บทที่ 45 เจ้าจงดิ้นรนไปเถิด ส่วนข้าจะอยู่ยงคงกระพัน (ปลาย)

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์

บทที่ 45 เจ้าจงดิ้นรนไปเถิด ส่วนข้าจะอยู่ยงคงกระพัน (ปลาย)

เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ จ้าวหอฮั่นก็ถึงกับหน้าซีดเผือด ขณะนั้นเองในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าตัวเองได้ประเมินความสามารถของสตรีลึกลับผู้นี้ต่ำเกินไปมากเพียงใด

นางไม่ได้อยู่ในระดับจ้าวแห่งกระบี่แล้ว แต่อาจจะเป็นผู้ฝึกกระบี่ในระดับราชันย์เสียด้วยซ้ำ !

ราชันย์กระบี่ หรือก็คือ ราชาแห่งกระบี่ !

เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้ว จ้าวหอฮั่นพลันหน้าซีดลงกว่าเดิม ด้วยถ้าหากสตรีลึกลับแข็งแกร่งขนาดนี้ เกรงว่าแม้สำนักอัปสรเมรัยจะสามารถคัดง้างกับนางได้ แต่เขาก็ย่อมต้องเสียตำแหน่งจ้าวหอไปแน่นอนเนื่องจากไปยั่วยุโทสะนางโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือนั่นก็คือหากเขามีชีวิตรอดต่อไป ไม่เพียงแต่จะถูกลดความสำคัญแล้ว แต่ยังต้องทนทุกข์ทรมานยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็นด้วย !

เป็นเพราะในครั้งนี้สำนักอัปสรเมรัยได้สูญเสียจ้าวหอไปหนึ่งคน มิหนำซ้ำดูจากท่าทีแล้ว สตรีนางนี้คง ไม่หยุดเพียงเท่านี้แน่ !

การเคลื่อนไหวข้างบนเหนือเรือเหาะคล้ายจะรุนแรงมากจนแม้แต่คนอื่น ๆ จากต่างสำนักก็ยังรู้สึกได้ ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้บริเวณนั้นแม้แต่น้อย พวกเขาพยายามรักษาระยะห่างและเพียงเฝ้าดู เหตุการณ์อยู่ไกล ๆ

ทุกคนต่างรู้แล้วว่ามีผู้ฝึกเพลงกระบี่ที่ไร้เทียมทานอยู่บนนั้น !

บนเรือเหาะ กระบี่วารีลอยกลับมาอยู่ในมือของสตรีลึกลับตามเดิม นางชี้มันไปที่จ้าวหอฮั่นอีกครั้ง “เรียกมา เรียกใครก็ได้มาให้ข้า !”

จ้าวหอฮั่นยิ้มอย่างสิ้นหวัง “ท่านผู้อาวุโส ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความผิดของพวกเรา ดังนั้นโปรดระงับโทสะเอาไว้ก่อนเถิด ผู้อาวุโส เราต้อง…”

ฉับ !

แขนข้างหนึ่งของจ้าวหอฮั่นลอยกระเด็น !

สตรีลึกลับกล่าวอย่างเฉยเมย “ถ้ายังมัวพูดพล่ามไร้สาระอยู่อีก ข้าจะตัดหัวของเจ้าแทน ข้าต้องการให้ เจ้าเรียกใครสักคนออกมา ก็จงทำตามนั้น เจ้าเข้าใจหรือไม่ ?”

สีหน้าของจ้าวหอฮั่นขมขื่นไม่น้อย ‘เรียกใครสักคนอย่างนั้นหรือ ? แน่นอนว่าข้าทำได้แน่ แต่หากพินิจดู จากสถานการณ์แล้วไม่ว่าใครก็ตามที่ข้าเรียกมาต้องตายแน่ ! อย่างไรเสียสตรีตรงหน้าข้าก็ไม่คิดจะหยุดอยู่แล้ว !’

คราวนี้เป็นสำนักอัปสรเมรัยเองที่กระทำการผิดพลาดไป

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เขาพลันหันมองไปยังเยี่ยฉวนซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล ‘บ้าจริง ไม่ใช่เพราะเจ้าบอกว่าไม่มีใคร หนุนหลังอยู่หรือไง ? แล้วนางไม่ใช่คนหนุนหลังเจ้าหรือ? เหตุใดจึงไม่พูดออกมาก่อนหน้านี้ ? หากพูดมาตั้งแต่ แรกว่าราชันย์แห่งกระบี่ถือหางอยู่ข้างเจ้าแล้วละก็ เรื่องราวจะลงเอยเช่นนี้ได้อย่างไร ?’

สำหรับเยี่ยฉวนแล้ว เขายังคงงุนงง

ชายหนุ่มรู้อยู่แล้วว่าสตรีลึกลับผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน นางมีพลังที่แข็งแกร่งมาก แต่กระนั้น เขาก็คิดไม่ถึงว่านางจะทรงพลังมากถึงเพียงนี้ !

ยิ่งไปกว่านั้นแล้ว เขาไม่เคยหวังเลยสักนิดว่านางจะออกหน้ามาช่วยเหมือนอย่างตอนนี้ !

และถึงแม้ว่านางจะมา แต่เขากลับรู้สึกแย่มากกว่า ด้วยเพราะรู้ดีว่าหอคอยเรือนจำที่อยู่ภายในร่างกายนั้นเหมือนจะผิดปกติไปสักเล็กน้อย ราวกับว่าสิ่งมีชีวิตที่ถูกกักขังอยู่กำลังทะลักทลายออกมาอย่างไรอย่างนั้น !

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้แล้ว เหงื่อเย็น ๆ ก็พลันผุดขึ้นบนใบหน้าของเยี่ยฉวน เขากำลังหวาดกลัว !

ในตอนนั้นเอง ชายชราในชุดคลุมสีดำก็พลันปรากฏตัวขึ้นบนเรือเหาะ

มีใครบางคนมาอีกแล้ว !

เยี่ยฉวนกวาดสายตามองไปทางชายชราที่ดูเหมือนนักปราชญ์อย่างรวดเร็ว ก่อนพบว่าเคราของคนผู้นี้ เป็นสีขาวเช่นเดียวกับผมทั่วทั้งศีรษะ

ผู้มาใหม่ไม่สนใจผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ชายชราสบตากับสตรีลึกลับก่อนจะโค้งคำนับ “ข้าคือจ้าวหอชั้นที่สามของสำนักอัปสรเมรัย ขอต้อนรับผู้อาวุโสเทพเซียนกระบี่ !”

เทพเซียนกระบี่ !

เมื่อได้ยินเช่นนี้ จ้าวหอฮั่นก็ถึงกับเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ !

ขั้นสูงสุดของเซียนกระบี่ !

มีเทพเซียนกระบี่อยู่ระหว่างสวรรค์และโลกกี่องค์ ? หรือควรถามใหม่ว่ามีเซียนกระบี่ทั้งหมด กี่องค์บนโลกนี้กันแน่ ?

อย่างไรเสีย ในทวีปชิงก็ไม่มีทางมีแม้แต่หนึ่งองค์แน่นอน !

สตรีลึกลับกล่าวตอบ “ดูท่าเจ้าเองก็ฝึกฝนมาไม่น้อย นับว่าไม่เลวเลยทีเดียว อย่างเจ้าสิ ถึงจะมีคุณ สมบัติคู่ควรกับวิชากระบี่ของข้าหน่อย !”

ด้วยคำพูดของนาง กระบี่ข้างตัวจึงเกิดอาการสั่นเล็กน้อย

ชายชรารีบกล่าวขึ้นทันที “ท่านผู้อาวุโสโปรดใจเย็นก่อน ความแข็งแกร่งของท่านนั้นไม่เป็นสองรองใครในทวีปชิง แน่นอนว่าในฐานะผู้น้อย ข้าไม่กล้าคิดปะทะเพลงกระบี่กับท่านแน่ ! อย่างไรเสีย ข้าก็ได้แต่หวังว่า ท่านจะไม่ใช้ความแข็งแกร่งและสถานะมากดดันให้เราเหล่าผู้น้อยต้องลำบากใจ !”

เห็นได้ชัดว่าการพูดแบบนี้หมายความว่าระดับของเขาไม่คู่ควรกับนาง ดังนั้นนางจึงไม่สมควรที่จะ รังแกผู้อ่อนแอกว่าเป็นอย่างยิ่ง !

“นี่เจ้าอายเด็กมันหรือไร ?”

สตรีลึกลับหัวเราะเบา ๆ “คนจากสำนักอัปสรเมรัยต้องการที่จะจัดการ… อืม จัดการกับเจ้าหนุ่มน้อย นั่น และพวกนั้นยังกล่าวอีกว่าเป็นเพราะสำนักของเจ้าได้แผ่อิทธิพลไปรอบ ๆ ทั่วทั้งแคว้นเจียง ดังนั้นพวกเจ้า จึงไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใด ! ดูท่าว่านั่นคงจะเป็นแค่คำคุยโวโอ้อวดเสียแล้ว !”

ชายชราไม่โต้เถียงเพราะเขาไม่อยากดิ้นรนหาที่ตายตอนนี้

เขามองไปที่เยี่ยฉวน จากนั้นจึงเดินเข้าไปหาพร้อมเอ่ยคำขอโทษด้วยท่าทางจริงใจ “สหายท่านนี้ เป็น เพราะสำนักอัปสรเมรัยได้สร้างความขุ่นเคืองให้แก่ท่านก่อน ดังนั้นโปรดให้อภัยเราด้วยเถอะ !”

เยี่ยฉวนรู้ว่าที่อีกฝ่ายมาขอโทษเพราะถูกสตรีลึกลับกดดัน ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะไม่แสดงความเยี่ย หยิ่งออกไปหรือพูดอะไรทั้งนั้น

ช่วงเวลาแบบนี้ เงียบไว้เป็นการดีที่สุด !

ชายชราหันไปชำเลืองมองจ้าวหอฮั่นที่อ้าปากกำลังจะพูด เพียงโบกมือขวาเท่านั้น พลังแข็งแกร่งที่มองไม่เห็นก็ได้เข้าห่อหุ้มร่างของผู้ที่กำลังนอนพะงาบใกล้ตายนั่นทันที

ตู้ม !

เพียงพริบตาเดียว จ้าวหอฮั่นที่เคยหยิ่งยโสก็ได้กลายเป็นเถ้าถ่าน !

ชายชราหันมาทำความเคารพสตรีลึกลับอีกเล็กน้อย “ท่านผู้อาวุโสโปรดอภัยให้เราด้วย !”

สตรีลึกลับไม่ได้กล่าวอะไรอีก นางค่อย ๆ ผายมือออกอย่างอ่อนโยน จากนั้นกระบี่วารีที่ถูกยกลอยก็ พลันร่วงลงสู่แม่น้ำที่เคยแห้งเหือด

ตู้ม !

ทันใดนั้นแม่น้ำสายใหญ่พลันปรากฏขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับสัตว์ทะเลอาศัยอยู่ในน้ำละลานตาไปหมด !

เมื่อเห็นฉากนี้ชายชราพลันหรี่ตาลงเล็กน้อย เขาตกตะลึงไปเพราะความสะเทือนใจ

สตรีลึกลับค่อย ๆ กลายเป็นภาพลวงตา และในไม่ช้านางก็เลือนหายไปจากสายตาผู้คนในบริเวณนั้น แต่เมื่อนางกำลังจะหายไปอย่างสมบูรณ์ เสียงของนางก็พลันดังขึ้นอีกครั้ง

“หากสำนักอัปสรเมรัยไม่เต็มใจที่พ่ายแพ้ ก็จงมาหาข้าเพื่อล้างแค้น ข้านั้นเป็นอมตะ ดังนั้นข้าจึงไม่สนว่าพวกเจ้าจะมากันเท่าไหร่ใช้ลูกไม้อะไร หรือจะต้องวางแผนเป็นร้อยเป็นพันปีก็ตาม เจ้าจงดิ้นรนไปเถิด ส่วน ข้าจะอยู่ยงคงกระพัน !”