ตอนที่ 876 ไร้ประโยชน์

Elixir Supplier

“หมอหวังก็บอกแม่แล้วไม่ใช่เหรอว่าแม่ไม่ได้ป่วยน่ะ?” ชายหนุ่มพูด“มันเป็นเพราะแม่ไม่ระวังและไม่ใส่ใจบํารุงผิวมากพอถ้าต่อไปแม่ใส่ใจผิวมากขึ้นแม่ก็ไม่เป็นอะไรแล้ว”

“อืม พอได้มาตรวจแล้วแม่ก็สบายใจ” เธอพูด ก้อนหินที่ถ่วงอยู่ในอกสุดท้ายก็วางลงได้

“ไปครับ ขึ้นรถกันเถอะ”

สองแม่ลูกจากไปอย่างมีความสุข

“พวกเราเล่าคนธรรมดาต่างสุขสันต์กันถ้วนหน้า!” เจี้ยจื้อจายฮัมเพลงอยู่ภายในบ้าน

“ดูท่าเข้า นายดูมีความสุขมากเลยนะ”

“แน่นอนว่าฉันมีความสุขมาก เรื่องนี้สมควรต้องฉลอง!”

“คงต้องฉลองจริงๆนั่นแหละ”

“นี่ เธอห้ามเอาวิธีการบ่มเพาะที่ฉันสอนไปบอกคนอื่นเด็ดขาดเลยนะ!”

“ฉันเข้าใจแล้ว นายพูดเรื่องนี้กับฉันมาสี่รอบแล้วนะแล้วอีกอย่าง ฉันจะเอาไปสอนใครต่อได้? ฉันก็อยู่แต่กับนายทั้งวัน

เจี้ยจื้อจายสูบบุหรี่อย่างมีความสุข

“ระดับการบ่มเพาะของเชียนเชิงถูกมาก แถมตอนนี้เขายังมีพวกเราสามคนเป็นลูกศิษย์ด้วย”หูเหมยพูด “แล้วเรื่องการรักษาของเขาล่ะ? เท่าที่ฉันรู้ก็มีแค่ศิษย์พี่พันที่จบแพทย์แผนตะวันตกมาก่อนแค่คนเดียว”ในความคิดของเธอหวังเย้าที่เป็นอาจารย์ของพวกเขานั้นมีความสามารถสูงมากทั้งยังคาดเดาไม่ได้และลึกลับเป็นที่สุด เขายังเคยพูดไว้ว่าการรักษาและการปรุงยาคือการฝึกฝนที่เขาให้ความสําคัญเป็นหลักการบ่มเพาะถือเป็นเรื่องรองแสดงว่าเขาต้องมีความรู้ในเรื่องการรักษาอย่างลึกซึ้งแต่เขากลับมีลูกศิษย์ที่เป็นแพทย์แผนตะวันตกอยู่แค่คนเดียวมันจึงเป็นเรื่องที่น่าแปลกอยู่บ้าง

“ฉันว่า บางทีเขียนเชิงอาจจะยังหาคนที่ใช่ไม่เจอก็ได้”เจี่ยจื้อจายพูด

ภายในคลินิก

“คุณคือ?” หวังเฝ้ามองดูชายชราที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเขา

ชายชราอยู่ในวัยหกสิบ หลังของเขาโก้งโค้งเล็กน้อย แต่กลับมีสีหน้าและสภาพจิตใจที่ดีหลังจากเดินเข้ามาในคลินิกแล้วเขาก็ไม่พูดอะไรอยู่นาน

“คุณลุงเจ็บป่วยตรงไหนเหรอครับ?”

“อ่อ ฉันไม่ได้ป่วยหรอก” ชายชราพูด “เธอเป็นใคร? แล้วทําไมฉันถึงมาที่นี่ได้?”

