“พูดอะไรสักอย่างสิวะ!” พันชางเซียนยิ่งโกรธขึ้นไปอีก “พวกแกแข็งไปหมดแล้วเหรอไง?”

 

เงียบกริบ——

 

ยังคงไม่มีใครปริปากพูด พลทหารกว่าสองร้อยนายที่นอกเหนือจากหลิวยู่ติงซึ่งเป็นฝ่ายชูฮันอยู่แล้วถูกโอนถ่ายจากคำสั่งของผู้บัญชาการมู๋ให้มาเป็นคนของชูฮัน ทว่าในใจพวกเขาไม่ถูกกับชูฮันและไม่พอใจกับการกระทำของชูฮันเข้าไส้

 

หากครั้งนี้ ทุกคนต่างปิดปากเงียบอย่างไม่มีทางเลือก เพราะถึงอย่างไรก็ตาม พวกเขาก็คือทหารของชูฮันแล้ว มีหน้าที่เพื่อช่วยชูฮันสร้างค่ายใหม่ขึ้นมา ซึ่งหมายความว่าถ้าพวกเขายังไม่ถูกถ่ายโอนไปประจำการที่อื่น พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องติดตามและฟังคำสั่งของชูฮันไป

 

และหลิวยู่ติง? เขาไม่คิดจะฟังคำสั่งของพันชางเซียนอยู่แล้ว

 

“ดี! พวกแกจะไม่พูดใช่มั้ย?!” ร่างของพันชางเซียนสั่นเทิ้มไปด้วยความโกรธ เขาพุ่งไปที่ประตูและออกคำสั่งกับชายร่างกำยำที่อยู่ข้างๆ “จางตง เมื่อฉันเข้าไป ฉันจะบอกนายว่าคนไหนแล้วนายก็จัดการมันให้รู้เรื่องซะ!”

 

ชายร่างกำยำชื่อว่าจางตง เขามีสีหน้าเอื่อยหลังจากส่งเสียงกรนเพราะหลับในด้วยความเบื่อหน่าย จางตงยกมือตบหน้าตัวเองให้ตื่น จากนั้นก็หยิบมีดที่พกไว้ตรงเอวออกมา น้ำเสียงค่อนข้างอวดดี “มั่นใจได้ ฉันจะหาตัวมันมาเลาะฟันออกเอง!”

 

พันชางเซียนมีท่าทีพอใจกับคำพูดของจางตง โชคดีที่ก่อนหน้านี้ที่โรงอาหารจางตงดื่มไวน์มาไม่เยอะมากเท่าไหร่เขาจึงไม่มีอาการเมามาย ด้วยเพราะจางตงเป็นคนร่างใหญ่มากแถมยังคอแข็ง ประกอบกับพอดีกับที่ลูกน้องของเขารีบเข้ามารายงานสถานการณ์ จางตงเมื่อได้ยินก็พลันปล่อยจิตสังหารออกมาทันทีและด้วยความภักดีที่มีต่อพันชางเซียนเขาก็ขอติดตามมา ถ้าไม่เช่นนั้นพันชางเซียนอาจจะเป็นอันตรายได้ถ้าต้องเผชิญหน้ากับชูฮันเพียงลำพัง

 

ทั้งสองคนซึ่งอารมณ์รุนแรงเดินเข้ามา ก่อนหน้านี้พันชางเซียนเคยรู้สึกหวาดกลัวชูฮัน แต่ตอนนี้เขาไม่กลัวแล้วเพราะเขาพาจางตงซึ่งเป็นวิวัฒนาการระยะ 4 ซึ่งพึ่งจะกลับมาถึงซางจิงมาด้วยกัน สถานการณ์ตอนนี้แตกต่างจากในห้องประชุมอย่างสิ้นเชิง

 

ชูฮันเป็นวิวัฒนาการระยะ 4 และเป็นอันดับที่ 1 ในรายชื่อประเมิณของวิวัฒนาการระยะ 3 ด้วยคะแนน S+ แต่เหตุการณ์นั้นมาผ่านมาสักพักแล้ว ไม่มีใครไม่รู้ว่าตอนนี้ชูฮันคือวิวัฒนาการระยะ 4 และทำไมชูฮันถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้?

