ณ บ่อเลือดมังกร

ในช่วงเวลานี้ เซี่ยปิงกำลังนั่งอยู่ที่ใจกลางของบ่อน้ำ กำลังนั่งขัดสมาธิเพื่อทำการบ่มเพาะ

หลั่ว หลั่ว หลั่ว!

เขาได้ไหลเวียนวิชาหยางบริสุทธิ์ออกมา รูขุนขนทั่วทั้งร่างกายเป็นเหมือนกับอสูรยักษ์ก็ว่าได้ กลืนกินเข้าไปเหมือนดั่งปลาวาฬ เลือดมังกรมหาศาลได้หลั่งเข้าไปในตามรูขุมขน ท่วมท้นเข้าไปในกล้ามเนื้อและกระดูกของเขาอย่างบ้าคลั่ง

“ร้อนจริงๆ!”

ทันใดนั้นเซี่ยปิงก็รู้สึกได้ถึงคลื่นความร้อนที่ได้หลั่งไหลเข้ามาในร่างกายของตนเอง เหมือนกับว่าเป็นเปลวไฟมังกรที่เผาไหม้ เหมือนกับว่าเส้นลมปราณของตนเองกำลังไหลเวียนไปด้วยลาวา ทั่วทั้งร่างกายกำลังแผดเผาอย่างรวดเร็ว

หากเป็นนักวิทยายุทธปกติทั่วไปที่กล้าดูดกลืนเลือดมังกรเข้าไปเช่นนี้ เพียงแค่ระยะเวลาหนึ่งวินาที พลังอำนาจที่เผด็จการของเลือดมังกรที่กลืนเข้าไปจะทำการแผดเผา แผดเผาจนร่างกายของพวกเขากลายเป็นเถ้าถ่าน

ถึงแม้ว่าเลือดมังกรจะเป็นพลังงานที่ดี ทว่าก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถรับมันเข้ามาในร่างกายได้

แน่นอนว่าสำหรับร่างกายของเซี่ยปิงที่ได้พัฒนากลายเป็นร่างอีกานรกทองคำนั้น พลังอำนาจที่เผด็จการของเลือดมังกรเหล่านี้ไม่ได้มีผลอะไรกับเขา เมื่อเข้าไปภายในร่างกายของเขา ทันใดนั้นก็ถูกกลืนกินเข้าไปโดยสายเลือดอีกานรกทองคำ

หลังจากที่เลือดมังกรเหล่านี้เข้าไปในร่างกาย เหมือนกับว่าจะมีสติปัญญาขึ้นมาก็ว่าได้ ไม่คาดคิดว่าจะแปรเปลี่ยนกลายเป็นมังกรตัวเล็กๆสีแดง โลดแล่นไปตามเส้นเลือดและเส้นลมปราณภายในร่างกายของเซี่ยปิง

เมื่อนับอย่างคร่าวๆ มังกรตัวเล็กเหล่านี้มีประมาณหนึ่งล้านตัว

ด้วยการที่เซี่ยปิงไหลเวียนวิชาหยางบริสุทธิ์ สายเลือดอีกานรกทองคำของเขาก็เหมือนจะสั่นสะเทือนอยู่ภายในร่างกาย ภายในร่างกายเกิดการควบแน่นภาพเงาของอีกานรกทองคำขึ้นมา มันได้คำรามออกสู่ท้องฟ้าและได้กลืนกินมังกรตัวเล็กเหล่านี้เข้าไปอย่างกะทันหัน มีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้

“เป็นพลังงานที่อุดสมบูรณ์จริงๆ!”

หลังจากที่เซี่ยปิงได้กลืนกินพลังงานของเลือดมังกรเหล่านี้เข้าไป พลังเวทมนตร์ของเขาก็เพิ่มขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งภายในส่วนลึกของพื้นที่ราชวังสีม่วง พื้นที่ราชวังสีม่วงขนาดใหญ่เต็มไปด้วยพลังเวทมนตร์ที่ล้นหลาม มาถึงสภาวะสมบูรณ์

ระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขั้นสมบูรณ์!

