?”
“ทำไมถึงเป็นคุณ” เซียวเวยเวยไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ตนเองมักใหญ่ใฝ่สูงมาทั้งชีวิต ยังไม่มีโอกาสได้อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ที่หรูหราในที่นี้ ทำไมคนอย่างเย่เฉินถึงได้อยู่ที่นี่?
เย่เฉินขี้เกียจตอบเธอ หันไปมองพี่ชายของเธอเซียวไห่หลง แล้วหัวเราะพูดขึ้นว่า “ไห่หลง คุณจะโดดตึกไม่ใช่หรือ? จะโดดเมื่อไหร่?”
สีหน้าเซียวไห่หลงเขียวปัด ดูย่ำแย่อย่างมาก กำหมัดแน่นแล้วพูดขึ้นว่า “เย่เฉิน อย่ามาทำเป็นมาพูดอะไรที่ไม่เป็นความจริง ยังไงผมก็ไม่เชื่อว่าคุณจะมีปัญญาซื้อคฤหาสน์ที่นี่ และยิ่งไม่เชื่อว่าจะมีคนยกคฤหาสน์ให้กับคุณ นอกเสียจากคุณจะบอกผม ว่าคฤหาสน์หลังนี้คุณได้มายังไงกันแน่”
เย่เฉินส่ายหัว แล้วพูดกับคนรอบๆว่า “เห็นไหม แบบนี้เขาเรียกว่าไม่รู้จักยอมแพ้”
พูดจบ เย่เฉินก็พูดกับเซียวไห่หลงว่า “เซียวไห่หลง ด้วยความสามารถที่มีเพียงนิดของคุณนั้น ก็เหมาะกับบ้านเดี่ยวธรรมดาเท่านั้น เป็นได้แค่ยามเฝ้ารับกระสุนแทนพวกเราที่เป็นเจ้าของคฤหาสน์แบบนี้ ไม่คู่ควรที่จะได้อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ คุณรู้ไว้เพียงว่า นี่เป็นสถานที่ที่คุณไม่มีปัญญาได้อยู่ตลอดทั้งชีวิตนี้ก็พอ”
“คุณ…”
สีหน้าเซียวไห่หลงย่ำแย่อย่างที่สุด
ถูกเย่เฉินดูถูกขนาดนี้ สำหรับเขาถือว่าเป็นครั้งแรก แต่ที่โกรธที่สุดก็คือ ตนเองกลับเถียงไม่ขึ้น ไม่แค่นั้น? ครอบครัวของตนซื้อบ้านหลังสองร้อยสี่สิบตารางเมตร ยังถือว่าค่อนข้างลำบาก ทั้งครอบครัวกำลังลังเลกันอยู่ที่นี่ แต่เย่เฉินกลับมีคฤหาสน์ที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ ความแตกต่างระหว่างกันนี้ช่างมากมายเหลือเกิน
สามารถพูดได้ว่า ครั้งนี้ตนเองถูกเย่เฉินพูดประชดจนเถียงไม่ออก ทำให้เขาโกรธแค้นอย่างมาก เขากัดฟัน พูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “เย่เฉิน คุณมีปัญญา ซื้อคฤหาสน์หลังใหญ่ขนาดนี้ ไม่ปรึกษากับคนที่บ้านเลยนะ ยังเห็นตระกูลเซียวอยู่ในสายตาไหม?”
เย่เฉินหัวเราะพูดขึ้นว่า “คุณพูดมาตลอดว่าผมไม่ใช่คนตระกูลเซียวไม่ใช่หรือ? ดังนั้น ทำไมยังจะต้องบอกคุณ?”
พูดถึงตรงนี้ เย่เฉินหันไปพูดกับเซียวชูหรันว่า “ที่รัก ไหนๆก็มาแล้ว เราไปดูคฤหาสน์หลังใหม่ของเรากันดีกว่าไหม?”
เซียวชูหรันพูดขึ้นว่า “นี่… เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
เย่เฉินพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “เดี๋ยวผมค่อยๆอธิบายให้คุณฟัง”
เพิ่งพูดจบ เสียงที่คุ้นเคยเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในทันใด
“อุ๊ย พี่ชายพี่สะใภ้ พวกคุณกำลังจะมาซื้อบ้านที่Tomson Rivieraหรือ? เก่งมากเลยจริงๆ”
คนที่พูด กลับเป็นแม่ยายของเย่เฉิน หม่าหลัน
คนที่มากับหม่าหลัน ยังมีพ่อตาของเย่เฉินเซียวฉางควน
เย่เฉินกับเซียวชูหรันต่างก็ค่อนข้างตกใจ พวกเขาสองคนมาได้ยังไง?
เซียวชูหรันเดินเข้าไปถามว่า “พ่อคะแม่คะ มากันได้ยังไงคะ?”
หม่าหลันพูดขึ้นว่า “ลุงป้าของเธอ โทรหาพวกเรา บอกว่าจะมาดูบ้านที่Tomson Riviera ให้พวกเรามาช่วยออกความคิดเห็น”
ตอนที่หม่าหลันพูด สายตาหันไปมองเย่เฉิน ในใจหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย
ที่จริงเธอไม่อยากมาเลยสักนิด เพราะว่าเมื่อวานตนเองเพิ่งทะเลาะกับลูกสาว แสดงท่าทีว่าตนอยากที่จะย้ายออกมาจากบ้านหลังเก่าหลังนั้น สุดท้ายกลับคิดไม่ถึง วันนี้ได้รับสายโทรศัพท์จากครอบครัวเซียวฉางเฉียน ว่าให้ตนกับสามีมาช่วยพวกเขาเลือกบ้าน
เลือกบ้านอะไรกัน? อยากที่จะเรียกตนมา เพื่ออวดว่าพวกเขากำลังจะซื้อบ้านที่Tomson Rivieraแล้วไม่ใช่หรือ?
