บทที่ 316 ทุกคนล้วนมีความเห็นแก่ตัว

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

เมื่อได้ยินแบบนี้ หัวใจของหลัวซิวสั่นเทา เรื่องที่เขากังวลที่สุดเกิดขึ้นแล้ว ร่องถ้ำนั้นถูกขั้วอำนาจอื่นพบแล้ว ทั้งยังเกี่ยวข้องกับสำนักเสวียนหยางที่มีอำนาจยิ่งใหญ่

โบราณสถานที่ไม่ได้รับการเปิดมาก่อน เพียงพอที่จะทำให้ผู้แข็งแกร่งมกุฎยุทธ์หวั่นไหว ถ้าหากอาจารย์มกุฏยุทธ์สำนักเสวียนหยางลงมือ เขากับเหยียนเยว่เอ๋อร์ไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย

“สำนักเสวียนหยางมีอาจารย์มกุฏยุทธืและผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธื ฉันไม่อยากรนหาที่ตาย” หลัวซิวขมวดคิ้วพูด

ร่องถ้ำโบราณบางทีอาจจะมีโอกาสที่ดีและของล้ำค่า แต่เมื่อเทียบกับชีวิตแล้ว ไม่ถือว่าเป็นอะไรทั้งนั้น

“ฮ่าๆๆ น้องหลัวคิดมากไปแล้ว เบื้องบนของสำนักเสวียนหยาง ไม่รู้เรื่องร่องถ้ำ”

ขณะที่หลัวซิวกำลังคิดจะล้มเลิกความคิดในการตามหาร่องถ้ำ จวงหย้าเฟยพูดขึ้นกะทันหัน

เมื่อได้ยินถ้อยคำนี้ ความหวังก่อตัวขึ้นมาในใจของหลัวซิว รีบถามต่อ:”นี่มันเรื่องอะไรกัน”

“เมื่อสิบวันก่อน ฉันบังเอิญเข้าไปในพื้นที่นั้น พบที่ตั้งของร่องถ้ำ ตอนนั้นมีปรมาจารย์ยุทธ์ฝึกจิตของสำนักเสวียนหยางคนหนึ่ง พบร่องนั้นพร้อมกันกับฉัน ตอนนั้นฉันกับอีกฝ่ายล้วนต่างคนต่างอยากจะฆ่าปิดปาก แต่ความสามารถไล่เลี่ยกัน”

“พบว่าพวกเราไม่มีใครทำอะไรได้ พวกเราทั้งสองคนจึงสัญญากันว่าจะไม่แพร่งพรายเรื่องร่องถ้ำนี้ หลังจากนั้นสิบวัน ทั้งสองฝ่ายพาคนมาแปดคน แล้วเข้าไปตรวจสอบด้านในถ้ำนั้นด้วยกัน” จวงหย้าเฟยเล่าที่มาที่ไปของเรื่องให้ฟัง

“คำสัญญาแบบนี้พี่ช่วยด้วยเหรอ?” หลัวซิวเผยสีหน้าแปลกใจ “ตอนนี้พี่สามารถบอกเรื่องถ้ำให้ฉันรู้ อีกฝ่ายก็สามารถบอกเรื่องถ้ำในผู้แข็งแกร่งในสำนักเสวียนหยางรู้”

จวงหย้าเฟยยิ้มเศร้าด้วยความจนปัญญาเล็กน้อย “ฉันเองก็เข้าใจข้อนี้เหมือนกัน แต่ว่าฉันก็ทำได้แค่เดิมพันดูสักครั้ง เพราะถึงอย่างไรถ้าหากเชิญผู้แข็งแกร่งระดับราชายุทธ์มา ในถ้ำมีของดีอะไรละก็ ไม่มีทางตกถึงคนอื่นแน่นอน คนสำนักเสวียนหยางคนนั้นน่าจะเข้าใจข้อนี้ดี ดังนั้นฉันจำได้แต่เดิมพันว่าเขาไม่บอกเรื่องนี้กับเบื้องบนของสำนักเสวียนหยาง”

หลัวซิวขมวดคิ้วเป็นปมแล้วนิ่งเงียบ เป็นไปตามที่จวงหย้าเฟยพูด มีความเป็นไปได้นี้ เพราะถึงอย่างไรทุกคนล้วนมีความเห็นแก่ตัวและความโลภ ไม่มีใครอยากจะให้ร่องถ้ำที่ตนพบเจอด้วยความยากลำบาก ด้านในมีโอกาสดีและของล้ำค่าอะไร ตกไปอยู่ในมือของคนอื่น

