เมื่อได้เห็นชูฮันเผยรอยยิ้มน่ากลัวออกมาหลังจากดูเนื้อหาในรายชื่อคุ้มครอง เฉินช่าวเย่และหลิวยู่ติงก็ปั่นป่วนกันทั้งคู่ โชคดีที่เฉินช่าวเย่เคยชินกับหัวหน้าของเขาดี ไม่ว่าหัวหน้าจะทำอะไรหรือสั่งอะไรเขาก็พร้อมจะทำตามทันทีอยู่แล้วอย่างไม่ลังเลเพราะงั้นเฉินช่าวเย่จึงไม่คิดอะไรมาก แต่หลิวยู่ติงนั้นต่างออกไป ทันทีที่หลิวยู่ติงเห็นท่าทางของชูฮันเขาก็รู้ทันทีว่ามันมีเรื่องบางอย่างกวนใจชูฮันอยู่

 

ในขณะเดียวกันหลิวยู่ติงก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาอีกครั้ง เอกสารทั้งสองชุดตรงหน้าเป็นความลับสุดยอดของซางจิง แน่นอนว่าเขาไม่มีสิทธิที่จะได้เห็นเนื้อหาในเอกสารพวกนี้ แต่เขากลับได้เห็นรายละเอียดภารกิจของทีมหลงยาไปแล้วถึง 5 ภารกิจ!

 

ดูจากการระมัดระวังของชูฮันแล้ว ชูฮันน่าจะสามารถหาทางแอบดูเอกสารนี้ได้คนเดียวโดยที่ทั้งเขาและเฉินช่าวเย่ไม่มีทางรู้ แต่นี่ชูฮันกลับจงใจปล่อยให้เขาและเฉินช่าวเย่ได้เห็นเนื้อหาของเอกสารพวกนี้

 

นี่เขาถูกชูฮันวางกับดักงั้นเหรอ?

 

เมื่อนึกถึงข้อด้อยของตัวเอง หลิวยู่ติงก็มักโดนชูฮันหลอกล่อมาตั้งแต่เด็ก เขาอาจสามารถเดาบางความคิดของชูฮันได้ แต่เมื่อหลังจากรู้ว่าตัวเองตกลงไปในกับดักของชูฮัน หลิวยู่ติงก็อยู่ในภาวะอารมณ์เหี่ยวเฉาทันที

 

“ชูฮัน” หลิวยู่ติงขยับปากอย่างเหนื่อยอ่อน “บอกความจริงกับฉันมา นายได้เอกสารพวกนี้มาโดยวิธีปกติใช่มั้ย?”

 

หลังจากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับพ่อของเขาและยืนยันตัวตนของซงเสี่ยวได้แล้ว อารมณ์ของชูฮันก็ดีขึ้นมาก ในตอนนี้เมื่อได้ยินหลิวยู่ติงเอ่ยปากถาม ชูฮันก็หันหน้าไปและเผยรอยยิ้มแปลกๆ “นายก็รู้จักฉัน”

 

หลิวยู่ติงแทบจะล้ม…เพราะเขารู้ดีไง!

 

“ชูฮัน!” หลิวยู่ติงแหกปากตามด้วยคว้าไหล่ชูฮันอย่างตระหนก “นายแน่ใจใช่มั้ยว่าจะไม่โดนจับได้? ในเมื่อตอนนี้ฉันได้เห็นมันแล้วและถือว่าสมคบคิดกับนาย เพื่อทำลายหลักฐาน ไม่สิ! รวมถึงเฉินช่าวเย่ด้วย นายต้องทำลายหลักฐานซะ!”

