ตอนที่ 176 เขตอสูรปะการัง

บุตรอสูรบรรพกาล

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 176

 

เขตอสูรปะการัง

 

“หายตัวไป…”ไป๋จูเหวินนิ่งไปเงียบไปครู่หนึ่งพลางไตร่ตรองสิ่งที่เกิดขึ้น พี่ต้าชิงต้าเฉินออกไปทํางานช่วงนี้มันพาเหม่ยหลินหนีไปหามารดาของนาง จนถึงตอนนี้เวลาก็ผ่านไปนับปีแล้วมันยังไม่กลับมาก็ถือว่ามีความเป็นไปได้สูงที่พวกมันจะเสียชีวิตไปแล้ว

 

“ท่านอาวุโส พี่ต้าชิงกับต้าเฉินไปสํารวจที่ไหนงั้นเหรอ”ไป๋จูเหวินถามออกไป แม้โอกาสที่ทั้งสองคนจะไม่รอดค่อนข้างมีเยอะทีเดียว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะไม่ดวงดีรอดมาได้เสียหน่อย

 

“มันเป็นเขตอสูรระดับต่ําที่ให้มือใหม่เข้าไปทดสอบฝีมือ” อาวุโส 7 ว่าพลางค้นหาแผนที่ในมิติของนาง

 

“มันเป็นเขตที่ไม่มีราชา แถมอสูรในเขตก็ไม่ค่อยแข็งแกร่งเท่าไหร่” อาวุโส 7 ยืนแผนที่มาให้ไป๋จูเหวิน โดยแผนที่ดังกล่าวระบุว่าเขตอสูรอยู่ติดชายแดนตะวันตกพอดี

 

“นี่มันติดชายแดนเลยไม่ใช่หรือไป๋จูเหวินถามพลางขมวดคิ้วสงสัย

 

“ใช่ ข้าเลยคิดว่าพวกเขาอาจจะไม่ได้หายไปเพราะอสูรก็ได้”ได้ยินคําตอบของอาวุโส 7 ไป๋จูเหวินก็มีท่าทีลังเลเล็กน้อย หากโดนอสูรจับไปไม่ว่าอสูรจะเก่งกาจแค่ไหน แต่ไป๋จูเหวินก็ค่อนข้างมีความมั่นใจอยู่ว่าจะสามารถช่วยเหลือมันได้ แต่หากอีกฝ่ายเป็นมนุษย์ก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องสู้ หากพวกมันจับตัวทั้งสองเอาไว้ละก็

 

“ข้าขอเข้าไปสํารวจก่อนก็แล้วกัน”ไป๋จูเหวินตอบพลางเก็บแผนที่ลงไปในมิติของตนเอง ตอนนี้อาณาจักรคู่กับอาณาจักรโดยรอบเป็นมิตรกันอยู่ คนของอาณาจักรใกล้เคียงคงไม่ทําอะไรพวกต้าชิงต้าเฉินแน่

 

“แต่ข้าส่งคนไปตามหาพวกมันแล้ว แต่ก็ไม่เจอเลย” อาวุโส 7 ตอบเพราะนางเองก็เข้าใจว่าทั้งสองเป็นคนของไป๋จูเหวิน นางเลยส่งหน่วยสํารวจไปตามหาอยู่หลายครั้ง แต่พวกมันก็ไม่แม้แต่จะเจอร่องรอยเลย

 

“แต่ท่านยังไม่เคยส่งข้าไปนี่”ไป๋จูเหวินว่าพลางลาอาวุโส 7 ออกไปตามหาพวกต้าชิงต้าเฉิน แม้มันจะเจอเรื่องวุ่นๆตลอดเวลา แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะปล่อยให้พวกพี่ต้าชิงต้าเฉินหายตัวไป หากเป็นแบบนี้มันจะมีหน้ากลับไปหาเฒ่าแก่หวังเจ้านายเก่าของต้าชิงต้าเฉินได้หรือ

 

หลังจากออกมาจากหน่วย 7 ไป๋จูเหวินก็ไปเรียกอสูรของตนเพื่อออกเดินทางในทันที ต้องบอกว่าโชคดีจริงๆที่หวงหลงโยนงานของไป๋จูเหวินให้รองหัวหน้าสมาคมแพทย์ไปแล้วมันเลยไม่มีงานค้างต้องจัดการแต่อย่างไร ตัวมันได้แต่สัญญาในใจว่าจะฝึกทวนมังกรให้สําเร็จก่อนกลับไปเท่านั้นเอง