จวงหย้าเฟยกำลังเดิมพัน ถ้าหากหลัวซิวรับปากจะไปด้วย ความเป็นจริงก็เป็นการเดิมพันอีกครั้ง เพราะถ้าหากเดิมพันผิด พบเจอกับมกุฏยุทธ์ของสำนักเสวียนหยางกระทั่งผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ ตนต้องแบกรับผลลัพธ์แย่ๆที่ตามมาอีก

เขาไม่ได้ตัดสินใจบุ่มบ่ามด้วยตนเอง แต่ว่าใช้ตัวสำนึกส่งเสียง บอกเรื่องนี้กับเหยียนเยว่เอ๋อร์

“ร่องถ้ำคือโอกาสดีที่หาได้ยาก ในเมื่อเจอแล้ว ย่อมห้ามคลาดไปเด็ดขาด” คำแนะนำที่เหยียนเยว่เอ๋อร์ให้คือลองไปดู ถ้าสถานการณ์ไม่ดี อย่างมากก็แค่ถอยออกไป

“ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ลองไปดู!”

ได้ยินหลัวซิวรับปาก จวงหย้าเฟยก็โล่งอก เขารู้ดีว่าตนกำลังเดิมพัน เดิมพันชนะ ตนสามารถได้รับประโยชน์ดีๆที่ไม่อาจจินตนาการได้ เดิมพันแพ้ ตนจะไม่เหลืออะไรทั้งนั้น อีกทั้งถึงขั้นที่จะกลายเป็นซากกระดูกในบ่อน้ำอมตะ

ตลอดทางไม่ได้พูดอะไรกัน ก่อนที่ฟ้าจะมืด พวกเขามาถึงพื้นที่ที่กำกับเอาไว้ในแผนที่บนมือจวงหย้าเฟย

นี่คือลำธาร เต็มไปด้วยต้นหญ้า มีลมปราณของอสูรกายแข็งแกร่งหลายตัวอยู่ส่วนลึกในลำธาร

จากที่จวงหย้าเฟยพูด ทางเข้าของร่องถ้ำ อยู่ใจกลางลำธาร มีอสูรกายระดับ9ตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในนั้น

ในเวลาเดียวกันที่หลัวซิวและพวกมาถึงที่นี่ อีกฝั่งหนึ่งของลำธาร ก็มีคนกลุ่มหนึ่งปรากฎตัว สวมชุดของสำนักเสวียนหยาง มีทั้งหมดแปดคน

“จวงหย้าเฟย พวกเราตกลงกันแล้วว่าจะมาแปดคนไม่ใช่เหรอ ทำไมนายถึงมาแค่เจ็ดคน?” ชายหนุ่มสำนักเสวียนหยางคนหนึ่งเหาะเหินมา แล้วพูดเย้ยหยัน:”คงจะไม่ได้ตายไประหว่างทาง คนหนึ่งรึเปล่า?”

ขณะพูด อีกฝ่ายมองหลัวซิวและพวกอย่างไม่เกรงกลัว มุมปากหัวเราะเยาะเยือกเย็น “คนที่นายพามา ความสามารถแย่ไปหน่อยรึเปล่า ถ้าขืนเป็นแบบนี้ ในร่องถ้ำไม่มีเรื่องอะไรของนายแล้ว ไม่แน่ว่าชีวิตของคนพวกนี้อาจจะต้องทิ้งอยู่ที่นี่”

“ซ่งช่าวหยวน สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร” จวงหย้าเฟยหัวเราะเยือกเย็น

“แค่มดตัวเล็กๆขั้นฝึกจิตไม่กี่คน ฉันแค่ยกมือขึ้นก็ทำลายได้แล้ว!”

ในเวลานี้เอง เสียงเยือกเย็นดังขึ้น ชายชราผมขาวคนหนึ่งของสำนักเสวียนหยาง มองมาที่หลัวซิวและพวกอีกหกคนด้วยสีหน้าดูแคลน แผ่ซ่านเจตนาสังหารออกมาอย่างไม่ซ่อนเร้น

ในเวลาเดียวกัน ลมปราณที่แข็งแกร่งจนไม่สามารถคำนวฯได้ แผ่ซ่านออกมาจากตัวของชายชรา กลายเป็นการข่มที่น่าเกรงขาม ราวกับภูเขาลูกใหญ่ กดดันมาทางหลัวซิวและพวก

ไอแห่งความน่าเกรงขามนี้ เหนือกว่าราชายุทธ์ แข็งแกร่งกว่าเผยหยวนชิวผู้นำตระกูลเผยซึ่งเป็นผู้แข็งแกร่งราชายุทธ์ขั้น9มาก

“ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์!……” สีหน้าของหลัวซิวสั่นเทา