เขาล่วงรู้อย่างกะทันหันว่าตนเองได้มาถึงระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขั้นสมบูรณ์ ขาดอีกเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น เขาก็จะสามารถก้าวเข้าไปในระดับหล่อหลอมสมบัติได้ ทำความเข้าใจพลังอำนาจของสวรรค์และโลก

หากเป็นในช่วงเวลาปกติ ต่อให้พลังเวทมนตร์ของเขามาถึงขั้นสมบูรณ์ ทว่ามันก็ยังคงต้องใช้ระยะเวลาอีกพอสมควรกว่าที่จะก้าวผ่านขีดจำกัดและเลื่อนขั้นไปในระดับหล่อหลอมสมบัติได้

ทว่าก่อนหน้านี้ที่เขาได้ทำการต่อสู้อย่างเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับดราโกเนี่ยนระดับจักรพรรดิถึงหกคนนั้น เขาก็ได้สัมผัสถึงพลังอำนาจมากมาย สัมผัสได้ถึงพลังอำนาจที่กว้างใหญ่ของค่ายกลโลกและสัมผัสได้ถึงปริศนาของการไหลเวียนพลังอำนาจของสวรรค์และโลกในระดับหล่อหลอมสมบัติ

นี่ได้นำพาผลประโยชน์มากมายมาสู่เซี่ยปิง ทำให้เขาเอื้อมมือไปถึงพลังอำนาจในระดับที่สูงขึ้น

“สัมผัสถึงโลกรอบตัว”

เซี่ยปิงหลับตาลง พลังอำนาจของจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ได้ปกคลุมไปรอบๆ สัมผัสได้ถึงพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของโลก ต้องการที่จะทำการสื่อสารกับพลังอำนาจของสวรรค์และโลกที่ไม่สามารถมองเห็นได้

ทันใดนั้นจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ก็สามารถที่จะมองเห็น ในสภาพแวดล้อมรอบๆนั้นมีชีพจรมากมาย ชีพจรเหล่านี้ได้ทับซ้อนและเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน เป็นค่ายกลที่ยิ่งใหญ่ของสวรรค์และโลก

ทว่าชีพจรเหล่านี้สามารถมองเห็นได้เพียงลางๆเท่านั้น การที่ต้องการจะสัมผัสให้ได้สำเร็จนั้น จะต้องทำความเข้าใจให้ได้อย่างสมบูรณ์ถี่ถ้วน ซึ่งในช่วงเวลานี้เขายังไม่สามารถที่จะทำได้

“ไม่ประหลาดใจว่าทำไมมันถึงเป็นเรื่องยากในการที่จะเลื่อนขั้นขึ้นไปสู่ระดับหล่อหลอมสมบัติ ต่อให้เผ่าพันธุ์ดราโกเนี่ยนจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีพรสวรรค์โดดเด่นและมีสมุนไพรวิญญาณเป็นจำนวนมาก ทว่าผู้ที่สามารถพัฒนาตนเองไปจนถึงระดับหล่อหลอมสมบัติได้นั้นกลับมีเพียงแค่หกคน”

เซี่ยปิงก็เข้าใจได้อย่างชัดเจน การที่ต้องการจะเลื่อนขั้นไปในระดับหล่อหลอมสมบัตินั้น ไม่ใช่เพียงแค่ต้องให้พลังเวทมนตร์ในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์อยู่ในขั้นสมบูรณ์เท่านั้น จิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องทรงอำนาจมากพอเช่นกัน ไม่อย่างนั้นต่อให้จะสัมผัสได้ถึงค่ายกลของโลก มันก็ไม่มีทางที่จะผสมผสานค่ายกลเข้ากับส่วนลึกของร่างกายได้

ต่อให้พลังเวทมนตร์และจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์จะมาถึงขั้นสมบูรณ์จริงๆ ทว่าการที่ต้องการจะสัมผัสให้ได้ถึงค่ายกลที่ยิ่งใหญ่นั้น มันก็ยังคงต้องทำการสัมผัสและทำความเข้าใจอย่างช้าๆ จะต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อยหกเดือนจึงจะสามารถทำความเข้าใจค่ายกลของโลกได้อย่างแท้จริง

“อืม เดี๋ยว ต้นไม้โลก?!”

