ตอนที่ 3 นางคิดจะยั่วยวนเขาอย่างนั้นรึ?

ข้าจับปีศาจสาวได้ตัวหนึ่ง 天上掉下个美娇娘

ทั้งๆ ที่นางนั่งอยู่บนพื้น ส่วนเขากำลังยืน แต่นางก็ยังทำท่าราวกับเป็นคนที่เหนือกว่า

นางเป็นปีศาจที่เย่อหยิ่งมากๆ อย่างนั้นรึ?

เซียวเถี่ยเฟิงมองคิ้วบางของหญิงสาว ใจอดคิดอีกไม่ได้ว่า ใบหน้าที่แสนจะธรรมดานั้นดูมีเสน่ห์เย้ายวนอย่างน่าประหลาด ร่างของเขาแข็งเกร็ง ทรวงอกเจ็บแปลบเพราะความปรารถนา

เขาต้องการนาง ต้องการจนเจ็บปวดไปหมด

หญิงสาวเอ่ยปากอีก น้ำเสียงของนางยังคงเย่อหยิ่งเหมือนเดิม แต่เซียวเถี่ยเฟิงกลับรู้สึกว่าเสียงนั้นช่างไพเราะเหลือเกิน ไพเราะราวกับดนตรีจากสรวงสวรรค์

เขาลังเล ที่แท้เขาควรทำตามสัญชาตญาณ ยอมเสี่ยงตายคว้าปีศาจจอมยั่วมากอดเอาไว้แล้วทำตามใจชอบโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น หรือควรข่มความปรารถนาแล้วเดินจากไปเสียตั้งแต่ตอนนี้?

ในตอนนั้นเอง เรื่องที่เขาไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

จู่ๆ นางก็ลุกพรวดแล้ววิ่งหนีไปทันที

ท่าวิ่งของนางดูประหลาดมาก ไม่สงบเสงี่ยมระมัดระวังเหมือนสตรีชาวต้าเจาทั่วไปที่เขารู้จัก

ท่าวิ่งของนางดูเปิดเผย สง่างามเหมือนกวางดาวที่กำลังโลดแล่นอยู่ท่ามกลางป่าเขา

ลมฤดูร้อนโชยมา ทำให้ผมยาวดำสนิทราวกับผ้าต่วนของนางปลิวสยายไปตามสายลม ผ้าสั้นเต่อซึ่งแทบปิดบั้นท้ายของนางเอาไว้ไม่ได้ นางดูราวกับไร้ตัวตน ขาขาวเรียวยาวทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอยู่ในอก ใจนึกอยากจะพุ่งไปรวบขาคู่นั้นไว้ แล้ว…แล้ว…

ระหว่างที่เขากำลังคิดเหลวไหลนั้นเอง เรื่องที่ไม่น่าเชื่อก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า

เขาเห็นนางพุ่งไปหาตอไม้ที่ด้านข้างอย่างแรง

นางจะฆ่าตัวตายงั้นรึ?

อย่านะ!

เขาเกือบจะพุ่งไปขัดขวาง ปีศาจฆ่าตัวตายก็ตายได้เหมือนกันใช่ไหม?

แต่เห็นได้ชัดว่านางไม่ตาย หลังจากกระแทกกับตอไม้ดังปัง นางก็ล้มลงไปกองกับพื้น

หญิงสาวที่นอนอยู่ตรงนั้นเหมือนจะหยุดคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นนางก็ผงกหัวขึ้นมามองเขา

ดวงตาทั้งคู่ของนางจ้องตรงมาที่เขา ราวกับคิดจะกระชากวิญญาณของเขาไป

ลูกกระเดือกของเขาขยับ แผงอกขยับขึ้นลงอย่างรวดเร็ว

ปีศาจตนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่ เขาเริ่มสงสัย

แต่ไม่นานนัก เขาก็เข้าใจ

นางคิดจะยั่วยวนเขาอย่างนั้นรึ?