หวังเย้านวดขมับ

“คุณลุง ที่นี่เป็นคลินิกของผม ผมเป็นหมอ และผมรักษาคนป่วยครับ”

“หมอ? หมอหวง(อึ้งเอี๊ยะซื้อในเรื่องมังกรหยก) แห่งเกาะดอกถ้อ คุณมีวิชาดัชนีไหม?”ชายชราถามด้วยสีหน้าจริงจัง

หวังเย้าได้พบเจอกับชายชราที่แปลกประหลาดเข้าแล้ว

ชายชราตรงหน้าเขามีอาการความจําเสื่อม และเขาเป็นหนักมากด้วย หวังเย้าสงสัยว่าชายชราสามารถหาที่อยู่คลินิกของเขาพบได้ยังไง

“คุณลุงชื่อว่าอะไรเหรอครับ?”

“เรื่องนั้น…” ชายชราเกาหัว “ฉันเหมือนจะจําได้ว่าชื่อของฉันคือ หลี่ซิวหยวน”

“แล้วคุณลุงจําได้ไหมครับ ว่าตัวเองอาศัยอยู่ที่ไหน?”

“เอ่อ ฉันจําไม่ได้แล้ว” ชายชราเกาหัว

“แล้วคุณลุงมาที่นี่ทําไมครับ?”

“อืมมม ขอฉันคิดก่อนนะ” ชายชราพูด

หวังเฝ้าคิด ถ้าจําได้ก็แปลกแล้ว!

“เอ่อ ฉันจําไม่ได้”

ก็แน่ล่ะสิ

เขาลืมชื่อตัวเอง, ที่อยู่บ้าน, และแน่นอนว่าเขาต้องลืมเรื่องครอบครัวของตัวเองด้วย

หวังเข้าพบว่าเขากําลังเผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่ ชายชราคนนี้ไม่สามารถอยู่ที่คลินิกของเขาได้ตลอดไปจริงไหม?

“คุณลุงลองหาดูได้ไหมครับ เผื่อว่าอาจจะมีข้อมูลติดต่ออยู่ในกระเป๋าของคุณลุงก็ได้?”

“จริงด้วย ขอฉันหาก่อนนะ”

ชายชราเริ่มค้นหากระเป๋าของเขาแล้วเขาก็เจอกับกระดาษแผ่นหนึ่งที่เขียนชื่อของเขาเอาไว้ชายชรามีแซ่ว่าหลี่แต่ไม่ได้ชื่อว่าหลี่ซิวหยวนเขาชื่อหลี่อ้ายกั่วเป็นชื่อหนึ่งที่มีความเป็นมามาอย่างยาวนานในกระดาษยังมีเบอร์ติดต่อเขียนไว้ด้วยหวังเย้าจึงรีบกดโทรไปหาเบอร์นั้นแล้วก็มีเสียงวิตกกังวลของผู้หญิงคนหนึ่งดังมาตามสาย

“ใช่ครับ เขาชื่อ หลี่อ้ายกั่ว เขาอยู่ที่คลินิกของผม” หวังเย้าพูด

“ไม่ต้องห่วงครับ ใช่ครับ เป็นคลินิก ได้ครับ ผมจะรอคุณอยู่ที่นี่”

“คุณลุงช่วยรออยู่ที่นี่ไปก่อนนะครับ อย่าเพิ่งไปไหน อีกเดี๋ยวลูกสาวของคุณลุงก็จะมารับแล้ว”

“อ่อ ได้ๆ” ชายชราพูด

“แล้วคุณลุงมาหาผมได้ยังไงเหรอครับ?”หวังเย้าถามคลินิกของเขาตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลหากดูจากการแต่งกายของชายชราแล้ว เขาดูไม่น่าจะใช้ชาวบ้านแถวนี้เขาอาจจะมาจากในเมืองที่ห่างออกไปไม่กี่สิบไมล์หากไม่พูดเรื่องที่ชายชราความจําเสื่อมแล้วแม้เขาจะไม่ได้ป่วยความจําเสื่อมก็ยังเป็นเรื่องยากในการเดินทางมาที่นี่ และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาคลินิกของเขาพบ

“เอ่อฉันมาที่นี่ได้ยังไงนะ?ขอฉันคิดดูก่อน”ชายชราเริ่มค้นตามตัวของเขาอีกครั้งแล้วในที่สุดเขาก็พบกระดาษอีกแผ่นหนึ่งบนนั้นเขียนชื่อและที่อยู่คลินิกของหวังเย้าเอาไว้เห็นได้ชัดว่าตั้งใจเขียนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว

“คุณลุงนั่งแท็กซี่มาเหรอครับ?”

