ตอนที่ 133

The Strongest Hokage

แนวหน้าของสนามรบเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลราวกับเป็นแม่น้ำ และศพของ นินจาอิวะ ก็กระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกแห่ง ไนโตะ ยังคงไล่สังหารศัตรูที่เหลืออยู่

ไนโตะ เหมือนเป็น ยมทูต ที่ตามเก็บดวงวิญญาณของ นินจาอิวะ

อีกฝากหนึ่ง โอโนกิ และ ซาคุโมะ กับหน่วยลับของทั้ง 2 ฝ่าย ก็ยังคงยืนเผชิญหน้ากันอยู่

อย่างไรก็ตาม โอโนกิ ก็ไม่ต้องการที่จะต่อสู้กับ ซาคุโมะ สิ่งที่เขาต้องการในตอนนี้คือ วิ่งเข้าสู่สนามรบเพื่อหยุด ไนโตะ ไม่ให้สังหารคนของเขาไปมากกว่านี้ แต่ ซาคุโมะ จะไม่มีทางให้เขาทำได้อย่างแน่นอน

เวลาผ่านไปและสงครามก็สิ้นสุดลง

ในสถานการณ์แบบนี้ เท่ากับว่าชีวิตของ โอโนกิ กำลังตกอยู่ในอันตราย และตอนนี้เขาไม่สามารถเปลี่ยนผลลัพธ์ของสงครามได้อีกต่อไป แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่เขาจะหลบหนีไปได้ขณะที่ ซาคุโมะ ยังอยู่ตรงหน้าเขา แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก

แน่นอนว่า โอโนกิ คือหนึ่งใน คาเงะ ที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ แต่ ซาคุโมะ ก็ไม่มีทางปล่อยให้เขาทำในสิ่งที่เขาต้องการได้ง่าย ๆ

ทันใดนั้น โอโนกิ ก็พยายามหลบหนีลงใต้ดินพร้อมกับ หน่วยลับของเขา แต่ ซาคุโมะ ก็ดึงดาบออกมา แล้วพุ่งเข้าโจมตี โอโนกิ ทันที แต่วิชาของ โอโนกิ นั้นรวดเร็วมาก จน ซาคุโมะ ไม่รู้ว่าเขาฟันโดนอะไร แต่สิ่งเดียวที่เหลืออยู่บนพื้นก็คือ แขนที่ถูกตัด!

ฉับ!!

ที่จริงแล้ว โอโนกิ สามารถต่อสู้กับ ซาคุโมะ ได้อย่างง่ายดาย เขามั่นใจด้วยซ้ำว่าจะสามารถเอาชนะ ซาคุโมะ ได้ แต่สิ่งที่ทำให้เขากลัวก็คือ ไนโตะ จะมาช่วย ซาคุโมะ อย่างแน่นอน!

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า โอโนกิ จะสามารถหลบหนีไปได้ แต่นั้นก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่า หมู่บ้านอิวะ พ่ายแพ้ในสงครามครั้งนี้!

ผู้ชนะคือ หมู่บ้านโคโนฮะ และจำนวนผู้เสียชีวิตก็น้อยมาก!

ในสนามรบ มี นินจาอิวะ เหลืออยู่ไม่มากนัก

ไนโตะ สังหารพวกเขาไปเกือบทั้งหมด

เขาเก็บ ดาบคุซานางิ จากนั้นก็มองไปที่สนามรบ

ทางด้านหลัง โอโรจิมารุ ยังคงเนื้อตัวสะอาด แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจกว่าก็คือ ไนโตะ ที่ยืนอยู่กลางสนามรบ

ครั้งนี้ เนื้อตัว ไนโตะ ไม่ได้สะอาดเหมือนครั้งก่อน ๆ

ท้ายที่สุด ในการต่อสู้ครั้งใหญ่นี้ ไนโตะ ไม่สามารถรักษาพลังสั่นสะเทือนของเขาให้ปกคลุมตัวเขาได้ เขามุ่งความสนใจไปที่การกำจัดศัตรูเท่านั้น และนั้นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ตัวของเขาเต็มไปด้วยเลือดของศัตรู

เขายืนอยู่ที่นั่น ในขณะที่ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเลือด

โอโรจิมารุ เฝ้าดู ไนโตะ ที่ยืนอยู่ตรงนั้น และพูดออกด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น

“ชายเพียงคนเดียว ควบคุมทั้งสนามรบได้ด้วยตัวเอง”

