สองวันต่อมา ผู้เข้าร่วมจำนวนมากรวมกันที่ทางเข้าของอาณาเขตเยือกแข็งแต่เช้า
เพราะมันจะเปิดทุก120ปี ต่อให้โควต้าเข้าร่วมจะมีแค่แปดพัน จำนวนผู้ยื่นสมัครจริงก็เกินโควต้า
ในบรรดา8000สิทธิ์ สมาชิกของวิหารเทพเจ้าและสมาชิกอื่นขององค์กรเกรด6และ7ก็มักยึดสิทธิ์จำนวนมากไว้ เหลือแค่5000สิทธิ์ไว้ให้คนอื่น
ในบรรดา5000สิทธิ์ กว่า80%ถูกยึดโดยองค์กรเกรด4และ5 มีสิทธิ์จำกัดไว้ให้องค์กรที่ต่ำกว่านั้นน้อยมาก
หลินฮวงและสองทาสดาบคือสมาชิกองค์กรเกรด6ชั้นนำ เคียวแห่งความตายและก็มีสิทธิพิเศษในการเข้าสู่อาณาเขตเยือกแข็งโดยตรง พวกเขาไม่ต้องต่อแถว
แม้จะมาถึงตอนประมาณแปดโมงเช้า พื้นที่ทางเข้าของอาณาเขตเยือกแข็งก็เต็มไปด้วยคนแล้ว
หลินฮวงยังเห็นคนคุ้นหน้า
ลาเมลล่าต้องห้ามจากตาข่ายคลุมฟ้า ฟรอนเทียร์จากซีโน่ ขนนกแห่งความตายจากศาลาสมบัติและดาวหางจากเคียวแห่งความตาย…
โชคชะตาและแฝดไม่ได้มาด้วย
แต่ทว่า คนในชุดคลุมดำที่ยืนข้างดาวหางกลับคว้าความสนใจเขา คนๆนี้หุ่นเพรียวและหลินฮวงก็ไม่อาจบอกได้ว่าเป็นชายหรือหญิง ทั้งหมดที่เขาเห็นได้คือหน้ากากภายใต้เงาหมวก
เมื่อเขามองคนในชุดดำ อีกฝ่ายก็หันมามองเขาเช่นกันและริมฝีปากสีแดงสดบนหน้ากากก็ยกขึ้นเล็กน้อย
“กำลังยิ้ม?!”
หลินฮวงสามารถสัมผัสได้ถึงดวงตาของอีกฝ่ายที่จับจ้องเขา สิ่งที่แปลกคืออีกฝ่ายกำลังสวมหน้ากากเพื่อปกปิดหน้าตา แต่เขาสามารถสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายกำลังยิ้ม
“หรือว่าจะเป็นเวอชุโอโซ(อัจฉริยะแห่งศิลปะ)?”หลินฮวงเดาตามข่าวลือที่ได้ยินมา
เวอชุโอโซคือรายนามแรกบนกระดานเคียวขาว เขามีส่วนร่วมในการลอบสังหารกว่า700ครั้งและไม่เคยล้มเหลวเลย เคียวแห่งความตายปกป้องข้อมูลส่วนตัวเขาไว้ดีมากและไม่มีอะไรรั่วไหล
หลินฮวงยังสงสัยว่าในสายตาของเคียวโลหิตทั้งเจ็ด ตำแหน่งของเวอชุโอโซคงสูงกว่าใต้สวรรค์
ยังมีข่าวลือภายในเคียวแห่งความตายที่เวอชุโอโซอาจเป็นอัจฉริยะชั้น5ในตำนาน
ก่อนเขาเข้าแดนจอมเทพ หลินฮวงอิจฉาใครก็ตามที่อาจเป็นอัจฉริยะชั้น5ในตำนาน แต่ตอนนี้ เขาไม่รู้สึกอะไรเลย
ปัจจุบัน ภายใต้บัญชาเขา เขามีดาบ1ถึงดาบ12ที่ล้วนเป็นอัจฉริยะชั้น5
โดยไม่สนใจสายตาของอีกฝ่าย หลินฮวงเดินไปทางกลุ่มเคียวแห่งความตายพร้อมสองทาสดาบ