เขาเห็นนางส่งยิ้มมาให้ แถมยังโบกมือเรียกเขาให้เดินไปหาอีกด้วย

รอยยิ้มของนางเยียบเย็น เย็นเหมือนกำลังดูแคลนทุกสิ่ง แต่มันน่าดูเหลือเกิน แม้กระทั่งดวงจันทร์บนท้องฟ้าก็ยังต้องหม่นหมองเมื่อเทียบกับรอยยิ้มของนาง

เซียวเถี่ยเฟิงลังเลขึ้นมาอีก เห็นชัดๆ ว่าปีศาจตนนี้คิดจะยั่วยวนเขา เขาควรจะเดินไปหานางดีหรือไม่

สมองของเขาคิดถึงเรื่องราวของปีศาจที่เคยได้ยินมาสมัยยังเด็กอีกครั้ง ปีศาจในภูเขายั่วยวนผู้ชายเพื่อดูดไอหยาง นับแต่นั้นมาผู้ชายคนนั้นก็จะป่วยหนักจนลุกไม่ขึ้น

ระหว่างที่เขายังตัดสินใจไม่ได้นั้นเอง ปีศาจก็กวักมือเรียกพลางส่งยิ้มมาให้อีก

เพียงนางยิ้ม สมองของเขาก็ว่างเปล่า ความคิดทั้งหมดปลิวหายไปอย่างไร้ร่องรอย ในหัวใจและดวงตามีเพียงรอยยิ้มของนางเท่านั้น

ชั่วขณะนั้น ต่อให้ตรงหน้าคือภูเขาดาบทะเลเพลิง ต่อให้นางดูดไอหยางของเขาไปจริงๆ เขาก็ยอมรับ

ในที่สุด เขาก็ตัดสินใจเดินไปหานาง

เขาเดินช้ามาก เดินไปก็คิดไปว่า เขาควรจะอุ้มปีศาจขึ้นมาแล้วบอกให้นางรู้ได้อย่างไรว่า…

เจ้าอยากได้ไอหยางใช่ไหม ได้ ข้าจะให้

ข้ายอมแพ้แล้ว

 

เมื่อ**‘ผู้ชายบ้านนอกโง่เขลาไร้ความรู้’ เซียวเถี่ยเฟิงตัดสินใจเดินมาหา ‘ปีศาจสาวจอมคร่าวิญญาณในยามค่ำคืน’ กู้จิ้งกำลังแอบวางแผนในขั้นต่อไป**

เธอรู้ว่าจะต้องจัดการกับผู้ชายบ้านนอกคนนี้ให้ได้ก่อนถึงจะหนีรอดไปได้อย่างราบรื่น

แต่เธอเป็นผู้หญิงอ่อนแอ ส่วนฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่แข็งแรง หากปะทะกันซึ่งๆ หน้า เธอไม่มีทางชนะแน่ มีแต่ต้องหาทางเอาชนะด้วยปัญญาเท่านั้น

จะเอาชนะด้วยปัญญาได้อย่างไรนะ?

กู้จิ้งจำได้ว่าตอนที่โผล่ออกมาจากกระเป๋าหนัง เธอเหมือนจะคลำโดนอะไรบางอย่างที่มีคม

เนื่องจากก่อนหน้านี้เธอเคยโยนมีดผ่าตัดเล่มหนึ่งเข้าไปในกระเป๋า เธอจึงเดาว่ามันน่าจะเป็นมีดผ่าตัดเล่มนั้น

ตอนนี้เธอไม่มีเวลาไปสนใจว่ามีดผ่าตัดอะไรนั่นโผล่ออกมาได้อย่างไร เธอคิดเพียงแค่ว่าจะต้องรีบกลับไปที่กระเป๋าหนังสีดำใบนั้นแล้วหามีดผ่าตัดเล่มนั้นให้เจอ

ถึงตอนนี้เธอจะเป็นแค่แพทย์ทั่วไปตัวเล็กๆ แต่ก่อนหน้านี้เธอก็เคยเป็นศัลยแพทย์มีชื่อในโรงพยาบาลชั้นแนวหน้า สามารถใช้มีดผ่าตัดได้อย่างคล่องแคล่ว ขอเพียงหามีดผ่าตัดเจอ เธอจะใช้มันจัดการกับตำแหน่งสำคัญของผู้ชายบ้านนอกคนนั้น แม้ไม่ถึงขั้นเอาชีวิต แต่ก็ต้องทำให้เขาช่วยตัวเองไม่ได้อีก!