โอโรจิมารุ มองไปที่ ไนโตะ ด้วยดวงตาที่ชั่วร้าย เผยให้เห็นถึงท่าทางแปลก ๆ

“เขาแข็งแกร่ง ถึงเขาอาจจะไม่แข็งแกร่งเท่า ซาคุโมะ …แต่แน่นอนว่า ไนโตะ เป็นเหมือนเครื่องจักรสังหารในสนามรบครั้งนี้”

“ขีดจำกัดสายเลือดของเขา เหมาะสำหรับสถานการณ์แบบนี้จริง ๆ”

ในท้ายที่สุด โอโรจิมารุ ก็สูดหายใจลึก ๆ แล้วเผยให้เห็นประกายในดวงตาที่ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ จากนั้นเขาก็หันหลังกลับ

ในทางกลับกัน จิไรยะ ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม แม้ว่าหลายต่อหลายครั้งที่เขาอยากที่จะมุ่งหน้าไปหา ไนโตะ แต่เขาก็รู้สึกละอายใจ เขาจะไปเสนอหน้าให้ ไนโตะ เห็นได้อย่างไรในเมื่อเขาไม่ได้ทำอะไรเลย ในสนามรบ เขาทำได้แค่ยืนมอง ไนโตะ จากตรงนี้ และชื่นชมในพลังและจิตวิญญาณของ ไนโตะ เพียงเท่านั้น

เขามักจะถือตัวว่าเขาอยู่ในฐานะผู้อาวุโสกว่าทั้ง ไนโตะ และ มินาโตะ แต่หลังจากการต่อสู้ในครั้งนี้จบลง เขาคงไม่กล้าให้ ไนโตะ เคารพเขา แม้ว่าเขาจะแก่กว่า ไนโตะ ก็ตาม!

ฟิ้ว!!

หลังจากที่ ไนโตะ มองไปทั่วทั้งสนามรบ เขาก็รู้ว่าไม่มีอะไรให้ทำอีกแล้ว เขาจึงรีบวิ่งกลับไปหา ซาคุโมะ ด้วยความเร็วสูงสุด

ซาคุโมะ กำลังจะเก็บดาบของเขาเข้าฝัก

“โชคร้าย ที่พวกเขาหนีรอดไปได้ทั้งหมด”

ซาคุโมะ พูดด้วยความสงสาร ในขณะที่เขามองไปมราแขนเปื้อนเลือดที่อยู่บนพื้น

ซาคุโมะ แน่ใจว่าแขนข้างนี้ไม่ใช่ของ โอโนกิ อย่างแน่นอน มันเป็นแขนของ ผู้บัญชาการหน่วยลับของอิวะ

เมื่อ ไนโตะ มาถึง ซาคุโมะ เขาก็เห็นแขนที่อยู่บนพื้น แล้วพยักหน้าให้ ซาคุโมะ และพูดว่า “ถ้าผมมาถึงเร็วกว่านี้ เราต้องหยุดเขาไว้ได้แน่นอน”

“ไม่หรอก มันยากกว่าที่คิด ถ้า โอโนกิ ได้ประสานอินแล้ว ก็ยากที่จะมีใครจับเขาได้ทัน…แม้ว่า คาถาแผ่นดินไหวของเธอจะสามารถทะลุลงไปในชั้นดินได้ แต่วิชาของ โอโนกิ นั้นเร็วมาก”

ซาคุโมะ ส่ายหัว จากนั้นเขาวิเคราะห์อย่างจริงจังถึงผลลัพธ์อีกรูปแบบหนึ่งหาก ไนโตะ มาได้ทันเวลา แต่เขาก็ภูมิใจกับผลลัพธ์นี้เล็กน้อย

เพราะมีโอกาสน้อยมาก ที่นินจาคนที่ถูกตัดแขนจะรอดชีวิตไปได้ การสังหาร ผู้บัญชาการหน่วยลับ ได้ ก็ถือเป็นผลลัพธ์ที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก และสิ่งนี้จะทำให้ หมู่บ้านอิวะ เดินเกมในสงครามได้ยากขึ้นมาก

อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ก็รู้ว่าสิ่งที่ ซากุโมะ พูดนั้นก็ถูกต้องทุกอย่าง การที่จะสังหาร โอโนกิ ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ว่า ไนโตะ จะมาถึงทันเวลาก็ตาม

“เข้าใจแล้วครับ”

ไนโตะ พยักหน้า เขาไม่ต้องรอให้ ซาคุโมะ อธิบายทั้งหมด เพราะเขารู้ดีว่า โอโนกิ แข็งแกร่งแค่ไหน

ความสามารถของ ไนโตะ นั้นทรงพลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสนามรบเช่นนี้ เขาคือเครื่องจักรสังหาร แต่ถ้า ฝ่ายอิวะ มีคนที่แข็งแกร่งอย่าง ซาคุโมะ มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับ ไนโตะ ที่จะเอาชนะได้