ตัวตนเขาตอนนี้คือฮวงหลิน เขาดูแตกต่างอย่างสิ้นเชิงด้วยความสามารถของพันหน้า ด้วยสมาชิกเคียวดำมากมายจากเคียวแห่งความตาย เขาจึงไม่กังวลว่าคนรู้จักจะจำเขาได้
ผู้นำเคียวทองเหลือบมองเหรียญตัวตนที่ทั้งสามถือและปล่อยผ่า นทั้งสามยืนที่ปลายค่ายและรอให้มิติเปิดอย่างอดทน
องค์กรเกรด6และ7มาถึงกันแล้ว มีคนประมาณร้อยคนหรือมากกว่านั้นจากเคียวแห่งความตายอย่างเดียว
ในบรรดาองค์กรเกรด7 วิหารเทพเจ้าส่งคนมาน้อยสุด ไม่ถึง200คน จำนวนผู้เข้าร่วมจากองค์กรเกรด7ที่เหลือคือ300 มันไม่ใช่ว่าวิหารเทพเจ้ากำหนดสิทธิ์สำหรับพวกเขา แต่องค์กรได้ตั้งจำนวนจำกัดเพื่อคุมพฤติกรรมคนของพวกเขา
เหนือสิ่งอื่นใด องค์กรเหล่านี้ยังเข้าถึงมิติบรรพกาลและอาณาจักรลับได้มาก มันไม่ใช่ว่าพวกเขาจะต้องเข้าอาณาเขตเยือกแข็ง หากพวกเขาไม่ทิ้งของไว้ให้องค์กรที่ต่ำกว่าบ้าง นั่นจะทำให้เกิดการวิจารณ์
สมาชิกขององค์กรเกรด6และ7สงบนิ่งมาก
ค่ายขององค์กรที่ต่ำกว่า5ลงไปกลับมีชีวิตชีวา เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาไม่ค่อยได้เข้าร่วมงานใหญ่
“เด็กสาวที่เดินเข้าไปยังกลุ่มเคียวแห่งความตายขายาวมาก ดูเหมือนพวกนางจะสูงประมาณสองเมตรใช่ไหม?!”
“ขายาวแล้วไง?นางดูดีเท่าท่านดาวหางงั้นหรือ?นางมีความสามารถเทียบท่านดาวหาง?ท่านหญิงดาวหางเราคืออัจฉริยะอันดับ4บนรายนามเทพเสมือน!นางคือสาวที่ทั้งงามและเก่ง!”
“หากพูดถึงหน้าตา ข้ายังคิดว่านางฟ้าผู้มาจากศาลาสมบัติเองก็ดูดี ดูปีกคู่เล็กๆบนหลังนางสิ พวกมันดูน่ารักมาก..”
…
เมื่อเวลาประมาณ8โมงครึ่ง จำนวนผู้เข้าร่วมที่ทางเข้าแดนเยือกแข็งก็สูงเกินหมื่น
สิทธิ์เข้ามีเพียง8พัน แต่ทุกครั้งที่มิติเปิด มันบอกไม่ได้ว่ามีกี่คนจากองค์กรเกรด6และ7ที่แสดงตัว ดังนั้น วิหารเทพเจ้าจึงมักสำรองสิทธิ์ไว้1000สิทธิ์ทุกครั้ง และที่เหลืออีก7พันจะสงวนไว้ให้องค์กรเกรด1-5
หากจำนวนผู้เข้าร่วมจากองค์กรเกรด6และ7ไม่ถึงพันหรือพันพอดี งั้น7พันคนที่ลงทะเบียนสำเร็จก็สามารถเข้าได้ แต่ทว่า สถานการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้น พูดก็พูด จำนวนคนเข้าร่วมจากองค์กรเกรด6และ7มักสูงถึงประมาณสามพัน ดังนั้น ในบรรดาเจ็ดพันที่ว่าง มันมักมีแค่ประมาณห้าพันเท่านั้น
