ตอนที่ 310 ภรรยาที่ดี
ตอนที่ 310 ภรรยาที่ดี

“ก็นั่นน่ะสิ ก้าวหน้าแล้วไม่ช่วยเหลือญาติตัวเอง จะมีใครไปช่วยเหลือคนที่ไม่เกี่ยวข้อง!” พี่สะใภ้สี่จ้าวกล่าว

เย่ฉูฉู่แย้มยิ้ม “พี่สะใภ้สี่พูดถูก รอหลังจากนี้มีโอกาสก็ต้องช่วยเหลืออยู่แล้วค่ะ”

แม้จะไปไม่ถึงเป้าหมาย แต่คำพูดของเย่ฉูฉู่ก็ปลอบใจพี่สะใภ้สี่จ้าวได้ พี่สะใภ้สี่จ้าวจึงกลับไปด้วยความรู้สึกค่อนข้างพึงพอใจ

“คุณพูดแบบนี้กับยัยนั่นไปทำไม เดี๋ยวก็เคยตัวหรอก!” จ้าวเหวินเทากล่าว

เย่ฉูฉู่ตอบ “คุณทำแบบนี้ไม่ดีหรอกนะคะ อยู่ข้างนอกทำตัวปลิ้นปล้อนกับคนอื่น แต่อยู่ในบ้านกลับพูดกับคนอื่นแบบตรง ๆ ไม่ว่าจะพูดยังไง อีกฝ่ายก็เป็นพี่สะใภ้สี่ของคุณ ไม่เห็นแก่หน้าหล่อนก็ยังต้องเห็นแก่หน้าพี่สี่ด้วย อีกอย่างเราก็ไม่ได้พูดว่าไม่ช่วยเหลือ พูดจาให้น่าฟังสักหน่อยทุกคนก็รู้สึกดี ไม่จำเป็นต้องทำตัวขวานผ่าซากแบบนั้น”

จ้าวเหวินเทา “คุณคงไม่รู้ คนแบบพี่สะใภ้สี่ต่อให้ให้เกียรติก็ไม่ใส่ใจแถมยังได้ทีเอาใหญ่ด้วย ครั้งนี้คุณพูดดีใส่ครั้งหน้าก็คงมาหาคุณอีก”

“งั้นครั้งหน้าก็พูดดีใหม่อีกครั้งก็สิ้นเรื่อง คิดซะว่าคุยเล่นก็ได้ค่ะ” เย่ฉูฉู่พูดอย่างไม่แยแส

จ้าวเหวินเทามองดูภรรยาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ภรรยา ผมเพิ่งเห็นนะ อารมณ์ของคุณตอนนี้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะปฏิเสธกับพี่สะใภ้สี่แบบนี้เลย”

เย่ฉูฉู่กลอกตาใส่เขา เธอหันไปมองลูกชาย เสี่ยวไป๋หยางกำลังใช้ดวงตากลมโตมองมาที่เธอ ทำให้เธอรู้สึกใจอ่อนในทันที “อารมณ์ไม่ดีก็เป็นเพราะไม่มีลูก พอมีลูกแล้วต่อให้อารมณ์ไม่ดีก็ดีขึ้นได้”

ก็เพราะถูกเจียระไนอย่างดีแล้วอย่างไรล่ะ เย่ฉูฉู่ทราบดีว่าเรื่องนี้ผู้ชายไม่มีทางเข้าใจ บางเรื่องถ้าไม่ประสบพบเจอด้วยตัวเองก็ไม่มีวันเข้าใจหรอก

จ้าวเหวินเทาแอบเกิดอารมณ์อ่อนไหว “ภรรยา ลำบากคุณแล้ว”

เย่ฉูฉู่กลับหลุดหัวเราะออกมาเพราะคำพูดของจ้าวเหวินเทา “ใช่ ลำบากมาก คุณวางแผนว่าจะชดเชยให้ฉันยังไงบ้างคะ?”

จ้าวเหวินเทารีบยื่นหน้าเข้ามา “ภรรยา ผมขอใช้ร่างกายเป็นคำมั่นสัญญาดีไหม?”

เย่ฉูฉู่เห็นลูกชายกำลังมองมาที่พวกเธอด้วยความฉงน จึงยื่นมือผลักจ้าวเหวินเทาออกไป และกล่าวตำหนิว่า “ไปเลยไป ไม่มีความจริงจังเอาเสียเลย!”

