ตรงกึ่งกลางกำแพง
กู่ฉิงซานรอให้สายลมอ่อนกำลังลงสักพัก จากนั้นสะบัดหอกปีศาจแดงเพื่อระเบิดกำแพง
เขากระโดดออกไปก่อนวิ่งควบไปตามเส้นทางมืดมิดที่มองไม่เห็น
เมื่อไม่มีสายลม ย่อมไม่มีเสียงในเส้นทางมืดมิด เวลาเองก็ผ่านไปอย่างเงียบงันเช่นกัน
หนึ่งอึดใจ
สองอึดใจ
สามอึดใจ
…
ในที่สุดสายลมก็กลับมาอีกครั้ง
เขาอยู่ไกลจากทางเข้าเส้นทางมืดมิดมาก ทำให้สายลมที่ปะทะเข้ามาจึงอยู่ในสภาพรุนแรงทันทีที่พัดพา
กู่ฉิงซานไม่มีทางเลือกนอกจากระเบิดกำแพงอีกครั้งก่อนเข้าไป
สายลมโหมกระหน่ำเข้ามา
สายลมเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้
สายลมเหมือนกับคลื่นที่สามารถส่งผลกับโชคชะตาของผู้คนได้ มันทั้งยิ่งใหญ่ หนักหน่วงและขัดขืนไม่ได้
เมื่อถึงเวลาหนึ่ง กู่ฉิงซานถึงขั้นรู้สึกว่าสายลมคือสิ่งมีชีวิตที่สูงส่งยิ่ง
“ท่านพ่อ…”
“อย่า!”
ลึกเข้าไปในเส้นทางอันไกลลิบ มีเสียงสะอื้นแผ่วเบา จากนั้นก็เป็นเสียงอ้อนวอนอันสิ้นหวัง
ทันใดนั้น เสียงคำรามหนึ่งดังขึ้น “อย่าโทษพ่อ พ่อ ช่วยอะไรไม่ได้!”
นี่คือเสียงของจ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่ง
ก่อนกู่ฉิงซานจะทันได้ฟัง สายลมกลบเสียงดังกล่าวทันที ทำให้เขาเจอกับเสียงโหยหวนที่ไม่มีสิ้นสุดอย่างสมบูรณ์
เวลาคล้ายกับผ่านไปเนิ่นนาน
ในที่สุดสายลมเบาลง
กู่ฉิงซานระเบิดกำแพงทันทีก่อนวิ่งควบไปข้างหน้าอีกครั้ง
วิ่งได้เจ็ดถึงแปดอึดใจ
เขาเห็นโครงกระดูกขนาดเล็กสองร่าง
เจตจำนงของมารจากมิติและเวลาใดไม่ทราบยังไม่หายไปจากโครงกระดูกอย่างสมบูรณ์ กู่ฉิงซานยังสามารถสัมผัสได้ถึงร่องรอยของพลังชีวิตยิ่งใหญ่กำลังหายไปด้วยผลจากกระบวนการสังเวย
โครงกระดูกสองร่างคุกเข่ากับพื้นอย่างเงียบงัน ศีรษะก้มต่ำราวกับกำลังพูดอย่างสิ้นหวังและเศร้าโศกออกมา
ในใจของกู่ฉิงซาน แม่มดสองตนนี้ยังเด็กและน่ารัก
“ก็ได้”
เขาถอนหายใจก่อนแวะเก็บโครงกระดูกสองร่าง
หลังจากเก็บตรงนี้หมดแล้ว เขายังคงมุ่งไปข้างหน้าต่อ
ขณะคำนวณเวลาที่สายลมพัดมา กู่ฉิงซานสะบัดหอกปีศาจแดงเพื่อระเบิดกำแพงก่อนเข้าไป
ก้อนกรวดถูกเขาจัดการอีกครั้งด้วยวิชาควบคุมก่อนถูกสร้างขึ้นใหม่อย่างประณีตด้วยวิชาเยือกแข็ง
สายลมพัดหวีดหวิวอีกครั้ง!
กู่ฉิงซานอยู่ในกำแพงเงียบๆ สักพัก ขณะรอให้สายลมพัดผ่าน
“ติ๋ง”
กู่ฉิงซานตกตะลึง
ทำไมถึงมีเสียงน้ำอยู่ที่นี่ล่ะ
ไม่สิ ทำไมเสียงมันชัดขนาดนี้
เว้นแต่เสียงน้ำหยดอยู่ใกล้กว่าสายลม
กู่ฉิงซานลืมสายลมนอกกำแพงไปชั่วคราวก่อนหลับตาลงแล้วตั้งใจฟัง
“ติ๋ง”
เสียงดังขึ้นอีกแล้ว
กู่ฉิงซานลืมตาขึ้นก่อนยกมือขึ้นไปเคาะเหนือศีรษะ
ข้างในว่างเปล่า!