เกือบเก้าโมง บุคคลที่มีหน้าที่รับผิดชอบจากวิหารเทพเจ้าก็มาถึง
มันเป็นชายร่างกำยำสูงสง่าในชุดเกราะทอง
หลายคนจำเขาได้ทันที
สำหรับหลินฮวง คนๆนี้ไม่ใช่คนแปลกหน้า ตอนเขารวบรวมข้อมูลบนแดนเทพ เขายังรวบรวมข้อมูลขององค์กรชั้นนำต่างๆ
คนๆนี้คือเกาเซี่ยง เขาคือโปรตอสเลือดบริสุทธ์ ระดับพลังเขาถึงจุดสูงสุดของเทพสวรรค์ขั้น9 ความสามารถเขาถือเป็นอันดับ4ท่ามกลางเทพสวรรค์ในแดนเทพ เกือบเท่ากับใต้สวรรค์
อาจกล่าวได้ว่าในมหาพิภพ คนๆนี้คือคนที่แข็งแกร่งสุดภายใต้จ้าวเทวะ
“ในแง่ของความสามารถ เขาจะถือเป็นอันดับเท่าไรในหมู่ทาสดาบ?”หลินอวงถามสองทาสดาบข้างเขา
เพื่อสอบถาม เขาใช้ระบบส่งข้อความที่ใช้กันระหว่างจอมดาบและทาสดาบ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนดักฟัง
“แข็งแกร่งกว่าเราทั้งคู่มาก แต่ไม่เก่งเท่าผู้อาวุโสที่เหนือกว่าดาบ12ขึ้นไป”ดาบ302พูด
ดาบ301ข้างๆกล่าวเสริม”หากท่านตัดสินใจแง่ของกลิ่นอาย มันคล้ายกับกลิ่นอายของดาบ25 ความสามารถของคนๆนี้คงอยู่ที่ประมาณระหว่างดาบ20และดาบ30”
หลังได้ยิน หลินฮวงก็พยักหน้าเงียบๆ สำหรับเขา ความสามารถของเกาเซี่ยงต่ำกว่าดาบ12แน่ เหนือสิ่งอื่นใด ดาบ12คืออัจฉริยะชั้น5 ซึ่งเทียบได้กับราชินีเผ่าแมลง
เจตนาจริงเขาในการถามสองดทาสดาบไม่ใช่เพื่อหาความสามารถจริงของเกาเซี่ยงแต่เพื่อหาว่าทาสดาบของนั้นแข็งแกร่งแค่ไหนในยุคสมัยใหม่นี้โดยใช้เกาเซี่ยงเป็นคนอ้างอิง
ตอนนี้เขาสามารถยืนยันได้ว่าตราบเท่าที่เขาควบคุมแดนจอมเทพได้เต็มที่ ความสามารถของทาสดาบภายใต้บัญชีเขายังกลับสู่จุดสูงสุด มันมากพอจะสร้างองค์กรเกรด6
เกาเซี่ยงของวิหารเทพเจ้าเป็นคนใจร้อน ทันทีที่เขามาถึง เขาก็พูดไม่กี่ประโยค จากนั้นก็เปิดทางเข้า
ผู้เข้าร่วมชุดแรกมาจากองค์กรเกรด7ทั้งห้า นครหลวงเทพ ตาข่ายคลุมฟ้า ซีโน่ ศาลาสมบัติ และวิหารเทพเจ้า ซึ่งมีคนเกือบพัน
หลังจากนั้น มันก็ถึงคราวขององค์กรเกรด6เช่นเคียวแห่งความตาย ทั้ง12องค์กรคือชุดสอง ยึดสิทธิ์กว่าสองพัน
องคืกรที่เหลือเข้าไปตามลำดับ ใช้อีก5พันสิทธิ์
หลังปิดทางเข้า เกาเซี่ยงก็หลับตาและนั่งขัดสมาธิ เขาไม่คิดมองคนสองพันคนที่เหลือ
หลังกลุ่มเจ้าหน้าที่ในวิหารเทพเจ้าปลอบคนหนุ่มที่พลาดการเข้าร่วม ผู้นำขององค์กรก็แยกย้าย พาสมาชิกพวกเขาไป..