ตอนที่ 505 เหอเฟิงหมายเลข 3!

เย่เทียนรู้ว่าที่คนเป็นปู่ทำเช่นนี้เพราะต้องการจะทดสอบความสามารถของเขาและเย่เฉิน นี่เป็นการให้ทั้งสองคนแข่งขันกัน!

เย่ฉงไห่มักจะทำให้สามคนพี่น้องเกิดรู้สึกแข่งขันกันกลายๆ อยู่ตั้งแต่เด็ก

เย่เทียนกำหมัดแน่นพลางกล่าว “คุณปู่ครับ ผมจะต้องเจอน้องรองก่อนเย่เฉิน รอดูเลยครับ!”

พูดจบเย่เทียนก็เดินออกไปอย่างไม่พอใจนัก

……

เย่เฉินเก็บกระเป๋าแล้วบอกลาคนในครอบครัว

เขาไม่ได้ปล่อยให้เวลาเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ จึงกดโทรหาชิงหลงทันที

เย่เฉิน “ชิงหลง ไม่ได้ทำงานกับนายมาตั้งนาน ขับเหอเฟิงหมายเลข 3 มารับฉันที่ปราสาทที เราจะต้องเดินทางไกลกันสักหน่อย!”

ชิงหลง “ครับ!”

ไม่นานนักบริเวณด้านนอกของปราสาทอ้ายเย่ ต้นไม้ ณ บริเวณพื้นหญ้าโล่งๆ ขนาดใหญ่ก็ปลิวไสว เย่เฉินถือกระเป๋า ทั้งผม สูทและเชิ้ตก็โดนลมพัด ทว่ากลับยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนดูแล้วทรงอำนาจอย่างมาก!

“สวรรค์ นี่มันอะไรกัน? ที่รักอันตรายไหมคะเนี่ย?”

ซูมู่ชิงยืนอยู่ที่บริเวณประตูปราสาท เห็นเย่เฉินที่ยืนอยู่ไกลๆ ก็เกิดเป็นห่วงสามีขึ้นมา

จางเชี่ยนจือและเย่เทียนเองก็ยทนอยู่ที่ประตูเพื่อส่งเย่เฉินเช่นกัน

จางเชี่ยนจือเอ่ยถาม “เย่เทียน อย่าบอกนะว่าฝนจะตกอีกแล้วน่ะ? ทำไมจู่ๆ ถึงได้มีลมกรรโชกแบบนี้?”

เพราะประเทศอังกฤษมักมีลมมรสุมตลอดปี ดังนั้นฝนจึงตกหนักบ่อยๆ ตลอดเวลาที่จางเชี่ยนจือมาที่นี่แทบจะไม่เห็นฟ้าใสๆ เลย

เย่เทียนอธิบาย “มู่ชิง คุณน้า ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ นั่นคือเครื่องบินล่องหนของตระกูลเย่เรา”

“เครื่องบินล่องหนเหรอ?”

ซูมู่ชิงและจางเชี่ยนจือชะงักไป คนร่ำรวยมีเครื่องบินส่วนตัวไม่แปลก ตอนนี้เครื่องบินส่วนที่ราคาถูกที่สุดก็อยู่ที่สิบล้านหยวน

ตระกูลซูยังมีเครื่องบินส่วนตัว ตระกูลเย่มียันรถม้าทอคำ มีเครื่องบินส่วนตัวก็ไม่แปลก

แต่ว่าเครื่องบินล่องหนนั้น สาวๆ จากตระกูลซูยังไม่เคยแม้แต่จะเห็นสักครั้ง

และบนสนามหญ้าที่กว้างใหญ่นั้นก็มีโครงเงาสีขาวคันหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นเครื่องบินทั้งลำก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นให้เห็น!

เครื่องบินลำนี้ก็คือเครื่องบินล่องหนส่วนตัวของเย่เฉิน มันมีอาวุธสามารถใช้สู้ได้ ชื่อว่าเหอเฟิงหมายเลข 3!

