บทที่ 415 นายท่านสาม

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 415 นายท่านสาม
ในเวลานี้ รปภ.หลายคนที่ถูกฉินเทียนจัดการไปที่ด้านนอก ได้รวบรวมรปภ.อีกบางส่วน รวมๆมีหลายสิบคน

เข้ามาด้วยความโมโหรุนแรง

ในมือพวกเขาถืออาวุธ กัดฟันพูด “รองประธานซิน ไอ้นี่บุกรุกโดยภาระการ และยังทำคนของเราบาดเจ็บด้วย!”

“อย่าปล่อยเขาไปเด็ดขาด!”

“พวกเขามาหาเรื่องกันชัดๆเลย!”

พวกเขาพุ่งเข้ามาล้อมฉินเทียนและซูซูไว้รอบๆ

ซินเฉียงโกรธมาก เมื่อกี้กำลังมีความสุขอยู่ จู่ๆมีคนเตะประตูบุกเข้ามา เขาตกใจมากจริงๆ

ถึงตอนนี้หัวใจยังเต้นแรงตึกตัก

เขาก็คิดว่า มังกรอะไรข้ามแม่น้ำ ศัตรูมาหาถึงที่สักอีก

ที่แท้เป็นเพียงบริษัทเล็กๆที่มาจากหลงเจียง ขอร้องให้ฉันจัดการเรื่องให้?

เห็นว่าคนของตัวเองล้อมฉินเทียนไว้แล้ว ควบคุมสถานการณ์ไว้ เขาจึงตะโกนด่า

“ไอ้สารเลว!”

“แกคิดว่าแกเป็นใคร!”

“มีใครไหว้ยอดเขาแบบแกไหม? ฉันจะบอกแกให้ วันนี้ไม่ให้คำอธิบายที่สมบูรณ์กับฉัน ฉันฆ่าแกตายแน่!”

หญิงสวยยั่วคนนั้นก็ดึงสติกลับมาแล้ว

ป้ายบนหน้าอกเธอเขียนไว้ว่าเลขาหลี่รุ่ย

“รองประธาน ท่านไม่ต้องโกรธแล้ว รีบดื่มชาสงบอารมณ์หน่อย”

“ไอ้พวกที่มาจากที่เล็กๆแบบนี้ ไม่เคยเห็นโลกภายนอก ไม่จำเป็นต้องไปถือสากับพวกเขาหรอก”

“ฉันมีงานยังรายงานไม่เสร็จ ท่านรีบให้คนไล่พวกเขาออกไปเถอะ พวกเรามารายงานกันต่อ”

ซินเฉียงพ่นลมหายใจ นั่งบนเก้าอี้เถ้าแก่อีกครั้ง ตาอดไม่ได้ที่จะมองลอยไปบนตัวซูซู พูดเยาะเย้ย “เธอก็มาจากซูยู่กรุ๊ปเหรอ?”

ซูซูพ่นลมแล้วพูดอย่างอดทน “ใช่ ฉันชื่อซูซู”

“ฉันก็คือประธานของซูยู่กรุ๊ป”

“ที่แท้เธอก็คือประธานคนสวยคนนั้นนั่นเอง” ในตาซินเฉียงมองดูแปลกๆ พูดเยาะเย้ย “ก่อนหน้านี้จากซูยู่กรุ๊ปพวกเธอเคยมายื่นจดหมายแนะนำที่หอการค้าเราหลายครั้งแล้ว”

“ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่ดูแล แต่ได้ยินมาว่าจากซูยู่กรุ๊ปพวกเธอมีปัญหาด้านความน่าเชื่อถือ”

“เพื่อระเบียบความเรียบร้อยของธุรกิจในท้องถิ่น บริษัทอย่างพวกเธอ พวกเราไม่ปล่อยให้เข้ามาหรอก”

“แต่ว่า—— ”

เขาเปลี่ยนคำพูด พูดว่า “ในเมื่อประธานซูมาด้วยตัวเองแล้ว แน่นอนว่าฉันจะต้องให้หน้าหน่อย”

“ประธานซู ให้ไอ้นี่ออกไป พวกเรามาคุยกันตามลำพังดีไหม?”

