ตอนที่ 513 ฉินเสี่ยวตั่วเกิดเรื่อง!
เย่เฉินรีบเปิดแอพของเครื่องติดตามในมือถือ โปรแกรมนี้จะแสดงตำแหน่งที่อยู่ที่ฉินเสี่ยวตั่วอยู่
“สำเร็จแล้ว ต้องรอดูว่าฉินเสี่ยวตั่วจะกลับไปหาพวกฉินหงเหยียนเมื่อไรแล้วล่ะ”
ซูมู่ชิงมีท่าทีตึงเครียดทันที “ไม่รู้ว่าหลังจากเจอตัวคุณชายเย่เซวียนแล้วเขาจะขัดขืนไหม…”
ถ้าหากว่าเย่เซวียนไม่ยอมกลับบ้านกับเย่เฉินล่ะก็ ทั้งสองคนคงจะต้องสู้กันสักตั้ง!
หวังเอ้อร์เชอกล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “พี่หลง อย่าบอกนะครับว่าพี่เองก็กลัวจูเชว่ของคุณชายรองด้วยน่ะเหรอ?”
ส่วนชิงหลงแค่นเสียงเย็นชา “นายไม่สิทธิ์พูดแบบนี้กับฉัน จูเชว่ด้อยกว่าฉันมาก แย่ที่สุดคือฉันกับเราเสมอกัน แต่ถ้านายสองคนโดนเขาหมายหัวล่ะก็ สวดภาวนาขออย่าให้ตัวเองแขนขาขาดล่ะ!”
หวังเอ้อร์เชอกลืนน้ำลายด้วยความหวาดกลัว จูเชว่เป็นคนโหดขนาดนี้เชียวหรือ?
ทว่าซีกวากลับไม่ใส่ใจกับคำพูดของชิงหลง นั่นเพราะสายตาของเขาจับจ้องอยู่กับฉินเสี่ยวตั่ว
หนึ่งนาทีต่อมาจู่ๆ ซีกวาก็ขมวดคิ้วมุ่น “คุณชายเย่ หนูหนูเสี่ยวตั่วลงเวทีหลังจากที่ร้องเพลงเสร็จแล้ว เหมือนจะยังไม่กลับไปนั่งที่เดิมเลย”
เย่เฉินถามด้วยเสียงสงสัย “อ้าว? ตามแผนล่ามจะต้องติดเครื่องติดตามที่มือถือหล่อน แล้วปล่อยหล่อนลงไปสิ”
เย่เฉินมองตำแหน่งของหล่อนผ่านแอพติดตาม แล้วพบว่าหล่อนยังคงอยู่ในคอนเสิร์ต แต่กำลังขยับอยู่
“อาจจะไปโทรศัพท์ในห้องน้ำ” เย่เฉินกล่าว
ตอนแรกซีกวาไม่สงสัยอะไรแต่ผ่านไปสักพัก ซีกวาก็ถามอีก “คุณชายเย่ ตอนนี้คุณหนูเสี่ยวตั่วอยู่ไหนแล้วครับ?”
เย่เฉินมองตำแหน่งของฉินเสี่ยวตั่วแล้วกล่าว “ตอนนี้ฉินเสี่ยวตั่วอยู่ที่ปากทางงานครับ หล่อนจะกลับไปแล้วเหรอ? หล่อนชอบจีจอนฮีจะตายทำไมถึงต้องรีบออกงานไปโดยไม่มีสาเหตุด้วยล่ะ”
ซีกวาหยิบมือถือขึ้นมาทันทีแล้วถามคนที่เขาจัดแจงให้นั่งด้านหลังของฉินเสี่ยวตั่ว
“ฮัลโหล อาเจิ้ง คุณหนูเสี่ยวตั่วออกจากงานก่อนเหรอ?”
ฝ่ายตรงข้ามตอบว่า “ครับพี่กวา หลังจากที่หล่อนลงเวทีแล้ว ก็โดนการ์ดสองคนคว้าตัวไป ไม่ใช่คนของพวกพี่เหรอครับ?”
เพื่อจะดูแลความปลอดภัยให้ฉินเสี่ยวตั่ว ทำให้รปภ.ทุกคนในงานล้วนแต่เป็นคนของซีกวา
ทันทีที่ซีกวาได้ยินก็ร้อนรนทันที “ไร้สาระ! ฉันส่งคนไปรับตัวหล่อนมาตอนไหน! รปภ.คนไหนพาไป?”