“ใช่ ฉันยังพอจําได้อยู่ มันน่าจะเป็นรถแท็กซี่นะ”

“คุณลุงชื่อว่าอะไรนะครับ?”

“หลื่อ้ายกั่ว เจ้าเด็กนี่ ฉันก็เพิ่งบอกไปไม่ใช่เหรอ?” ชายชราตอบ

“เอ่อ ใช่ครับ”หวังเฝ้ามองดูนาฬิกาและจดบันทึกเวลาลงไป

“ผมรินชาให้คุณลุงดื่มดีไหมครับ?”

“ดี ขอบใจนะ”

“ปกติคุณลุงชอบดื่มชารึเปล่าครับ?”

ชายชราคิดตามและพูดว่า “ใช่ ฉันชอบดื่มชา”

หลังจากที่ได้ฟังหวังเย้าก็จดบันทึกบางอย่างลงไปในสมุด

“คุณลุงมีลูกกี่คนเหรอครับ?”

“ลูกชายคนหนึ่งกับลูกสาวสองคน ลูกชายไม่ค่อยเชื่อฟังเท่าไหร่ ยังดีที่ลูกสาวสองคนนั้นเชื่อฟัง”หลังจากคิดแล้วชายชราก็พูดออกมา

“คุณลุงอยู่กับลูกสาวเหรอครับ?”

“อึม ใช่” ชายชราพยักหน้า

หวังเข้าจดบันทึกลงบนสมุดของเขาต่อดูเหมือนว่าชายชราจะไม่ได้ลืมไปเสียทุกเรื่องแต่เขาลืมเป็นบางเรื่องเท่านั้นน่าสนใจจริงๆ

หวังเย้าคุยกับชายชราและมองดูเวลาไปด้วย ผ่านไปประมาณ 30 นาทีแล้ว

“คุณลงชื่ออะไรนะครับ?”

“หลี่ซิวหยวน เธอเพิ่งถามไปไม่ใช่เหรอ?”

หม?

หวังเข้าจดเวลาลงไป

“คุณลุงมีลูกกี่คนเหรอครับ?”

“ลูกชายสองกับลูกสาวหนึ่งคน ลูกชายสองคนไม่ค่อยเชื่อฟัง แต่ลูกสาวเชื่อฟังดีมาก”

มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!

หวังเย้าขีดฆ่าคําที่เขาเพิ่งเขียนลงไป

มันไม่ใช่การลืมแค่บางเรื่อง

“คุณลุงอยู่ที่บ้านกับลูกสาวใช่ไหมครับ?”

“ไม่ใช่ อยู่ที่บ้านลูกชาย”

เละเทะ มันเละเทะไปหมดแล้ว

“ผมขอจับชีพจรของคุณลุงหน่อยนะครับ” หวังเย้าพูด

“ได้สิ จับเลย” ชายชราพูดอย่างยินดี

หวังเย้ายื่นมือออกไปจับดูชีพจรของชายชรา

ปัญหาค่อนข้างหนัก

ปัญหาของชายชราอยู่ที่สมองของเขา สมองของเขาเริ่มเสื่อมสภาพและฝ่อและนั่นคือสาเหตุหลักที่ส่งผลต่อความจําของเขา

แกร็ก! ประตูด้านนอกถูกเปิดออก หญิงคนหนึ่งรีบเดินเข้ามา
“พ่อ ทําไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”เธอถาม“พ่อทําให้หนูเป็นห่วงมากนะ”

“หมอหวัง ฉันต้องขอโทษด้วยนะคะ!”

