นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 453 การแข่งขันการออกแบบ(๒)
อู๋ชิงหร่านถูกใครบางคนหลอกมาใช่หรือไม่?
ซูซานอดเม้มริมฝีปากไม่ได้เธอรู้สึกว่าสิ่งที่เธอเพิ่งพูดไปนั้นมันเหมือนเรื่องตลกมากขึ้นเรื่อยๆ และนักออกแบบชุดก็ต่างพากันมองชุดของห้องเสื้อซูซานกับชุดของห้องเสื้อลีโอเพื่อเปรียบเทียบความเหมือน แต่ชุดทั้งสองชุดตรงหน้าก็ประจักษ์ต่อสายตาทุกคนว่ามันต่างกันและไม่มีจุดเหมือนกันเลยด้วยซ้ำ สิ่งนี้จึงทำให้บรรดานักออกแบบมองกลับมายังซูซานด้วยความผิดหวังและต่างพากันส่ายหัวให้กับความบุ่มบ่ามของเธอ
ซูซานรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก เธอทั้งเขินอายและหงุดหงิดในคราวเดียวกัน
ท่านประธานในพิธีเอ่ยปากถามเธอขึ้นอีกครั้ง “คุณหนูซูซาน ชุดที่คุณออกแบบไม่เหมือนกับชุดที่ห้องเสื้อลีโอออกแบบ เมื่อซูซานได้ยินดังนั้นเธอทำได้เพียงก้มหัวต่ำและไม่กล้าสบตากับใคร เธอทำได้เพียงแค่ส่งยิ้มแห้งๆกลับไปยังทุกคน และ ขณะที่เธอก้มศีรษะลงเธอก็ค่อยๆหันหลังเดินออกไปด้านข้างเวทีอย่างเงียบๆ หญิงสาวหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดโทรหาอู๋ชิงหร่านอย่างเงียบ ๆ
เมื่ออู๋ชิงหร่านเห็นคนที่โทรมา รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอ เธอคิดว่าซูซานโทรหาเธอเพื่อประกาศข่าวดีกับเธอว่าซูฉิงถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขันการออกแบบครั้งนี้
เธอรับสายด้วยน้ำเสียงที่เร่งรีบ “คุณหนูซูซาน คุณเป็นอย่างไรบ้าง ซูฉิงโดนตัดสิทธิ์แล้วใช่ไหม?”
“ตัดสิทธิ์บ้าอะไรล่ะ!?”
ทันทีที่ซูซานได้ยินสิ่งนี้ความโกรธที่พยายามระงับไว้ก็พุ่งทะยานออกมาทันที เธอไม่รู้ว่าอู๋ชิงหร่านทำผิดพลาดอย่างไร หรือเป็นไปได้ที่อีกฝ่ายถ่ายรูปแบบชุดของห้องเสื้อลีโอมาผิด เธอจึงพยายามลดเสียงพูดลงเพื่อไม่ให้ใครได้ยินการสนทนาของเธอกับปลายสาย
เธอมองย้อนกลับไปอย่างระมัดระวังและพบว่าเหล่าบรรดานักออกแบบคนอื่นๆกำลังให้ความสนใจกับการจัดแสดงบนเวที เธอจึงรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย ซูซานจึงพูดกระซิบกระซาบกับอู๋อันหร่านผ่านทางโทรศัพท์ทันที “คุณกำลังทำบ้าอะไรอยู่? คุณได้รับแบบร่างชุดที่ผิดมาใช่หรือไม่? ทำไมชุดที่ห้องเสื้อลีโอออกแบบมาในวันนี้ไม่เหมือนแบบชุดกับที่คุณเอามาให้ฉันแม้แต่นิดเดียว!”