เดิมทีเซี่ยปิงวางแผนที่จะใช้ระยะเวลาหกเดือนในการทำความเข้าใจอย่างช้าๆ ทว่าในช่วงเวลานี้จู่ๆต้นไม้โลกที่อยู่ภายในส่วนลึกของพื้นที่ราชวังสีม่วงก็ได้สั่นสะเทือนขึ้นมา จิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ได้แผ่เข้าไปอย่างกะทันหันโดยที่ไม่รู้ตัว

หล่ง หล่ง หล่ง~

ทันใดนั้นเขารู้สึกว่าจิตวิญญาณของตนเองสั่นสะเทือน เหมือนกับว่าถูกครอบงำและเข้าไปในร่างของต้นไม้โลก

ทันใดนั้นเซี่ยปิงก็สัมผัสได้ รากของต้นไม้โลกนั้นได้เจาะเข้าไปในห้วงเวลาที่ไร้ที่สิ้นสุดทันที รากของต้นไม้เหมือนกับจะสื่อสารกับห้วงมิติที่ไร้ที่สิ้นสุดของจักรวาล ดึงพลังงานของจักรวาลเข้ามา

การที่มีการรับรู้ของต้นไม้โลกอยู่นั้น เขาคิดว่าชีพจรของโลกกำลังจะชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ

มันเหมือนกับว่าโลกเป็นผู้หญิงที่งดงามซึ่งสวมเสื้อผ้า เห็นได้เพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอก ไม่สามารถที่จะมองเห็นแก่นแท้ข้างในได้ ทว่าตอนนี้หญิงสาวที่งดงามกำลังจะถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด เผยให้เห็นหมดทุกอย่าง มีรายละเอียดที่ชัดเจนอย่างมาก

เดิมทีที่ต้องใช้ระยะเวลาหกเดือนในการสัมผัส ทว่าตอนนี้เขากลับเข้าใจมันได้อย่างชัดเจน ดูเหมือนจะเป็นข้อสอบที่มีคำตอบมาให้ด้านข้างก็ว่าได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องครุ่นคิดหาคำตอบ สามารถที่จะคัดลอกแต่ละคำตอบลงในบรรทัดได้

“ช่างมหัศจรรย์”

เซี่ยปิงรู้สึกได้ เขานั่งอยู่ในบ่อน้ำแห่งนี้ ทว่าจิตวิญญาณของเขากลับแหวกว่ายออกไปในห้วงอวกาศพร้อมกับต้นไม้โลก ดูเหมือนว่าจิตวิญญาณจะหลุดออกจากร่างก็ว่าได้ เป็นเหมือนกับประสบการณ์การเดินทางผ่านห้วงอวกาศที่แสนวิเศษ

นี่ทำให้เขาเข้าใจพลังอำนาจของสวรรค์และโลกได้ดียิ่งขึ้น

ตึบ!

ในตอนนี้ ออร่าของความโกลาหลส่วนเล็กๆที่อยู่ในความว่างเปล่าได้ถูกจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเซี่ยปิงดึงเข้ามา ดึงเข้าไปในรากของต้นไม้โลก จากนั้นก็ได้ท่วมท้นเข้ามาในพื้นที่ราชวังสีม่วง

ในช่วงเวลานี้ พื้นที่ราชวังสีม่วงของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปราวกับฟ้ากับเหวอย่างกะทันหัน เป็นเหมือนจุดก้าวผ่านที่ถูกทำลายไปก็ว่าได้ ทั่วทั้งพื้นที่ราชวังสีม่วงได้ขยายออกไปหลายเท่า

ในเวลาเดียวกัน พลังเวทมนตร์ภายในพื้นที่ราชวังสีม่วงก็ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เช่นกัน เปลี่ยนกลายเป็นกลุ่มของหลุมวน เป็นเหมือนกับกลุ่มเนบิวลา หมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง

รูนความสามารถศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏอยู่ในพื้นที่ราชวังสีม่วงเช่นกัน เป็นเหมือนกับดวงดาวที่กระพริบระยิบระยับ

หล่ง หล่ง หล่ง~

อีกทั้งไม่รู้ว่าเวลาได้ผ่านไปนานแค่ไหน รูนความสามารถศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ทันใดนั้นก็ได้เปลี่ยนกลายเป็นหลุมวนแต่ละหลุม ทว่าหลุมวนเหล่านี้ก็คือค่ายกล เป็นค่ายกลที่ควบแน่นขึ้นมาจากพลังเวทมนตร์

ระดับหล่อหลอมสมบัติ!

