บทที่ 483 ยาก
บทที่ 483 ยาก
นี่คือสกิลบอสที่ทดสอบความเสียหายหมู่ แต่น่าเสียดายที่คนจากกิลด์แอนติควิตี้มีน้อยเกินไป มีเพียงหกคนเท่านั้น สกิลกองทัพจึงยังไม่เพียงพอที่จะเคลียร์คลื่นลูกแรกของมนุษย์ต้นไม้และมนุษย์ต้นไม้ที่แทบไม่เหลือพลังชีวิตก็เข้าสู่ร่างที่สอง และไปถึงจุดที่ไร้เทียมทาน
“ถอยก่อน ไปรอให้สกิลคูลดาวน์แล้วกลับมาในหนึ่งชั่วโมง เมื่อเราใช้สกิลโจมตีผสานในระลอกถัดไป เราก็สามารถชดเชยด้วยความเสียหายระยะไกลและเราน่าจะเคลียร์มันในชุดเดียวได้”
เจียงหนานพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ใช่แล้ว และตอนนั้นทีมบัฟก็น่าจะผ่านบอสแล้ว เราก็จะได้ดีบัฟที่ทรงพลัง ซึ่งสามารถลดพลังชีวิตสูงสุดของมอนสเตอร์ทั้งหมดในดันเจี้ยนได้ รวมถึงบอสด้วย และค่าที่ลดลงนั้นสูงถึง 10%! ภายใต้ดีบัฟนี้ เราจัดการมนุษย์ต้นไม้ได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน!”
คนอื่น ๆ ก็เห็นด้วย มีเพียงซีเหมินชุยเสวียเท่านั้นที่ไม่พูด
“ตลก แค่พวกแกกิลด์แอนติควิตี้ทำไม่ได้ก็คิดว่าทุกคนทำไม่ได้งั้นเหรอ?” แต่ก็มีบางคนปฏิเสธทันที คนนั้นไม่ใช่คนอื่นที่เป็นลอว์ก็อดจากกิลด์ดูมส์เดย์ลีก
“โห? นายหมายความว่านายสามารถทำมันได้ใช่ไหม?” เจียงหนานหันหลังกลับและเยาะเย้ยดูถูก
“ถึงแม้ว่าฉันจะทำไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนทำไม่ได้ กลุ่มบุกดันเจี้ยนนี้ได้รวบรวมยอดฝีมือทั้งหมดในเขตฮัวเซียมา” ลอว์ก็อดมีบุคลิกที่หยิ่งผยองและครอบงำ หลังจากที่ได้กิลด์มิดซัมเมอร์สนับสนุน แม้ต่อให้ตรงหน้าเป็นคนของกิลด์แอนติควิตี้ เขาก็ไม่กลัวอีกต่อไป…
“จริงเหรอ? ฉันล่ะอยากจะเห็นจริง ๆ ว่ามียอดฝีมือในเขตฮัวเซียคนไหนที่สามารถตามเราได้…”
เจียงหนานเหลือบมองคนเจ็ดสิบคนที่อยู่ในกลุ่มบุกดันเจี้ยนด้วยความดูถูก และต่อว่าพวกเขาอย่างหยิ่งผยอง ลูกหลานของตระกูลคนชั้นสูงอย่างพวกเขาไม่ยอมแพ้จริง ๆ ทว่า เขาก็ต้องหยุดพูดกะทันหันเมื่อดวงตาของเขากวาดไปเห็นเซียวเฟิงซึ่งอยู่ด้านหลัง
เขาลืมเซียวเฟิงไปจริง ๆ ส่วนใหญ่เป็นเพราะเซียวเฟิงไม่ได้ทำอะไรเลยตั้งแต่เขาเข้ามาและเอาแต่สนับสนุนอยู่แนวหลัง อย่างมากที่สุด เขาก็รู้สึกประหลาดใจกับบัฟของเซียวเฟิงก่อนหน้านี้ และถือว่าเซียวเฟิงเป็นเทพโดยจิตใต้สำนึก