วางแผนเสร็จ เธอก็หันไปฉีกยิ้มแบบที่ทำให้มุมปากเป็นตะคริวพลางกวักมือเรียกผู้ชายบ้านนอกคนนั้น

“พี่ชาย มานี่สิ ฉันไม่หนีหรอก ถ้าคุณอยากเอาฉันทำเมีย ฉันยอมก็ได้นะ ฉันจะเชื่อฟัง คุณอยากทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น”

ฝ่ายตรงข้ามดูเหมือนจะเข้าใจความหมายของเธอ ดวงตาที่จ้องตรงมาที่เธอเปี่ยมด้วยแววเร่าร้อนหื่นกระหาย หึ ดูท่าจะไม่เคยเห็นผู้หญิงมาแปดชาติสินะ!

เธออดแค่นยิ้มไม่ได้ ดูท่าวันนี้คงมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงมาก

ไม่นานนัก ชายหนุ่มก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า เงาร่างสูงใหญ่บดบังร่างของเธอเอาไว้ ทำให้เธอมองไม่เห็นแสงจันทร์ตรงหน้าอีก

เธอเงยหน้าขึ้นเอียงคอมองเขา

จริงๆ แล้วผู้ชายคนนี้มีหน้าตาไม่เลวเลย เครื่องหน้าคมเข้ม จมูกโด่งคล้ายชนชั้นสูงชาวกรีก ริมฝีปากบางเซ็กซี่ ผมที่รวบเอาไว้ด้านหลังมีกลิ่นอายแบบโบราณ แผงอกแกร่ง เอวสอบแข็งแรง จุ๊ๆๆ หากที่นี่ไม่ใช่ป่ารกร้าง เธอคงสงสัยว่าเขาเป็นดาราดังระดับซูเปอร์สตาร์แน่!

หากเจอกันด้วยวิธีอื่น จะให้เธอกุ๊กกิ๊กกับเขาสักรอบก็ไม่มีปัญหา

แต่เรื่องนี้พัวพันถึงคดีลักพาตัวและค้ามนุษย์ เธอยอมตายก็จะไม่ยอมถูกลบหลู่เด็ดขาด!

“พี่ชาย อุ้มฉันหน่อยสิ ขาของฉันแพลง” เธอยื่นแขนไปข้างหน้าเหมือนจะขอให้อุ้ม

ข้อเท้าแพลง เธอต้องพยายามรักษากำลังเอาไว้ และต้องทำให้ผู้ชายคนนี้คลายความระวังให้ได้ ดังนั้น ใช้แผนเสนอตัวก่อนดีกว่า

ผู้ชายเซ็กซี่แบบนี้ คลอเคลียด้วยก็ไม่ขาดทุน

ถึงเขาจะฟังคำพูดของเธอไม่เข้าใจ แต่ก็คงเข้าใจความหมายสินะ เพราะร่างของเขาแข็งเกร็งขึ้นมาทันที

เอ๋? ยังไม่ขยับอีก? อดทนเก่งขนาดนี้เชียว?

กู้จิ้งเงยหน้าขึ้นยิ้มให้อีก ให้เวลาเขาคิดหน่อยก็แล้วกัน เธอไม่เชื่อหรอกว่าผู้ชายที่กำลังหื่นกระหายเต็มที่คนนี้จะยอมปล่อยโอกาสเอาเปรียบเธอให้หลุดมือไป!

ไม่ผิดจากที่คาด ผ่านไปเพียงครู่เดียว เขาก็ก้มลงช้าๆ ด้วยท่าทางเกร็งๆ แขนแข็งแรงทั้งคู่ยื่นออกมาแตะเอวของเธอ จากนั้นก็อุ้มเธอขึ้นไปกอดเอาไว้

ความรู้สึกที่ร่างลอยขึ้นไปกลางอากาศทำให้กู้จิ้งไม่ค่อยคุ้นชินนัก แต่ไม่นานนักเธอก็ปรับตัวได้

ผู้ชายคนนี้มีแรงมาก ร่างกายก็แข็งแรงเหมือนวัว เขาจึงสามารถอุ้มเธอได้อย่างง่ายดายเหมือนอุ้มใบไม้

บั้นท้ายของกู้จิ้งแนบชิดกับท่อนแขนของเขา แขนของเขามีกล้ามเป็นมัดแข็งเหมือนหิน เห็นได้ชัดว่าเป็นท่อนแขนของคนที่ทำงานหนักเป็นประจำ ไม่ใช่ได้มาจากฟิตเนส ร่างท่อนบนของเธอซบแนบแผงอกซึ่งกำลังขยับขึ้นลงอย่างรวดเร็ว เธอถึงกับได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นตุบๆ เสียด้วยซ้ำ

ดูท่าผู้ชายคนนี้กำลังจะทนไม่ไหวแล้ว!