 

ส่วนพันชางเซียนที่ถึงแม้จะไม่ใช่ทั้งวิวัฒนาการและพรสวรรค์แต่เขาก็สามารถไต่เต้าตัวเองขึ้นมาเป็นหนึ่งในคนใหญ่คนโตของซางจิงได้ และเขาก็มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิวัฒนาการอยู่พอสมควร ช่วงเวลาที่วิวัฒนาการแข็งแกร่งขึ้นและใช้พลังเต็มที่ มักจะง่ายต่อการยกระดับระยะ ที่ด้านนอกของค่ายซางจิงมีเสาหินตั้งอยู่ ทว่าชูฮันที่เป็นวิวัฒนาการระยะ 4 กลับไม่ยอมเข้าทำการทดสอบของระยะ 4 พันชางเซียนรู้ดีว่ามันต้องมีเหตุผลบางอย่าง เขาคิดว่าชูฮันน่าจะโลภมาก ชูฮันน่าจะรอจนกระทั่งพละกำลังของตัวเองอยู่ในระดับสูงสุดของระยะ 4 แล้วค่อยเข้าไปทำการทดสอบเพื่อจะได้คะแนน S+ มา เดาได้ง่ายๆเลย!

 

ส่วนจางตง เขาอยู่ในอันดับที่ 8 ของรายชื่อระยะ 4 เพราะฉะนั้นแค่จางตงคนเดียวก็ยิ่งกว่าพอแล้วสำหรับการรับมือกับชูฮัน!

 

พลทหารกว่าสองร้ายนายยังคงยืนนิ่งเงียบท่ามกลางอากาศหนาวที่พัดหิมะมา จู่ๆร่างของจางตงก็ระเบิดพลังผันผวนออกมาอย่างรุนแรง จนพันชางเซียนถึงกับหน้าซีดด้วยความกดดันที่ได้รับ

 

ในขณะเดียวกัน ชูฮันที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเลยกำลังจ้องไปที่ชายร่างท้วมตรงหน้า น้ำเสียงของชูฮันหมดความอดทนอย่างสุดๆ “คุณหมายถึงว่าคุณไม่สามารถหาของให้ฉันได้วันนี้? ไหนบอกเหตุผลดีๆมาให้ฉันสิ!”

 

“ผม ผม ผม ผมทำอะไรไม่ได้ มันคือกระบวนการ!” ผู้ช่วยของพันชางเซียนร้องไห้เมื่อต้องเจอกับคำข่มขู่ของพลเอกชูฮันที่ทำให้เขากระวนกระวาย มือสั่นเทาพร้อมกับยื่นเอกสารออกไป พยายามจะสื่อสารกับชูฮัน “ท่านพลเอก ท่านเห็นนี่มั้ย? ไข่ไก่อบสดๆพันลูก แล้วผมจะไปหาจากไหนมาให้ท่าน?”

 

ชูฮันมองไปที่ใบรับรอง เมื่อตอนที่อยู่ในห้องทำงานของผู้บัญชาการมู๋เขาเพียงแค่เหลือบมองมันเท่านั้นและจิตใจของเขาก็จดจ่ออยู่กับนายทหารกว่าสองร้อยนายที่ถูกถ่ายโอนมาอยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา เขาเลยไม่ได้สังเกตรายละเอียดที่เขียนไว้บนรายการวัสดุ และในตอนนี้เมื่อเขามองดูบนกระดาษมันเขียนคำว่าไข่ไก่อบสดๆพันลูกจริงๆ นี่ผู้บัญชาการมู๋และเลาหมิงเป็นคนกำหนดรายการนี่เองจริงๆงั้นเหรอ? พวกเขาทำอะไรผิดพลาดรึเปล่า?!

 

และในขณะที่ชูฮันก็มีสีหน้ากลืนไม่เข้าคลายไม่ออก เฉินช่าวเย่เองก็มีสีหน้าแปลกๆพร้อมกับเลียริมฝีปากตัวเองเมื่อได้ยินคำว่าของกิน

 

“ปัง!”

เกิดเสียงดังขึ้น ประตูถูกกระแทกเข้ามาอย่างแรง จางตงพุ่งเข้ามาด้วยจิตสังหารรุนแรงพร้อมกับมีดในมือ ตัวมีดคมวาวส่องประกายความเย็นชาออกมา พลังผันผวนของจางตงไต่ขึ้นถึงระดับสูงสุดพร้อมกับพละกำลังทางกายภาพของวิวัฒนาการระยะ 4 ที่ระเบิดออกมาอย่างเต็มที่!