“พวกนายกิลด์แอนติควิตี้ค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่กับเจ้าแห่งฮีลเลอร์ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งในรายชื่อพลังต่อสู้โดยรวมแล้ว นายก็เทียบไม่ติด นายยังคิดว่าเจ้าแห่งฮีลเลอร์จะทำไม่ได้งั้นเหรอ?” หลังจากพูดกดดันเขาก็มายืนข้างเซียวเฟิงอย่างขยันขันแข็ง
สิ่งนี้ทำให้เซียวเฟิงส่ายหัว ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากก้าวออกมา แต่เขาไม่ชอบการถูกผลักให้ถึงจุดนี้
“เจ้าแห่งฮีลเลอร์…เฮอะ! ยังไงซะ มันก็เป็นอาชีพสนับสนุน มีสกิลสร้างความเสียหายหมู่ที่ทรงพลังไหมล่ะ? ถึงแม้ว่าสกิลระดับตำนานจะพิจารณาได้ แต่พวกมันถูกใช้ไปในเมืองหลักของกิลด์กางเขนเหล็กไปแล้วเมื่อวาน และเป็นไปไม่ได้ที่จะคูลดาวน์เสร็จใน 24 ชั่วโมงใช่ไหมล่ะ?!” เสียงของเจียงหนานติดขัด แต่เขาก็ยังดื้อรั้น
แต่สิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง สกิลหอกลองกินัส หอกศักดิ์สิทธิ์ของเซียวเฟิงยังคงคูลดาวน์อยู่ หากปราศจากสกิลระดับตำนานนี้ เซียวเฟิงจะไม่สามารถเคลียร์บอสมนุษย์ต้นไม้ทั้งหมดพร้อมกันได้
“เจ้าแห่งฮีลเลอร์ ได้โปรดลงมือเถอะ อย่าเอาแต่ดูและสนับสนุนอยู่แนวหลังเลย ถ้าสกิลของบอสนี้จัดการไม่ได้ พวกเราจะถูกกำจัดจริง ๆ” เล่าสวีก็ยิ้มอย่างขมขื่นให้เซียวเฟิง
“ฉันไม่มีวิธีดี ๆ สู้กับมันหรอก ฉันขอสู้กับมันทีละตัวดีกว่า ถ้าเงื่อนไขในการกระตุ้นให้มนุษย์ต้นไม้รวมร่างกันคือเมื่อพลังชีวิตมนุษย์ต้นไม้ลดลงถึงระดับหนึ่ง งั้นการจัดการทีละตัวก็ยังป้องกันไม่ให้พวกมันรวมร่างขั้นต่อไปได้” เซียวเฟิงกล่าว
“ในเมื่อเจ้าแห่งฮีลเลอร์ไม่สามารถทำอะไรได้ ก็คงมีแต่ต้องจัดการทีละตัวเท่านั้น เตรียมตัวลากมอนสเตอร์แยกจากกัน” เล่าสวีก็ส่ายหัว
“ฮึ ฉันก็ไม่รู้หรอกว่ามันแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ก็ยังไงก็แข็งแกร่งกว่าเดิมแน่นอน เราจะปราบมันทีละตัวได้ไหม? จะปราบบอสระดับหายากมากกว่าห้าสิบตัวอย่างรวดเร็วได้ยังไง? ยังไม่นับว่าพวกมันจะรวมร่างและกลายเป็นบอสระดับเงินในภายหลังได้อีก แม้แต่จะกลายเป็นบอสระดับทองก็ได้ แล้วนายคิดว่าหัวใจดวงใหญ่นั่นจะอยู่นิ่ง ๆ หรือไง? นั่นคือบอสระดับเทพเจ้า มันจะโจมตีเราอย่างรุนแรงระหว่างที่เราจัดการกับบอสย่อย! แล้วใครจะไปทนความเสียหายของบอสระดับเทพเจ้าได้? เราต้องสามารถหลบความเสียหายของมันภายใต้การล้อมของบอสระดับหายากมากกว่าห้าสิบตัวโดยไม่พลาดแม้แต่ครั้งเดียว! ไม่เช่นนั้นก็มีแต่ทางตันเท่านั้น!”