 

“ไม่ต้องห่วง” ชูฮันยิ้มมุมปาก “ตราบใดที่นายไม่ไปปริปากบอกใคร ก็จะไม่มีใครรู้เด็ดขาด”

 

ไม่มีใครรู้ ยกเว้นหวังไค…ที่ไม่ใช่มนุษย์

 

———–

 

หลังจากงานเฉลิมฉลองปีใหม่ผ่านพ้นไป ทั้งค่ายซางจิงก็เข้าสู่กระบวนการพัฒนาอย่างรวดเร็ว หลังจากการประชุมที่ชูฮันเกือบจะฆ่าคนตายมันก็มีคำสั่งประกาศออกใช้ทั่วทั้งค่าย รูปแบบของเหรียญล่มสลายทำการตีพิมพ์ในเช้าตรู่วันถัดมาทันทีและชูฮันก็มาเข้าพบผู้บัญชาการมู๋ในเช้าวันนั้นเช่นกัน

 

ชูฮันเข้าพบผู้บัญชาการมู๋เพื่อยืนยันการรับตำแหน่งพลเอก และรับฟังกฏระเบียบและหน้าที่ต่างๆ เมื่อวานนี้ที่ชูฮันได้เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองวันปีใหม่และการประชุมระดับสูง เขาได้ฆ่าลูกผสมและจัดการเจ้าหน้าที่ที่ละเลยหน้าที่ไปสองนาย วันนี้พึ่งเป็นเพียงวันที่สามของชูฮันในซางจิงเท่านั้น แม้แต่ชูฮันเองก็ยังแปลกใจกับตัวเอง ในเวลาเพียงแค่สองวันเขาทำงานไปมากโขอยู่

 

มีเพียงแค่สองคนอยู่ในห้องทำงานของผู้บัญชาการมู๋…ผู้บัญชาการมู๋และเลาหมิง

 

เมื่อมองชูฮันที่อยู่ตรงหน้าที่แต่งกายด้วยเครื่องแบบทั่วไป เลาหมิงก็เลียริมฝีปากพลางหันไปมองคู่หูข้างๆที่ยังไม่เอ่ยปากพูดเลยสักคำ

 

“กระแอ่ม!” ผู้บัญชาการมู๋ส่งเสียงกระแอมตามด้วยโยนซองเอกสารลงบนโต๊ะ “ชูฮัน นี่สำหรับนาย”

 

ชูฮันมองสองคนตรงหน้า ผู้บัญชาการมู๋ที่นั่งอยู่ด้วยท่าทางน่าเกรงขาม และเลาหมิงที่นั่งข้างๆขณะกำลังใช้สายตาสำรวจเขา สองคนตรงหน้าเขานี่ไม่ต่างอะไรกับจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์เลย

 

“ผมไม่ต้องการ” ชูฮันตอบ

 

“นี่คือรางวัลของนาย” รอยยิ้มของเลาหมิงไม่มีความหมายอะไรเลย แถมยังพูดเสียงกระซิบต่อ “พลทหาร”

 

“ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่พวกคุณให้รางวัลกับทหาร?” ชูฮันเองก็เผยรอยยิ้มจิ้งจอกออกมาเหมือนกัน

 

ผู้เฒ่าทั้งสองไม่แปลกใจกับผลตอบรับของชูฮัน ทั้งสองคาดการณ์ไว้แล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้

 

“อย่าพูดเหมือนมันเป็นของน่ารังเกียจสิ!” เลาหมิงจงใจยั่วเย้าชูฮัน เขาจ้องตาชูฮัน “นายไม่ได้ฆ่าลูกผสมเพราะต้องการแก้ไขปัญหาให้ซางจิง และเหมิงหมิงและเหมิงไซก็ไม่ได้ไร้ความสามารถอย่างที่นายกล่าว นายไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นต่อ อ๋อออก็เพราะนายออกไปก่อน นายบอกว่าต้องการเหรียญล่มสลาย 20,000 เป็นรางวัล แต่เหรียญชุดแรกยังไม่ได้ตีพิมพ์ออกมาด้วยซ้ำ แต่ถึงยังไงเรายังมีบัตรกำนัลให้”

 

โชคดี เหอะ!

 

ชูฮันตื่นตัวทันทีเขาไม่เชื่อคำที่ว่ามันจะมีเรื่องที่ดีซ่อนอยู่ในเรื่องไม่ดี คริสตัลของซอมบี้ระยะ 4 มีค่าเท่ากับเหรียญล่มสลาย 500 แต่ตาเฒ่าสองคนนี้กลับบอกว่าไม่สามารถให้เขา 20,000 เหรียญล่มสลายได้ มันจะเป็นไปได้อย่างไร?

