ตอนที่ 158 : เจียงเฉินของฉันเป็นหมอดู!
หัวหน้ากองถ่ายของ Penguin Picture ยืนขึ้นด้วยความเคารพก่อนจะแนะนําตัวของเฟิงเผิง
“ให้ผมแนะนําตัวเขาให้นะครับ คนๆนี้คือคุณเฟิงเผิง! เขาเป็นหลานชายของผู้ถือหุ้นอันดับสองของ Penguin Film and Television และเขายังเป็นผู้กํากับใหญ่ของ “Ready Player Two”! และเขาก็จะเป็นผู้รับผิดชอบการคัดเลือกนางเอกของภาพยนต์เรื่องนี้ครับ!”
เมื่อจี้อี่เว่ยได้เห็นเฟิงเผิงเธอก็รู้สึกหดหู่ทันที
เฟิงเผิงคนนี้ได้ชื่อในวงการว่าเป็นผู้กับกับที่ห่วยแตกมาก แต่นี่บริษัทกลับให้หนังที่ดีขนาดนี้มาอยู่ในมือของเขาเนี่ยนะ?
นี่พวกเขาคิดอะไรกันอยู่?
ผลลัพธ์ที่ออกมามันจะดีจริงๆหรอ?
จี้อี่เว่ยอยากจะร้องไห้ออกมา OT TO
ส่วนหลงซูเอ๋อร์ที่กําลังคล้องแขนกับเฟิงเผิงอยู่อย่างลําพองใจก็พูดเยาะเย้ยออกมา “เอ๋? นี่ไม่ใช่จี้อี่เว่ยที่ได้ชื่อว่าเป็นดาราอันดับหนึ่งของประเทศหรอกหรอ? ยังไงกันนะ? เธอเองก็มาแคสบทนางเอกเรื่อง “Ready Player Two” ด้วยหรอ?”
“แต่ขอโทษนะ! ผู้กํากับเฟิงเผิงเขาให้บทนี้กับฉันไปแล้วล่ะ!”
“ในเมื่อเธอกล้าที่จะล่วงเกินหลี่เฉียงที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้กํากับคนนี้ไปแล้ว เธอยังอยากจะได้บทนี้อีกงั้นหรอ? ฝันไปเถอะ! ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“หลงซูเอ๋อร์! นี่เธอ!”
จี้อี่เว่ยคิดไม่ถึงว่าหลงซูเอ๋อร์ที่เดบิวต์มาด้วยกันกับเธอจะเยาะเย้ยเธอได้โหดร้ายแบบนี้และมันทําให้เธอโกรธมาก!
หลงซูเอ๋อร์เยาะเย้ยออกมา “ฉันได้ยินมาจากผู้กํากับ เฟิงเผิงว่าก่อนหน้านี้หลี่เฉียงเคนตามจีบเธอแต่เธอกลับไม่รู้เรื่องแล้วส่งเขาไปเข้าคุก ในเมื่อเธอกล้าล่วงเกินเขาไปแล้วเธอยังจะคิดเป็นนางเอกของภาพยนตีเรื่องนี้อีกหรอ?”
หลงซูเอ๋อร์นั้นฉลาดมากเธอจงใจใช้เรื่องของหลี่เฉียงมายั่วยุให้ทั้งสองฝ่ายแตกหักกัน และยังทําให้เฟิงเผิงนั้นรู้สึกเกลียดจี้อี่เว่ยเข้าไปอีก!
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้จี้อี่เว่ยกับเฟิงเผิงก็มองหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใครทั้งนั้น!
“อะไรนะ หลี่เฉียงโดนท่านประธานจี้ส่งเข้าคุก?”
ข้างๆจี้อี่เว่ยผู้จัดการหม่าถึงตกตะลึงราวกับถูกฟ้าผ่า!
เขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลยจริงๆ!
“ฮ่าๆๆ—-
หลงซูเอ๋อร์เปิดใช้ทักษะนางมารร้าย!
เธอพูดออกมา “จริงๆแล้ว ถ้าหลี่เฉียงยังอยู่ จี้อี่เว่ย เธอเพียงแค่ยอมเป็นผู้หญิงของเขาอย่างว่าง่าย ตอนนี้บทนี้ก็คงไม่ได้เป็นของใครนอกจากเธอไปแล้ว! แต่เธอกลับทําตัวไม่รู้เรื่องเองแถมยังพาเขาเข้าคุก! และตอนนี้ฉันเองก็เป็นผู้หญิงของผู้กํากับเฟิงเผิงไปแล้ว ต่อให้เธอขอร้องอ้อนวอนผู้กํากับเฟิงเผิงให้ตาย เธอคิดว่าเขาจะให้โอกาศเธอไหมล่ะ?!”