ซูซูเห็นสายตาที่ซินเฉียงมองตัวเองนั้น เต็มไปด้วยความคิดชั่วร้าย เธอพูดหน้าบึ้ง “เขาชื่อฉินเทียน เป็นสามีของฉัน”

“รองประธานซินมีอะไรจะพูด เราก็คุยกันตรงนี้เลย”

“ขอแค่คุณอนุญาตให้ซูยู่กรุ๊ปเราเข้าร่วม ฉันให้สามีฉันขอโทษคุณได้”

“สามีเธอ?” ในตาซินเฉียงมีความอิจฉาเผยออกมา เขาเปลี่ยนสีหน้าอีกครั้ง แล้วกัดฟัน “ได้!”

“แต่ว่า ไอ้คนแซ่ฉินรุกรานฉัน ฉันจะเอาแขนข้างหนึ่งของเขา!”

เขาหยิบมีดสั้นออกมาจากลิ้นชัก แล้วโยนไปตรงหน้าฉินเทียน พูดอย่างเย็นชาว่า “ตัดมือลงมา เราค่อยมาคุยต่อ!”

บนหน้าซูซูเต็มไปด้วยความโกรธ กัดฟันพูด “เรื่องนี้ถึงสามีฉันจะหุนหัน แต่ว่าก็เป็นเพราะรปภ. ของคุณหาเรื่องก่อน!”

“รองประธานซินพวกคุณจะไร้เหตุผลแบบนี้ไม่ได้นะ?”

“เธอพูดเหตุผลกับฉันเหรอ?” ซินเฉียงยิ้มเยาะเย้ยต่อหน้าผู้คน ดึงเลขาหลี่รุ่ยนั่งบนต้นขา เขาตบขาอีกข้างหนึ่ง แล้วพูดว่า “เธอมานั่งตรงนี้ ฉันจะพูดเหตุผลกับเธอดีๆ”

“ประธานซู ว่ายังไง?”

“คุณ——” ซูซูโกรธจนหน้าเขียว

ด้านหลัง รปภ.เหล่านั้นก็หยอกล้อขึ้นมา

“คนสวยซู อยากมาทำธุรกิจที่อวิ๋นชวนเหรอ? งั้นต้องทำให้รองประธานซินเราพอใจก่อน”

“รีบไปเถอะ รองประธานซินพวกเราไม่ดีกว่าสามีเธอตรงไหน?”

“สามีเธอก็เป็นแค่ไอ้หน้าอ่อนเท่านั้น ดูดีแต่ใช้งานไม่ได้”

“รองประธานซินยินดีด้วยคืนนี้ท่านจะได้เป็นเจ้าบ่าวอีกแล้ว”

ซูซูทนไม่ไหวอีกแล้ว จับมือของฉินเทียนแล้วพูดว่า “พวกเราไปเถอะ!”

“ธุรกิจนี้ไม่ทำก็ได้!”

“ฉินเทียนยิ้มเยาะเย้ยไม่พูด ขณะนี้ เขาเอื้อมแขนไปโอบเอวของซูซู พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ที่รัก อย่าพึ่งรีบ”

“จะไปโกรธอะไรกับหมาแบบนี้ มา นั่งลงก่อน”

เขาไม่เพียงแต่เพิกเฉยต่อรปภ.ชั่วร้ายเหล่านั้นเท่านั้น ยังดึงซูซูนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ข้างๆด้วย

นั่งไขว่ห้าง จุดบุหรี่มวนหนึ่ง พูดเยาะเย้ยว่า “ฉันให้โอกาสคุณครั้งสุดท้าย”

“ถอนคำที่คุณพูดเมื่อกี้กลับไป และขอโทษภรรยาของฉันด้วย”

“ไม่อย่างนั้น คุณก็ไสหัวออกไปจากห้องทำงานนี้เถอะ!”

“แกพูดว่าอะไรนะ?” ซินเฉียงหัวเราะอย่างโมโห “ไอ้น้อง นี่แกจะไล่ฉันออกเหรอ?”

“แกรู้ไหม ว่าฉันเป็นรองประธานที่นี่ แกเป็นใคร?”

หลี่รุ่ยและรปภ.ก็ต่างหัวเราะกันขึ้นมา ในความคิดของพวกเขา ฉินเทียนนี่ตลกมากเกินไปจริงๆ

นี่เป็นคำพูดตอนฝันกลางวันเหรอ?

หลี่รุ่ยพูดเยาะเย้ย “ไอ้หน้าอ่อน แกคุ้นเคยกับการอวดเก่งในที่เล็กๆของพวกแก ดังนั้นยังไม่รู้ว่าโลกภายนอกนั้นกว้างใหญ่แค่ไหนสินะ?”

“แกรู้ไหมว่าอะไรคือผู้ใหญ่ใหญ่โต?”