“ไม่เป็นไรครับ คุณลุงอาการหนักมากเลยนะครับ” หวังเฝ้าพูด

“เฮ้อ มันหนักมากจริงๆค่ะ ฉันพาไปรักษามาหลายที่แล้ว ฉันได้ยินมาว่าคุณมีวิธีรักษาได้ทั้งโรคที่รักษาได้ยากและโรคร้ายแรงฉันก็เลยคิดจะพาเขามาที่นี่ฉันขอรายละเอียดและจดเอาไว้ ในกระดาษ แต่ก็ไม่คิดว่าพ่อของฉันจะมาที่นี้เองคนเดียวฉันตกใจแทบแย่”

“หมอหวัง ไหนๆเราก็มาที่นี่แล้วคุณช่วยตรวจพ่อของฉันหน่อยได้ไหมคะ?”

“ก่อนที่คุณจะมาถึงผมได้ตรวจเขาไปแล้วครับเลยได้รู้ว่าความทรงจําของคุณลุงหายไปจากการเสื่อมสภาพของสมอง”หวังเย่าพูด

“ใช่ค่ะ นั่นเป็นคําพูดเดียวกับที่โรงพยาบาลที่เราเคยพาไปตรวจมา” เธอพูด“หมอพอจะมีวิธีรักษาไหมคะ?แค่ยื้อให้อาการทรุดลงช้ากว่านี้ก็ยังดี”

หมอหลายคนบอกว่ามันเป็นแค่อาการความจําเสื่อมเท่านั้น แต่หากต่อไปมันอาจส่งผลต่อส่วนอื่นของร่างกายด้วยเช่นปฏิกิริยา, การพูด,และการขับถ่ายหากอาการแย่ลงไปอีกแม้แต่เรื่องง่ายๆ ในชีวิตประจําวันก็ยังกลายเป็นเรื่องยากได้

“ครับ ผมลองรักษาดูได้ แต่ค่ารักษาแพงมากนะครับ” หวังเย้าพูด

สถานการณ์ของชายชราคือการเสื่อมถอยของร่างกาย โดยเฉพาะสมองของเขา เขาสามารถใช้ยาเพื่อป้องกันการเสื่อมถอยของสภาพร่างกายได้และยังอาจสามารถฟื้นสภาพร่างกายให้กลับคืนมาได้ในระดับหนึ่งด้วย

“แพง? แพงแค่ไหนคะ?” เธอถาม

“ยาหนึ่งโดสมีราคาอยู่ที่หนึ่งแสนหยวนครับ”

“หา?” เธอตกตะลึง “แพงขนาดนั้นเลยเหรอเนี้ย!”

“ใช่ครับ”

“ไว้เราขอกลับไปคิดดูก่อนนะคะ”

“ได้ครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ”

“อ้อ ค่ะ”

“เธอเป็นใคร?” อยู่ๆชายชราก็หันไปมองลูกสาวของเขา

“พ่อ หนูเป็นลูกสาวของพ่อยังไงล่ะคะ”

“อ้อ แล้วที่นี่คือที่ไหนเหรอ?”

“คลินิกค่ะ”

“อ่อ ฉันเหมือนจะจําได้อยู่”

“รอเดี๋ยวครับ พี่สาว คุณพ่อของคุณชอบดื่มมากเลยใช่ไหมครับ?” อยู่ๆหวังเย้าก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้

“ใช่ เขาเคยดื่มเหมือนชีวิตนี้ขาดมันไม่ได้ แต่หลังจากที่เขาป่วยเป็นโรคนี้เขาก็เลิกดื่ม

“ครับ ผมเข้าใจแล้ว” เธอเดินออกไปจากคลินิกพร้อมกับพ่อของเธอ

“พ่อ ต่อไปนี้อย่าออกไปไหนคนเดียวอีก หนูเป็นห่วงมากเลยนะ”