ตอนที่ 121

The Strongest Hokage

เมื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับสนามรบ โอโนกิ ก็ตกอยู่ในห้องความคิดของเขา เขาไม่เคยเห็นข้อมูลที่น่าตกใจแบบนี้มาก่อน

“มันเหมือนกับเป็นสนามรบครั้งสุดท้าย มันพังยับเยิน ถ้าเดาไม่ผิด นี้เป็นรูปแบบพลังแบบเดียวกัน อาจเป็นไปได้ว่านี้คือพลังของคนคนเดียว”

“บ้าเอ้ย เจ้านี้มันเป็นใครกันแน่ ทำไมไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับตัวตนของมันเลย ถึงข้อมูลของมันจะถูกเก็บเป็นความลับ แต่อย่างน้อยก็น่าจะมีใครสักคนที่รู้จักเขาสิ”

โอโนกิ ได้แต่ตะโกนออกมา หลังจากที่โยนเอกสารข้อมูลวางบนโต๊ะ

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง โอโนกิ ก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และเขาก็สงบลงในที่สุด ดวงตาของเขาก็จ้องมองไปข้างหน้าอย่างเย็นชา

“การลอบโจมตีเล็ก ๆ แบบนี้คงจะไม่มีประโยชน์อีกต่อไป มันคงกำลังจะเป็นการต่อสู้ที่แท้จริง”

เมื่อสงครามดำเนินมาจนถึงจุดแตกหัก ทุกคนจะต้องเขาร่วมสงคราม และไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงมันได้อีกต่อไป

ตลอดเวลาที่ผ่านมา การระบาดของ มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 ทั้ง 3 หมู่บ้านคือ หมู่บ้านโคโนฮะ , หมู่บ้านอิวะ และ หมู่บ้านซึนะ ต่างต้องการยับยั้งและชะลอการเริ่มต้นของสงครามในครั้งนี้ เพราะต่างคนต่างตรึงกำลังไว้ใน หมู่บ้านอาเมะ อาจมีการปะทะกันบ้างในบางพื้นที่ แต่ไม่มีใครต้องการเริ่มต้นการต่อสู้ก่อน

แต่ โอโนกิ ก็ได้รับข้อมูลยืนยันมาว่า จนถึงตอนนี้ โคโนฮะ เป็นหมู่บ้านที่ได้รับชัยชนะในการปะทะกันเกือบทุกครั้ง และ หมู่บ้านซึนะ เป็นหมู่บ้านที่ได้รับความสูญเสียมากที่สุด

หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเขาต้องสูญเสียมากขึ้นอย่างแน่นอน ทางเลือกสุดท้ายที่พวกเขามีคือ การเริ่มต้นสงครามครั้งสุดท้ายและเป็นการต่อสู้ที่จะชี้ตาของแต่ละหมู่บ้าน

……..

แค้นแห่งฝน ณ ค่ายบัญชาการของโคโนฮะ

หลังจากสามารถจัดการกับ หน่วยพิเศษของอิวะ ได้สำเร็จ จิไรยะ ก็กลับไปยัง ค่ายบัญชาการ อย่างภาคภูมิใจ

แต่ก็พูดได้ไม่เต็มปากว่ามันคือความภาคภูมิใจของเขา เขาจึงรู้สึกจิตตกและประหม่าขึ้นมาเมื่อนั่งในที่ประชุมในห้องยุธการ

จิไรยะ เป็น โจนินชั้นสูง ของ โคโนฮะ เขาจึงไม่สามารถทำให้ตัวเองเสียหน้าต่อหน้าทุกคนได้ ดังนั้นเขาจึงกระโดดขึ้นสูงและลงมาอยู่ต่อหน้า ซาคุโมะ

ซาคุโมะ “…”

“อะแฮ้ม!!”