“เป็นไปได้ยังไงกัน?” เมื่อได้ยินเรื่องนี้อู๋อันหร่านก็ร้อนใจขึ้นมาเช่นกัน ใบหน้าของเธอตกตะลึงไปชั่วขณะเธอจำได้ว่าคามิลวางแบบร่างไว้บนโต๊ะ…
“แบบชุดที่ฉันได้มามันคือชุดนี้จริงๆ” จนถึงตอนนี้อู๋ชิงหร่านยังคงไม่คิดว่าคามิลที่ดูไร้เดียงสาจะกล้าโกหกเธอ “ฉันแน่ใจว่ามันคือชุดนี้แน่ๆ”
“คุณหนูซูซาน” ซูซานกำลังจะเอ่ยปากตอกกลับอีกฝ่าย แต่เมื่อเธอได้ยินเสียงเรียกจากทางข้างหลัง เธอตกใจและปฏิกิริยาแรกของเธอคือวางสายแล้วมองย้อนกลับไปด้วยความตื่นตระหนก
คนที่เรียกเธอคือท่านประธานการออกแบบ และเมื่อเห็นซูซานมองย้อนกลับไป เธอก็พูดย้ำซูซานอีกครั้ง “คุณหนูซูซาน กรุณาอธิบายเกี่ยวกับงานออกแบบเมื่อสักครู่ของคุณ”
ซูซานถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอรีบเก็บโทรศัพท์ของเธอและเดินไปบนเวทีด้วยท่าทางสงบเสงี่ยม เธอเผยยิ้มกว้างและเอื้อมมือไปหยิบชุดเดรสที่ถูกแขวนไว้ขึ้นมา
“ชุดนี้เป็นแรงบันดาลใจที่ฉันได้รับขณะดูละครอเมริกันเรื่องนึง…”
ซูซานพูดอธิบายถึงผลงานชุดของเธอได้อย่างฉะฉาน และพูดคุยเกี่ยวกับทุกอย่างตั้งแต่แรงบันดาลใจในการออกแบบไปจนถึงรายละเอียดต่างๆของชุดนี้ หากซูฉิงจุดใต้ต่ำตอที่แท้จริงของชุดนี้ เธอคงจะเชื่อสิ่งที่ซูซานพูดออกมาอย่างสนิทใจ
หลังจากที่ซูซานพูดอธิบายทุกอย่างจบกลับได้เห็นสีหน้าของเหล่าดีไซเนอร์ที่เปลี่ยนไป คนส่วนใหญ่ต่างพากันแสดงอาการลังเลและแปลกใจออกมา
ซูซานดูสับสนและมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า เธอจึงเหลือบมองไปที่ชุดอีกครั้ง
เธอพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า?
คามิลและซูฉิงพวกเธอมองหน้ากันด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ คามิลหันศีรษะและแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจกับสิ่งที่ซูซานกำลังอธิบาย เธอจึงยกมือขึ้นเพื่อถามคำถามกับคนบนเวที
“ฉันขอเวลานอกสักครู่!”
เธอเดินออกจากฝูงชนและมองดูชุดที่อยู่บนเวทีด้วยท่าทางงุนงง “คุณหนูซูซานช่างคิดมากจริงๆ แต่ชุดนี้ ทำไมฉันรู้สึกเหมือนเคยเห็นที่ไหนสักแห่งเลย ดูเหมือนว่าจะอยู่ใน…แฟ้มสะสมผลงานออกแบบของอาจารย์โกล เพราะแม้แต่ตำแหน่งของอัญมณีในเข็มขัดก็เหมือนกับชุดของอาจารย์ท่านนั้นทุกประการ”
ทันทีที่เธอเห็นคามิล ใบหน้าของซูซานก็ซีดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เธอพูดเดอโกล ซูซานก็รู้สึกได้ถึงลางไม่ดี
“ฉันจำได้ว่าฉันอ่านมันมาจากงานของอาจารย์โกล เขายังบอกด้วยว่านี่เป็นผลงานที่เขาพอใจมากที่สุด แล้วทำไมการออกแบบของคุณหนูซูซานถึงคล้ายกับของเขากัน?