 

“ค่อก แค่ก!” ผู้บัญชาการมู๋ส่งเสียงขัดทั้งคู่ น้ำเสียงของผู้บัญชาการมู๋เต็มไปด้วยความจริงจัง “ชูฮัน เลาหมิงพูดความจริง นอกเหนือจากบัตรกำนัลที่ให้ไปในซองเอกสาร นายจะได้รับเงินเดือนของพลเอกปีแรกและการสถาปนาค่ายของตัวเอง อุปกรณ์ต่างๆถือเป็นรางวัลจากซางจิงเพื่อส่งเสริมให้พลเอกตั้งถิ่นฐาน”

 

“พลเอกทุกคนมีเหมือนกันหมด” เลาหมิงกล่าวเสริมอีกประโยค น้ำเสียงเต็มไปด้วยการยั่วยุ “หรือนายต้องการจ่ายดอกเบี้ยเหมือนค่ายอื่น?”

 

ชูฮันหัวเราะหึ แม้เขายังไม่อยากจะเชื่อคำโกหกของสองคนนี้ แต่เขาก็ยอมเปิดเอกสารออกมาดู เขาต้องการจะเห็นว่าตาเฒ่าสองคนนี้ใช้อะไรมาล่อเขา

 

และในจังหวะที่ชูฮันหยิบเอกสารในซองออกมา ผู้บัญชาการมู๋และเลาหมิงก็เผยรอยยิ้มเล่ห์เหลี่ยมออกมา

 

พรึบ!

หลังจากชูฮันกวาดสายตาดูกระดาษในมือ เขาก็ต้องเลียริมฝีปากออกมา

 

เหอะ! สองเฒ่านี้ล้อเขาเล่นเหรอไง!

 

“แล้วมันเท่าไหร่น่ะ? ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเหรียญล่มสลาย 20,000 เหรียญ ถึงแม้เงินเดือนของนายจะไม่สูงมากแต่มันก็มี และยังไม่รวมอย่างอื่นอีก” เลาหมิงยิ้มพลางพูดต่อ “พวกเราปฏิบัติกับนายดีมากเลยใช่มั้ยล่ะ?”

 

“ยังไม่” เสียงของชูฮันลอดไรฟันออกมา

 

ผู้บัญชาการมู๋มีสีหน้าจริงจัง หากแววตากลับเป็นประกาย “ในกรณีนั้น นายสามารถเริ่มหาสถานที่เพื่อสร้างค่ายและทำมันได้เลย!”

 

ชูฮันสูดลมหายใจเข้าลึกและถามต่อ “รายการข้างในที่บอกคือผมต้องไปแผนกโลจิสติกส์?”

 

“ใช่! ใช่แล้ว!” เลาหมิงยิ้มกว้าง “เมื่อไปถึวนายสามารถจัดการทุกอย่างได้เลยด้วยตัวเอง”

 

“ถ้างั้นผมจะไปบ่ายนี้” ชูฮันวางเอกสารลงและขี้เกียจเกินกว่าจะต่อล้อต่อเถียงกับสองเฒ่านี้ต่อ “ผมจะไปบ่ายนี้”

 

“ดีแล้วที่รีบไปก่อนไวๆ” เลาหมิงไม่ประหลาดใจเลยสักนิดกับการตัดสินใจของชูฮัน

 

ชูฮันไม่ตอบ หากเขาหมุนตัวและเดินออกไปทันที ซองเอกสารในมือถูกเขากำแน่น ผู้บัญชาการมู๋และเลาหมิงที่อยู่ข้างหลังยิ้มกว้าง สายตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง…ดีมาก ไอ้หนุ่ม พึ่งมาถึงซางจิงแต่สามารถแก้ปัญหามากมายของซางจิงได้ภายในแค่สามวัน พวกเขาจะขอความช่วยเหลือจากชูฮันต่อ อย่าทำให้พวกเขาผิดหวังล่ะ!