เจียงหนานเยาะเย้ย “ต่อให้เราจะสามารถหลบความเสียหายของบอสระดับเทพเจ้าตัวเดียวได้ แต่เราจะไม่พลาดเลยภายใต้การล้อมของบอสระดับหายากมากกว่าห้าสิบตัวได้ไหม?”
คำพูดของเจียงหนานนั้นฟังขึ้นมาก แถวหน้าไม่สามารถต้านทานการล้อมกลุ่มบอสระดับหายากและบอสระดับเทพเจ้าได้ ตราบใดที่บอสหายากกว่าห้าสิบตัวโจมตีแนวรบกลุ่มบุกดันเจี้ยน กลุ่มก็มีแต่จะถูกทำลายเท่านั้น นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาเลือกที่จะออกไปและเริ่มต้นใหม่ ตอนที่บอสระดับหายากมากกว่าพวกนั้นยังคงเป็นบอสระดับสูง พวกเขาจะต้องกำจัดมันให้หมดก่อนเพื่อไม่ให้พวกมันรวมร่างเป็นขั้นต่อไป
หากเรายังต่อสู้ต่อไป เว้นแต่จะลากบอสระดับยากมากกว่าห้าสิบตัวออกไปพร้อมกันเพื่อความปลอดภัยของกองหลัง แล้วจัดการทีละตัว ในขั้นตอนนี้ ก็ยังต้องป้องกันบอสพวกนั้นไม่ให้รวมร่างเป็นขั้นต่อไปอีก และยังต้องหลบความเสียหายของบอสระดับเทพเจ้าไปพร้อมกันด้วย!
ความยากลำบากแบบนี้สามารถจินตนาการได้เลย ยังไม่นับว่าในระหว่างโดนล้อมโดยบอสระดับหายากมากกว่าห้าสิบตัวนี้ ยังต้องหลบการโจมตีของบอสระดับเทพเจ้าภายใต้แรงกดดันมหาศาล!
อีกทั้งยังผิดพลาดไม่ได้แม้แต่น้อยอีก เพราะความเสียหายของบอสระดับเทพเจ้าครั้งเดียวก็เพียงพอที่จะฆ่าผู้เล่นทุกคนในระดับนี้ได้แล้ว!
เนื่องจากเจียงหนานกล้าที่จะพูดแบบนี้ มันก็พิสูจน์แล้วว่าผู้คนในกิลด์แอนติควิตี้ได้พยายามมาแล้วแน่นอน แต่ก็ไม่มีข้อยกเว้น พวกเขาล้มเหลวแม้แต่ซีเหมินชุยเสวีย ดังนั้นเจียงหนานจึงมั่นใจว่าไม่มีใครสามารถทำมันได้
เมื่อได้ยินสิ่งที่เจียงหนานพูด ลอว์ก็อดที่จองหองและหยิ่งผยองก็เงียบไปในทันที เขาก็รู้เช่นกันว่ามันยากแค่ไหนที่จะหลบการโจมตีของบอสระดับเทพเจ้าภายใต้การรุมล้อมของบอสระดับหายากกว่าห้าสิบตัว มันไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นสามารถทำได้เลย หรืออีกนัยหนึ่ง มันไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์สามารถทำได้เลย
อย่างไรก็ตาม เมื่อคำพูดของลอว์ก็อดกำลังจะออกมา พวกเขาพบว่ามีร่างหนึ่งก้าวออกมาช้า ๆ ข้างหลังเขา ร่างนั้นสวมชุดเกราะกระดูก ถือไม้เท้าที่ฝังด้วยคริสตัลขนาดใหญ่ ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเซียวเฟิง!