ฝ่ายตรงข้ามกล่าว “เห็นไม่ชัดครับก็ไฟมันมืดตึ้บ”
ซีกวาวางโทรศัพท์แล้วตอบเย่เฉิน “คุณชายเย่ครับ คุณหนูเสี่ยวตั่วโดนรปภ.ของงานพาตัวไป แต่เราไม่ได้สั่งให้พวกเขาทำแบบนี้นี่นา”
เย่เฉินก้มหน้ามองตำแหน่งของฉินเสี่ยวตั่ว หลังจากที่หญิงสาวออกจากงานไปแล้ว ก็พบว่าตำแหน่งของหญิงสาวเคลื่อนไหวไปอย่างรวดเร็ว!
ความเร็วในการเคลื่อนที่ เพิ่มขึ้นไปจนถึง 80 กม. แล้วเพิ่มขึ้น 100 หรือ 110!
“แย่แล้ว! เสี่ยวตั่วโดนคนจับตัวไป!”
เครื่องติดตามรุ่นนี้สามารถแสดงความเร็วในตอนนี้ของเป้าหมาย
เมื่อเห็นความเร็วที่เพิ่มขึ้น เย่เฉินก็แน่ใจทันทีว่าฉินเสี่ยวตั่วมีปัญหาแล้ว
เพราะถ้าหากว่าฉินเสี่ยวตั่วเลือกจะออกจากงานเอง หล่อนไม่มีทางขับรถในเขตเมืองเร็วขนาดนี้
“รีบขับรถตามไปเลย!”
ซีกวา “ครับ!”
……
ครึ่งชั่วโมงต่อ ณ แถบชนบทของเมืองเสินเฉิง ในบริเวณสวนสนุกร้างแห่งหนึ่ง
ฉินเสี่ยวตั่วในชุดเดรสสีชมพูโดนัดที่เก้าอี้ ปากถูดอุดเอาไว้ เพื่อไม่ให้หล่อนโวยวาย
มีผู้ชายหน้าตาน่ากลัวห้าหกคนวนอยู่รอบ ๆ หล่อน!
ผู้ชายผมสั้นคนหนึ่งเดินมาแล้วยื่นมือมาหยิบของในปากฉินเสี่ยวตั่วทิ้ง
แต่ทันทีที่เอาออก ฉินเสี่ยวตั่วก็แหวทันที “ช่วยด้วยค่ะ!”
เพี้ยะ!
ชายผมสั้นคนนั้นไม่ถนอมหญิงงามแม้แต่น้อย เขาฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าที่น่ารักและน่ามองของฉินเสี่ยวตั่ว!
“โวยวายอะไร ตะโกนอีกเดี๋ยวพ่อตบเลย!”
ชายคนนั้นโวยวาย
ฉินเสี่ยวตั่วโดนตบจนมึนแล้ว!
ตั้งแต่เด็กหล่อนมีพี่สาวรักและดูแลเป็นอย่างดี เคยโดนคนตีแบบนี้ที่ไหน?
ฉินเสี่ยวตั่วไม่กล้าโวยวายอีก น้ำตาหล่อนไหลออกมาไม่หยุด
แล้วในเวลานี้เองชายร่างท้วมแล้วสาวเท้าเดินไปหาพลางกล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “เดือนเก้า ทำรุนแรงกับผู้หญิงสวยๆ แบบนี้ทำไม”
ชายผมสั้นคนนั้นแค่นเสียง “เดือนแปด อย่าบอกนะว่านายชอบแม่นี้? ฉันเตือนไว้หน่อยนะเรามาทำงานกัน ถ้าทำเจ้านายเสียเรื่อง นายรับผิดชอบไม่ไหวหรอกนะ!”
เดือนเจ็ด เดือนแปดเป็นแค่ฉายาของพวกเขา ไม่ใช่ชื่อจริง
เดือนแปดไม่พูดอะไรอีก
เดือนเก้าหันมองฉินเสี่ยวตั่วแล้วกล่าวถามด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “คุณคือฉินเสี่ยวตั่วใช่ไหมล่ะ?”
ฉินเสี่ยวตั่วปฏิเสธทันควัน “ไม่ใช่ พวกนายจับคนผิด!”