ผู้จัดการหม่าถึงรู้สึกเศร้า–
ตอนนี้ความหวังคงไม่เหลือแล้ว!
ท่านประธานจี้ไปล่วงเกินหลี่เฉียงไปแล้วและผู้กํากับคนใหม่ก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของเฟิงเผิงแถมคู่แข่งอย่างหลงจูเอ๋อร์ก็ไปหลับนอนกับผู้กํากับคนนี้ไปแล้ว เพียงเท่านี้มันก็ชัดเจนแล้ว!
“นายพล
จี้อี่เว่ยโกรธเธอชี้นิ้วไปที่เพิ่งเผิง “ในเมื่อนายไม่ได้อยากจะเลือกฉันอยู่แล้วทําไมนายต้องให้ฉันมาแคสติ้งด้วย?!”
เพิ่งเผิงยิ้มออกมา “ก็เพราะ…ผมก็แค่อยากจะรู้ว่าคุณจะยอมอุทิศตนเหมือนหลงซูเอ๋อร์ไหมถ้าคุณยอมบางที…ผมอาจจะลองคิดใหม่ดูก็ได้นะ!”
หลงซูเอ๋อร์ที่ได้ยินก็ร้อนใจทันที “ผู้กํากับเฟิง! คุณทําแบบนี้ได้ยังไงกัน?”
เฟิงเผิงโอบไหล่ของเธอไว้ก่อนจะยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “วางใจเถอะ ยังไงเธอก็ไม่มีทางตอบตกลงแน่!”
จี้อี่เว่ยลุกขึ้นอย่างอ่อนแรงแล้วชี้นิ้วไปที่หลงซูเอ๋อร์และทีมงาน “ทุกคน! พวกคุณได้ยินกันไหม? ผู้กํากับเฟิงเผิงกับผู้หญิงคนนี้มีการใช้บทภาพยนต์ของบริษัทมาเป็นข้อต่อรอง! แถมผู้กํากับคนนี้ก็แค่ผู้กํากับห่วยๆคนหนึ่ง เมื่อหนังออกมา มันคงดูน่าสงสารมากแน่ที่ต้องมามีผู้กํากับแบบนี้! ในเมื่อมันเป็นแบบนี้แล้วฉันก็คิดว่าฉันคงไม่ต้องให้ความร่วมมืออะไรกับที่นี่อีก!”
เฟิงเผิงที่ได้ยินก็โกรธจัด เขาเกลียดมากเวลาได้ยินคนอื่นบอกว่าเขาเป็นผู้กํากับหนังห่วยๆ!
“นี่! จี้อี่เว่ยมันจะมากเกินไปแล้วนะ!”
“ฉันเป็นผู้กํากับและบทนางเอกฉันจะให้ใครมันก็เรื่องของฉัน!”
“ในเมื่อเธอกล้าพูดอย่างนี้กับฉัน ต่อให้เธอปิดขึ้นมาบนเตียงของฉัน ฉันก็จะไม่มีวันให้บทนางเอกกับเธอ!”
เมื่อได้ยินคําพูดของเฟิงเผิงผู้จัดการของจี้อี่เว่ยก็แทบร้องไห้ออกมา
มันจบแล้ว–
ทีมงานของเฟิงเผิงแอบกระซิบกันด้านหลัง
“ผู้กํากับเฟิงมีอํานาจมากกว่าเยอะ!”
“ใช่แล้วๆ!”
“ถึงแม้จี้อี่เว่ยจะมีชื่อเสียง แต่ผู้กํากับเฟิงเผิงก็คือผู้กํากับ ถ้าจะอ้อนวอนใครก็ต้องไปอ้อนวอนเขาเท่านั้น คนอื่นไม่มีประโยชน์!”
“เว้นแต่เธอจะมีผู้ลงทุนเข้ามาพูดให้ ไม่งั้นคําพูดของผู้กํากับเฟิงกูถือว่าเป็นอันสิ้นสุด!”