เย่เทียนที่อยู่ไกลๆ อธิบายเพิ่มเติม “นี่ก็คือเครื่องบินล่องหนของน้องสาม ชื่อเหอเฟิงหทายเลข 3 ตระกูลเย่เรามีเครื่องบินล่องหนทั้งหมดสามลำ มีชื่อว่าเหอเฟิงหมายเลข 1 2 และ 3 หมายเลข 1 อยู่ที่ผม ส่วนหมายเลข 2 อยู่ที่น้องรอง”

ซูมู่ชิงมองเครื่องบินลำตรงหน้าก็ตื่นเต้น เพราะตนเองแต่งงานกับเย่เฉิน นั่นแปลว่าเครื่องบินลำนี้เป็นของตนเองเช่นกัน

แต่ว่าเย่เฉินไม่เคยพูดเรื่องนี้กับหล่อนมาก่อน

ซูมู่ชิงเอ่ยถามอีกฝ่าย “พี่ใหญ่คะ ฉันเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเครื่องบินเท่าไหร่ แต่ว่าน้องชายฉันเป็นพวกชอบเรื่องทหารๆ ฉันเคยได้ยินเล่าว่าเครื่องบินล่องหนมันแค่เรดาร์ตรวจจับไม่ได้แต่ไม่สามารถหายตัวได้จริงๆ ตามเหตุผลแล้วเครื่องบินล่องหนที่ว่านี่เราควรจะมองเห็นได้นะคะ แต่ทำไมเครื่องบินลำนี้เรามองไม่เห็นมันเลยล่ะคะ?”

เย่เทียนไม่ได้ตอบหล่อนตรงๆ เขาระบายยิ้ม “น้องสะใภ้ เธอไม่รู้เรื่องตระกูลเย่เราเท่าไรล่ะสิ เรื่องแบบนี้อย่าว่าแต่พี่บอกเธอไม่ได้เลย ต่อให้เป็นสามีเธอ น้องสามเองน่ะเรื่องบางเรื่องก็ยังไม่มีสิทธิ์รู้ด้วยซ้ำ!”

ซูมู่ชิงเองก็เริ่มจะเกลียดชังท่าทางเย่อหยิ่งในตอนนี้ของย่เทียนอย่างมาก “ฉันเชื่อสามีของฉันค่ะ ต้องมีวันหนึ่งที่เขารู้ทุกเรื่องแน่นอน!”

จางเชี่ยนจือเห็นซูมู่ชิงมีท่าทีแข็งกร้าวก็รีบเอ็ดลูกสาว “มู่ชิง! ทำไมพูดกับพี่ใหญ่เขาแบบนั้น?”

เย่เทียนมองซูมู่ชิงแล้วแค่นเสียง ไม่พูดไม่จาแต่เดินหนีเข้าปราสาทไป

เมื่อเหอเฟิงหมายเลข 3 ร่อนลงบนพื้น ก็มีชายรูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่งเดินออกมาจากเครื่องบิน

ชายผู้นี้สูง 193 ซม. น้ำหนัก 105 กก. ไว้ผมยาวที่เขามัดรวบดูไปแล้วทั้งเรียบร้อยแต่ก็มีพละกำลังมากด้วย

เขาก็คือชิงหลง!

ชิงหลงดูเย็นชาอย่างมาก ไม่ยิ้มแย้ม เดินมาหยุดตรงหน้าเย่เฉินแล้วคุกเข่าลง “ชิงหลงคารวะคุณชาย!”

นอกจากชิงหลงแล้ว ด้านหลังก็มีผู้ชายจำนวนสิบกว่าคนเดินตามมา แต่ละคนมีท่าทีขึงขัง พวกเขาก็คือลูกน้องของชิงหลง

คนพวกนี้มีทั้งคนดำและขาว และก็มีคนเอเชียด้วย ความสามารถของทุกคนรวมไปถึงเส้นสายล้วนต้องถือว่าชั้นยอด!

นี่ก็คืออิทธิพลทั้งหมดที่เย่เฉินมี!

พวกเขาทุกคนภักดีและขึ้นตรงต่อเย่เฉินเพียงคนเดียว!

“คารวะคุณชาย!”

สิบกว่าคนนี้ประสานเสียงรับพร้อมเพียงกัน

เย่เฉินหอบกระเป๋าเดินทาง แล้วตบบ่าของชิงหลง แล้วเดินเข้าไปในเครื่องบิน “ตามมา”

เย่เฉินขึ้นเครื่องบินแล้วเครื่องบินก็อยู่ในโหมดล่องหนอย่างรวดเร็ว

หลังจากขึ้นไปนั่งบนเหอเฟิงหมายเลข 3 แล้ว เย่เฉินก็ต้องแปลกใจ “ไม่ได้นั่งเครื่องบินลำนี้มาสามปี การตกแต่งด้านในเปลี่ยนไปเยอะเลย”

ชิงหลงกล่าววว่า “ได้วิศวกรเครื่องบินตกแต่งและปรับปรุงให้น่ะสิครับ”

เย่เฉินพยักหน้ารับ “ชิงหลง คราวนี้คุณปู่ให้ฉันไปตามหาตัวพี่รอง แล้วจับตัวเขากลับมา เราอาจจะต้องสู้กับพี่รอง จู่เชว่แล้วก็เครื่องบินเหอเฟิงหมายเลข 2 นายมั่นใจไหม?”

