บทที่ 103 ความรู้สึกของลาเต

รักหวานอมเปรี้ยว

“ฉันไม่ได้หาแก ฉันหามิ้นท์ เธออยู่ข้างกายแกใช่มั้ย?” คุณนายราศรีถามกลับ

ลาเต้มองไปทางมายมิ้นท์“อยู่ครับ”

“เอาโทรศัพท์ให้มิ้นท์”

ลาเต้อือคำหนึ่ง ยื่นโทรศัพท์ให้กับมายมิ้นท์“ให้ แม่ฉันนะ”

มายมิ้นท์รับโทรศัพท์มา“คุณป้าค่ะ”

“มิ้นท์ ป้าคิดถึงลูกจะตายแล้ว”เมื่อได้ยินเสียงของมายมิ้นท์ คุณนายราศรีก็ยิ้มจนตาหยี

มายมิ้นท์ก็ยิ้มขึ้นมาเช่นกัน“คุณป้า หนูก็คิดถึงป้าเหมือนกันค่ะ”

“คิดถึงป้าก็ไม่มาหาป้าเลย” คุณนายราศรีแกล้งทำเป็นบ่นว่า

มายมิ้นท์ก็แลบลิ้น“ขอโทษด้วยค่ะคุณป้า ช่วงนี้ยุ่งมาก ไม่มีเวลา”

“งั้นตอนนี้มีเวลามั้ย มาทานข้าวที่บ้านป้า ป้าจะทำของอร่อยให้ทาน” คุณนายราศรีพูดเชิญชวน

มายมิ้นท์กำลังจะพูด ลาเต้ที่แอบฟังอยู่ด้านข้างก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากพูดว่า“แม่ครับ ผมจะพาที่รักไปทานอาหารทะเล”

“อาหารทะเลข้างนอกมีอะไรน่ากิน ไม่สดด้วย จะกินก็กินที่แม่ทำ” คุณนายราศรีตอบ

มายมิ้นท์เอ่ยปากพูด“งั้นก็รบกวนคุณป้าแล้ว”

“ไม่รบกวนเลยไม่รบกวน งั้นพวกลูกมาเช้าหน่อยนะ” คุณนายราศรีได้ยินมายมิ้นท์ตกลงมาที่บ้าน ก็หัวเราะอย่างมีความสุข

ต่อจากนั้นก็วางสาย ลาเต้หยิบโทรศัพท์กลับมา มองไปที่มายมิ้นท์อย่างช่วยไม่ได้“ช่วยไม่ได้ อาหารทะเลข้างนอกกินไม่ได้แล้ว”

“ไม่เป็นไร ครั้งหน้าค่อยไปนะ ไป ไปซื้อของขวัญให้คุณลุงกับคุณป้ากัน”มายมิ้นท์ดึงแขนของเขาเดินไปที่รถ

ทั้งสองคนมาถึงที่ห้างสรรพสินค้า หลังจากที่ดูไปหนึ่งรอบ ซื้อเสื้อคลุมให้คุณนายราศรีหนึ่งผืน และซื้อเนกไทให้ คุณท่านตระกูลตระกูลรัตติพีระหนึ่งเส้น ถึงได้ขับรถไปที่บ้านของตระกูลรัตติพีระ

ตระกูลรัตติพีระและตระกูลกิตติภัคโสภณเมื่อก่อนนี้คบกันหลายชั่วคน และมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก

คุณนายราศรีและแม่ของเธอก็เป็นเพื่อนสนิทกัน

ตั้งแต่ที่แม่ของเธอเสียชีวิต คุณนายราศรีก็เลี้ยงดูเธอเหมือนลูกสาวแท้ๆ เรียกได้ว่าอยู่ในใจของเธอ คุณนายราศรีก็เป็นแม่คนที่สองของเธอ

ในไม่ช้า ก็มาถึงตระกูลรัตติพีระแล้ว

นี่เป็นครั้งแรกในรอบหกปีที่มายมิ้นท์มาที่นี่ ที่นี่ยังเหมือนกับเมื่อก่อนนี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย

ก็ด้วยเหตุนี้ มายมิ้นท์ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไรทั้งนั้น

“มิ้นท์!” คุณนายราศรีอยู่ในห้องได้ยินเสียงรถ เร่งรีบวิ่งออกมาต้อนรับ ดวงตาที่เห็นมายมิ้นท์ก็เปล่งประกายในทันที และอ้าแขนออกเข้าไปกอด

“คุณป้าค่ะ”มายมิ้นท์ก้าวไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม

ทั้งสองคนกอดอยู่ด้วยกัน

ลาเต้ที่อยู่ข้างกายก็มองดูจนอิจฉาตาร้อน“แม่ แม่ก็ละเลยผมแล้วใช่มั้ย?”

คุณนายราศรีกลอกตาขาว“ฉันเห็นแกอยู่ทุกวัน ก็เห็นจนเบื่อตั้งนานแล้ว คนที่ฉันอยากจะเห็นมากที่สุดคือมิ้นท์ มามิ้นท์ ให้ป้าดูดีๆหน่อยสิ ”

เธอจับมองสองข้างของมายมิ้นท์ไว้ ให้มายมิ้นท์หมุนตัวหนึ่งรอบ ค่อนข้างเอ็นดู“ผอมแล้ว”

มายมิ้นท์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก“คุณป้า หนูผอมที่ไหนกันค่ะ”

“ผอมทุกที่ เมื่อก่อนนี้บนใบหน้ายังมีเนื้อมีหนังอยู่บ้าง” คุณนายราศรีพูด

มายมิ้นท์ตอบกลับ: “เมื่อก่อนนั้นเป็นแก้มอ้วนเหมือนเด็ก ดังนั้นมองดูมีเนื้อมีหนังบ้าง เอาล่ะคุณป้า พวกเราเข้าบ้านก่อนเถอะค่ะ”

“ใช่ๆๆ เข้าบ้านก่อนนะเข้าบ้านก่อน” คุณนายราศรีดึงมือของเธอเข้าไปในคฤหาสน์

เข้าไปที่คฤหาสน์แล้ว มายมิ้นท์พบว่าไม่มีคนอื่น อดไม่ได้ที่จะถามว่า: “คุณลุงไม่อยู่เหรอคะ?”

“เขาอยู่เล่นกอล์ฟอยู่ข้างนอกกับคนอื่น ไม่สนใจเขาแล้ว มิ้นท์ ลูกเล่าให้ป้าสิว่าหกปีนี้เป็นยังไงบ้าง” คุณนายราศรีดูงานแถลงข่าวนั้นแล้ว และอยากจะรู้เรื่องราวของเธออย่างเร่งด่วน

“ค่ะ”มายมิ้นท์พยักหน้า ต่อจากพยายามเล่าชีวิตในตระกูลนวบดินทร์ อย่างเรียบง่าย ทั้งนี้จะไม่ทำให้คุณนายราศรีเป็นห่วง

แต่คุณนายราศรีฟังจบ ก็ยังโกรธมาก อดไม่ได้ที่จะตบโต๊ะกาแฟ“ตระกูลนวบดินทร์ไม่มีอะไรดีจริงๆ มิ้นท์ พวกเขาทำแบบนั้นกับลูก ทำไมลูกไม่บอกคุณลุงคุณป้า ลูกบอกพวกเรา พวกเราก็จะได้เป็นกำลังเสริมให้ลูก พวกเขาคงจะไม่กล้ารังแกลูกอย่างแน่นอน”

“นั่นนะสิ ก่อนหน้านี้ผมเคยพูดกับเธอ”ลาเต้กัดแอปเปิลพยักหน้าคล้อยตามไปด้วย

สำหรับพฤติกรรมการของมายมิ้นท์ที่ในระหว่างแต่งงานนั้นถูกรังแกก็ไม่บอกเขา ในใจของเขาก็โกรธมากมาโดยตลอด