“เห้อ มีแต่ความโด่งดังไม่มีเส้นสายมันก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี ทําตัวใสสะอาดแบบนี้ต่อให้อยากอยู่ในวงการบันเทิงแค่ไหนก็อยู่ไม่ได้หรอก!”
หลงจู่เอ๋อร์ที่ได้ยินก็หัวเราะออกมาก่อนจะเอาตัวเข้าไปแนบชิดเฟิงเผิงมากกว่าเดิมเพื่อเยาะเย้ยจี้อี่เว่ย
แต่ใครจะรู้
ในเวลานี้เองประตูห้องก็เปิดออก
แล้วเจียงเฉินก็เดินเข้ามา
“แต่ฉันว่าจี้อี่เว่ยเหมาะกับบทนางเอกมากกว่าเยอะนะ!”
ทุกคนในห้องตกตะลึง!
จี้อี่เว่ยมองเจียงเฉินที่กําลังเดินเข้ามาด้วยปากที่อ้าค้าง จากความประหลาดใจ
“นาย?”
เธอไม่เข้าใจว่าทําไมเจียงเฉินถึงเข้ามา?
เมื่อได้ยินคําพูดของเจียงเฉินที่บอกว่า จี้อี่เว่ยเหมาะกว่า บทนางเอกมากกว่าหลงซูเอ๋อร์ก็โมโหจนลุกขึ้นมา “นาย- นายเข้ามาได้ยังไง? นายมีสิทธิ์อะไรมาพูดที่นี่?”
เฟิงเผิงเองก็ตกตะลึงเช่นกัน คนๆนี้ไม่ใช่หนุ่มหล่อที่มาหลอกเขาเมื่อครั้งก่อนหรอกหรอ?
เจียงเฉินไม่ได้สนใจใครทั้งนั้นเขาเริ่มวิเคราะห์ออกมาอย่างจริงจัง
“งั้นฉันจะบอกให้ก็แล้วกันว่าทําไมจี้อี่เว่ยถึงเหมาะสมกับบทนี้!”
“เหตุผลก็คือความสามารถในการแสดงและทัศนคติในที่ทํางานนั้นสําคัญมากยังไงล่ะ!”
“ส่วนทําไมหลงซูเอ๋อร์คนนี้ถึงเป็นไม่ได้น่ะหรอ?”
“ถึงแม้เธอจะพอมีฝีมือการแสดงที่ดีและทัศนะคติในที่ทํางานก็อาจจะใช้ได้ แต่ดูสิ!”
เจียงเฉินชี้นิ้วไปที่หลงซูเอ๋อร์ “ดูหน้าของเธอ ใบหน้า ปากแหลม แก้มอย่างกับลิง ดูโหดร้ายมาก แค่มองก็รู้แล้วว่าเป็นตัวร้าย! ใช่ไหมล่ะ? อีกอย่างนะเธอ…”
เจียงเฉินหยุดไปซักพักแล้วจ้องมองหลงซูเอ๋อร์ก่อนจะกระแอมไอออกมาเห็นได้ชัดว่าเขากําลังสร้างเหตุผลขึ้นมา
“ใช่แล้วๆ ดูริมฝีปากของเธอสิ ริมฝีปากของเธอออกสีม่วงๆ! เหมือนซอมบี้ไหมล่ะ? ใช่ไหม? ถ้าพาเธอไปทําหนังแบบนี้เหมาะกว่าเยอะ!”
หลงซูเอ๋อร์ “…”
เธอกระอักเลือดออกมาจนปอดของเธอแทบฉีก!
ริมฝีปากฉันเหมือนซอมบี้เนี่ยนะ?!
แอีก”
เดิมทีจี้อี่เว่ยกําลังรู้สึกเศร้าแต่การเดินเข้ามาของเจียงเฉินนั้นก็ทําให้อารมณ์ของเธอเปลี่ยนไปทันที!
เจียงเฉินยังคงพูดและแสดงความคิดเห็นต่อหลงซูเอ๋อร์ต่อไป “แล้วก็จริงๆแล้วผมน่ะเป็นหมอดู ผู้หญิงคนนี้ริมฝีปากดําแถมหูก็ยังบาง ซึ่งมันทําให้….ดวงชะตาของเธอนั้นไม่ดี! เดิมที่เธอควรเป็นแค่สาวใช้ด้วยซ้ําไม่มีทางมีชีวิตดั่งคุณหนู! ผู้หญิงที่มีชะตาไม่ดีแบบนี้ถ้าพวกคุณยังจะรั้นให้เธอเป็นนางเอกหนังเรื่องนี้คงไม่ดังแน่! สาวใช้ธรรมดาๆจะไปเป็นสนมระดับกุ้ยเฟยในวังได้ไหมล่ะ?”