 

“ที่นี่สวยจัง” หลินหลินว่าพลางมองภาพเขตอสูรที่ไป๋จูเหวินให้นางพามา

 

“จริงด้วย แปลกตาดีจริงๆ ” หงเยว่เองก็มีท่าที่ประหลาดใจไม่น้อยเมื่อเดินทางมาถึงเขตอสูรที่ระบุเอาไว้แล้วเช่นกัน โดยเขตอสูรตรงหน้าพวกนางนั้นเป็นเขตอสูรที่มีชื่อเรียกว่าเขตปะการัง ซึ่งสภาพพื้นที่ก็เป็นไปตามชื่อภายในเนิน เขาแห่งนี้ปรากฏปะการังงอกอยู่เต็มไปหมดราวกับกําลังเดินอยู่ใต้ทะเลก็ไม่ปาน

 

วีดด…ทันทีที่เดินเข้ามาภายในเขตอสูร อยู่ๆร่างกายของไป๋จูเหวินก็รู้สึกเบาลงอย่างประหลาด ราวกับแรงโน้มถ่วงอ่อนลงก็ไม่ปาน ในตอนนี้หากกระโดดเบาๆก็คงลอยอยู่บนอากาศหลายสิบวิเลยเป็นแน่

 

“เหมือนตัวเบาขึ้นเลย” หลินหลินว่าพลางเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว พอตัวเบาลงแล้วนางก็ใช้ขาอีก 6 ข้างแทงพื้นเพื่อดีดตัวเองไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

 

“เห็นว่าที่นี่เป็นเขตอสูรที่มีสภาพเหมือนใต้น้ํานะ”ไป๋จูเหวินตอบพลางมองไปรอบๆ อสูรส่วนใหญ่ของที่นี่เป็นอสูรประเภทปลา ยิ่งทําให้เหมือนอยู่ใต้น้ํากันไปใหญ่ แต่อสูรปลาทั้งหมดที่พากันหว้ายอากาศอยู่ตามแนวปะการังก็เป็นเพียงอสูรขนาดเล็กแถมรอบๆยังไม่มีวี่แววของอสูรระดับสูง หรือมนุษย์เลยอีกต่างหาก

 

ไป๋จูเหวินลองใช้ดวงตาสีม่วงตรวจสอบไปรอบๆดูอีกครั้งเพื่อความรอบคอบ แต่ดวงตาของมันก็เจอแต่เหล่าอสูรระดับต่ําเหล่านี้เท่านั้น

 

จะเรียกว่าสมกับเป็นเขตอสูรที่ให้หน่วยสํารวจมือใหม่เข้ามาสํารวจดีหรือไม่ เพราะนอกจากอสูรทั้งหมดจะเป็นอสูรระดับต่ําแล้ว ยังเป็นเขตที่แปลกและน่าสนใจไม่น้อย แต่ก็เพราะสามารถเข้ามาได้ง่ายๆ สมุนไพรและของมีค่าส่วนใหญ่เลยไม่เหลือเสียแล้ว

 

“มนุษย์?”ไป๋จูเหวินขมวดคิ้วพลางมองตรงไปข้างหน้า ที่มุมหนึ่งในเงาประการังปรากฏพลังวิญญาณกลุ่มหนึ่งอยู่ตรงหน้าไป๋จูเหวิน แต่ไป๋จูเหวินไม่คิดว่าจะเป็นพี่ต้าชิงต้าเฉินเพราะพวกมันมีจํานวนมากกว่า 15 คน

 

ฟุบ! เคร้ง! อยู่ๆก็มีชายคนหนึ่งกระโดดเข้ามาฟันใส่ร่างของหลินหลินในทันที เพียงแต่ดาบของมันกลับเป็นฝ่ายแตกละเอียดไปเสียก่อน

 

“บ้าเอ้ย” ชายคนนั้นคํารามพลางถอยออกไป

 

เคร้งๆๆ ลูกธนูอีกจํานวนหนึ่งตรงเข้ามาใส่ร่างของหลินหลิน แต่ก็อย่างที่คาด มันทําอะไรหลินหลินไม่ได้เลย

 