ดีมาก!

ย่างก้าวของเขาเชื่องช้าแต่มั่นคง กู้จิ้งรู้สึกว่าถูกเขาอุ้มเดินไปแบบนี้ก็สบายดีเหมือนกัน

เดินไปครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็ไปหยุดอยู่ตรงตำแหน่งที่กระเป๋าหนังใบนั้นตกอยู่

กู้จิ้งเตรียมตัวเอาไว้แล้ว เธอรีบหันไปทางกระเป๋าหนังสีดำใบนั้นพลางทำท่าชี้โบ๊ชี้เบ๊เหมือนจะบอกว่า นั่นเป็นกระเป๋าของฉัน เอากลับไปที่บ้านด้วย!

ชายหนุ่มหยุดชะงัก จากนั้นจึงก้มลงมองกู้จิ้งก่อนจะหันไปมองกระเป๋าหนังสีดำบนพื้น

กู้จิ้งเห็นแววลังเลในดวงตาของเขา เธอจึงรีบยิ้มให้ เขย่าแขนเขาแล้วก็บิดตัวไปมา

ในที่สุด ผู้ชายคนนั้นก็เหมือนจะเข้าใจความหมายของเธอ เขาจึงเก็บกระเป๋าหนังสีดำใบนั้นขึ้นมา

กู้จิ้งผิดหวังอยู่บ้าง เธอคิดว่าเขาจะปล่อยเธอ คิดไม่ถึงว่าเขาจะไม่ปล่อย แต่กลับเก็บกระเป๋าขึ้นมาเอง

แต่ไม่เป็นไร พอเห็นผู้ชายคนนั้นเก็บกระเป๋าขึ้นมา เธอก็รีบเอื้อมมือไปแย่งมันมาแล้วล้วงมือเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว

มีของมีคมอยู่ในนั้นจริงๆ!

มันคือมีดผ่าตัดของเธอ!

ดีมาก!

มีมีดผ่าตัดอยู่ในมือ เธอก็มีกำลังใจขึ้นมาทันที กู้จิ้งบิดข้อมือครั้งหนึ่ง คมมีดเปล่งประกายวาววับเห็นเป็นเงาดุจสายฟ้า

คอยดูเถอะ!

กู้จิ้งตวัดมีดใส่แขนของชายหนุ่ม

มีดของเธอไม่ทำให้เส้นเลือดและเส้นเอ็นของเขาเสียหาย ทว่าต้องทำให้เขาปล่อยเธอได้แน่

แต่คิดไม่ถึงว่า แม้เขาจะได้รับบาดเจ็บก็ยังไม่ยอมปล่อยเธอ ซ้ำยังรัดร่างของเธอเอาไว้แน่น แน่นจนเธอเจ็บ เจ็บเหมือนกระดูกจะแหลกเป็นชิ้นๆ!

กู้จิ้งขมวดคิ้วแน่นพลางพยายามข่มกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ ในใจนึกแค้นนัก ใจคิดว่าฉันอุตส่าห์คิดจะเหลือแขนขาไว้ให้นาย แต่ในเมื่อนายลงมืออำมหิตแบบนี้ อย่ามาโทษว่าฉันไม่เกรงใจก็แล้วกัน!

ทันใดนั้นเธอก็ตวัดมีดเข้าใส่เส้นเลือดตรงข้อมือของชายหนุ่มอีก

ครั้งนี้เธอลงมือด้วยกำลังทั้งหมดที่มี แถมยังเลือกตำแหน่งสำคัญ

มือของเขาต้องพิการแน่

แต่สุดท้ายกู้จิ้งก็คำนวณพลาด

ผู้ชายคนนั้นเคลื่อนไหวเร็วมาก มากจนเธอคาดไม่ถึง

เพียงพริบตาเดียว มีดของเธอก็ถูกเขาแย่งไป หญิงสาวซึ่งไม่มีมีดในมือยังไม่ทันได้ตื่นตระหนก ลำคอก็ถูกอีกฝ่ายบีบเอาไว้แน่น