ตอนที่ 465 เฝ้าคิดถึงแต่เธอ

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 465 เฝ้าคิดถึงแต่เธอ
โจเซฟที่วันนี้ตั้งใจแต่งตัวมาเพื่อมาเจอซูฉิง เขาเดินมาถึงหน้าห้องทำงานก็ยิ้มออกมา แล้วผลักประตูเข้าไป ซูฉิงเงยหน้าขึ้นมองพอเห็นว่าเป็นเขาก็ไม่ได้ท่าทีอะไร

แต่ทางโจเซฟ ยกยิ้มขึ้นมาแล้วก็ทักทายซูฉิงอย่างเป็นมิตร”ซูฉิง ยังจำผมได้มั้ย”

เขาได้ถามชื่อซูฉิงจากมิเชล และยังได้ที่อยู่และที่อยู่ที่ทำงานของเธอที่เมือง A จากนั้นรีบมาที่นี่

ซูฉิงฉีกยิ้มให้อย่างสุภาพ เธอไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษกับโจเซฟเลย และก็ไม่รู้ด้วยว่าเขามาที่นี่ทำไม

เขาที่เป็นถึงราชวงศ์ทางยุโรป คงจะไม่ได้มีธุรกิจมาทำที่ประเทศจีนหรอก

“จำได้สิคะ ไม่ทราบว่าท่านชายโจเซฟมาหาฉันมีธุระอะไรหรอคะ ”

โจเซฟได้ยินอย่างนั้นก็ยิ่งยิ้มตาวาวด้วยความดีใจ พร้อมทั้งทำหน้าได้ใจ เหมือนกับเด็กรอรับของรางวัล

“สร้อยที่ผมส่งไปให้ คุณชอบมั้ย”

ซูฉิงได้ยินอย่างนั้นก็เบิกตากว้าง แล้วก็นึกถึงสร้อยราคาแพงเมื่อวาน ตอนแรกยังนึกว่าเป็นของขวัญที่ฮ่อหยุนเฉิงเซอร์ไพรส์เธอ แค่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นโจเซฟ

เธออึ้งตะลึงแล้วรีบส่ายหน้าพูด”ขอบคุณท่านชายนะคะ แต่ว่าฉัน…….ไม่ค่อยต้องการของขวัญที่ราคาแพง ต้องขอโทษด้วยค่ะ “ซูฉิงที่พูดพร้อมกับกลับมาที่โต๊ะทำงาน แล้วเปิดลิ้นชัก เอากล่องเครื่องประดับออกมา

“คุณเอากลับไปเถอะค่ะ”

โจเซฟที่พอเห็นกล่องเครื่องประดับก็ร้อนใจ แววตาเต็มไปด้วยความจริงใจ รีบถาม”ทำไมหรอ ของขวัญที่ผมส่งให้คุณไม่ชอบหรอ ผมเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นก็ได้ ส่วนสร้อยเส้นนี้ผมว่ามันสวยดี เหมาะสมกับคุณ คุณรับไว้เถอะนะ”

ตอนนี้ ข้างนอกห้องทำงานของท่านประธานใหญ่ก็มีพนักงานหลายคนมามุงดู ต่างก็แนบหน้าเงี่ยหูฟังกับกระจกห้องทำงาน และก็กระซิบนินทากัน

“ท่านประธานไม่ใช่จะหมั้นกับประธานฮ่อหรอ แล้วคนฝรั่งเศสนี่เป็นใครกัน ดูแล้วเหมือนจะชอบท่านประธานมาก”

ซูฉิงส่ายหน้า”ไม่ค่ะ ฉันอยากจะบอกว่าฉันไม่ต้องการ โอ๊ะ……ต้องขออภัยด้วยค่ะ ฉันขอรับโทรศัพท์ก่อน”

ซูฉิงที่พอได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา ก็พูดตัดบทจากโจเซฟเพียงสั้นๆ ตอนที่เห็นว่าฮ่อหยุนเฉิงโทรมาเธอก็เม้มปากอยากจะให้โจเซฟตัดใจ เลยรีบรับสายต่อหน้าเขา

“ฮัลโหล หยุนเฉิงหรอ มีอะไรหรอ”

ฮ่อหยุนเฉิงที่พึ่งขับรถมาถึงหน้าบริษัทสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เขายังนั่งอยู่ในรถ พูดอย่างอารมณ์ดี:”วันนี้ฉันเลิกงานเร็ว และที่บริษัทไม่มีอะไรแล้วเลยจะพาเธอไปชอปปิ้ง”

“โอ๊ะ…….ทางนี้ฉันยังติดแขกอยู่เลย เดี๋ยวค่อยว่ากันดีมั้ย”

โจเซฟไม่รู้ว่าคนที่ซูฉิงเรียกว่าหยุนเฉิงเป็นใคร แต่เธอดูท่าทางของซูฉิงเหมือนจะแปลกๆ อารมณ์ร้อนของวัยหนุ่มก็ควบคุมไม่อยู่ แล้วพูดออกไปตรงๆ:”ซูฉิง ตั้งแต่ได้เจอคุณที่งานเลี้ยงของมิเชล ผมก็คิดถึงคุณมาตลอด คุณสวยมาก การเต้นรำก็สวย…..ผมชอบคุณ หวังว่าคุณจะตกลงคบกับผม ผมจะดีต่อคุณตลอด!”

คำพูดนี้ของโจเซฟที่พูดออกไปเสียงดัง แม้แต่พนักงานที่แอบฟังอยู่ข้างนอกก็ได้ยิน ทุกคนต่างก็ตกใจและส่งสายตานินทากัน แล้วก็ซุบซิบอะไรกันอีก

แม้แต่ฮ่อหยุนเฉิงก็ได้ยินและได้ยินอย่างชัดเจน

แววตาของเขาก็เคร้งขรึมลงและแผ่รังสีอำมหิตออกมา มือที่ถือโทรศัพท์อยู่ก็กำแน่น “ใครอยู่กับเธอ โจเซฟหรอ เป็นคนฝรั่งเศสที่ตอนที่ฉันไปรับเธอแล้วบังเอิญเจอนั่นมั้ย”

ซูฉิงตกใจ แววตาเห็นได้ชัดว่าเริ่มหมดความอดทนแล้ว และยิ่งเธอได้ยินเสียงโกรธของฮ่อหยุนเฉิงก็ไม่ได้สนใจโจเซฟ เพราะฮ่อหยุนเฉิงนักขี้หึงมากๆ เลย

เธอไม่มองหน้าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า มือที่ยังถือโทรศัพท์อยู่ รีบเดินออกไปข้างนอก “รอให้ฉันลงไปแล้วค่อยคุยกันนะ นายอยู่ข้างล่างใช่มั้ย”

ฮ่อหยุนเฉิงที่มือยังกำพวงมาลัยอยู่ นิ่งอยู่นานถึงได้ส่งเสียงตอบกลับไป

ซูฉิงรีบเดินออกมาจากห้องทำงาน พอเดินออกมาจากห้องทำงานก็เห็นเพื่อนทำงาน จากนั้นก็เดินออกไปอย่างไม่สนใจสายตาที่มองมา พวกพนักงานชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านก็อึ้งทึ่ง ความรู้สึกที่ถูกจับได้ ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็เห็นโจเซฟวิ่งตามออกมาจากห้องทำงานแล้ว

มีไม่กี่คนที่มองสบตากัน แล้วฉายแววตาสงสัยออกมา

เกิดอะไรขึ้น ……..หญิงแกร่งกลัวการพัวพันหรอ?