จิไรยะ ไอออกมา จากนั้นเขาก็ยื่นรายงานข้อมูลเกี่ยวกับภารกิจที่เขาเพิ่งไปทำมาให้กับ ซาคุโมะ

“ท่านซาคุโมะ นี้เป็นรายงานของสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในการต่อสู้กับ หน่วยพิเศษของอิวะ”

“อื้ม”

ซาคุโมะ พยักหน้า แล้วยิ้มออกมาราวกับว่าเขารู้ผลลัพธ์อยู่แล้ว

เมื่อเห็นการแสดงออกของ ซาคุโมะ จิไรยะ ก็รู้สึกประหลาดใจ และถามเขาว่า “หน่วยลับคนนั้นแข็งแกร่งมาก เขาเป็นใครกันแน่?”

“ต้องขอโทษด้วย ผมบอกท่านไม่ได้จริง ๆ ข้อมูลนี้เป็นความลับสุดยอด”

ซาคุโมะ กำลังหัวเราะอยู่ในใจ ที่จริงแล้ว เขาสามารถบอกเรื่องนี้ให้ จิไรนะ รู้ได้ แต่สำหรับตอนนี้ มันยังเร็วเกินไป

สำหรับ ซึนาเดะ ซาคุโมะ ได้คุยเรื่องนี้กับ ซารุโทบิ แล้ว และพวกเขาก็ตกลงกันว่าจะให้เธอเป็นตัวกลางระหว่าง ไนโตะ กับ โคโนฮะ

“ความลับสุดยอด?!”

จิไรยะ คิดว่า เรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากล ตัวตนของ หน่วยลับ ธรรมดา ๆ ไม่ควรถูกจัดเป็นความลับระดับสุดยอด ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่า ตัวตนของ หน่วยลับ คนนี้ ต้องเป็นคนระดับสูงของหน่วยลับอย่างแน่นอน

สิ่งนี้ทำให้ จิไรยะ อยากรู้มากขึ้น เพราะเขารู้จักคนมากมายใน โคโนฮะ แต่เขาไม่รู้จักใครที่มีพลังเช่นนี้

เขาคือ โอโรจิมารุ งั้นเหรอ? หรือ ซึนาเดะ ?

มันไม่มีทาง

“เอาเถอะ เรื่องนี้ช่างมันก่อน ตอนนี้มีสิ่งที่สำคัญมากกว่า…การต่อสู้ที่แท้จริง กำลังจะเริ่มขึ้นแล้วสินะ”

“หลังจากเราทำลายไพ่ตายของพวกมันไปแล้ว ท่านคงรู้สินะ ว่าใครจะเป็นคนเริ่มการต่อสู้ก่อน”

ซาคุโมะ พูดขึ้นมาอย่างจริงจังมาก

ทันทีที่ จิไรยะ ได้ยินคำพูดเหล่านี้ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

สงครามครั้งสุดท้าย มันชัดเจนว่า โคโนฮะ จะระดมกองกำลังทั้งหมดเข้าร่วมสงครามอย่างแน่นอน!

ไม่ใช่แค่กองกำลังที่อยู่ที่ ค่ายบัญชาการ ใน แคว้นแห่งฝน เท่านั้น แม้แต่นินจาที่อยู่ที่ หมู่บ้านโคโนฮะ ก็กำลังเตรียมตัว ไม่เว้นแต่ โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ซารุโทบิ ก็ด้วยเช่นกัน

การเริ่มต้นของมหาสงครามครั้งนี้อย่างแท้จริง ซารุโทบิ จะต้องลงสู่สนามรบอย่างแน่นอน

……

หมู่บ้าน โคโนฮะ ณ ห้องทำงาน โฮคาเงะ

“สงคราม…กำลังจะมาแล้วสินะ”

ซารุโทบิ ถอนหายใจและมองออกไปทางหน้าต่างในห้องทำงานของเขา

“พลังของ ไนโตะ จะมีความสำคัญมากในสงครามนี้”

“แต่…เขาจะไว้ใจได้ไหม?”

ทันใดนั้น ดันโซ ก็ก้าวเข้ามาในห้องทำงานของ ซารุโทบิ และขัดจังหวะที่ ซารุโทบิ กำลังคิดเรื่องสงครามอยู่

“ไนโตะ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนนอก”

“ท่านอาจสามารถใช้งานเขาได้ แต่ท่านไม่สามารถไว้ใจเขาได้”

ดันโซ ดูจริงจังมาก ขณะที่เขามองไปที่ ซารุโทบิ

ซารุโทบิ ไม่ตอลสนองต่อคำพูดของ ดันโซ เขามองกลับไปที่ด้านนอกจากหน้าต่างของเขา เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี

……….

