เส้นไหมสีขาวพันรอบคอของมังกรมาร

ใบหน้าของมังกรมารหยอกล้อขณะกระซิบว่า “จะดึงข้าด้วยนิ้วเดียวอย่างนั้นหรือ”

เขาเอื้อมมือไปฉีกด้าย พุ่งเข้าไปในความมืดแล้วลากนิ้วสีดำขนาดยักษ์ออกมา

กู่ฉิงซานมองอย่างตั้งใจ

ใช่แล้ว นี่คือนิ้วสีดำที่ถูกพันธนาการไว้ในโบสถ์หลอมละลาย!

“ทำไมมันถึงโจมตีท่านล่ะ” กู่ฉิงซานถามอย่างสงสัย

มังกรมารอธิบายว่า “มันกำลังยั่วโมโหน่ะ เป้าหมายคือให้ข้าทำลายมัน ตราบที่ทำลายนิ้วนี้ นิ้วจะไปเกิดใหม่บนร่างกาย เท่ากับเป็นการช่วยให้ร่างกายกลับมามีนิ้วอีกครั้ง”

“เป็นแบบนี้เอง แล้วจะรับมือกับนิ้วนี่ยังไง” กู่ฉิงซานถาม

“ทำได้แค่ผนึกเอาไว้ชั่วคราว” มังกรมารตอบ

เขากดนิ้วสีดำลงกับพื้น

นิ้วสีดำขนาดยักษ์จมลงไปช้าๆ ไม่ช้าก็หายไป

มังกรมารยืนขึ้นแล้วถามว่า “เอาล่ะ เจ้าหนู ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ทำไมเจ้าไม่มาเลือกสมบัติเสียล่ะ”

เจ้าหนู

ดูท่าระบบประเมินของมังกรที่เฝ้ามองผู้คนจะเหมือนกับของยุคโบราณ

“ช่างเถอะ ข้ายังไม่ต้องการอะไร” กู่ฉิงซานโบกมือ

“ทำไมล่ะ” มังกรมารถามอย่างแปลกประหลาด

“ข้าไม่ต้องการลูกกวาดของคนแปลกหน้าน่ะ” กู่ฉิงซานตอบ

“เจ้าหนู ไม่ต้องห่วง มันเป็นของฟรีจริงๆ ข้าสาบานได้” มังกรมารพยายามใช้เสียงที่อ่อนลง

“ข้าเพิ่งได้รับคำเตือนมาว่าเด็กไม่สามารถเข้าใกล้ท่านได้หากไม่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วย” กู่ฉิงซานกล่าว

มังกรมารมองกู่ฉิงซานด้วยสีหน้าแปลกประหลาดก่อนพึมพำด้วยความไม่เข้าใจออกมา “เจ้ามาถึงที่นี่เพียงลำพัง ถือกุญแจเอาไว้ ทำตัวเหมือนสิ่งประดิษฐ์วิญญาณขยะ ทั้งที่มีพลังมากกว่ามารแก่กล้ามากมาย ข้าก็คิดว่าจะไม่ใช่เด็กดีที่ยอมทำตามกฎเสียอีก”

“อย่ามาปั่นประสาทข้านะ เด็กอย่างข้ายังไม่ถึงวัยแรกรุ่น ดังนั้นยังมีความรู้สึกว่าชีวิตสำคัญกว่าการดื้อรั้น” กู่ฉิงซานกล่าวพลางอ้าแขน

มังกรมารเงียบไปสักพัก จากนั้นกล่าวว่า “แต่ก็น่าเสียดายถ้าเจ้าทำแบบนี้ เพราะเจ้าจะไม่ได้สมบัติอะไรเลย เจ้าจะได้เพียงของขวัญที่เรียบง่ายที่สุดเท่านั้น”

“ข้าไม่ต้องการของขวัญหรืออะไรหรอก ถ้าเป็นไปได้ ข้าอยากจะออกไปเดี๋ยวนี้เลย” กู่ฉิงซานกล่าว

แผ่นวงกลมใต้เท้าของเขาถามว่า “ท่านจะให้ข้าส่งออกไปหรือไม่”

“แน่นอนว่าศูนย์กักกันหุบเหวไม่ใช่สถานที่ปลอดภัย ตามกฎหมายคุ้มครองผู้เยาว์ ข้าจะต้องส่งท่านไปโลกสวรรค์ดึกดำบรรพ์ ท่านตัดสินใจจะไปตอนนี้หรือไม่” แผ่นวงกลมถามต่อ

กู่ฉิงซานมองมังกรมาร

มังกรมารมองเขา ปากปิดสนิท

อืม

มังกรมารไม่พูดอะไรจริงๆ ไม่ห้าม ไม่เอาของขวัญมาล่ออีก

กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าวว่า “ข้ายังไม่ต้องการตอนนี้ ข้าต้องไป”