เมื่อได้ยินเจียงเฉินพูดเรื่องไร้สาระออกมาแล้วยังมาบอกอีกว่าเธอนั้นมีชีวิตเป็นสาวใช้ หลงซูเอ๋อร์ก็แทบบ้าตายอยู่ตรงนั้นเลย!
“ฉัน! Y %”
เจียงเฉินพูดเรื่องไร้สาระออกมาอย่างจริงจังก่อนจะเริ่มชี้ไปที่จี้อี่เว่ย “พวกนายลองมองดูผู้หญิงของฉันคนนี้สิ คุณหนูอี่เว่ยคนนี้กลับเต็มไปด้วยพรจากสวรรค์! ส่วนที่ควรกลมกลึงก็กลมกลึงอย่างที่ควรจะเป็น เอวของเธอก็บางดุจใบหลิว มองจากที่ไกลๆแล้วก็ยังรับรู้ได้ทันทีว่าเป็นคนมีวาสนา ยิ่งมองก็ยิ่งหลงใหล! เห็นได้ชัดว่านี่แหละคือคนที่สมควรจะเป็นนางเอก! ส่วนคนแบบนี้ ถ้าใครยังจะไปเลือกก็คงตาบอดแล้ว!”
“และผู้กํากับคนนี้ที่ชื่อเฟิงเผิง…”
เจียงเฉินเดินไปหาเฟิงเผิงก่อนจะเริ่มนับนิ้ว “คุณมีหูที่ราวกับหมูอ้วน! พลังธาตุก็เป็นธาติดิน! ไร้ซึ่งพลังของธาตุทองมาเกื้อหนุน! มองดูก็รู้แล้วว่าไม่เหมาะกับตําแหน่งผู้กํากับ ต้องเปลี่ยนทันที!”
ในห้องประชุมนั้นเต็มไปด้วยความเงียบทันที
ทุกคนมองดูด้วยความสงสัย
ไม่มีใครพูดอะไรเลยกว่า 3 นาที!
เอาแต่ฟังอย่างเดียว!
กระอักเลือดออกมา: ผม
นาย นาย หมอดูอย่างนายเอาเหตุผลบ้าบออะไรมาพูดกัน?!
เหตุผลพวกนี้มันฟังขึ้นด้วยหรอ?!
ดวงชะตา หน้าตาบ้าบออะไรกัน!
พวกเรากําลังเลือกนางเอกไม่ได้ให้นายมาดูดวง!
แล้วที่มากไปกว่านั้น ความกล้าของนายมันจะมากเกินไปแล้วดูถูกหลงซูเอ๋อร์ก็แล้วกันไป แต่กับผู้กํากับ เขาก็ยังกล้าอีกหรอ?
ไร้สาระทั้งนั้น!
กลุ่มทีมงานพูดตําหนิกันออกมาอย่างโกรธเคือง!
“นี่ นายเป็นใครกัน?”
“นายเป็นใครกันแน่?”
“นายกําลังคิดจะทําอะไร?”
“พูดไร้สาระอะไรอยู่ได้! ที่นี่ไม่มีที่สําหรับนายหรอกนะ!”
“บ้าเอ้ย! หมอดูบ้าอะไรกัน!”
ฝูงชนพากันรุมต่อว่าเจียงเฉินทันที
ใบหน้าที่โกรธจัดของหลงซูเอ๋อร์เปลี่ยนเป็นสีแดงคล้ําราวกับตับหมู “นาย นายมันไร้สาระเกินไปแล้ว! อะไรในชีวิตฉันที่มันไม่ดี! ทําไมจี้อี่เว่ยถึงเกิดมาเป็นนางสนมแต่ฉันกลับเป็นแค่คนใช้? นาย-นายทําให้ฉันโกรธ!”
ใบหน้าของเฟิงเผิงเองก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มเขาตบโต๊ะเสียงดังด้วยความโกรธ “ฉันจําแกได้แล้ว! เป็นแกที่หลอกฉัน เรื่องการจีบหญิง 3.0 เมื่อครั้งก่อน! ใครก็ได้! จับไอ้หมอนี่โยนออกไปเดี๋ยวนี้!”
พูดจบประตูก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง!