ตอนที่ 1382

Monster Paradise

สองวันต่อมา ผู้เข้าร่วมจำนวนมากรวมกันที่ทางเข้าของอาณาเขตเยือกแข็งแต่เช้า

เพราะมันจะเปิดทุก120ปี ต่อให้โควต้าเข้าร่วมจะมีแค่แปดพัน จำนวนผู้ยื่นสมัครจริงก็เกินโควต้า

ในบรรดา8000สิทธิ์ สมาชิกของวิหารเทพเจ้าและสมาชิกอื่นขององค์กรเกรด6และ7ก็มักยึดสิทธิ์จำนวนมากไว้ เหลือแค่5000สิทธิ์ไว้ให้คนอื่น

ในบรรดา5000สิทธิ์ กว่า80%ถูกยึดโดยองค์กรเกรด4และ5 มีสิทธิ์จำกัดไว้ให้องค์กรที่ต่ำกว่านั้นน้อยมาก

หลินฮวงและสองทาสดาบคือสมาชิกองค์กรเกรด6ชั้นนำ เคียวแห่งความตายและก็มีสิทธิพิเศษในการเข้าสู่อาณาเขตเยือกแข็งโดยตรง พวกเขาไม่ต้องต่อแถว

แม้จะมาถึงตอนประมาณแปดโมงเช้า พื้นที่ทางเข้าของอาณาเขตเยือกแข็งก็เต็มไปด้วยคนแล้ว

หลินฮวงยังเห็นคนคุ้นหน้า

ลาเมลล่าต้องห้ามจากตาข่ายคลุมฟ้า ฟรอนเทียร์จากซีโน่ ขนนกแห่งความตายจากศาลาสมบัติและดาวหางจากเคียวแห่งความตาย…

โชคชะตาและแฝดไม่ได้มาด้วย

แต่ทว่า คนในชุดคลุมดำที่ยืนข้างดาวหางกลับคว้าความสนใจเขา คนๆนี้หุ่นเพรียวและหลินฮวงก็ไม่อาจบอกได้ว่าเป็นชายหรือหญิง ทั้งหมดที่เขาเห็นได้คือหน้ากากภายใต้เงาหมวก

เมื่อเขามองคนในชุดดำ อีกฝ่ายก็หันมามองเขาเช่นกันและริมฝีปากสีแดงสดบนหน้ากากก็ยกขึ้นเล็กน้อย

 

“กำลังยิ้ม?!”

หลินฮวงสามารถสัมผัสได้ถึงดวงตาของอีกฝ่ายที่จับจ้องเขา สิ่งที่แปลกคืออีกฝ่ายกำลังสวมหน้ากากเพื่อปกปิดหน้าตา แต่เขาสามารถสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายกำลังยิ้ม

 

“หรือว่าจะเป็นเวอชุโอโซ(อัจฉริยะแห่งศิลปะ)?”หลินฮวงเดาตามข่าวลือที่ได้ยินมา

เวอชุโอโซคือรายนามแรกบนกระดานเคียวขาว เขามีส่วนร่วมในการลอบสังหารกว่า700ครั้งและไม่เคยล้มเหลวเลย เคียวแห่งความตายปกป้องข้อมูลส่วนตัวเขาไว้ดีมากและไม่มีอะไรรั่วไหล

หลินฮวงยังสงสัยว่าในสายตาของเคียวโลหิตทั้งเจ็ด ตำแหน่งของเวอชุโอโซคงสูงกว่าใต้สวรรค์

ยังมีข่าวลือภายในเคียวแห่งความตายที่เวอชุโอโซอาจเป็นอัจฉริยะชั้น5ในตำนาน

ก่อนเขาเข้าแดนจอมเทพ หลินฮวงอิจฉาใครก็ตามที่อาจเป็นอัจฉริยะชั้น5ในตำนาน แต่ตอนนี้ เขาไม่รู้สึกอะไรเลย

ปัจจุบัน ภายใต้บัญชาเขา เขามีดาบ1ถึงดาบ12ที่ล้วนเป็นอัจฉริยะชั้น5

โดยไม่สนใจสายตาของอีกฝ่าย หลินฮวงเดินไปทางกลุ่มเคียวแห่งความตายพร้อมสองทาสดาบ

ตัวตนเขาตอนนี้คือฮวงหลิน เขาดูแตกต่างอย่างสิ้นเชิงด้วยความสามารถของพันหน้า ด้วยสมาชิกเคียวดำมากมายจากเคียวแห่งความตาย เขาจึงไม่กังวลว่าคนรู้จักจะจำเขาได้

ผู้นำเคียวทองเหลือบมองเหรียญตัวตนที่ทั้งสามถือและปล่อยผ่า นทั้งสามยืนที่ปลายค่ายและรอให้มิติเปิดอย่างอดทน

องค์กรเกรด6และ7มาถึงกันแล้ว มีคนประมาณร้อยคนหรือมากกว่านั้นจากเคียวแห่งความตายอย่างเดียว

ในบรรดาองค์กรเกรด7 วิหารเทพเจ้าส่งคนมาน้อยสุด ไม่ถึง200คน  จำนวนผู้เข้าร่วมจากองค์กรเกรด7ที่เหลือคือ300 มันไม่ใช่ว่าวิหารเทพเจ้ากำหนดสิทธิ์สำหรับพวกเขา แต่องค์กรได้ตั้งจำนวนจำกัดเพื่อคุมพฤติกรรมคนของพวกเขา

เหนือสิ่งอื่นใด องค์กรเหล่านี้ยังเข้าถึงมิติบรรพกาลและอาณาจักรลับได้มาก มันไม่ใช่ว่าพวกเขาจะต้องเข้าอาณาเขตเยือกแข็ง หากพวกเขาไม่ทิ้งของไว้ให้องค์กรที่ต่ำกว่าบ้าง นั่นจะทำให้เกิดการวิจารณ์

สมาชิกขององค์กรเกรด6และ7สงบนิ่งมาก

ค่ายขององค์กรที่ต่ำกว่า5ลงไปกลับมีชีวิตชีวา เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาไม่ค่อยได้เข้าร่วมงานใหญ่

 

“เด็กสาวที่เดินเข้าไปยังกลุ่มเคียวแห่งความตายขายาวมาก ดูเหมือนพวกนางจะสูงประมาณสองเมตรใช่ไหม?!”

“ขายาวแล้วไง?นางดูดีเท่าท่านดาวหางงั้นหรือ?นางมีความสามารถเทียบท่านดาวหาง?ท่านหญิงดาวหางเราคืออัจฉริยะอันดับ4บนรายนามเทพเสมือน!นางคือสาวที่ทั้งงามและเก่ง!”
“หากพูดถึงหน้าตา ข้ายังคิดว่านางฟ้าผู้มาจากศาลาสมบัติเองก็ดูดี ดูปีกคู่เล็กๆบนหลังนางสิ พวกมันดูน่ารักมาก..”

เมื่อเวลาประมาณ8โมงครึ่ง จำนวนผู้เข้าร่วมที่ทางเข้าแดนเยือกแข็งก็สูงเกินหมื่น

สิทธิ์เข้ามีเพียง8พัน แต่ทุกครั้งที่มิติเปิด มันบอกไม่ได้ว่ามีกี่คนจากองค์กรเกรด6และ7ที่แสดงตัว ดังนั้น วิหารเทพเจ้าจึงมักสำรองสิทธิ์ไว้1000สิทธิ์ทุกครั้ง และที่เหลืออีก7พันจะสงวนไว้ให้องค์กรเกรด1-5

หากจำนวนผู้เข้าร่วมจากองค์กรเกรด6และ7ไม่ถึงพันหรือพันพอดี งั้น7พันคนที่ลงทะเบียนสำเร็จก็สามารถเข้าได้ แต่ทว่า สถานการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้น  พูดก็พูด จำนวนคนเข้าร่วมจากองค์กรเกรด6และ7มักสูงถึงประมาณสามพัน ดังนั้น ในบรรดาเจ็ดพันที่ว่าง มันมักมีแค่ประมาณห้าพันเท่านั้น

เกือบเก้าโมง บุคคลที่มีหน้าที่รับผิดชอบจากวิหารเทพเจ้าก็มาถึง

มันเป็นชายร่างกำยำสูงสง่าในชุดเกราะทอง

หลายคนจำเขาได้ทันที

สำหรับหลินฮวง คนๆนี้ไม่ใช่คนแปลกหน้า ตอนเขารวบรวมข้อมูลบนแดนเทพ เขายังรวบรวมข้อมูลขององค์กรชั้นนำต่างๆ

คนๆนี้คือเกาเซี่ยง เขาคือโปรตอสเลือดบริสุทธ์ ระดับพลังเขาถึงจุดสูงสุดของเทพสวรรค์ขั้น9 ความสามารถเขาถือเป็นอันดับ4ท่ามกลางเทพสวรรค์ในแดนเทพ เกือบเท่ากับใต้สวรรค์

อาจกล่าวได้ว่าในมหาพิภพ คนๆนี้คือคนที่แข็งแกร่งสุดภายใต้จ้าวเทวะ

 

“ในแง่ของความสามารถ เขาจะถือเป็นอันดับเท่าไรในหมู่ทาสดาบ?”หลินอวงถามสองทาสดาบข้างเขา

 

เพื่อสอบถาม เขาใช้ระบบส่งข้อความที่ใช้กันระหว่างจอมดาบและทาสดาบ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนดักฟัง

“แข็งแกร่งกว่าเราทั้งคู่มาก แต่ไม่เก่งเท่าผู้อาวุโสที่เหนือกว่าดาบ12ขึ้นไป”ดาบ302พูด

ดาบ301ข้างๆกล่าวเสริม”หากท่านตัดสินใจแง่ของกลิ่นอาย มันคล้ายกับกลิ่นอายของดาบ25 ความสามารถของคนๆนี้คงอยู่ที่ประมาณระหว่างดาบ20และดาบ30”

 

หลังได้ยิน หลินฮวงก็พยักหน้าเงียบๆ สำหรับเขา ความสามารถของเกาเซี่ยงต่ำกว่าดาบ12แน่ เหนือสิ่งอื่นใด ดาบ12คืออัจฉริยะชั้น5 ซึ่งเทียบได้กับราชินีเผ่าแมลง

เจตนาจริงเขาในการถามสองดทาสดาบไม่ใช่เพื่อหาความสามารถจริงของเกาเซี่ยงแต่เพื่อหาว่าทาสดาบของนั้นแข็งแกร่งแค่ไหนในยุคสมัยใหม่นี้โดยใช้เกาเซี่ยงเป็นคนอ้างอิง

ตอนนี้เขาสามารถยืนยันได้ว่าตราบเท่าที่เขาควบคุมแดนจอมเทพได้เต็มที่ ความสามารถของทาสดาบภายใต้บัญชีเขายังกลับสู่จุดสูงสุด มันมากพอจะสร้างองค์กรเกรด6

เกาเซี่ยงของวิหารเทพเจ้าเป็นคนใจร้อน ทันทีที่เขามาถึง เขาก็พูดไม่กี่ประโยค จากนั้นก็เปิดทางเข้า

ผู้เข้าร่วมชุดแรกมาจากองค์กรเกรด7ทั้งห้า นครหลวงเทพ ตาข่ายคลุมฟ้า ซีโน่ ศาลาสมบัติ และวิหารเทพเจ้า ซึ่งมีคนเกือบพัน

หลังจากนั้น มันก็ถึงคราวขององค์กรเกรด6เช่นเคียวแห่งความตาย ทั้ง12องค์กรคือชุดสอง ยึดสิทธิ์กว่าสองพัน

องคืกรที่เหลือเข้าไปตามลำดับ ใช้อีก5พันสิทธิ์

หลังปิดทางเข้า เกาเซี่ยงก็หลับตาและนั่งขัดสมาธิ เขาไม่คิดมองคนสองพันคนที่เหลือ

หลังกลุ่มเจ้าหน้าที่ในวิหารเทพเจ้าปลอบคนหนุ่มที่พลาดการเข้าร่วม ผู้นำขององค์กรก็แยกย้าย พาสมาชิกพวกเขาไป..