ซูฉิงรีบเดินออกมาจากตึก พอเห็นรถของฮ่อหยุนเฉิงที่จอดอยู่ด้านนอก ก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาเปิดประตูรถแล้วเข้ามานั่ง แล้วรีบพูดกับฮ่อหยุนเฉิง:”ฉันก็ไม่รู้ว่าโจเซฟจะมาหาฉันที่นี่ และสร้อยเส้นเมื่อวานก็เป็นเขาที่เป็นคนส่งมา…..ไม่พูดแล้ว นายรีบออกรถเถอะ ยังไม่ต้องกินข้าวไปที่บริษัทนายก่อน เขาตามออกมาแล้ว”

ฮ่อหยุนเฉิงไม่พูดหรือถามอะไรอีก พอได้ยินซูฉิงพูดรัวออกมา ตอนนี้ก็ไม่สงสัยแม้แต่น้อยแล้วเหยียบคันเร่งขับออกไปทางบริษัทตระกูลฮ่อกรุ๊ป

ปกติใช้เวลาครึ่งชั่วโมงแต่ฮ่อหยุนเฉิงใช้เวลาเพียงยี่สิบนาที หลังจากฮ่อหยุนเฉิงลงมาจากรถ ก็จูงมือของซูฉิงเข้ามาที่ห้องโถงแล้วขึ้นลิฟต์มาที่ห้องทำงาน อย่างไม่แคร์สายตาคนอื่น

ตอนที่ห้องทำงานปิดประตูลง ซูฉิงถึงถอนหายใจโล่ง

เธอมองหน้าฮ่อหยุนเฉิงอย่างจนใจ ก่อนที่ฮ่อหยุนเฉิงจะเอ่ยถามเธอชิงพูดก่อน :”เป็นผู้ชายที่ขอเต้นรำกับฉันตอนงานเลี้ยงของมิเชลเมื่อครั้งที่แล้ว สร้อยเมื่อวานก็เป็นของเขาที่ส่งมาให้ เขาบอกอยากจะคบกับฉัน ฉันไม่รู้ว่าเขาจะมาหาฉันที่สตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เมื่อกี้ตอนที่ฉันออกมาหานาย เขาก็ตามออกมาด้วย ช่วยไม่ได้ฉันก็เลยมากับนายที่นี่ก่อน….จะกินอะไรเดี๋ยวค่อยคุยละกัน”

ฮ่อหยุนเฉิงทำปากงอ มือค้ำเอวแววตาเคร่งขรึม แต่ก็ไม่พูดกับซูฉิงทำเพียงแค่แอบหึงอยู่ในใจ

เขาเงยหน้าขึ้นมองซูฉิง ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของเขา แล้วก็พูดอย่างไม่คิด:”พรุ่งนี้พวกเราไปจดทะเบียนกันเถอะ ฉันไม่อยากให้ผู้ชายคนอื่นเข้ามาจีบเธออีกแล้ว”

ซูฉิงสาบานได้เลยว่า ครั้งนี้ถือว่าฮ่อหยุนเฉิงอารมณ์เย็นมากที่สุดแล้ว

แต่สิ่งที่ฮ่อหยุนเฉิงพูดกับเธอนั้นก็เหมือนจะเริ่มหมดความอดทนเล็กน้อย หลังจากที่อารมณ์เย็นลงแล้ว ซูฉิงก็อดที่จะพูดเตือนไม่ได้ :”แต่พวกเราจะหมั้นกันในอีกไม่กี่วันแล้ว ข้อเสนอของนายก็ฉับพลันเกินไปนะคุณผู้ชายฮ่อ”

ฮ่อหยุนเฉิงหยุดพูด แล้วก็เปลี่ยนคำพูดใหม่ :”ก็ถูก งั้นก็หลังจากที่งานหมั้นเสร็จก็ไปจดทะเบียนเลย ฉันไม่อยากให้ผู้ชายคนอื่นมาทำดีกับเธอแล้วจริงๆ นะ”

ซูฉิงก็ยกยิ้มขึ้นมา บางที่เธอก็เกลียดนิสัยแสดงความเป็นเจ้าของของฮ่อหยุนเฉิง แต่บางทีก็รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ก็ไร้เดียงสาจนน่ารัก