มังกรมารแผดเสียงคำรามออกมาขณะวิ่งมาที่จอแสงแล้วต่อยกู่ฉิงซาน

ความว่างเปล่าบิดเบี้ยว

คลื่นจำนวนนับไม่ถ้วนก่อเกิดราวกับสายฝนศักดิ์สิทธิ์บนทะเลสาบขณะกระจายเป็นวงกว้างไปทุกทิศทาง

กู่ฉิงซานยังปลอดภัยดี

“ชิ ข้าคิดว่าท่านจะอดทนกว่านี้เสียอีก” เขากล่าวอย่างเสียดาย

มังกรมารมองเขาอย่างหมองหม่นแล้วถามว่า “เจ้าเคยเห็นมันมาก่อนงั้นหรือ”

กู่ฉิงซานตอบว่า “ง่ายมาก ข้อดีของพละกำลังมหาศาลคือไม่ต้องห่วงความคิดของคนอื่น ข้าเดาว่าหลังจากจบยุคโบราณ ท่านจะเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลกมาร ดังนั้นจึงใช้มันได้โดยไม่ต้องปกปิดอะไร”

“ยกตัวอย่างมาได้หรือเปล่า” มังกรมารถาม

“ยกตัวอย่างก็ท่านจะถวิลหาถึงการแลกเปลี่ยนมากมาย น่าเสียดาย ผู้ถักทอชีวิตหุบเหวไม่ได้มีความคิดเหล่านี้ มันคิดว่าการปล่อยท่านไปคือความเมตตาที่สุดแล้วถึงแม้ความเมตตานี้จะเป็นแค่คำโกหกก็ตาม” กู่ฉิงซานตอบ

“คาดไม่ถึง เจ้าจะฉลาดกว่าสัตว์ประหลาดนั่น แต่น่าเสียดายที่เจ้าไม่มีมูลค่าในการแลกเปลี่ยน” มังกรมารกล่าว

กู่ฉิงซานยืดอกแล้วกล่าวว่า “ถึงแม้ข้าจะยังเป็นเด็ก แต่ก็มีประสบการณ์ทางสังคมในระดับหนึ่ง ตอนท่านทดสอบพละกำลังของผู้ถักทอชีวิตหุบเหว ข้าก็มองออกแล้ว”

กู่ฉิงซานมองมังกรมารแล้วกล่าวด้วยสีหน้าซับซ้อนว่า “ท่านถวิลหาถึงผลประโยชน์ของผู้ถักทอชีวิตหุบเหว หรือก็คือ ท่านถวิลหาถึงพลังของหุบเหว”

มังกรมารจ้องมองกู่ฉิงซาน ผ่านไปสักพักใหญ่จึงพูดออกมาสี่พยางค์ “เจ้าเด็กฉลาด”

“จริงๆ ข้าสับสนนะ ในฐานะอาวุธของมนุษย์ ทำไมท่านอยากได้พลังของอีกฝ่ายล่ะ” กู่ฉิงซานถาม

มังกรมารตอบอย่างหยอกล้อว่า “มดก็อยากได้ยินเสียงฟ้าร้องบนท้องฟ้าไม่ใช่หรือ”

“มดไม่ต้องมีภัยคุกคามใดๆ เพียงแค่เคารพในพลังอันยิ่งใหญ่ก็พอ” กู่ฉิงซานตอบอย่างสงบ

มังกรมารถอนหายใจ “โลกเปลี่ยนไปแล้ว เผ่าพันธุ์มนุษย์ทุกวันนี้ไม่แม้แต่จะเอาชนะข้าได้ หลังจากผู้ถักทอชีวิตหุบเหวปกครองสัตว์ประหลาดทะเล ข้าก็เริ่มศึกษาเรื่องมาร เจ้าอยากให้ข้าทำอะไรล่ะ”

“มาร…” กู่ฉิงซานครวญครางออกมา “มารคือแหล่งกำเนิดพลัง ทันทีที่มารถูกควบคุมโดยผู้ถักทอชีวิตหุบเหว สายเลือดมังกรของท่านก็ไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป พลังก็จะไม่วิวัฒนาการ เพราะไม่ได้รับพลังเพิ่มเติม ทำให้ท่านเริ่มศึกษาเกี่ยวกับหุบเหวหรือ”

“ใช่ ข้าเองก็อยากมีชีวิตเหมือนกัน” มังกรมารตอบ

“เช่นนั้นทำไมท่านอยากฆ่าข้าล่ะ” กู่ฉิงซานถาม

มังกรมารพลันคำรามออกมา “ข้าเกลียดเผ่าพันธุ์มนุษย์!”