กู่ฉิงซานสะบัดหอกปีศาจแดงอย่างไม่ลังเลขณะขุดเข้าไป
แน่นอนว่าหลุมขนาดใหญ่ถูกขุดขึ้นมาอย่างง่ายดาย
กู่ฉิงซานกระโดดขึ้นไป
เขาพบว่าตัวเองอยู่บนเส้นทางอีกแห่ง
บนเส้นทางนี้ไม่มีสายลม
กู่ฉิงซานไม่กล้าประมาทขณะอยู่ตรงปากหลุมแล้วรออีกสักพักใหญ่
ยังไม่มีสายลมพัดมา
ดูท่าที่นี่จะปลอดภัยกว่า
เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกขณะก้าวเท้าเดินออกไป
“แคร้ก!”
ทันทีที่ก้าวออกไป บางสิ่งทำงานทันที มีเสียงส่งผ่านกลไกอย่างต่อเนื่องดังขึ้นรอบข้าง
เสียงเฉยชาไร้อารมณ์ดังมาจากความมืด
“เริ่มทำการทดสอบ”
“จากสัญญาณชีพ สามารถระบุได้ดังนี้: พลเมืองมนุษย์ เด็กโต”
“ตามหลักการลี้ภัยในช่วงสงคราม พวกเด็กๆ สามารถเข้าศูนย์กักกันหุบเหวเพื่อลี้ภัยชั่วคราวได้”
“โปรดอย่าขยับ ข้าจะพาท่านไปยังที่ปลอดภัย”
เสียงหายไป
เมื่อได้ยินเสียงนี้ กู่ฉิงซานยืนอยู่ที่เดิมแต่โดยดี ไม่ขยับไปไหนแม้แต่นิดเดียว
เสียงนี้เหมือนกับเสียงของกำแพงเหล็กที่ปิดกั้นเมืองเอาไว้ เห็นได้ชัดว่ามันคืออุปกรณ์ระบุตัวตนของเผ่าพันธุ์มนุษย์
สิ่งเดียวที่แตกต่างคือตอนนั้นอีกฝ่ายเรียกเขาว่า “เด็กผู้ชาย” แต่ตอนนี้กลายเป็น “เด็กโต” แล้ว
เอาเถอะ ดูท่าเขาจะเติบโตขึ้นจริงๆ
แผ่นวงกลมปรากฏขึ้นจากเท้าของกู่ฉิงซานขณะพาเขาบินไปตามส่วนลึกของความมืด
นี่คือการบินที่ยาวนาน
หลังจากพิจารณาตัวตนของเขาว่าเป็น “เด็กโต” เสร็จแล้ว พื้นที่รอบข้างจึงกลายเป็นสีดำสนิท แผ่นวงกลมจึงบินด้วยความมั่นคง
เขาไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนก่อนความเร็วจะช้าลงในที่สุด
เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจกาแผ่นวงกลม
“ในเมื่อท่านมาอยู่ที่นี่เป็นครั้งแรก ขอแนะนำให้ท่านมองข้างล่าง”
กู่ฉิงซานมองข้างล่างตามที่บอก
ความมืดด้านล่างค่อยๆ หายไป
จากไกลถึงใกล้ เขตอาคมโปร่งแสงเริ่มปรากฏขึ้นมา
ด้วยเขตอาคมนี้ เขาสามารถมองเห็นฉากด้านล่างได้อย่างชัดเจน
กู่ฉิงซานมองจนลืมที่จะหายใจ
นี่มันเหลือเชื่อ
เขาเพียงเห็นกรงเล็บสีดำคมปลาบ
กรงเล็บคมปลาบนี้เปรียบเสมือนดินแดนอันกว้างใหญ่ ครอบคลุมสุดสายตา ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถมองเห็นได้ว่าเจ้าของกรงเล็บคมปลาบนี้หน้าตาเป็นอย่างไร
ที่จริงแล้ว
ร่างขนาดยักษ์นี่เต็มไปด้วยพลังอันไร้ขีดจำกัด!
คำแนะนำของแผ่นวงกลมดังขึ้นในหู
“อย่างที่ท่านเห็น อีกด้านของเขตอาคมคืออาวุธชีวภาพของพวกเราเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่รับผิดชอบการจัดการกับโลกมารและยังทำหน้าที่คุ้มกันช่องทางหุบเหวอีกด้วย”
กู่ฉิงซานอดที่จะโพล่งออกไปไม่ได้ว่า “นี่มันอะไรน่ะ”
“มังกรหลับใหล”
กู่ฉิงซานตกตะลึง
กลายเป็นว่านี่คือมังกรมาร!