“รองประธานซินเราพูดคำเดียว ธุรกิจทั้งอวิ๋นชวนก็จะต้องสั่นสะเทือน!”

“ไม่อยากตาย ยังไม่รีบคุกเข่าขอร้องอีก!”

ฉินเทียนพูดเยาะเย้ย “ฉันไม่รู้ว่าอะไรคือผู้ใหญ่ใหญ่โต แต่ฉันเรียกมาคนหนึ่ง ไล่รองประธานซินของแกออกไปได้ทันที”

พูดอยู่ เขาหยิบมือถือออกมา แล้วกดโทรออกไป

“นายท่านสาม ฉันอยู่หอการค้าของพวกท่าน”

มีเพียงประโยคเดียว พูดจบไม่รอให้อีกฝ่ายตอบ ก็วางสายทันที

นายท่านสาม?

ซินเฉียงและคนอื่นๆนิ่งไปสักครู่ หัวเราะดังอีกครั้ง

“ไอ้น้อง ถึงแกจะเรียกยมบาลมาก็ไม่มีประโยชน์!”

“ฉันเริ่มสนใจแล้วสิ เพื่อให้แกตายใจ ฉันจะรอนายท่านสามของแกมา!”

“ถ้านายท่านสามใช้ไม่ได้ผล วันนี้ฉันจะหักขาของแก และยังจะเก็บเมียแกไว้!”

รปภ.เหล่านั้น ถือไม้ไว้ในมือ เหมือนกับดูคนโง่คนหนึ่งไว้ บังอยู่ตรงหน้าฉินเทียนป้องกันเขาหนี

“เร็วเข้า ไปหอการค้า!”

“คุณฉินมาแล้ว!” จ้าวเทียนจีตระกูลจ้าวที่ได้รับสาย ทั้งดีใจทั้งตกใจ ในขณะเดียวกันก็ไม่สบายใจเล็กน้อย

เพราะจู่ๆเขาก็คิดได้ว่า ก่อนหน้านี้ที่จ้าวซวู่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อจะทำให้ฉินเมียนรังเกียจ ​​เคยสั่งหอการค้าไว้ห้ามซูยู่กรุ๊ปมาทำธุรกิจ

ตระกูลจ้าวมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เขาและพี่ใหญ่จ้าวเทียนเผิงยุ่งอยู่กับการรักษาสถานการณ์ไว้ ลืมเรื่องนี้ไป

ฉินเทียนต้องเจอปัญหาบางอย่างในหอการค้าแน่นอน

คิดถึงในโทรศัพท์นั้น น้ำเสียงของฉินเทียนไม่ค่อยเป็นมิตร เขายิ่งคิดก็ยิ่งกลัว

กระโดดขึ้นรถ รีบพุ่งมาที่หอการค้า

ก็แค่ไม่ถึงสิบนาที เขาขึ้นมาถึงชั้นบนด้วยเหงื่อเต็มหน้า

“นายท่านสาม ท่านมาได้ยังไง?” เมื่อเห็นเขา ซินเฉียงก็ตกใจรีบลุกขึ้นยืน ทำเอาหลี่รุ่ยที่นั่งอยู่บนตักเกือบจะพลิกคว่ำกับพื้น

“นายท่านสาม!” รปภ.เหล่านั้นก้มศีรษะทักทายด้วยความกลัว

ในหอการค้า หรือแม้แต่ทั้งเมืองหยุนชวน จ้าวเทียนจีก็พูดได้ว่าเป็นราชา และพวกเขาเป็นเพียงแค่คนเล็กคนน้อยเท่านั้น

ปกติอยากเจอจ้าวเทียนจียังไม่มีโอกาสเลย

จ้าวเทียนจีถอนหายใจ เห็นสถานการณ์ตรงหน้าแล้ว และฉินเทียนที่นั่งอยู่บนโซฟายิ้มเยาะเย้ยไม่พูด เขาเข้าใจสถานการณ์ในทันที อดไม่ได้ที่จะกลัวและรู้สึกผิด

เขากัดฟันแล้วเดินไปทางฉินเทียน

ซินเฉียงรีบพูด “รายงานนายท่านสาม ไอ้สองคนนี้มาหาเรื่องจากหลงเจียง คิดไม่ถึงว่าจะทำให้ท่านตื่นตกใจ!”

“ฆ่าไก่จะใช้มีดวัวได้ยังไง ท่านนั่งลงพักผ่อนดีๆ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน!”

พูดอยู่ อาศัยบารมีนายรังแกชาวบ้าน หันหัวพุ่งไปทางฉินเทียน