บทที่ 45 กลับถึงเมืองหลวง[รีไรท์] EnjoyBook
บทที่ 45 กลับถึงเมืองหลวง[รีไรท์]
หลิงตู้ฉิงกล่าวกับหลิวเฟ่ยเฟ่ยอย่างเรียบเฉยว่า “ข้าไม่มีภรรยา”
หลังจากนั้นเขาหันไปบอกหลิงไช่หยุนและเด็กคนอื่น ๆ “นางไม่ใช่แม่ของพวกเจ้า”
เมื่อหลิวเฟ่ยเฟ่ยได้ยินว่าหลิงตู้ฉิงยังไม่มีภรรยา แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่นางก็รู้สึกสบายใจขึ้นกว่าเดิม แต่การได้ยินหลิงตู้ฉิงบอกว่านางไม่ใช่แม่ของลูก ๆ เขา นางรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ในตอนนี้นางไม่กล้าที่จะหวังไกล ตอนนี้นางต้องการเป็นแค่สาวใช้ของเขาเท่านั้น เมื่อคิดได้เช่นนั้นความโศกเศร้าก็หายไปในพริบตา นางรีบพูดกับหลิงไช่หยุนและคนอื่น ๆ ว่า “ข้าเป็นแค่คนที่คอยรับใช้นายท่านเป็นพิเศษเพียงเท่านั้น”
หลิงไช่หยุนและคนอื่น ๆ ไม่สนใจหลิวเฟ่ยเฟ่ย พวกเขามองหลิงตู้ฉิงและถามอีกครั้งว่า “ท่านพ่อ ท่านจะให้พวกเราจะเรียกนางว่าอะไรดี?”
หลิงตู้ฉิงขมวดคิ้ว หลิวเฟ่ยเฟ่ยจึงพูดกับหลิงตู้ฉิงว่า “นายท่าน ให้พวกเขาเรียกข้าว่าน้าเฟ่ยก็แล้วกัน”
ถ้าหลิงตู้ฉิงเห็นด้วยกับการให้เด็ก ๆ เรียกนางว่า ‘น้าเฟ่ย’ นางก็อาจมีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์กับเขา แม้ว่านางจะเป็นได้แค่ภรรยาน้อย แต่มันก็ดีกว่าการเป็นแค่สาวใช้
หลิงตู้ฉิงผู้ซึ่งไม่สนใจและยังไม่ค่อยจะเข้าในความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง เขาโบกมือขึ้นแล้วพูดว่า “ก็ตามใจ เจ้าอยากจะให้พวกเขาเรียกอะไรก็ตามใจเจ้า”
หลิวเฟ่ยเฟ่ยดีใจมาก หลิงไช่หยุนและคนอื่น ๆ มองหน้ากันและพยักหน้าพร้อมใจกันยอมเรียกคำนำหน้าชื่อของหลิวเฟ่ยเฟ่ยว่า ‘น้า’
หลิวเฟ่ยเฟ่ยไม่กล้าแสดงออกมากไปกว่านี้ หลังจากทั้งสองฝ่ายทักทายกัน หลิวเฟ่ยเฟ่ยก็ไปรายงานตัวกับโม่หยูถัง ตอนนี้นางยังคงเป็นสาวใช้ ดังนั้นนางต้องทำงานของสาวใช้เป็นธรรมดา
หลังจากหลิวเฟ่ยเฟ่ยจากไปแล้ว หลิงว่านถิงกระซิบ “ท่านพ่อ ท่านนอนกับน้าเฟ่ยแล้วใช่ไหม?”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า
หลิงว่านถิงส่ายหัว ดูเหมือนว่าน้าเฟ่ยคนนี้ในอนาคตพวกนางอาจจะต้องได้เรียกคำนำหน้าชื่อเป็นอย่างอื่นมากกว่าน้าก็เป็นได้
หลิงไช่หยุนถามเสียงต่ำ “ท่านพ่อ ถ้าท่านต้องการน้าเฟ่ยแล้วท่านแม่ล่ะ?”