กู่ฉิงซานส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “เมื่อครู่ตอนที่ข้าเลือกจะอยู่หรือไป อารมณ์ของท่านยังควบคุมได้ แต่หลังจากข้าเลือกที่จะไป เห็นได้ชัดว่าท่านผิดหวังก่อนเข้ามาโจมตีข้า”

“ความจริง ข้าก็เป็นแค่มด ต่อให้อยู่ไปจะทำอะไรได้”

กู่ฉิงซานนิ่งแล้วกล่าวต่อว่า “เว้นแต่…ข้าสามารถส่งผลบางอย่างกับท่านได้จริงๆ ”

“แต่พละกำลังของข้าต่ำนัก…”

“ดูท่ามันจะไม่ได้ข้องเกี่ยวกับพลัง”

กู่ฉิงซานพลันถามว่า “เป็นตัวตนของข้าหรือที่ท่านเกรงกลัว”

มังกรมารตั้งใจฟังจนกระทั่งสีหน้าพลันเปลี่ยนไป

“ถ้าเจ้ากล้าทำอะไรเพิ่มเติมอีก ข้าจะปล่อยผู้ถักทอชีวิตหุบเหว ทุกคนจะต้องจบสิ้นไปด้วยกัน” เขาคำรามออกมา

กู่ฉิงซานยิ้มอย่างเป็นมิตรแล้วกล่าวว่า “ความจริง พวกเราสองคนสามารถสร้างพันธมิตรเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันได้ ทำไมพวกเราต้องตายไปด้วยกันล่ะ”

“สหายอย่างพวกเจ้าไม่มีทางนำประโยชน์ใดๆ มาให้ข้าได้!” มังกรมารกล่าว

“จริงหรือ ลองคิดดีๆ ก่อน” กู่ฉิงซานขอ

เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของเขา ความโกรธในใจของมังกรมารทุเลาลงเล็กน้อย

ผลประโยชน์…

นี่คือศูนย์กักกันสัตว์ประหลาดหุบเหวที่ถูกออกแบบโดยเผ่าพันธุ์มนุษย์ ผู้มีอำนาจอย่างแท้จริงย่อมต้องอยู่ในมือของเผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่แล้ว

ถึงแม้เผ่าพันธุ์มนุษย์นี้จะอ่อนแอ แต่ก็อย่าได้ดูถูกไป

ไม่จำเป็นต้องพูดมากไปกว่านี้ แค่ให้ทำสิ่งนั้นก็พอ

มังกรมารกล่าวว่า “เจ้ายังพอจะช่วยข้าได้อยู่”

“เชิญว่ามา ข้าสามารถทำได้แน่นอน” กู่ฉิงซานกล่าว

“ข้าต้องการให้เจ้าช่วยถ่ายทอดคำสั่งต่อไป”

กู่ฉิงซานกล่าวอย่างสงสัยว่า “ข้าก็แค่เด็กธรรมดา เกรงว่าจะทำเรื่องนี้ไม่ได้”

“ไม่ เพราะเมื่อจบยุคโบราณ จะไม่มีใครอยู่ที่นี่ ดังนั้นกฎการตัดสินแห่งปัญญาจึงบังคับใช้น้อยที่สุดจนเหลือแค่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์คนไหนก็ได้”

กู่ฉิงซานพยักหน้าพลางครุ่นคิด

มังกรมารเตือนว่า “ข้าแนะนำว่าเจ้าอย่าเล่นตุกติกจะดีที่สุด ข้าจำเจ้าได้แล้ว ตราบที่เจ้าทำการเปลี่ยนแปลงแม้เพียงเล็กน้อยขึ้นมา ข้าจะพยายามทำลายที่นี่อย่างสุดความสามารถ”

กู่ฉิงซานยิ้ม

“ใช่” เขากล่าวช้าๆ “ท่านไม่ใช่แค่ทรงพลัง แต่ยังฉลาดมากอีกด้วย แถมยังสงสัยใคร่รู้มากเช่นกัน ท่านผู้สามารถปล่อยผู้ถักทอชีวิตหุบเหวได้ทุกเมื่อจะตื่นขึ้นและจำข้าได้ พวกเราต่างเกรงกลัวซึ่งกันและกัน ความสัมพันธ์แบบนี้มันน่าเบื่อชะมัด คงดีกว่าถ้าเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง”

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร” มังกรมารถามด้วยความไม่เข้าใจ

“หมายความว่าข้าจะกลับมาโดยไม่ให้ท่านรู้ยังไงล่ะ”

มังกรมารจ้องมองเขาราวกับกำลังมองคนบ้า

“ลาก่อน ข้าจะไปพบท่านอีกคน”

กู่ฉิงซานแตะแผ่นวงกลม

“ทีนี้ก็ส่งข้าได้แล้ว”