 

ทันใดนั้นทุกคนก็หันหน้าไปทางข้างหลังทันที ทุกคนต่างมองไปที่คนแปลกหน้าที่เข้ามาใหม่ ชุดเครื่องแบบลายพรางทหาร หากมันเป็นชุดเครื่องแบบปลอม คนคนนี้ไม่ใช่ทหารของซางจิงแล้วเขาเข้ามาได้ยังไง? โอ้! ใช่ วิวัฒนาการระยะ 4! คนคนนี้น่าจะเป็นคนดังในรายชื่อแน่ๆ!

 

ชูฮันเองก็นิ่งไปครู่หนึ่งเช่นกัน เขากวาดสายตามองคนที่เข้ามาใหม่ขึ้นลง…พลังผันผวนของคนนี้สูงมาก ดูท่าจะเป็นคนแข็งแกร่งพอสมควร

 

อีกครั้งที่เฉินช่าวเย่แสดงความหิวโหยของตัวเองออกมา เขาคว้ากล่องข้าวกลางวันของใครสักคนที่ไม่รู้จักข้างๆตัวขึ้นมา และถอยไปที่ด้านหลังในมุมพร้อมกับเริ่มกิน

 

และในขณะที่ทุกคนกำลังประหลาดใจและไม่กล้าเอ่ยปากอะไรออกมา ตาของจางตงก็กวาดมองไปรอบๆราวกับเขากำลังมองหาใครอยู่—–

 

ผั้วะ!

ร่างของพันชางเซียนพุ่งตามเข้ามาและไม่ทันได้เห็นประตูที่ปลิวไปด้วยฝ่าเท้าของจางตง และทันทีที่เข้ามาพันชางเซียนก็เห็นชูฮันทันที เขาแหกปากขึ้นมา “จางตง! นั่นไงมัน!”

 

ทันใดนั้นจางตงก็มีปฏิกิริยาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ราวกับสัตว์ป่าดุร้ายที่กำลังจ้องไปที่เหยื่อของมันอย่างรอจังหวะตะครุบ จางตงกับมีดในมือเหมือนผสมผสานเป็นร่างเดียว ความคมกริบของตัวมีดส่องประกายกระหายเลือด!

 

ผั้วะ!

มีเงาดำพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว มันมีความคมเย็นยะเยือกอยู่ในเงาดำมืดซึ่งก็คือมีดคมในมือจางตงนั่นเอง จางตงมีสีหน้ามุ่งมั่นที่จะตวัดมีดเข้าที่คอของชูฮัน

 

หนึ่งในการฆ่าที่โหดร้าย!

 

“อ๊ากกกกก—-” ผู้ช่วยของพันชางเซียนกลัวมากจนร่างทั้งร่างตกอยู่ในอาการตระหนก แหกปากร้องทำท่าจะวิ่งหนีออกไป

 

“ฟึบ—–“

เสียงของอะไรบางอย่างถูกตัด มีดของจางตงคมและยืดหยุ่นมาก มันตัดเข้าที่กระดาษที่ผู้ช่วยคนนั้นโยนกระจายในอากาศไว้จากนั้นก็เล็งพุ่งเข้าโจมตีชูฮันต่ออีกครั้ง จางตงมีสีหน้าโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเดิม…ไอ้เด็กนี่! กูจะให้บทเรียนกับมึงเอง!

 

ทันใดนั้นทุกคนในห้องก็หวาดกลัวจนผวา หลบหนีกันวุ่นวายไปหมด พันชางเซียนเหงื่อแตกพลั่กพลางมองไปที่มีดของจางตงที่กำลังจะตัดหัวของชูฮัน

 

“หยุด” พันชางเซียนรีบตะโกนออกมา เขาแค่ต้องการให้จางตงสั่งสอนบทเรียนให้ชูฮัน ไม่ใช่ฆ่า ถ้าชูฮันตายที่นี้ถ้างั้นเขานั่นแหละที่เป็นคนต่อไปที่จะโดนตัดหัว!

 

ทว่า ยังไม่ทันที่เสียงของพันชางเซียนจะจางลง—–

 

“ปัง!”

 

“เปรี๊ยะ!”

 

หลังจากมีเสียงดังเกิดขึ้นสองเสียงในเวลาไล่เลี่ยกัน ทันใดนั้นโครงสร้างของห้องก็เริ่มหล่นลงมา