เมื่อคิดถึงจ้าวเหมิงลู่ หลิงตู้ฉิงก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงช่วงเวลาที่จ้าวเหมิงลู่จูบเขาก่อนที่นางจะจากไป
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าความรู้สึกนั้นน่าจะถูกเรียกว่าความรัก
ในฐานะที่นางเป็นคนแรกที่ทำให้เขาเริ่มเข้าใจอารมณ์แห่งความรักแก่เขา เขาย่อมจำนางได้อย่างชัดเจน
“นางบอกว่าจะกลับมาภายใน 3 เดือน เมื่อนางกลับมา นางจะเป็นแม่ของเจ้า แต่ถ้านางไม่กลับมาพ่อจะหาแม่คนอื่นที่ดีกว่าให้พวกเจ้าเอง” หลิงตู้ฉิงพูดราวกับว่ามันเป็นเรื่องปกติ
“ถ้านางไม่กลับมาภายใน 3 เดือน ท่านพ่อจะไม่สนใจจริง ๆ เหรอ?” หลิงว่านถิงกลอกตาแล้วถาม
แม้ว่านางอายุเพียง 8 ขวบ แต่ความเข้าใจในความรักของนางอาจสูงกว่าหลิงตู้ฉิงเสียอีก
หลิงตู้ฉิงถามอย่างสงสัย “แล้วเจ้าจะให้พ่อทำยังไง?”
“ท่านพ่อควรไปหาท่านแม่ แล้วพานางกลับมา!” หลิงว่านถิงพูด
หลิงตู้ฉิงงงงวย แต่เขาก็พยักหน้าอย่างไม่ตั้งใจ “เอาอย่างนั้นก็ได้”
เมื่อเห็นกิริยาของหลิงตู้ฉิง หลิงว่านถิงก็พึมพำในใจ “ท่านแม่ ข้าหวังว่าท่านจะกลับมาทันภายใน 3 เดือนนะ”
หลิงไช่หยุนและหลิงฟ่างหัวไม่เข้าใจกิริยาของหลิงตู้ฉิง แต่หลิงว่านถิงนางโตกว่าน้องทั้งสองคน นางจึงเข้าใจหลิงตู้ฉิงเป็นอย่างดี
ตั้งแต่ที่นางมาอยู่กับหลิงตู้ฉิง นางไม่เคยเห็นพ่อของนางสนิทชิดเชื้อกับผู้หญิงคนไหนแม้แต่คนเดียว
ในฐานะที่เป็นบุตรสาวคนแรกที่หลิงตู้ฉิงพากลับมาอุปการะ การปรากฏตัวของจ้าวเหมิงลู่ทำให้นางค่อนข้างประทับใจอย่างมาก หากพ่อของนางจะเลือกใครคนใดคนหนึ่งระหว่างจ้าวเหมิงลู่และหลิวเฟ่ยเฟ่ยมาเป็นแม่ของนาง นางรู้สึกว่าจ้าวเหมิงลู่นั้นเหมาะสมกับหลิงตู้ฉิงมากกว่า
อย่างไรก็ตาม นางเองก็ได้รู้จักจ้าวเหมิงลู่เพียงไม่กี่วัน นางก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าจ้าวเหมิงลู่จะกลับมาหรือไม่?