แต่เปรียบเทียบกับโกรธเธอ เขาก็ยังรักเธอมากกว่า

มายมิ้นท์มองดูความเป็นห่วงของคุณนายราศรีและลาเต้ ในใจก็อบอุ่นมาก ดวงตาค่อยๆร้อนผ่าวขึ้นมา“เพราะว่าหนูไม่อยากทำให้คุณลุงคุณป้าเป็นห่วงค่ะ”

พ่อแม่ของเธอก็ไม่มีแล้ว คนที่สนิทมากที่สุดก็เป็นคุณนายราศรีพวกเขา

เธอสามารถที่จะให้คุณนายราศรีพวกเขาเป็นกำลังเสริมของเธอได้หลายครั้ง แต่เธอไม่สามารถที่จะให้พวกเขาเป็นกำลังเสริมของเธอไปได้ตลอด เนื่องจากว่าพวกเขาไม่ใช่ญาติที่แท้จริงของเธอ นานเข้าก็จะรำคาญ ดังนั้นตอนเริ่มแรกเธอก็ไม่หาพวกเขาดีกว่า

“ลูกนะ” คุณนายราศรีจิ้มหน้าผากของมายมิ้นท์ และถอนหายใจ

มายมิ้นท์รู้ว่าเธอเห็นอกเห็นใจ ยิ้มเล็กน้อย และกอดแขนของเธออย่างสนิทสนมแล้วออดอ้อน

คุณนายราศรีก็ใจอ่อนในทันที ลูบผมของมายมิ้นท์

ทันใดนั้น ลาเต้ก็ขมวดคิ้วสูดดมในอากาศสองครั้ง“แม่ครับ แม่ต้มอะไร กลิ่นแรงมาก”

คุณนายราศรีเบิกตากว้าง ยืนขึ้นมาอย่างกะทันหัน“เฮ้ย โจ๊กทะเลของฉัน!”

หลังจากที่พูดจบ เธอรีบวิ่งไปที่ห้องครัว และช่วยชีวิตโจ๊กของตัวเอง

ดีที่ค้นพบทันเวลา รักษาโจ๊กไว้ได้

คุณนายราศรียกน้ำผลไม้สองแก้วเข้ามา วางอยู่ตรงหน้ามายมิ้นท์ “มิ้นท์ลูกดื่มไปก่อนนะ ดูทีวีไปสักพัก ป้าเข้าครัวไปทำอาหารสองอย่าง เดี๋ยวก็ทานข้าวได้แล้ว”

“ได้ครับคุณป้า”มายมิ้นท์พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

คุณนายราศรีมองไปทางลาเต้“แกตามไปช่วยแม่”

“ช่วยเหรอ?”ลาเต้ไม่กล้าเชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองได้ยิน กะพริบตาปริบๆ ชี้ไปที่จมูกของตัวเอง “แม่ แม่ไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ย ผมจะช่วยได้……”

“แกจะไปไม่ไป?” คุณนายราศรีสีหน้าเคร่งขรึม

ลาเต้ก็ไม่กล้าปฏิเสธในทันที ลุกขึ้นมาอย่างปวดหัว“ผมไป ผมไปยังไม่ได้อีกเหรอ”

ต่อจากนั้นเขาตามหลังคุณนายราศรีไปที่ห้องครัวอย่างหดหู่ใจ

มายมิ้นท์มองดูท่าทางของเขา ก็หัวเราะคิกคัก

ในห้องครัว ลาเต้มองไปทางซ้ายมองไปทางขวา“แม่ครับ แม่จะให้ผมทำอะไร?”

คุณนายราศรีเหล่มองเขาแวบหนึ่ง“แกไร้ประโยชน์มากแค่ไหนฉันยังไม่รู้อีกเหรอ? ให้แกทำอาหาร ฉันยังกลัวว่าแกจะระเบิดห้องครัวของฉัน”

ลาเต้เบะปากอย่างไม่น้อยใจ“งั้นแม่ให้ผมมาทำไม?”

