กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 577
“ไข่มุกมังกรลูกที่เจ็ดอยู่ในทิศเจียงหนาน”

น้ำเสียงของเหวินเส่าอี๋ร้อนรน

หากว่าเขาพูดช้าไปวินาทีหนึ่ง มีดสั้นของกู้ชูหน่วนก็จะต้องทำให้เขากลายเป็นขันทีไปแล้ว

โชคดีที่กู้ชูหน่วนหยุดได้ทันเวลา

แม้จะนอนอยู่บนเตียงน้ำแข็ง เหงื่อก็ยังไหลตามแก้มของเหวินเส่าอี๋ลงมา

“ทิศเจียงหนาน? ที่ใดของทิศเจียงหนาน?” กู้ชูหน่วนถาม

“ไม่รู้ ข้าได้ยินหัวหน้าเผ่าพูดคุยกับผู้อาวุโสไท่ซั่งเสวี่ยเยี่ยโดยบังเอิญ ในตอนนี้เผ่าเพลิงฟ้าของเราก็ไม่รู้ว่าไข่มุกมังกรลูกที่เจ็ดอยู่ที่ใดของเจียงหนาน รู้เพียงว่าเผ่าเพลิงฟ้าได้ส่งคนจำนวนมากไปทางเจียงหนานแล้ว”

“แล้วพวกท่านรู้ได้อย่างไรว่าไข่มุกมังกรลูกที่เจ็ดอยู่ที่เจียงหนาน?”

กู้ชูหน่วนกล่าวพร้อมกับยื่นมือไปสัมผัสเหวินเส่าอี๋และค้นตัวเลยโดยตรง

“ชายหญิงมิอาจใกล้ชิดกัน เจ้ารีบหยุดนะ”

นางเคลื่อนไหวไม่รุนแรงและยังเบามือ ทุกที่ที่สัมผัสทำให้เขาจั๊กจี้จนทนไม่ไหวโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ที่เขาสวมเพียงแค่ผ้าบางเบาเท่านั้นตำแหน่งที่ควรปกปิดโดยพื้นฐานแล้วปกปิดไม่อยู่

เหวินเส่าอี๋รู้สึกอายจนอยากจะหาสถานที่มุดเข้าไป

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลิ่นหอมของหญิงสาวที่ติดอยู่ตรงปลายจมูกของเขา

ค้นหาอยู่สักพักหนึ่งกู้ชูหน่วนค้นหาสิ่งใดไม่พบเลย เพียงแค่เห็นลูกปัดที่ห้อยอยู่ที่คอของเหวินเส่าอี๋ ลูกปัดนั้นเป็นสีขาวดังหิมะและมองไม่ออกว่าเป็นวัสดุใดแต่สัมผัสแล้วคล้ายคลึงกับเข็มทิศอยู่บ้าง

นางถามว่า “นี่คือสิ่งใด?”

“หัวหน้าเผ่ามอบให้กับข้า เป็นเพียงลูกปัดธรรมดาๆก็เท่านั้น”

“จริงหรือ? ในเมื่อเป็นลูกปัดธรรมดาๆงั้นก็มอบให้ข้าได้สิ” กู้ชูหน่วนนำไปเก็บไว้ในวงแหวนอวกาศอย่างไม่เกรงใจ

เดิมทีเหวินเส่าอี๋ก็ได้รับบาดเจ็บจนสมองมึนทึบหมดแล้ว

ลูกปัดนี้เป็นกุญแจสำคัญในการค้นหาไข่มุกมังกร หัวหน้าเผ่ากำชับนักกำชับหนาว่าอย่าได้ทำหาย

แต่นางได้แย่งชิวลูกปัดของเขาไปเช่นนี้

“เจ้ายังรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องของไข่มุกมังกร เล่ามาให้ฟังหน่อย?”

“ไม่รู้”

“ไม่รู้จริงๆหรือ?”

“ถึงแม้เจ้าจะตอนข้าคำตอบก็ยังคงเหมือนเดิม”

มองดูท่าทางสงบนิ่งของเขาบางทีเขาอาจจะไม่รู้จริงๆว่าไข่มุกมังกรลูกที่เจ็ดอยู่ที่ใด?

กู้ชูหน่วนกรอกตาไปมาแล้วกวาดมองไปยังรูปร่างอันราบเรียบและไร้ไขมันของเขา

“ดูรูปร่างของท่านสิไม่มีไขมันเลยแม้แต่น้อย สัมผัสก็ช่างรู้สึกสบายนักแล้วข้าจะตอนได้อย่างไร หากข้ามัดท่านกลับไปไว้เป็นคนรักของข้าท่านว่าจะน่าตื่นเต้นหรือไม่นะ?”

“กู้ชูหน่วนเจ้าต้องการทำอะไรกันแน่?”