พี่สะใภ้สี่จ้าวมาหาจ้าวเหวินเทาให้ช่วยเหลือราวกับเป็นการเปิดประเดิม หลังจากนั้นไม่กี่วันคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านก็เข้ามาถามไถ่ ถึงอย่างไรในครอบครัวมีใครบ้างที่ไม่มีน้องชายแท้ ๆ? ไม่มีน้องชายแท้ ๆ ก็ยังมีลูกพี่ลูกน้อง คนอื่น ๆ อีก นอกจากคนในหมู่บ้านแล้วก็ยังมีญาติมาถามด้วย ก่อนหน้าจ้าวเหวินเทารับมือกับเรื่องพวกนี้อย่างใจร้อน แต่ตอนนี้นางเอกอย่างเย่ฉูฉู่กลับแสดงออกได้อย่างยอดเยี่ยม

“เรื่องนี้ เหวินเทาคงช่วยเหลือไม่ได้จริง ๆ นี่เป็นเรื่องบังเอิญ เรื่องมันเป็นแบบนี้…”

เย่ฉูฉู่เริ่มพูดถึงเหตุผลที่เธอเคยพูดกับพี่สะใภ้สี่จ้าวในตอนแรกอีกครั้ง จะเชื่อหรือไม่เชื่อไม่เป็นไร ขอแค่เหตุผลดี ก็สามารถทำให้คนอื่น ๆ พูดอะไรไม่ออกแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเย่ฉูฉู่ที่พูดด้วยคำพูดคำจาดี ๆ ต่อให้เรื่องนี้ทำไม่สำเร็จ ได้พูดคุยก็ยังดี

คนในชนบทใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่ายและสุดแสนจะน่าเบื่อ นอกจากทำงานใช้ชีวิตและคลอดลูกชาย ก็พูดคุยซุบซิบนินทาลากมาตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ ตอนนี้โทรทัศน์ยังไม่เป็นที่นิยม จึงไม่มีความรู้เกี่ยวกับโลกภายนอก มีบางคนไม่เคยเข้าไปในอำเภอด้วยซ้ำ จู่ ๆ ข้างกายก็มีคนไปปักกิ่งแล้ว จึงเกิดความสงสัยถึงขั้นตอนว่าเป็นไปได้อย่างไร และอาชีพนายแบบคืออาชีพอะไรกัน

“…เสี่ยวหม่าก็ไม่เลวเลยนะ รูปร่างหน้าตาดี ไม่ใช่ไม่ชอบทำงาน แต่อยากทำงานอื่น คิดว่านอกจากทำไร่ทำสวนก็ต้องมีงานอื่นแน่นอน ก็เลยมองหาโอกาสมาโดยตลอด แต่ก็ไม่มีโอกาสสักที จนกระทั่งเกิดเรื่องรูปถ่ายในครั้งนั้น”

“…งานนายแบบก็คือให้นั่งหรือไม่ก็ยืน จากนั้นก็แค่โพสต์ท่าต่าง ๆ เพื่อถ่ายรูป อืม ได้ใส่ชุดใหม่ ๆ เพื่อนำชุดใหม่เหล่านั้นขายออกไป”

เย่ฉูฉู่อธิบายอย่างช้า ๆ คนที่มาก็นั่งฟังอย่างออกรส บางครั้งก็ถามคำถามด้วย

“เสื้อใหม่ยังต้องถ่ายรูปถึงจะขายออกอีกเหรอ?”

“เสื้อใหม่ในตลาดยังไม่เห็นมีคนถ่ายรูปเลย แค่แขวนไว้เอง”

“ขายเสื้อผ้ายังต้องถ่ายรูปใช้เงินเยอะขนาดนั้น เขาคงไม่เสียเงินหรอกนะ?”

มีคนถามขึ้น

“ปักกิ่งเป็นยังไง กินอะไรกัน แล้วพักอยู่ในบ้านแบบพวกเราไหม? ได้ยินมาว่ามีรถยนต์ทุกที่เลย เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”

เย่ฉูฉู่เล่าเรื่องที่เธอเข้าใจมาจากโจวหมิ่นให้ทุกคนฟัง ท้ายที่สุดคนที่มาก็กลับไปด้วยความพึงพอใจ กลับไปก็ไม่ได้พูดถึงเย่ฉูฉู่เสีย ๆ หาย ๆ เพราะถูกปฏิเสธ แต่กลับพูดชมเย่ฉูฉู่ยกใหญ่ด้วย

“โอ้โห เจ้าเด็กจ้าวเหวินเทาคนนั้นได้แต่งงานกับภรรยาดี ๆ เลยนะ พูดจาก็น่าฟังจริง ๆ แถมยังรู้ทุกอย่างเลย!”

“ไม่แปลกใจเลยที่จะมีคนบอกว่าจ้าวเหวินเทาเป็นคนโชคดี เรื่องจริงจริง ๆ ด้วย ผู้ชายคนนี้ ได้เจอภรรยาดี ๆ ถือว่าเป็นความโชคดีที่สุดของชีวิตแล้ว!”

“คิดไม่ถึงเลยนะว่าลูกสาวตระกูลเย่จะดีแบบนี้ พูดจาก็น่าฟัง ต้อนรับคนอื่นอย่างสนิทสนม แถมยังคลอดลูกชายตัวอ้วน ๆ อีก เธอว่าจะไปหาภรรยาดี ๆ แบบนี้ได้จากที่ไหนอีก!”

เรื่องนี้เย่ฉูฉู่คิดไม่ถึงเลย

จ้าวเหวินเทาก็คิดไม่ถึงเช่นเดียวกัน

จ้าวเหวินเทามีความสุข “ภรรยา คุณรู้ไหม ตอนนี้คุณดังใหญ่แล้วนะ ทุกคนต่างก็พูดว่าคุณนิสัยดีทั้งนั้นเลย!”

เย่ฉูฉู่ได้ยินมาจากเฮ่อซงจือแล้วก็แอบทอดถอนใจ เธอแค่แต่งเหตุผลขึ้นมา คิดไม่ถึงเลยว่าผลลัพธ์จะเป็นแบบนี้ คงเป็นเพราะเธอพูดคุยกับพวกเขาดี ๆ และตอบคำถามของพวกเขาสินะ

“อันที่จิรงฉันไม่เข้าใจเลย ปักกิ่งอยู่ตั้งไกลขนาดนั้น ไม่เข้าใจอะไรสักอย่างแต่มีความคิดจะไปเพราะเห็นว่าเป็นเมืองใหญ่เนี่ยนะ ทำไมถึงคิดแบบนี้กันเนี่ย” เย่ฉูฉู่ถอนหายใจ

จ้าวเหวินเทานั่งอยู่ข้าง ๆ เขาแกล้งลูกชายขณะพูดว่า “ก็เพราะคิดว่าคนในปักกิ่งมีชีวิตดี ๆ ไง ก็เลยคิดว่าถ้าตัวเองได้ไปก็จะมีชีวิตดี ๆ ด้วย”

“แล้วทำไมคุณไม่คิดแบบนั้นล่ะ? เพราะพี่สะใภ้สามพูดกับคุณเรื่องพวกนั้นเหรอ?” เย่ฉูฉู่มองสามี

จ้าวเหวินเทาเห็นท่าทางจริงจังของภรรยา จึงอดไม่ได้ที่จะหอมไปหนึ่งครั้ง เย่ฉูฉู่ถึงกับตาพร่า เธอกลอกตาตำหนิใส่เขาและหันไปมองลูกชาย

“ไม่เป็นไร เขายังเด็กอยู่เลย ยังไม่เข้าใจอะไรหรอก ไม่ต้องสนใจเขา!” จ้าวเหวินเทาพูดจบก็รีบตอบคำถาม “ผมกับคนพวกนั้นแตกต่างกัน ผมรู้ว่าตัวเองทำอะไรได้และทำอะไรไม่ได้ ผมรู้จักคนที่ค้าขายคนนึง เขาเป็นคนขายสมุนไพร เขาบอกว่า ‘ฉันรู้จักสมุนไพร ฉันก็เลยทำสมุนไพร อย่างอื่นฉันทำไม่เป็น งั้นก็ทำในสถานที่ที่ฉันคุ้นชินแล้วกัน เพราะพวกเราทั้งสามรุ่นก็ทำอยู่ที่นี่กันทั้งนั้น’ ผมคิดว่าสิ่งที่เขาพูดมีเหตุผลมากเลยนะ”

เย่ฉูฉู่เอนตัวพิงสามี รู้สึกได้ถึงความแข็งของบ่า พยักหน้าตอบไปว่า “ค้าขายมาสามรุ่น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ”

“ใช่ พวกเราเกิดและเติบโตอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะก้าวออกจากเส้นทางเดิม ถ้าเปลี่ยนสถานที่แล้วทำใหม่อีกครั้ง เส้นทางก่อนหน้านี้ก็สูญเปล่า” จ้าวเหวินเทากล่าว “แต่เสี่ยวหม่าไม่เหมือนกัน เพราะเสี่ยวหม่าไม่มีอะไรเลย จะไปหรือไม่ไปปักกิ่งก็ค่าเท่ากัน ในเมื่อค่าเท่ากันสู้ไปออกไปท่องโลกสักรอบยังจะดีเสียกว่า บางทีอาจจะสร้างชื่อให้ตัวเองก็ได้นะ”

“ถ้าเขามีชื่อเสียง คนหนุ่มสาวในหมู่บ้านของเราก็คงออกไปท่องโลกกันหมด” เย่ฉูฉู่กล่าวเคล้ารอยยิ้ม

จ้าวเหวินเทากล่าว “นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ที่ว่าจะช้าหรือเร็วก็เท่านั้น! ภรรยา คุณรอดูได้เลย ในอนาคตพวกคนหนุ่มสาวคงไปในเมืองกันหมด ถึงเวลานั้นพวกเราก็หยั่งรากลึกอยู่ในชนบท และเป็นเจ้าของที่ดินเล็ก ๆ ได้สบาย ๆ เลย!”

“คุณคิดซะสวยหรูเชียวนะ!” เย่ฉูฉู่ยิ้ม

เย่ฉูฉู่คิดไม่ถึงเลยว่าคำพูดของสามีจะเป็นเรื่องจริง หลังจากผ่านไปไม่กี่ปีให้หลัง คนหนุ่มสาวในชนบททั้งหมดก็ไหลทะลักเข้าไปในเมือง กระแสการทำงานที่กระฉับกระเฉงได้เปิดฉากเริ่มขึ้นนับจากนี้

……………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

แค่คำพูดดีๆ ก็พลิกสถานการณ์ให้กลับมาดีได้แล้วค่ะ ฉูฉู่รู้จักแบ่งรับแบ่งสู้มากนะ

ไหหม่า(海馬)