“ฉันเรียกแกมา คืออยากจะถามว่าแกคิดยังไงกับมิ้นท์ แกยังชอบมิ้นท์ใช่มั้ย?” คุณนายราศรีมองดูเขา

สีหน้าท่าทางของลาเต้เปลี่ยนไป“นี่แม่……”

“แกอยากจะถามว่า ฉันรู้ได้ยังไงว่าแกชอบมิ้นท์เหรอ?” คุณนายราศรีรู้ว่าเขาจะพูดอะไร ก็พูดขัดจังหวะเขาโดยตรง

ลาเต้ขยับริมฝีปาก และยอมรับไปโดยปริยาย

ถูกต้อง เขาชอบมายมิ้นท์ ชอบมาตั้งแต่เด็ก

แต่เขารู้ว่า มายมิ้นท์ไม่ชอบเขา คิดว่าเขาเป็นแค่เพื่อนสนิทเท่านั้น ดังนั้นเขาไม่เคยเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อเธอมาก่อน คิดมาโดยตลอดว่าปกปิดได้ดีมาก ไม่มีใครจะค้นพบ คาดไม่ถึงว่าก็ยังถูกค้นพบโดยแม่แท้ๆ

“เดิมทีฉันก็ไม่รู้ หกปีก่อนคืนที่มายมิ้นท์แต่งงาน แกเมาเหล้า พูดออกมาเอง”

พูดถึงตรงนี้ คุณนายราศรีก็ถอนหายใจ“พูดกันตามความจริง ตอนที่ฉันได้ยิน ก็รู้สึกตกใจ ถ้าฉันรู้ก่อนว่าแกชอบมิ้นท์ขนาดนั้น ไม่ได้คิดว่าเธอเป็นน้องสาว ไม่ว่ายังไงฉันก็จะจับคู่พวกแก แต่ใครให้เด็กอย่างแกปิดบังได้ดีขนาดนี้ ตอนที่ฉันรู้ก็สายไปแล้ว”

ลาเต้แตะจมูก ไม่กล้าตอบโต้

คุณนายราศรีเด็ดผักไปด้วย แล้วก็พูดไปด้วย: “แกยังไม่ได้ตอบฉัน ตอนนี้แกยังชอบมิ้นท์อยู่หรือเปล่า”

ลาเต้หันหน้ากลับไป โดยผ่านประตูห้องครัว มองไปทิศทางของห้องนั่งเล่น ในดวงตาที่เป็นมิตรภาพลึกซึ้ง“หัวใจของผมที่มีต่อเธอ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด”

“งั้นก็พอดีเลย ตอนนี้มิ้นท์ก็โสดแล้ว แกก็ตามจีบอย่างกล้าหาญ ทำให้แฟนปลอมอย่างแก กลายเป็นแฟนจริงๆ” คุณนายราศรีพูดให้กำลังใจ

เธอชอบมิ้นท์มากจริงๆ

ดังนั้นแทบอยากจะให้มิ้นท์แต่งงานกับลูกชาย

ลาเต้ส่ายหน้า ดวงตาก็สลัวลงมา“ไม่ดีกว่า ที่รักไม่ชอบผม จู่ๆผมก็ไปตามจีบเธอ จะทำให้เธอตกใจ แบบนี้ก็ดีแล้ว”

เขาไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นเพื่อสนิทชายตามจีบเด็กผู้หญิง แต่สามารถคบกันได้จริงๆน้อยมาก โดยพื้นฐานก็คือเด็กผู้หญิงตกใจกันหมด ดังนั้นจึงอยู่ห่างจากเพื่อนสนิทชาย เนื่องจากว่าไม่ใช่ทุกคนก็สามารถที่จะยอมรับเพื่อนสนิทชายเป็นแฟนได้

เขาไม่อยากเหมือนเป็นแบบนั้นกับมายมิ้นท์ ก็ไม่กล้าเสี่ยง เขายอมเป็นเพื่อนสนิทของเธอไปตลอด อย่างน้อยแบบนี้ เขาก็สามารถที่จะอยู่เคียงข้างเธอได้