ในใจหม่าหลันไม่พอใจ แต่ก็เพราะไม่กล้าไม่ไว้หน้าตระกูลเซียว จึงต้องพาสามีรีบตามมา
เธอไม่พอใจเย่เฉินเป็นอย่างยิ่ง หากตนเองมีลูกเขยที่มีความสามารถ ไม่แน่ตนก็อาจจะได้อาศัยอยู่ในTomson Rivieraแล้ว
เวลานี้ เธอหันไปพูดกับพี่สะใภ้เฉียนหงเย่น อย่างถอดใจว่า “พี่สะใภ้ พี่ช่างเก่งจริงๆ ไม่ช้าก็สามารถซื้อบ้านในTomson Rivieraได้แล้ว ช่างน่าอิจฉาจริงๆ ไม่รู้ว่าครอบครัวของพวกเราจะต้องรอถึงชาติไหนถึงจะได้อาศัยอยู่ในบ้านที่หรูหราในTomson Rivieraนี้ จะซื้อหลัง 240 ตารางเมตรใช่ไหม? ฉันคิดว่าครอบครัวของพวกเราเก็บตังอีก 50 ปีก็เก็บไม่ได้เงินมากมายขนาดนี้”
แม้จะไม่ค่อยพอใจครอบครัวบ้านพี่ใหญ่ แต่หม่าหลันก็รู้ ตนเองจะต้องประจบพวกเขา พอมาถึงจึงรีบพูดประจบเลย
ท่าทีแม่ของเซียวไห่หลงเฉียนหงเย่นดูย่ำแย่มาก เธอเหลือกตามองดูหม่าหลัน พร้อมพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “หม่าหลัน เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง? ดูถูกกันใช่ไหม?”
ในใจเฉียนหงเย่นแทบจะระเบิด
เดิมอยากที่จะเรียกเซียวฉางควนกับหม่าหลันสองสามีภรรยามา ให้พวกเขาได้เห็นกับตาตัวเองว่าตนซื้อบ้านหรูในTomson Riviera และก็อวดพวกเขาต่อหน้าต่อตา พร้อมทั้งดูถูกพวกเขา
แต่คิดไม่ถึงว่า ลูกเขยของคนอื่นมีความสามารถ ที่ได้เป็นเจ้าของคฤหาสน์ของTomson Rivieraๆ นี่ทำให้เธอโกรธแทบตายจริงๆ ในใจก็อิจฉาแทบตาย
ตอนนี้หม่าหลันมาแล้ว ทำเป็นประจบว่าตนซื้อบ้านหลัง240ตารางเมตร ไม่เป็นการดูถูกตนอย่างหน้าตาเฉยหรือ?
บ้านของเธอมีคฤหาสน์เป็นพันล้าน ยังจะมองบอกว่าอิจฉาฉัน? ยังบอกว่าตนเองไม่มีปัญญาได้อยู่บ้านหรูหราขนาดนี้ นี่ไม่เป็นการด่าคนอื่นหรอกหรือ?
หม่าหลันจะไปรู้เรื่องอะไร มาถึงก็พูดประจบเฉียนหงเย่น สุดท้ายกลับถูกเฉียนหงเย่น พูดว่าเป็นการดูถูก ในใจเธอเสียใจอย่างมาก ฉันมาถึงก็รีบเลียแข้งเลียขาเธอ เธอยังเห็นว่าฉันดูถูกเธอ? หรือว่าจะต้องให้ฉันคุกเข่าถึงจะเป็นการยกย่องเธอหรือ?
และแล้ว หม่าหลัน ก็รีบพูดประจบต่อว่า “โถ่พี่สะใภ้ ฉันเทียบกับพี่ ก็เหมือนกับเทียนไขกับดวงอาทิตย์ แตกต่างกันมากขนาดนั้น ฉันจะกล้าดูถูกพี่หรือ พี่ดูพี่สิโชคดีขนาดไหน จะได้อยู่บ้านในTomson Rivieraแล้ว แล้วดูฉันสิ ยังอาศัยอยู่ในบ้านหลังเก่า เฮ้อ บ้านหลังเก่าของพวกเรานั้น ทั้งเก่าทั้งทรุดโทรม เทียบกับบ้านของพี่ในTomson Rivieraได้อย่างไร ดังนั้นฉันต้องอิจฉาพี่อยู่แล้ว”
เฉียนหงเย่นได้ฟังแบบนี้แล้วก็ยิ่งโกรธ โกรธจนพูดไม่ออก
เซียวฉางเฉียนสามีของเธอที่อยู่ด้านข้างกัดฟันดาบขึ้นว่า “หม่าหลัน เธอพูดเหน็บแนมแบบนี้มีความหมายอะไร? ก็แค่มีคฤหาสน์ไม่ใช่หรือ? เธอจะอวดอะไร?”
พูดจบ เขาหันไปมองน้องชายของตนเซียวฉางควน แล้วพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ฉางควน ในสายตาของพวกเธอสองสามีภรรยายังเห็นพี่ชายคนนี้อยู่ในสายตาไหม? ยังเห็นแก่แม่ที่อยู่บ้านไหม? คฤหาสน์ใหญ่โตขนาดนี้ ไม่บอกที่บ้านเลยสักคำหรือ?”
เซียวฉางควนอึ้งไป แล้วพูดว่า “คฤหาสน์? คฤหาสน์อะไร? พี่ชายจะซื้อคฤหาสน์หรือ? มีตังค์จริงๆ”