“นี่มันตัวบ้าอะไร ไหนบอกว่าในเขตอสูรนี้มีแต่อสูรระดับต่ําไง” ชายคนหนึ่งว่าพลางกําด้ามหอกในมือแน่น ตอนแรกมันกะจะเข้าไปแทงใส่ร่างของหลินหลิน แต่เห็นทั้งดาบทั้งธนูทําอะไรหลินหลินไม่ได้มันก็เกิดความกลัวขึ้นมา

 

“พวกเจ้าช่วยหยุดโจมตีอสูรของข้าได้หรือไม่”ไป๋จูเหวินถอนหายใจพลางมองเหล่าคนที่อยู่ด้านล่างอย่างเหนื่อยใจ พวกมันมีพลังอยู่แค่ระดับหลอมรวมนภาเท่านั้น เรียกได้ว่าให้พวกมันทั้ง 15 คนรุมเข้ามาที่เดียวก็คงทําอะไรหลินหลินไม่ได้

 

“มนุษย์?” เหล่าคนทั้ง 15 เห็นคนขี่อยู่บนหลังอสูรแมงมุมก็พากันตกใจ แต่พอเห็นว่าที่คอของไป๋จูเหวินมีสร้อยเขียวอสูรอยู่ก็พากันถอนหายใจอย่างโล่งอก

 

“พี่ชาย ท่านเป็นคนของอาณาจักรอู๋งั้นเหรอ” หญิงสาวคนหนึ่งในกลุ่มถามพลางมองไป๋จูเหวินที่นั่งอยู่บนหลังของหลินหลิน

 

“ใช่”ไป๋จูเหวินตอบพลางพยักหน้าช้าๆ

 

“เอ่อ…ช่วงนี้พวกเราสงบศึกกันอยู่พวกท่านคง…” ชายที่ใช้ดาบฟันใส่หลินหลินถามพลางเก็บด้ามดาบที่พึ่งพังไปเข้าแหวนมิติของมัน

 

“ไม่ ข้าไม่ได้จะทําอะไรพวกเจ้าเสียหน่อย มีแต่พวกเจ้าต่างหากที่มาโจมตีอสูรของข้า”ไป๋จูเหวินว่าพลางลูบหลังของหลินหลินเบาๆ ขนาดอาวุธวิเศษยังทําอะไรเกราะด้านนอกของหลินหลินไม่ได้ มีหรือที่อาวุธธรรมดาจะทําอันตรายหลินหลินได้

 

“ระ เรื่องนั้นข้าต้องขอโทษด้วย พวกข้าเข้าใจผิดว่าอสูรของท่านเป็นอสูรในเขตนี้ขอรับ” ชายที่ถือกระบว่าพลางเก็บอาวุธอย่างรวดเร็ว ลําพังอสูรของไป๋จูเหวินพวกมันก็ไม่มีทางสู้ได้อยู่แล้ว แถมพลังวิญญาณของไป๋จูเหวินก็มากกว่าพวกมันหลายเท่าที่เดียว

 

“ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น”ไป๋จูเหวินว่าพลางลงมายืนบนพื้น คนพวกนี้ไม่ใช่นักล่าอสูร ไม่สามารถจับสัมผัสได้ว่าหลินหลินมีระดับพลังเท่าไหร่เลยโจมตีเข้ามาโดยไม่คิด

 

“ว่าแต่พวกเจ้าเป็นคนของอาณาจักรชูเหรอ”ไป๋จูเหวิน ถามพลางมองการแต่งกายของคนในกลุ่ม การแต่งกายของพวกมันคล้ายๆกับคนจองอาณาจักรอู๋อยู่มาก แต่จะต่างไปตรงเครื่องประดับเล็กน้อยเท่านั้น

 

“ขอรับ พวกเราเป็นคนของราชาอสูร ฟานซู เข้ามาในเขตอสูรแห่งนี้เพื่อฝึกฝน” ชายถือกระบี่ตอบด้วยท่าทีนอบน้อม

 

“ราชาอสูร?”ไป๋จูเหวินขมวดคิ้ว

 

“ขอรับ ท่านเป็นหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูรของอาณาจักรชูขอรับ” ชายถือกระบี่ตอบเสียงนอบน้อม ท่าทางที่อาณาจักรอื่นจะมีคนทําหน้าที่ล่าอสูรเช่นเดียวกับกลุ่มนักล่าอสูรของหวงหลงสินะ

 

“อ่อ…”ไป๋จูเหวินพยักหน้าอย่างเข้าใจ ท่าทางเขตอสูรปะการังแห่งนี้จะเป็นเขตอสูรระดับต่ําที่คนของทั้ง 2 อาณาจักรส่งเด็กของตนมาตรวจสอบสินะ