“โอ๊ย โมโหเสียแล้ว? ให้ข้าเดาดูสิว่าตอนนี้ข้าคิดสิ่งใดอยู่? ท่านต้องการสังหารข้าใช่หรือไม่?”

เหวินเส่าอี๋หันหน้าหนีไม่สนใจนางโดยที่แววตาเต็มไปด้วยความโกรธ ดูออกว่าเขาโกรธซะแล้ว

“เจ้ามีความสามารถมากไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึงไม่ลงมือ? คงไม่ใช่ว่าลงมือไม่ลงหรอกนะ?”

หญิงไร้ยางอายผู้นี้

นางไม่ได้มองออกแต่แรกแล้วหรือ

หากว่าเขาสามารถเคลื่อนไหวได้ยังจะให้นางจองหองได้เช่นนี้หรือ

น่ารังเกียจ ไร้ยางอาย ช่างน่าขายหน้า

“ท่านมีรูปร่างดีเช่นนี้คิดว่าหน้าตาก็ไม่ดูแย่เป็นแน่ ให้ข้าดูหน้าของท่านเสียก่อน”

กู้ชูหน่วนก้าวไปด้านหน้าทีละก้าวๆและเอื้อมมือไปหยิบหน้ากากผีเสื้อบนใบหน้าของเขา แต่หน้ากากของเขาดูเหมือนจะหลอมรวมกับใบหน้าของเขา ไม่ว่านางจะออกแรงมากเพียงใดก็ไม่สามารถถอดออกได้

เหวินเส่าอี๋กล่าวว่า “เจ้าไม่สามารถถอดหน้ากากของข้าได้”

“เพราะเหตุใด?”

“หัวหน้าเผ่าร่ายมนตร์ไว้ นอกจากหัวหน้าเผ่าจะถอดออกเองไม่เช่นนั้นผู้ใดก็ไม่สามารถถอดได้”

“ใช่หรือ แต่ข้ากลับไม่เชื่อ”

“ไม่เชื่อก็ช่าง”

“มีดสั้นเล่มนี้ของข้าทำจากเหล็กเย็นอายุเป็นพันปี ท่านว่าหากกรีดลงบนใบหน้าของท่านหน้ากากของท่านจะหลุดออกมาหรือไม่?”

กู้ชูหน่วนถือมีดสั้นที่ส่องประกายแสงอันเย็น

กรีดลงบนใบหน้าของเขา รอยยิ้มชั่วร้ายที่มุมปากทำให้คนหวาดกลัวจนตัวสั่น

“หน้ากากของท่านดูมีวิชาอาคมถึงแม้จะกรีดลงไปคิดว่าก็คงจะไม่เสียหาย แต่ไม่รู้ว่ากรีดลงไปแผลหนึ่งจะทำร้ายผิวบนหน้าของท่านหรือเปล่า?”

“พละกำลังของข้าในตอนนี้มาถึงระดับสองแล้วและข้าเกิดมาก็มีเรี่ยวแรงมาก หนึ่งแผลไม่ได้ สิบแผล ร้อยแผล พันแผลหรือแม้กระทั้งเป็นหมื่นแผลลงไปเช่นไรก็คงจะทำร้ายถูกผิวของท่านได้ใช่ไหม? ”

เหวินเส่าอี๋กัดฟันแน่นไม่โต้ตอบ

กู้ชูหน่วนพึมพำกับตนเองว่า “โอ๊ย อย่างไรตอนนี้ข้าก็ว่างอยู่งั้นก็ฝึกฝนตัวอักษรบนใบหน้าของท่านได้พอดีเพื่อมิให้อาจารย์ซั่งกวนว่าตัวอักษรของข้าน่าเกลียดราวกับสุนัขคลาน”

เหวินเส่าอี๋ “……”

กู้ชูหน่วนนำมีดสั้นที่กำลังจะสลักลงไปแล้วก็ชะงักลง “ท่านว่าหากว่าท่านเป็นบุรุษผู้งดงามไม่มีผู้ใดได้เทียบ ส่วนข้าก็เพื่อฝึกฝนการเขียนอักษรแล้วกรีดหน้าของท่านจนเป็นรอยลายเต็มไปหมด ต่อไปท่านออกประตูจะเจอผู้คนได้อย่างไรนะ?”