“เจ้าแห่งฮีลเลอร์…นาย…” ลอว์ก็อดเปิดปากพูด แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง หลังจากที่เขาเอาเจ้าแห่งฮีลเลอร์มาอ้าง เขาก็เสียใจเพราะรู้ว่ามันยากแค่ไหน
หากเจ้าแห่งฮีลเลอร์พลาด มันจะทิ้งมลทินไว้อย่างแน่นอน และในฐานะที่เป็นคนผลักเจ้าแห่งฮีลเลอร์ออกไป เขาจะต้องโทษตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในอนาคตเขาก็คงไม่สามารถล้างความผิดออกได้ และแม้ว่าจะต้องการล้างความผิดออกก็ตาม ผลที่ตามมาก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถจ่ายได้อย่างแน่นอน
“ฉันจะลองดู”
แม้ว่าจะสงสัยและกังวลไม่น้อยไปกว่าคนอื่น ๆ ใบหน้าของเซียวเฟิงก็ยังเป็นเป็นปกติ เขาพูดสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงที่สงบแล้วกระโดดไปหากลุ่มมนุษย์ต้นไม้ที่ใกล้เข้ามา!
“เสี่ยวไป๋!”
เซียวเฟิงไม่ใช่คนที่ชอบอยู่ในสปอร์ตไลท์ แต่เขาแค่คิดว่ามันใช้เวลานานเกินไปที่จะกลับไปหน้าประตูดันเจี้ยนและกลับมาที่นี่อีกเพราะบุกดันเจี้ยนนั้นดำเนินมาหลายชั่วโมงและไม่ต้องบอกเลยว่าการเดินทางนั้นไกลแค่ไหน
นั่นเป็นเหตุผลที่เซียวเฟิงตัดสินใจลงมือเอง ท้ายที่สุดก็ไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาสชนะ แน่นอนว่าเซียวเฟิงไม่ใช่คนประมาท และเขาต้องแน่ใจก่อนจะเข้าไป
วงแหวนอัญเชิญขนาดใหญ่โผล่ออกมาด้านหลังเซียวเฟิง เปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นในขนนกก็ฟุ้งกระจาย นางฟ้าผมสั้นสีเงินตัวเล็กก็ปรากฏออกมา และปีกทั้งหกที่หลังของเธอมีสีขาวและกว้าง ลอยอยู่เหนือหัวของเซียวเฟิง
“สัตว์เลี้ยงระดับพระเจ้า! เซราฟ!”
ผู้คนมากกว่าหกสิบคนมองดูร่างกายที่เล็กกะทัดรัดของเสี่ยวไป๋ด้วยความกลัว แต่ไม่มีใครกล้าดูถูกพลังงานที่ซ่อนอยู่ในร่างกายที่เล็กกะทัดรัดนี้ ผู้เล่นทั่วเขตเคยได้เห็นพลังของมันแล้ว
“ถ้อยคำแห่งเงา!”
แสงของบัฟใหญ่ทั้งสี่ตัวส่องสว่างไปที่เซียวเฟิงจากนั้นเซียวเฟิงโบกคทาของเขาและถ้อยคำแห่งเงาก็ปกคลุมบอสมนุษย์ต้นไม้ทั้งหมด
-2,700!
-2,700!
-2,700!
…
ตัวเลขความเสียหายอย่างเข้มข้นลอยอยู่ในบอสมนุษย์ต้นไม้ราวกับดอกไม้ไฟสีแดงที่ระเบิด และความเสียหายสี่หลักนั้นแน่นหนา!