 

“ไม่ทราบว่าคุณชายมาทําอะไรที่เขตอสุรปะการังหรือขอรับ” ชายถือกระบี่ถามพลางเหล่มองหลินหลินที่อยู่ด้านหลัง

 

“ข้ามาตามหาคน”ได้ยินไป๋จูเหวินตอบ เหล่ากลุ่มนักล่าอสูรของอาณาจักรชูก็พากันมองหน้าพวกเดียวกันอย่างประหลาดใจ

 

“ไม่ทราบว่าคุณชายตามหาใครอยู่หรือขอรับ เผื่อพวกเราจะช่วยท่านได้” ชายถือกระบี่ถามอีกครั้งอย่างสุภาพ เมื่อครู่ ไป๋จูเหวินไม่ถือโทษโกรธพวกมัน พวกมันเลยอยากจะตอบแทนเสียหน่อย

 

“พวกเขาเป็นสหายของข้าชื่อต้าชิงและต้าเฉิน เข้ามาสํารวจในเขตอสูรแห่งนี้เมื่อปีที่แล้ว แต่พวกเขาไม่ได้กลับไปเลย”ไป๋จูเหวินตอบ

 

“ปีก่อน..” ชายถือกระบี่มีท่าที่ลําบากใจทันที พวกมันพึ่งเข้ามาสํารวจได้ 2 วันเท่านั้น ไม่อาจทราบได้ว่าเมื่อปีก่อนมีใครเข้ามาหลงทางหรือไม่

 

“จริงสิ ถ้าไปถามพี่โจหยางล่ะ” หญิงสาวในกลุ่มเสนอขึ้นพลางมองไปทางชายถือกระบี่

 

“จริงสิ ถ้ากลับไปหาพี่โจหยาง” ชายถือกระบี่มีท่าที่ครุ่นคิดอยู่ไม่น้อย

 

“มีอะไรงั้นเหรอ”ไป๋จูเหวินถามพลางเลิกคิ้วสงสัย

 

“ตอนนี้พวกเรากําลังสอบอยู่ขอรับ หากพวกเราไม่นําเหรียญตราที่พี่โจหยางซ่อนเอาไว้ในเขตอสูรแห่งนี้กลับไป พวกเราจะสอบตกขอรับ” ชายถือกระบี่ตอบเสียงเบา หากมันพาไป๋จูเหวินกลับไปหาพี่โจหยาง ตอนนี้ไม่เท่ากับว่าการสํารวจ 2 วันนั้นเสียเปล่าหรอกหรือ

 

“แล้วพี่โจหยางของพวกเจ้าสามารถช่วยข้าได้หรือไม่”ไป๋จูเหวินถามออกไปเพราะมันก็ไม่ทราบว่าพี่โจหยางของพวกมันเป็นใครมาจากไหน

 

“ขอรับ พี่โจหยางเป็นคนคุมการสอบของพวกเรา พี่เขาจะมาที่นี่เพื่อพาคนมาทดสอบทุกเดือนขอรับ”ได้ยินชายถือกระบี่พูดเช่นนั้นไป๋จูเหวินก็มีท่าทีสนใจทันที ตอนนี้มันไม่พบวี่แววของพี่ต้าชิงต้าเฉินในเขตอสูรปะการังเลย แม้จะมีโอกาสน้อย แต่บางที่พี่โจหยางของพวกมันอาจจะช่วยบอกเบาะแสให้ไป๋จูเหวินฟังได้

 

“ถ้าเช่นนั้นข้าจะรอจนกว่าพวกเจ้าจะหาเหรียญที่ว่าพบ แล้วข้าจะขอตามพวกเจ้าไปหาพี่โจหยางของพวกเจ้าด้วยก็แล้วกัน”ไป๋จูเหวินเสนอออกไป ทําให้เหล่ากลุ่มคนของอาณาจักรชูหันมามองหลินหลินเป็นตาเดียว หากมีอสูรระดับนี้คอยคุ้มครอง พวกมันคงไม่ต้องกลัวอสูรอะไรในเขตนี้อีกเลย นั่นจะทําให้พวกมันสามารถหาเหรียญตราได้ไวขึ้น

 

“ตกลง” ชายถือกระบี่ยิ้มพลางรับข้อเสนอในทันที