“ช่างเถอะ ข้าก็ฝึกฝนลายมือในตัวท่านก็แล้วกัน ร่างกายของท่านผิวบอบบางเรียบเนียนและไม่มีหน้ากากใดๆปิดอยู่ ฝึกฝนลายมือขึ้นมาน่าจะง่ายดายกว่า”

“ท่านว่าฝึกตัวอักษรใดดีนะ? มีแล้ว ครั้งที่แล้วอาจารย์ซั่งกวนกล่าวถึงนโยบายการสงคราม พอดีให้ข้าท่องนโยบายการสงครามออกมาและสลักไว้บนร่างของท่าน หลีกเลี่ยงที่ข้าความจำแย่ไม่ค่อยดีเลยลืมอยู่ตลอด”

เหวินเส่าอี๋ “……”

ปลายมีดสั้นอันแหลมคมค่อยๆทิ่มแทงลงไป กรีดเบาๆเลือดสีแดงสดของเหวินเส่าอี๋ก็ไหลออกมาทันที

กู้ชูหน่วนตระหนกตกใจ ….”อ๊ะ เลือดไหลเสียแล้ว ท่านว่าเหตุใดท่านถึงทนถูกกรีดไม่ได้นะ ข้ายังไม่ทันได้ใช้แรงเลย”

เหวินเส่าอี๋กัดฟันจนเกิดเสียงดังขึ้น

หากว่าสามารถเคลื่อนไหวได้ เขาอยากจะหยิกนางให้ตายจริงๆ

“นี่เพียงแค่กรีดรอยเดียวก็เลือดไหลมากเพียงนี้ หากว่าข้าสลักนโยบายการสงครามทั้งหมดลงมาเช่นนั้นท่านก็จะไม่ต้องเลือดไหลหมดจนตายหรอกหรือ”

เหวินเส่าอี๋กล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “ผู้กล้าฆ่าได้หยามไม่ได้ เจ้าจะฆ่าก็ฆ่าจะเสียเวลาทรมานคนเช่นนี้ทำไมกัน?”

“ทรมานคน? หึ……พูดถึงการทรมานคนวิธีการของเผ่าเพลิงฟ้าของพวกท่านถึงจะโหดเหี้ยมจริงๆกระมัง”

ลมหายใจบนร่างกายของกู้ชูหน่วนเย็นลงอย่างกะทันหัน ภาพผู้คนของเผ่าหยกที่มีชีวิตอยู่ยิ่งกว่าตายยังคงวนเวียนอยู่ในสมองของนาง

นรกบนดินนั้นนางไม่อยากเห็นเป็นครั้งที่สองในชีวิตของนางอีกแล้ว

“นอกจากจะได้ไข่มุกมังกรครบทั้งเจ็ดลูกมายังจะมีวิธีใดที่สามารถทำลายคำสาปของเผ่าหยกได้?”

“เจ้ามีความสัมพันธ์ที่แยกไม่ออกกับเผ่าหยกจริงๆ เป็นเจ้าที่มอบไข่มุกมังกรลูกที่ห้าให้กับเผ่าหยกแต่ไม่ใช่เผ่าหยกที่ขโมยไข่มุกมังกรไปจากเจ้าสินะ”

“ข้ากู้ชูหน่วนไม่ใช่คนจิตใจดี จะถามท่านเป็นครั้งสุดท้ายนอกจากรวบรวมไข่มุกมังกรทั้งเจ็ดลูกแล้วยังมีวิธีใดที่จะสามารถปลดคำสาปของเผ่าหยกได้อีก?”

“ไม่มี ถึงมีข้าก็จะไม่บอกเจ้า ชู่ว์……”

คำพูดของเหวินเส่าอี๋เพิ่งจบกู้ชูหน่วนก็แทงยังไหล่เขาอย่างแรงทำให้เขาเจ็บปวดจนอ้าปากสูดลมหายใจอันเย็นเข้าจนเกือบจะคิดว่าแขนได้ขาดเสียแล้ว

“ท่านไม่บอกใช่ไหม ไม่เป็นไร ท่านก็ไม่กลัวว่าข้าจะสลักนโยบายการสงครามเต็มร่างของท่านใช่ไหมซึ่งก็ไม่เป็นไร”

“ได้ยินมาว่าหอเหวินเซียงในเมืองหลวงนั้นค่อนข้างมีชื่อและในนั้นก็มีผู้ชายทุกแบบ ด้วยรูปร่างและลักษณะท่าาทางของท่านแม้ว่าจะสวมหน้ากากอยู่นำไปไว้ในนั้นก็จะมีคุณชายสูงศักดิ์มากมายหรือคุณหนูผู้ร่ำรวยแย่งชิงกันนะ”

ฝ่ามือของเหวินเส่าอี๋สั่นสะท้าน “เจ้าต้องการทำสิ่งใดอีก?”

“ไม่ได้ต้องการทำสิ่งใด เพียงแค่ในปากของท่านข้าไม่ได้ยินข่าวที่ข้าต้องการ และเผ่าหยกกับข้าก็มีความสัมพันธ์กันอยู่บ้าง ข้าเห็นเผ่าหยกถูกพวกท่านทำร้ายอย่างทุกข์ทรมานเช่นนั้นก็ต้องการเก็บดอกเบี้ยแทนพวกเขาสักหน่อย”

หมายเหตุ

เจียงหนาน คือพื้นที่บริเวณตอนล่างของแม่น้ำแยงซีในประเทศจีนปัจจุบัน