ชายชราของสำนักเสวียนหยางคนนี้ปรากฏตัว แผ่ซ่านความน่าเกรงขามของผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์ออกมา เจตนาสงสารไม่ซ่อนเร้น

สีหน้าของจวงหย้าเฟยซีดขาวทันที เขาคิดว่าอย่างมากซ่งช่าวหยวนก็เชิญแค่ราชายุทธ์มาหนึ่งถึงสองคน ทางตนมีหลัวซิวอยู่ ก็ไม่มีอะไรให้น่าหวาดกลัว

แต่ว่าเขาคิดไม่ถึง ไอ้สารเลวซ่งช่าวหยวนจะเชิญจักรพรรดิยุทธ์มา?

คล้ายว่าอากาศจะถูกความน่าเกรงขามทำให้แข็งตัว ร่างกายของจวงหย้าเฟย สิ้งหรันหรันและพวกถูกตรึงเอาไว้ที่เดิม แม้แต่นิ้วก็ยังขยับไม่ได้

ตรงหน้าผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์ ปรมาจารย์ยุทธ์ฝึกจิตไม่มีพลังในการต่อต้านแม้แต่น้อย เป็นหรือตายไม่ได้ขึ้นอยู่กับตนเอง

“จวงหย้าเฟย นายกล้ามาก อาศัยตระกูลจวงเล็กๆของพวกนาย แม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับราชายุทธ์ก็ยังไม่มี ยังจะกล้ามาแย่งชิงร่องถ้ำกับสำนักเสวียนหยางของฉันอีกอย่างนั้นเหรอ?” ซ่งช่าวหยวนยืนอยู่ด้านหลังจักรพรรดิยุทธ์ด้วยสีหน้าประจบสอพลอ

สำนักเสวียนหยาง มีผู้แข็งแกร่งมกุฏยุทธ์ดำรงตำแหน่ง มีผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์สองคน คนหนึ่งคือเจ้าสำนักเวียนหยาง คนหนึ่งคือผู้อาวุโสเสวียนหยาง

สำหรับผู้แข็งแกร่งมกุฏยุทธ์ คืออาจารย์เสวียนหยาง

เวลานี้จวงหย้าเฟยหวาดกลัวมากขึ้น ภายใต้ความน่าเกรงขามของผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ แม้แต่ปากก็ยังอ้าไม่ออก

หลัวซิวมองเหยียนเยว่เอ๋อร์ที่อยู่ข้างกาย ถึงแม้ความน่าเกรงขามของผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์เขาเองก็ยากที่จะต่อกรด้วย แต่ก็ไม่ถึงขั้นไม่สามารถทำอะไรได้

“เหมือนกับฉัน คือแดนจักรพรรดิยุทธ์ขั้น2 คนคนนี้คือผู้อาวุโสเสวียนหยาง” เหยียนเยว่เอ๋อร์พูดผ่านตัวสำนึก

เมื่อได้ยินแบบนี้ หลัวซิวก็โล่งอก ขอเพียงไม่ใช่เจ้าสำนักเสวียนหยางมา ทุกอย่างก็จัดการง่าย

เพราะเจ้าสำนักเสวียนหยางคนนั้น ว่ากันว่าตอนนี้บรรลุแดนจักรพรรดิยุทธ์ขั้น4แล้ว

“หื้ม? ภายใต้ความน่าเกรงขามของผู้อาวุโสยังสามารถเคลื่อนไหวได้?”

ผู้อาวุโสเสวียนหยางเห็นหลัวซิวหันหน้า ดวงตาแก่ชราหรี่ลง พูดเสียงเยือกเย็น:”ฉันมองผิดไปจริงๆ ผลการฝึกตนที่แท้จริงของนายคือแดนฝึกจิตขั้น9″

ขณะพูด ผู้อาวุโสเสวียนหยางทะยานมา ยื่นมือออกมาจะฟาดหลัวซิว เปี่ยมไปด้วยเจตนาสังหารอย่างชัดเจน

“กับแค่ผู้ฝึกจิตขั้น9 ฉันแค่ตบก็ตายคาฝ่ามือแล้ว”

พลังจิตแท้สีทองออกมาจากง้ามนิ้วมือของผู้อาวุโสเสวียนหยาง ชั่วขณะหนึ่งก็กลายเป็นกรงสีทอง ลมปราณทำลายล้างปะทุขึ้นมา ครอบคลุมมาที่หลัวซิว

ในเวลานี้ เหยียนเยว่เอ๋อร์ที่อยู่ข้างกายหลัวซิวเงยหน้าขึ้น ดวงตาคู่สวยมีความเยือกเย็นแล่นผ่าน