มนุษย์ต้นไม้ที่เปลี่ยนร่างเป็นบอสระดับหายากมีพลังชีวิต 54,000 หน่วย เมื่อถ้อยคำแห่งเงาสร้างความเสียหายให้กับคุณสมบัติที่ไม่ได้ชนะทาง จะสร้างความเสียหายได้เพียง 0.5% ต่อวินาที ซึ่งเท่ากับ 2,700 หน่วย แต่ตอนนี้ค่าจิตวิญญาณของเซียวเฟิงสูงถึง 780 หน่วย ซึ่งหมายความว่าระยะเวลาของถ้อยคำแห่งเงาคือ 78 วินาที!
บอสระดับหายากไม่ค่อยมีความสามารถในการต้านทานสถานะผิดปกติ อย่างน้อยมนุษย์ต้นไม้พวกนี้ก็ไม่มี ดังนั้นพวกมันจะกินความเสียหายของถ้อยคำแห่งเงาอย่างสมบูรณ์ ซึ่งหมายความว่าจะเผาผลาญพลังชีวิตทั้งหมด 34% ของพวกมัน! นั่นคือ 18,360 หน่วย! เหลือพลังชีวิต 35,640 หน่วย!
“กรี๊ซ!”
ในเวลาเดียวกันเซียวเฟิงก็เรียกความเกลียดชังของบอสมนุษย์ต้นไม้ทั้งหมดไปหาเขาทันที บอสมนุษย์ต้นไม้มากกว่าห้าสิบตัวกำลังไล่ฆ่าเซียวเฟิงในขณะที่กรีดร้องอย่างต่อเนื่อง!
ความโหดร้ายของมังกร!
ค้อนแห่งการพิพากษา!
-24,000! คริติคอล!
-23,884! คริติคอล!
-24,042! คริติคอล!
-23,900! คริติคอล!
-23,566! คริติคอล!
-23,566! คริติคอล!
-24,422! คริติคอล!
บอสมนุษย์ต้นไม้หกตัวถูกปกคลุมไปด้วยค้อนสีทอง และในสายตาที่ไม่อยากเชื่อของทุกคน ความเสียหายคริติคอลที่น่าสะพรึงกลัวหกชุดลอยขึ้นมา แต่ละชุดมีค่ามากกว่า 20,000 หน่วย ทำให้บอสมนุษย์ต้นไม้หกตัวนี้พลังชีวิตแทบหมดหลอดทันที!
“กรี๊ซ!”
อย่างไรก็ตาม ฉากที่ทำให้เซียวเฟิงขมวดคิ้วก็เกิดขึ้นทันที เขาเห็นว่าบอสมนุษย์ต้นไม้ทั้งหกที่พลังชีวิตเหลือน้อยเริ่มเข้าหากัน และรากก็พันกันอีกครั้ง จากนั้นจึงรวมเป็นบอสระดับเงินสามตัวที่มีพลังชีวิตเต็มหลอด! ปริมาณพลังชีวิตสูงถึง 110,000 หน่วย!
ดวงตาของเซียวเฟิงเคร่งขรึม เขารู้ว่าบอสอาจรวมร่างกันอีกครั้งเมื่อพลังชีวิตเหลือน้อย แต่เขาก็ไม่คิดว่าสกิลกรงเล็บมังกรจะไม่ได้ผล!
ผลของสกิลกรงเล็บมังกรคือการทำให้มอนสเตอร์ที่ได้รับความเสียหายจากเซียวเฟิงสูญเสียความสามารถในการฟื้นฟู เซียวเฟิงคิดว่าต่อให้บอสมนุษย์ต้นไม้จะรวมร่างเข้าด้วยกัน มันก็ยังคงมีเลือดเหลืออยู่เท่าเดิม แต่เขาคำนวณผิด เห็นได้ชัดว่าบอสมนุษย์ต้นไม้หลังจากรวมร่างแล้วจะนับว่าเป็นมอนสเตอร์ตัวใหม่ มันจะไม่ได้รับผลกระทบจากกรงเล็บมังกรเลย
“ฮ่า ๆ!”
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เจียงหนานก็ปล่อยเสียงหัวเราะเยาะเย้ยทันที