ณ ตอนนี้

ไนโตะ ไม่ได้กลับไปที่ ค่ายบัญชาการของโคโนฮะ แต่เขาเดินทางไปในป่าลึกของ แคว้นแห่งฝน

ถึงแม้ว่า ไนโตะ จะไม่สนใจเกี่ยวกับสถานการณ์โดยรวมของสงคราม แต่เขาก็รู้สึกได้อย่างง่ายดายว่า การต่อสู้ครั้งสุดท้ายกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า

และก่อนที่การต่อสู้ครั้งสุดท้ายจะเริ่มขึ้น ไนโตะ ตัดสินใจว่าเขาต้องไปจัดการกับ โคนัน และ ยาฮิโกะ ก่อน

สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้คือ การดูว่าทั้ง 2 คนนั้นได้เจอ นางาโตะ หรือยัง

ในไม่ช้า ไนโตะ ก็กลับไปยังสถานที่สุดท้ายที่ โคนัน และ ยาฮิโกะ ใช้ฝึกฝนวิชานินจากัน แต่ที่นั่นมันว่างเปล่า

หลังจากที่เขาส่ายหัว ไนโตะ ก็เดินทางไปที่เมืองที่ใกล้ที่สุด

อย่างไรก็ตาม หลังจากค้นหาจนทั่วทั้งเมือง เขาก็ไม่พบร่องรอยของทั้ง 2 คนเลย

ราวกับว่าพื้นดินกลืนพวกเขาลงไป!

“แปลกแฮะ…ถ้าเป็น นางาโตะ ก็ว่าไปอย่าง แต่นี้ทั้ง โคนัน ทั้ง ยาฮิโกะ ก็หายไปด้วย!”

ไนโตะ ขมวดคิ้วด้วยความสับสน

ในเวลาเดียวกัน ไนโตะ ก็เดินทางไปที่เมืองใกล้ ๆ เพื่อรวบรวมข้อมูล

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่พบร่อยรอยของ โคนัน และ ยาฮิโกะ อยู่ดี

แต่ ไนโตะ ก็มั่นใจว่า ทั้ง 2 คนยังไม่ตายแน่นอน เพราะพวกเขาไม่ใช่คนธรรมดาอีกต่อไป พวกเขาทั้งคู่กลายเป็น นินจา แล้ว

หากพวกเขาถูกฆ่าตาย ไนโตะ ก็คงจะได้ยินข่าวเรื่องนี้บ้างแล้ว

แต่พวกเขาก็ควรจะอยู่แถวนี้

“ถ้าเป็นแบบนี้ เราก็ทำอะไรไม่ได้แล้วสินะ พวกเขาคงอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว แม้ว่าการต่อสู้ที่แท้จริงกำลังจะมาถึง พวกเขาก็คงจะไม่เป็นไรหรอกมั้ง”

หลังจากหายใจเข้าลึก ๆ ไนโตะ ก็ส่ายหัวและสุดท้ายเขาก็เลิกค้นหา

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขากำลังจะกลับไปที่ค่าย เขาก็รู้สึกประหลาดใจเมื่อเขาพบใครบางคน

โอโรจิมารุ!

ไนโตะ พบ โอโรจิมารุ ในเมืองเล็ก ๆ เขาเพิ่งทำภารกิจเสร็จและกำลังจะกลับไปที่ ค่ายบัญชาการ

แน่นอนว่า โอโรจิมารุ กำลังใช้ คาถาแปลงร่าง อยู่

ไนโตะ แทบจำเขาไม่ได้ เพราะเขาสามารถใช้ คาถาแปลงร่าง ได้อย่างสมบูรณ์แบบมาก มันไม่ใช่คาถาธรรมดา แต่มันเป็นคาถาขั้นสูง