เดือนเก้าตอบเสียงเย็นชา“ชีวิตของฉันไม่เคยจับคนผิดมาก่อน ฉินเสี่ยวตั่ว ฉันถามเธอเลยแล้วกันนะว่าพี่สาวเธอกับเย่เซวียนอยู่ที่ไหน?”
ฉินเสี่ยวตั่วถึงได้เข้าใจเดี๋ยวนี้เองว่าทำไมตนเองถึงโดนจับมา หล่อนแหงนหน้าขึ้นมองแล้วกล่าว “ฉันไม่รู้จักเย่เซวียนอะไรทั้งนั้น พี่สาวฉันหายตัวไปนานแล้ว ฉันไม่รู้ว่าหล่อนอยู่ที่ไหน”
เดือนเก้ากล่าเสียงเย็นชา “ถ้าเธอไม่รู้แล้วเย่เฉินจะลงทุนทำขนาดนี้ทำไม ถึงกับเชิญดาราเกาหลีมาหาเธอดูถึงที่นี่เนี่ย?”
ฉินเสี่ยวตั่วชะงักทันที “พวกนายพูดอะไรกัน? พี่เย่เฉินเป็นคนจ้างอปป้าจีจอนฮีมาเหรอ?”
หล่อนคิดไม่ถึงเลยว่าไอดอลของตัวเองจะรู้จักกับอดีตพี่เขยตนเอง
เดือนเก้ากล่าวว่า “คิดว่ายังไงล่ะ? ถ้าไม่ได้เย่เฉินจ้างเขามาเปิดคอนเสิร์ตโดนเฉพาะเนี่ย คนร้องเพลงห่วยๆ อย่างนั้นจะมีปัญญาจัดคอนเสิร์ตใหญ่ขนาดนี้ได้หรือไง? ฉันฟังเขาร้องเพลงอยู่ข้างล่างมาสองชั่วโมงปวดหูจะแย่ ร้องอะไรก็ไม่รู้!”
ฉินเสี่ยวตั่วโวยวาย “นายห้ามว่าอปป้าแบบนี้นะ!”
เดือนก้ากล่าวว่าหัวเราะ “แม่สาวปัญญาอ่อนแบบเธอนี่มันอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์จริงๆ เลย คงโดนประคบประหงมจนเสียคนล่ะสิ? ตอนนี้จะตายอยู่แล้วยังมีแก่ใจจะมาโวยวายแทนคนอื่นอีกเหรอ? เร็วๆ บอกมา เย่เซวียนอยู่ที่ไหน!”
ฉินเสี่ยวตั่วกล่าวเสียงแข็ง “ฉันไม่รู้!”
เดือนเก้าโวยวาย ตอนที่ง้างมือจะตบหล่อนก็โดนเดือนแปดห้ามไว้
“นี่นายหมายความว่ายังไง?”
เดือนเก้าหันมองเดือนแปดด้วยใบหน้าไม่พอใจ
เดือนแปดหัวเราะคิกคักแล้วมองหญิงสาวจากหัวจรดเท้าอย่างประเมินในที โดยเฉพาะอย่างยิ่งขาเรียวยาวของหล่อน แล้วกลืนน้ำลาย
“เดือนเก้าฉันบอกนายแล้วว่าหล่อนเนี่ยเป็นสาวสวย อย่าลงไม้ลงมือกับหล่อนมากนักเลย นายลงไม้ลงมือแล้วจะได้ข่าวของเย่เซวียนหรือไง?”
เดือนเก้าลดมือลงแล้วแค่นเสียง “งั้นนายมีวิธีเหรอ? อย่าบอกนะว่าจะวางยาอะไรแบบนั้นอีกน่ะ?”
เดือนแปดถูมืออวบอ้วนแล้วหัวเราะคิกคัก “ถึงแม้ว่าวิธีนี้จะไม่ดีเท่าไร แต่พวกนายก็ยอมรับเถอะว่าวิธีนี้มีประโยชน์กับสาวสวยๆ ที่สุดแล้ว”
เดือนแปดพูดพลางหยิบกล่องออกมา ในนั้นมียาสีชมพูเม็ดหนึ่ง
หลังจากที่ฉินเสี่ยวตั่วเห็นยาเม็ดนี้แล้ว ก็ตกใจทันที หล่อนรู้ว่ายานี้เอาไว้ใช้ทำอะไร หล่อนหนีบขาเข้าหากันแน่นโดนไม่รู้ตัวแล้วตัวสั่นเทิ้มอย่างหวาดกลัว!