ชิงหลงกล่าวเสียงขรึม “ถ้าสู้กันตัวต่อตัวผมว่าผมชนะครับ”

เย่เฉินกล่าวแล้วระบายยิ้ม “นายแน่ใจเหรอ? ฉันจำได้ว่าเมื่อคราาวก่อนที่นายสู้กับเขา นายแพ้เขานะ”

สีหน้าชิงหลงเขินอาย “จูเชว่หมอนี่มีแต่อิทธิพลมืด เขาทำผิดกฎหมายด้วยซ้ำ”

เย่เฉินกล่าว “เขาติดตามพี่รอง หลายปีมานี้ก็เริ่มทำแต่สกปรกหนักไปเรื่อยๆ ความสามารถของตัวนายเองก็เก่งกว่าเขา แต่ถ้าหากว่าเขาใช้ลูกเล่น ฉันรู้สึกว่าพวกนายสองคนเสมอกัน หรือไม่ก็เขาอาจจะมีโอกาสชนะนายด้วยซ้ำ”

ชิงหลงเองมีทีท่ารู้สึกผิด “ขอโทษด้วยนะครับ ที่ทำให้คุณชายผิดหวัง!”

เย่เฉินตบบ่าชิงหลงแล้วกล่าว “ไม่ต้องสนใจ ฉันน่ะชื่นชมความถูกต้องของนายแบบนี้แหละ จริงสิ นายพอจะรู้ข่าวของพี่รองบ้างไหม?”

ชิงหลงส่ายหน้า “คุณชายใหญ่กับไป๋หู่ ควานตัวคุณชายรองทั่วโลกเลยครับ แต่ก็หาตัวเขาไม่เจอ ผมเองก็ส่งคนไปตามสืบเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ข่าวคราวพวกเขาเลย”

เย่เฉินสงสัย “ด้วยความสามารถของพี่ใหญ่ และสายสัมพันธ์กับคนทั่วโลก ถ้าเขาอยากจะหาตัวเขาไม่มีทางนาขนาดนั้น”

ชิงหลงกล่าว “ความสามารถในการสะกดรอยของคุณชายรองแข็งแกร่งมาก ทันทีที่ไปถึงประเทศหรือเขตไหนๆ ก็จะได้รับความช่วยเหลือจากตำรวจประจำท้องที่ แต่การทำแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับการแหวกหญ้าให้งูตื่น เปิดโอกาสให้คุณชายเย่เซวียนได้เผ่นหนีไป”

เย่เฉินพยักหน้ารับ “ถูกต้องแล้ว คุณปู่ไม่ได้ตัดสิทธิ์อะไรของพี่รอง เราเองก็ใช้เส้นสายได้เหมือนกัน เขาเองก็ใช้ได้เหมือนกัน บวกกับในตอนที่ไปทำการทดสอบทั่วโลก เส้นสายของเขาก็มากมายสนิทกับคนพวกนั้นมากกว่า คนพวกนั้นอาจจะเข้าข้างพี่รอง ไม่แน่ว่าอาจจะช่วยพี่รองหลอกลวงพี่ใหญ่ก็ได้”

ในบรรดาสามพี่น้องตระกูลเย่ คนที่มีเส้นสายเยอะที่สุดคือเย่เซวียน

ชิงหลงจึงกล่าวว่า “ดูแล้วคุณชายน่าจะเตรียมตัวมานานแล้ว คุณชายเย่เซวียนก็มีเครื่องบินล่องหน เราหาไม่เจอหรอกครับ”

เย่เฉินไม่ค่อยพอใจ หรือว่าจะต้องควานหาตัวเขาเป็นปีเลยหรือไง?

เขาไม่อยากจะเสียเวลาไปนานขนาดนี้!

“ซีกวา…”

เย่เฉินนึกถึงที่เขาใช้ซีกวาตามหาฉินหงเหยียนเมื่อครั้งก่อน ถ้าหากว่าซีกวาเจอเบาะแสอะไรก็น่าจะทำให้เรื่องนี้ง่ายขึ้นเยอะ!