ความแข็งแกร่งของ ไนโตะ ในขณะนี้นั้นยอดเยี่ยมมาก มันสูงกว่าครึ่งหนึ่งของระดับ คาเงะ แต่ก็ยังไม่เท่ากับระดับ คาเงะ อาจพูดได้ว่า ไนโตะ อยู่ในระดับของ กึ่งคาเงะพิเศษ เพราะพลังของ ไนโตะ นั้นพิเศษจริง ๆ นั้นก็หมายความว่า เขาสามารถจัดการกับใครก็ได้ที่มีนระดับต่ำกว่าระดับ คาเงะ หรือต่ำกว่าระดับของเขาได้อย่างง่ายดาย

ซาคุโมะ ไม่ต้องการคิดเกี่ยวกับเรื่องการหลบหนีของ โอโนกิ อีกต่อไป เขาหันกลับมามองที่ ไนโตะ แล้วเขาก็สังเกตเห็นว่าตัวของ ไนโตะ เต็มไปด้วยเลือด แต่เขาไม่ได้ตกใจอะไร เขาได้แต่ยิ้มให้ ไนโตะ เพราะเขารู้ว่าเลือดพวกนี้ไม่ใช้เลือดของ ไนโตะ อย่างแน่นอน

“ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาชื่นชมในสิ่งที่เธอทำในวันนี้ สิ่งเดียวที่ฉันพูดได้ก็คือ…เธอสมบูรณ์แบบมาก”

ด้วยความขอบคุณจากใจ ซาคุโมะ ยิ้มให้ ไนโตะ อย่างจริงใจ เขารู้อยู่แล้วว่าหาก ไนโตะ ระเบิดพลังออกมา เขาจะกลายเป็นเครื่องจักรสังหาร อย่างแน่นอน

และมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ

“ผมทำแบบนั้นได้ก็เพราะไม่มีใครใน กองทัพอิวะ ที่จะหยุดผมไว้ได้ เพราะนินจาอิวะที่เก่ง ๆ พวกนั้นถูกท่านจัดการไปหมดแล้วยังไงละครับ”

ไนโตะ ยิ้ม ในตอนนี้ จิตสังหารของเขาได้สงบลงแล้ว และการแสดงออกของเขาก็กลับเป็นปกติ อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ก็ได้สังหาร นินจาอิวะ ไปเป็นจำนวนมาก ตัวของเขาจึงยังเต็มไปด้วยเลือด

ในขณะที่ ไนโตะ กับ ซาคุโมะ กำลังพูดคุยกันอยู่ในสนามรบนั้น นินจาโคโนฮะ ก็ได้เก็บหลักฐานและทำความสะอาดสนามรบแห่งนี้เรียบร้อยแล้ว

ทันใดนั้น นินจาคนหนึ่ง ก็ปรากฏตัวต่อหน้า ซาคุโมะ และ ไนโตะ

“ท่านซาคุโมะ ท่าน…ไนโตะ นี้เป็นข้อมูลคร่าว ๆ ของการต่อสู้ครั้งนี้ครับ”

นินจาคนนั้น เรียก ซาคุโมะ ก่อน จากนั้นเขาก็ลังเลที่จะเรียก ไนโตะ แบบนั้น แต่สุดท้ายเขาก็เรียกออกมา

ไนโตะ ยังคงเป้นแค่ เกะนิน และเขาก็ยังเด็กมาก อายุเขายังน้อยเกินไปที่จะมีใครเรียกเขาว่า ท่าน

อย่างไรก็ตาม หลังจากการกระทำที่น่าอัศจรรย์ของเขาในสนามรบแห่งนี้ เขาก็สมควรที่จะได้รับการให้เกียรติสุงสุด!

“จำนวน กองทัพอิวะ ทั้งหมดมีประมาณ 1,400 คน เสียชีวิตไป 1,219 คน และอีก 37 คนถูกจับได้ จำนวนผู้ที่หนีไปได้ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่น่าจะมีประมาน 100 คนเท่านั้นครับ”

ซาคุโมะ พยักหน้ารับรายงายของ นินจาคนนั้น แล้วเขาก็ถามขึ้นมาว่า “แล้ว ไนโตะ ฆ่าไปกี่คน?”

เมื่อ ซาคุโมะ ถามคำถามนี้ออกไป นินจาที่ได้ยินก็ทยอยกันเข้ามาล้อมวงรอบ ๆ ซาคุโมะ , ไนโตะ และ นินจาที่กำลังรายงานผล ทุกคนต่างอยากรู้ว่า ไนโตะ ฆ่าไปกี่คนกันแน่