มันทำหน้าที่คุ้มกันที่นี่และอยู่ในสภาพหลับลึก
ตอนนี้ เขตอาคมที่กระจายไปทั้งสองฝั่งเริ่มสั่นไหวเล็กน้อย
สายลมกำลังพัดอยู่ด้านล่าง
สายลมรุนแรงพัดจากกรงเล็บสีดำ ก่อตัวเป็นอากาศสีดำที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าก่อนกระจายไปทุกทิศทาง
“เด็กน้อย โปรดตระหนักไว้ด้วยว่าพลังงานในมังกรมารนั้นมีมากเกินไป ท่านต้องไม่เข้าใกล้หากไม่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นคลื่นพลังที่มันปล่อยออกมาจะทำให้เกิดกระแสอากาศที่พรากชีวิตของท่านได้”
กู่ฉิงซานตกตะลึงอีกครั้ง
มันเป็นแบบนี้เองสินะ
สายลมที่ราชาเทพผู้อยู่ระดับสี่เสาศักดิ์สิทธิ์ต้องหลบอย่างเอาเป็นเอาตาย สายลมที่จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งต้องสังเวยลูกน้องทั้งหมดหรือแม้กระทั่งลูกสาวตัวเองเพื่อขัดขืน มันกลับกลายเป็นเพียงกระแสอากาศที่เกิดจากคลื่นพลังที่ปล่อยออกมาจากมังกรมาร
นี่มันช่างเหลือเชื่อจริงๆ เกินกว่าขอบเขตที่จะเข้าใจได้อย่างสมบูรณ์
กู่ฉิงซานหลับตาลง ผ่อนคลายเล็กน้อยเพื่อพยายามสงบสติอารมณ์
“ข้าอยากถามอะไรหน่อย มังกรมาทำอะไรที่นี่” เขาถาม
แผ่นวงกลมตอบว่า “มันอยู่ที่นี่เพื่อคุ้มกันผู้ถักทอชีวิตหุบเหว”
“ผู้ถักทอชีวิตหุบเหวหรือ”
กู่ฉิงซานทวนชื่อซ้ำโดยไม่รู้ตัว
นี่คือตัวตนหุบเหวที่สองที่เขาได้ยินนอกเหนือจากวิญญาณกรีดร้อง
“ใช่แล้ว ผู้ถักทอชีวิตหุบเหวคือสัตว์ประหลาดหุบเหวที่เกินกว่าจินตนาการของพวกเรา มันสามารถจับและกินวิญญาณมนุษย์ได้ จากนั้นจะถ่ายพลังวิญญาณของตัวเองเข้าสู่ร่างมนุษย์เพื่อรวมเข้ากับอารยธรรมในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ท้ายที่สุดก็เปลี่ยนทั้งอารยธรรมให้กลายเป็นอาหารโอชะ”
“มันเคยจัดการกับเผ่าพันธุ์มนุษย์มาก่อนหรือ”
“ใช่ มันควบคุมผู้นำมนุษย์สถานะสูงส่งจำนวนมากและลอบสร้างเส้นทางลับมากมายที่นำไปสู่หุบเหว โชคยังดีที่ในที่สุดก็ทุกพวกเราค้นพบ”
“เส้นทางลับทั้งหมดจึงถูกปิดกั้นอีกครั้ง”
“ผู้ถักทอชีวิตหุบเหวถูกพวกเราฆ่าในเส้นทางลับแห่งนี้เช่นกัน”
กู่ฉิงซานถามด้วยความสับสนว่า “แล้วมังกรมารตัวนี้ยังจะคุ้มกันที่นี่อีกทำไมล่ะ”
“พวกเราเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่สามารถฟื้นคืนชีพจากความตายได้ แต่ถึงผู้ถักทอชีวิตหุบเหวจะกลายเป็นศพไปแล้วก็ยังมีคุณลักษณะในฐานะสัตว์ประหลาด นั่นก็คือความนิรันดร์และความอมตะ มันจะกลับมามีชีวิตอีกครั้งเมื่อผ่านไปสักพักใหญ่”
กู่ฉิงซานคิดถึงนิ้วสีดำ
บางที…
ตอนที่โบสถ์หลอมละลายถูกเก็บกู้จากทะเลลึก จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งได้ถูกผู้ถักทอชีวิตหุบเหวกินเข้าไปแล้ว
จ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งในตอนนี้ถึงกับเป็นผู้ถักทอชีวิตหุบเหว
มันหักหลังเผ่าพันธุ์มารทั้งหมดเพื่อเอากุญแจมาที่นี่
มันอยากที่จะช่วยตัวเอง!
ไม่ดีแน่
กู่ฉิงซานหยิบกุญแจสามเหลี่ยมออกมาแล้วกล่าวเสียงดังว่า “ฟังนะ ข้ามีบางอย่างอยากจะบอกเจ้า”