ในช่วงเวลานี้ เซี่ยปิงได้ก้าวผ่านระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา ในที่สุดก็ก้าวเข้ามาสู่ระดับหล่อหลอมสมบัติ สามารถเข้าใจพลังอำนาจของสวรรค์และโลกได้

หลังจากนี้เขาจะถือว่าเป็นยอดฝีมือในระดับกลางภายในจักรวาล สามารถที่จะควบคุมพลังอำนาจของสวรรค์และโลก ใช้ต่อสู้กับศัตรู อยู่ในตำแหน่งที่ไร้เทียมทาน

หากครอบครองสมบัติและวัสดุที่ล้ำค่ามาเป็นจำนวนมาก จากนั้นก็จะสามารถปรับแต่งสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ที่เทรงอำนาจได้มากมาย

หากอยู่ในดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์ ผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัตินั้นจะถือว่าเป็นเทพเจ้า เป็นตัวตนระดับสูงสุดของดินแดนแห่งนั้น

ทว่าตอนนี้มันก็เพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น รูนความสามารถศักดิ์สิทธิ์ได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นค่ายกล ก้าวผ่านขอบเขตของระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา การที่ค่ายกลของโลกได้ผสมผสานเข้ากับร่างกายอย่างสมบูรณ์นั้น นี่คือการก้าวเข้าสู่ระดับหล่อหลอมสมบัติอย่างแท้จริง

“ผสมผสาน!”

เซี่ยปิงมีสายตาเป็นประกาย ส่วนลึกของพื้นที่ราชวังสีม่วงท่วมท้นไปด้วยหลุมวนพลังเวทมนตร์ในทันที

ทักษะหมัดดวงตะวันศักดิ์สิทธิ์ได้ควบแน่นกลายเป็นค่ายกลที่ยิ่งใหญ่ ทันใดนั้นก็ได้ผสมผสานเข้ากับส่วนลึกในหัวใจของเขา ค่ายกลที่ยิ่งใหญ่นี้เหมือนกับว่าจะสื่อสารกับพลังอำนาจของหยินและหยาง รวมถึงพลังอำนาจของเปลวไฟ ทำให้หัวใจของเขาครอบคลุมไปด้วยลาวา พลังอำนาจของเปลวไฟได้เพิ่มขึ้นมาอย่างกะทันหัน

พลังอำนาจของเปลวไฟแห่งสวรรค์ทั้งห้าในร่างกายของเขาก็ได้ผสมผสานเข้ากับหัวใจอย่างรวดเร็ว

“เป็นพลังอำนาจที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง” เซี่ยปิงกำหมัดขึ้นมา รู้สึกว่าพลังอำนาจภายในร่างกายของตนเองเพิ่มขึ้นมา สามารถที่จะควบคุมเปลวไฟได้อย่างคล่องแคล่วมากขึ้น เป็นเหมือนกับผู้ปกครองของเปลวไฟที่แท้จริง

ทว่านี่ก็เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น

ทักษะดึงดาวก็ได้ควบแน่นกลายเป็นค่ายกลที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน ครอบคลุมทั่วทั้งร่างกายอย่างรวดเร็ว ผสมผสานเข้ากับจุดเค้นพลังฉีแต่ละจุดในร่างกาย เหมือนกับว่าจุดเค้นพลังฉีแต่ละจุดมีดวงดาวอาศัยอยู่

ดวงดาวเหล่านี้ส่องประกายแสงสีครามออกมา หากมีบางคนที่สามารถมองทะลุเข้าไปในร่างกายของเซี่ยปิงได้ พวกเขาจะเห็นทันทีว่าดวงดาวเหล่านี้เหมือนกับว่าจะเชื่อมโยงกันกลายเป็นค่ายกลดวงดาว เชื่อมโยงเข้ากับพลังอำนาจของดวงดาวภายในอาณาเขตดวงดาวรอบนอก

ทว่าพลังอำนาจของดวงดาวเหล่านี้ก็ได้กระจายเข้าไปตามกล้ามเนื้อแต่ละมัดของเซี่ยปิง บ่มเพาะร่างกายอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับจะต้องบ่มเพาะให้ร่างกายของเขากลายเป็นดวงดาวก็ว่าได้