ตอนที่ 385 เทศกาลดนตรี (2)
พรึ่บ—-
อันซย่าซย่ากระอักเลือด “นาย นาย นาย…”
เธอยกกำปั้นเล็กๆ ขึ้นด้วยท่าทางฟึดฟัดพร้อมจะต่อยฉีเหยียนซี
ผัวะ—
เข้าเป้าอย่างสวยงาม!
สักพักทุกคนในชั้นเรียนก็หันมาดู
พระเจ้า อันซย่าซย่าต่อยปีศาจฉีจริงๆ หรือนี่? นั่นก็หมายความว่าหนทางตายของเธอก็อยู่ไม่ไกลแล้วสิ?
ครูสอนฟิสิกส์ขาสั่นพลางเช็ดเหงื่อที่ไหลพลัก ตัวเขาสั่นระริก
เขาเป็นเพียงครูตัวเล็กๆ ธรรมดาทั่วไป…ไม่มีปากไม่มีเสียง แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่สามารถนั่งมองนักเรียนตัวเองถูกส่งเข้าปากเสือได้!
“แคกแคก…นักเรียนอันซย่าซย่า รักษากฏระเบียบด้วย…ฉี ฉีเหยียนซี เธอกลับไปนั่งที่ของตัวเองได้แล้ว!” ในขณะที่พูด น้ำเสียงของเขาก็สั่นเทา
ใครจะคิดว่าภายใต้สายตาของทุกคนที่จับจ้องมา ฉีเหยียนซีจะแยกเขี้ยวยิงฟันลูบใบหน้าหล่อๆ ของตัวเองและพูดอย่างขุ่นเคือง “ยัยทึ่มซย่าซย่า เธอไม่ตบหน้าไม่ได้หรือไง?”
ทุกคน : “….” แย่แล้วปีศาจฉีกำลังทำการรุกรานแล้วหรือนี่?!
อันซย่าซย่าเองก็เป็นนักรบชาวสปาร์ตันเช่นกัน เธอถามเก้ๆ กังๆ “นายโอเคไหม? ╮ (╯_╰) ╭”
“เจ็บนิดหน่อย…เจ็บที่หน้า แล้วก็เจ็บที่หัวใจด้วย!” ฉีเหยียนซีทุบหน้าอกพลางร้องโอดครวญไม่หยุด
อันซย่าซย่าทนไม่ไหว “นายกลับไปนั่งที่ของตัวเองเลยไป!”
ฉีเหยียนซีสูดน้ำมูก มือข้างหนึ่งกุมหน้าตัวเองไว้ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งลากเก้าอี้แล้วกลับไปนั่งยังที่นั่งของตัวเอง เขาทำหน้าช้ำใจราวกับภรรยาตัวน้อย
คุณครูและนักเรียนในชั้นเรียนต่างเฝ้าดูฉากนี้โดยที่ตาไม่กะพริบ คิดเพียงว่าโลกทั้งใบเป็นภาพลวงตา
โอ้ มายก๊อด! แท้ที่จริงแล้วปีศาจฉีก็มีคนที่เขากลัวด้วยหรือนี่?
“มองอะไรกัน เดี๋ยวฉันจะควักลูกกะตาพวกนายออกให้หมดเลย! ประสาท?!” ฉีเหยียนซีทุบโต๊ะและพูดกร่าง ในขณะนั้นครูและนักเรียนทุกคนในชั้นเรียนก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ
อย่างไรก็ตามจิตวิญญาณแห่งการซุบซิบนินทาที่อยู่ภายในใจของทุกคนก็เริ่มจุดประกายขึ้นมา…
–
ข่าวลือได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ในช่วงพักเที่ยงหลีฝานซิงก็มาหาที่หน้าประตู
เธอสกัดอันซย่าซย่าไว้ตรงหน้าบันไดพร้อมกับแววตาดุร้าย “อันซย่าซย่า! ทำไมเธอถึงร้ายกาจขนาดนี้! ฉันอยู่กับเซิ่งอี่เจ๋อ เธอก็ไปยั่วเซิ่งอี่เจ๋อ! พอฉันอยู่กับฉีเหยียนซี เธอก็มาทำลายความสัมพันธ์ของพวกเรา! เธอมีเจตนาอะไรกันแน่!”
อันซย่าซย่ายังไม่ทันได้พูดอะไร แต่ซูเสี่ยวโม่ที่อยู่ข้างๆ กลับโมโหแทนเธอพร้อมกับตอบโต้ใส่หน้าหลีฝานซิง “อ้าว หลีฝานซิง ทำไมเธอไม่บินขึ้นบนท้องฟ้าให้สูงเสียดไหล่กับพระอาทิตย์ไปซะเลยล่ะ! เธอคิดว่าตัวเองวิเศษวิโสมาจากไหน ได้ใหม่ลืมเก่า เหยียบเรือสองแคม ตัดพ้อเรื่องนี้คิดเรื่องนั้นแล้วยังมาโทษคนอื่นอีก? ไหนจะอยู่กับเซิ่งอี่เจ๋อ ไหนจะอยู่กับฉีเหยียนซี เธอไม่อายหรือไง? ที่เรียกว่าอยู่ด้วยกันมันเป็นรักแท้จริงๆ หรือเปล่าล่ะ? หรือว่ามโนเอาเอง?”
หลีฝานซิงกัดฟันกรอดและยกมือขึ้นเตรียมจะตบ แต่กลับโดนอันซย่าซย่าคว้าข้อมือสกัดไว้และผลักไปเบาๆ เธอเดินเซถอยหลังไปสองก้าวเพื่อยืนให้มั่น อีกนิดเดียวก็เกือบตกบันไดไปแล้ว
“รุ่นพี่ นอกจากจะด่าคนอื่นแล้วยังคิดจะตบคนอื่นอีกเหรอ นิสัยแบบนี้ไม่น่าเคารพเอาซะเลย อยากจะกุมหัวใจแฟนเก่าก็ทุ่มเทกับเขาให้มากหน่อย อย่าทำตัวหลงผิดคิดว่าคนอื่นปองร้ายด้วยความคิดที่ว่าผู้หญิงทั้งโลกเป็นศัตรูหัวใจของเธอ!” อันซย่าซย่าตอบโต้อย่างมีไหวพริบและยิ้มร่าเริง “แล้วยังมีอีก ถ้าจะหาเรื่องทะเลาะ อย่างน้อยก็หาที่สงบๆ หน่อยเถอะ…เอ๊ะ ตรงนั้นน่าจะมีคนถ่ายวิดีโออยู่นะ ฉันน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่เธอเป็นบุคคลสาธารณะ…ถ้าเรื่องถูกแฉขึ้นมาล่ะก็…หึหึหึ”
ที่พูดมาแบบนี้เป็นเพราะอันซย่าซย่าขี้เกียจจะคุยกับเธอมากไปกว่านี้แล้ว อันซย่าซย่าจึงจูงมือซูเสี่ยวโม่เดินออกไปก่อน
หลีฝานซิงกระทืบเท้า จู่ๆ ก็มีเสียงหวานดังขึ้นมาจากทางด้านข้าง “ฝานซิง อันซย่าซย่าเหยียดหยามเธอขนาดนี้ เธอยอมได้งั้นเหรอ?”
ตอนที่ 386 เทศกาลดนตรี (3)
“ฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่นอน…” หลีฝานซิงพูดอย่างเย็นชา เธอกวาดตามองซ่งชิงเฉิน “รู้สึกอย่างไรบ้างล่ะ ที่ได้ปลอมตัวเป็นคนรักวัยเด็กของใครบางคนกลับมา?”
ซ่งชิงเฉินกำหมัดแน่นอย่างเงียบๆ เธอเหลือบตามองหลีฝานซิง “อย่าลืมเรื่องที่เราสองคนตกลงกันล่ะ!”
“แน่นอน”
–
ในขณะที่อันซย่าซย่ากับซูเสี่ยวโม่เพิ่งเดินออกจากโรงเรียน ทันใดนั้นก็มีรถเฟอร์รารีสีแดงจอดขวางไว้
ฉีเหยียนซีผิวปากอยู่ในรถเปิดประทุน ดวงตาสีลูกพีชปล่อยประกายไฟออกมาไม่หยุด “จะไปไหน? ฉันไปส่งพวกเธอเอง”
“ไม่ต้อง” อันซย่าซย่าส่ายหน้า “พวกเรานั่งรถสาธารณะไปกันเองได้…โอ้ย โม่โม่ เธอหยิกฉันทำไม?”
ซูเสี่ยวโม่ตาเป็นประกายพลางด้อมๆ มองๆ รถสปอร์ตของฉีเหยียนซี เธอกระซิบว่า “ซย่าซย่า ช่วงนี้ฉันวาดมังงะตาหวานอยู่น่ะ เธอปล่อยให้ฉันได้รับรู้ถึงความรู้สึกเวลาที่คุณชายจอมหยิ่งพานั่งรถเล่นหน่อยสิ!”
“เอ่อ…” อันซย่าซย่ายังไม่ทันได้ตอบรับก็ได้ยินเสียงอันหนักแน่นของซูเสี่ยวโม่ “ดีเลยพวก! ขอบใจนายมาก!”
เธอลากอันซย่าซย่าขึ้นรถ ฉีเหยียนซีที่นั่งอยู่ตำแหน่งคนขับกระตุกมุมปาก
“พี่ชายโม่ไม่ต้องเกรงใจ พวกเรามันคนกันเอง!”
อันที่จริงเขาค่อนข้างชื่นชมผู้หญิงอย่างซูเสี่ยวโม่เพราะเธอมีความเป็นนักเลง ไม่ขี้แย! อยู่ด้วยแล้วสบายใจ!
อันซย่าซย่าเหงื่อแตกบนแถบหน้าผาก ไหนบอกว่าวาดมังงะตาหวานอยู่ไง สไตล์การวาดของโม่โม่คงแปลกพิลึก…
“พวกเธอจะไปไหน?” ฉีเหยียนซีถาม
“โรงยิมประจำมณฑลน่ะ….” อันซย่าซย่ารายงานชื่อสถานที่ ฉีเหยียนซีเหยียบคันเร่งพร้อมกับดริฟท์รถเท่ๆ เพื่อมุ่งหน้าไปทางโรงยิมประจำมณฑล
รถเฟอร์รารี่ไปถึงจุดหมายด้วยความรวดเร็ว
ฉีเหยียนซีไม่ได้จะขับออกไป แต่กลับจอดรถแล้วตามลงมา
“ฉีเสี่ยวฮัว นายตามพวกเรามาทำไม?!”
“ยุ่งน่า…ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ให้เรียกชื่อนี้…ช่างเถอะ จะเรียกก็เรียก แต่ต่อไปให้เธอเรียกได้แค่คนเดียว!” พอพูดเสร็จ ฉีเหยียนซีก็ปัดหน้าม้าสีน้ำตาลของตัวเอง “พวกเธอออกมาวิ่งตั้งไกลขนาดนี้ คนหนึ่งโง่ คนหนึ่งห้าว ถ้าโดนลักพาตัวไปก็ไม่รู้ด้วยหรอก แน่นอนว่าฉันต้องมาเป็นฑูตพิทักษ์ให้พวกเธอไง”
เขาพูดด้วยคำพูดเกินจริง อันซย่าซย่ายักไหล่อย่างช่วยไม่ได้และเดินเข้าไปภายในโรงยิม
บริเวณท้ายแถว “จุดลงทะเบียนเทศกาลดนตรี” ฉีเหยียนซีประหลาดใจเล็กน้อย “เธอจะเข้าร่วมเทศกาลดนตรีเหรอ?”
เทศกาลดนตรีประจำปีของเมืองอวี้มีชื่อเสียงมายาวนาน มีนักดนตรีมากความสามารถหลายคนเคยแจ้งเกิดจากเวทีนี้
“ใช่แล้ว หรือนายลืมไปแล้วว่าซย่าซย่าเป็นนักเรียนสายศิลปะ?” ซูเสี่ยวโม่อธิบายแทนเธอ
อันซย่าซย่ามาถึงด้านหน้าอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ยื่นแบบฟอร์มให้เธอหนึ่งใบ เธอกรอกข้อมูลส่วนตัวอย่างตั้งใจ ฉีเหยียนซีชำเลืองมองก็พบว่ารายการแข่งขันที่เธอเขียนลงไปในนั้นคือ ไวโอลิน
อันซย่าซย่ายื่นแบบฟอร์มให้เจ้าหน้าที่ ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังจัดเก็บเอกสาร ก็บังเอิญทำเอกสารบางส่วนหล่นลงบนพื้นโดยไม่ทันได้ระวัง เธอจึงช่วยเก็บมันขึ้นมาและกวาดตามองแบบฟอร์มลงทะเบียนโดยไม่ได้ตั้งใจ
ผู้เข้าแข่งขันในกลุ่มระดับสูง : ซ่งชิงเฉิน
รายการแข่งขัน : ไวโอลิน
มันจะไม่บังเอิญเกินไปหรือ?
อันซย่าซย่ารำพึงในใจพลางรู้สึกสังหรณ์ใจ
–
ฉีเหยียนซีพาทั้งสองกลับบ้าน จากนั้นก็ขับรถสปอร์ตออกไปเท่ๆ
หลังจากทานข้าวเสร็จ อันซย่าซย่าก็วิ่งกลับมาที่ห้อง เธอใช้ipadวิดิโอคอลกับเซิ่งอี่เจ๋อ
เขายังคงอยู่ในช่วงโชว์ตัวนอกสถานที่ อันซย่าซย่าทอดถอนใจ “คิดบ้างไหมว่าเราเป็นเหมือนคู่รักทางไกล?”
เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มมุมปากเล็กน้อยพลางพึมพำ “วันหลังจะไม่แล้ว…”
อันซย่าซย่าได้ยินไม่ชัดและพลันนึกถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวัน “คนรักวัยเด็กของนายเล่นไวโอลินได้ด้วยเหรอ?”