ทันทีที่คามิลพูดจบ ใบหน้าของซูซานก็ซีดเซียวลงถนัดตา ร่างกายของเธอแข็งค้างไปทั้งตัว
เหล่าบรรดาดีไซเนอร์คนอื่นๆ เองก็เริ่มเอ่ยปากพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นนี้ขึ้นมาด้วย พวกเขาต่างพากันมองมายังซูซานด้วยท่าทางดูถูกและสงสัยในตัวหญิงสาว
“ฉันเพิ่งบอกว่าชุดนั้นดูคุ้น ๆ นะ ฉันเคยเห็นชุดแบบเดียวกันนี้ในหนังสือของเดอโกล…”
“ฉันสงสัยจริงๆว่าเธอได้รับรางวัลจากการประกวดการออกแบบได้อย่างไร และครั้งนี้เธอก็ลอกเลียนผลงานของคนอื่นอย่างชัดเจน คนแบบนี้จะสามารถเป็นดีไซเนอร์ได้อย่างไร”
“ผลงานของห้องเสื้อลีโอดีกว่าผลงานของซูซานตั้งหลายเท่า แต่นักออกแบบของห้องเสื้อลีโอกลับไม่เคยปรากฏตัวให้ใครได้เห็น น่าเสียดายจัง ฉันเข้าร่วมการแข่งขันทุกปีก็เพื่อพบเขา”
“……”
ใบหน้าของซูซานพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธจัด เมื่อเธอได้ยินชื่อลีโอที่ทุกคนต่างพากันเยินยอและสรรเสริญ เธอคิดว่าพวกเขากำลังเหยียดหยามเธออย่างสุดๆ
ใบหน้าของกรรมการตัดสินนั้นดูเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาพากันลงมติว่าการออกแบบชุดของซูซานนั้นคล้ายคลึงกับการออกแบบของเดอโกล
ประธานในพิธีมองเธออย่างจริงจังและพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “คุณหนูซูซาน เกิดอะไรขึ้น โปรดอธิบายให้ทุกคนเข้าใจ”
ซูซานตกตะลึงครู่หนึ่งพร้อมกับเผยแววตาตื่นตระหนกในดวงตา เธอควรพูดอะไรออกไปดี เป็นไปได้ไหมที่เธอจะโดนความผิดให้ห้องเสื้อลีโอโดยการพูดว่าเธอใช้แบบชุดที่ได้จากห้องเสื้อลีโอมาใช้ในการแข่งขัน ถ้าเธอกล่าวแบบนี้มันเหมือนก็คงหนีไม่พ้นหัวข้อการลอกเลียนแบบ แล้วเธอยังจะสามารถพูดอะไรออกมาได้อีกล่ะ!
เธอสะอึกสะอื้น พูดไม่ออก ได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่ มันไม่ใช่แบบนี้… มันไม่ใช่…”
คามิลเห็นแล้วจึงพูดขึ้นว่า “งั้นสรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ บอกพวกเราหน่อยว่าทำไมชุดของคุณถึงคล้ายกับอาจารย์โกล”
ซูซานไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ เธอทำได้เพียงจ้องไปที่คามิล
เมื่อประธานใหญ่เห็นท่าทางของซูซาน เขาก็มีคำตัดสินอยู่ภายในใจเรียบร้อยแล้ว เขาหันกลับมาคุยเรื่องบางอย่างกับกรรมการตัดสินอีก 2 คน ใช้เวลาไม่ถึงนาทีพวกเขาก็หันกลับมามองซูซานอย่างจริงจังพร้อมกล่าวว่า “คุณหนูซูซาน หลังจากที่พวกเราได้หารือกันแล้ว เราตกลงกันว่าคุณจะถูกตัดสิทธิ์ในการเข้าร่วมการแข่งขันการออกแบบครั้งนี้และแม้แต่การแข่งขันครั้งต่อไปในอนาคตคุณก็ไม่สามารถเข้าร่วมได้ เพราะการลอกเลียนแบบผลงานออกแบบถือเป็นข้อห้ามข้อสำคัญสำหรับนักออกแบบ!”
ซูซานตัวแข็งทื่อราวกับว่าเธอถูกเทลงในแอ่งน้ำเย็น ฝ่ามือของเธอมีเหงื่อออก ไม่เพียงแต่ฝ่ามือเท่านั้น แต่แม้กระทั่งเลือดของเธอก็เย็นวาบเมื่อได้ฟังคำตัดสิน
ประโยคนี้ตัดสินชีวิตของเธอในแวดวงการออกแบบอย่างเลือดเย็น
เมื่อนักออกแบบคนอื่นๆได้ยินคำตัดสินต่างพากันพาดพิงถึงการกระทำของซูซานอย่างประชดประชันและก่นด่า
สายตาส่วนใหญ่มองมายังซูซานด้วยความไม่ชอบใจ