หลังจากที่ด้านนอกคุยกันไปได้สักพัก
หลิงยู่ชานและคนอื่น ๆ ที่เรียนวิชาสรีรวิทยาเสร็จ ก็เดินออกจากห้องของถังชี่หยุนด้วยสีหน้าแปลก ๆ ในฐานะที่เป็นแม่และเป็นครูมาเป็นเวลานาน ถังชี่หยุนนั้นมีความสามารถในการสอนวิชาสรีรวิทยาเป็นอย่างดี หลิงยู่ชานและคนอื่น ๆ จึงได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง
หลังจากนั้นหลิงว่านถิงและเด็กหญิงคนอื่น ๆ ก็ถูกเรียกเข้าไปในห้องของครูถัง สำหรับหลิงยู่ชานและเด็กชายคนอื่น ๆ ที่เพิ่งเรียนเสร็จ พวกเขาก็เริ่มเข้ามาพูดคุยทำความรู้จักกับกับหลิวเฟ่ยเฟ่ยในเรื่องต่าง ๆ
ในท้ายที่สุดเมื่อเสร็จจากการทำความรู้จักหลิวเฟ่ยเฟ่ย ความคิดของพวกเด็ก ๆ ผู้ชายทุกคนก็คล้าย ๆ กันคือ พวกเขาชอบจ้าวเหมิงลู่มากกว่า
ด้านจ้าวเหมิงลู่ในตอนนี้กำลังเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมากในการเดินทางกลับไปยังเมืองหลวง
ในฐานะที่นางเป็นศิษย์ของสถาบันราชวงศ์ จ้าวเหมิงลู่ได้เดินทางไปยังป่าสัตว์เวทย์ที่ห่างไกลเพื่อรับการทดสอบจบการศึกษา
ด้วยความแข็งแกร่งของนาง แม้หลิงตู้ฉิงจะไม่เข้ามาแทรกแซง นางก็มีความมั่นใจในการจบการทดสอบด้วยตัวเอง
แต่เนื่องจากนางยังมีประสบการณ์ในการต่อสู้ไม่มาก จึงเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น แต่ว่าในความโชคร้ายนางยังได้พบกับโชคดี นั่นคือนางได้รับความช่วยเหลือจากหลิงตู้ฉิง ต่อมานางก็ได้รู้จักหลิงตู้ฉิงมากขึ้นและได้รับผลประโยชน์ติดมือมาด้วยมากมาย
นางใช้เวลาในการเดินทางไปถึงเมืองหลวงเพียงครึ่งเดือนโดยการขออาศัยร่วมเดินทางกับคาราวานต่าง ๆ ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวง
เมื่อถึงเมืองหลวง นางไม่ได้กลับไปที่ตระกูลของนาง แต่กลับไปที่สถาบันราชวงศ์แทน
“ศิษย์พี่ท่านกลับมาแล้ว!” ระหว่างทางบรรดาศิษย์ใหม่และศิษย์น้องที่รู้ว่านางกลับมาต่างพากันทักทายนาง
ด้วยพื้นหลังของนางที่เป็นหลานรักของอธิการบดีสถาบันราชวงศ์แถมยังเป็นลูกสาวสุดรักสุดหวงของข้าราชการระดับสูงของอาณาจักร ด้วยพื้นหลังที่โด่งดังเช่นนี้ ทุกคนต่างพากันประจบประแจงจ้าวเหมิงลู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเหล่าชายหนุ่ม หากพวกเขาสามารถแต่งงานกับจ้าวเหมิงลู่ได้ก็เหมือนกับตกถังข้าวสาร
หลาย ๆ คนทักทายจ้าวเหมิงลู่ด้วยความหวัง นางตอบรับไปพร้อม ๆ กับเดินไปด้วยความตื่นเต้นไปยังห้องทำงานของปู่นาง
เมื่อนางเปิดประตู นางเห็นจ้าวปาเทียนกำลังต้อนรับชายวัยกลางคนที่หล่อเหลาผู้หนึ่งอยู่
“ฝ่าบาท!” จ้าวเหมิงลู่รีบโค้งคำนับ
ชายวัยกลางคนหัวเราะเสียงดัง “อ่า เหมิงลู่เจ้ากลับมาแล้ว การทดสอบเป็นอย่างไรบ้าง?”
จ้าวเหมิงลู่ยิ้มแล้วพูดว่า “ฝ่าบาท ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น!”
“เจ้ากำลังจะสำเร็จการศึกษา หากเจ้าต้องการความช่วยเหลืออะไรในอนาคต เจ้าสามารถมาบอกข้าได้ทุกเวลา” ชายวัยกลางคนพูดด้วยรอยยิ้ม
“ขอบพระทัยฝ่าบาท!” จ้าวเหมิงลู่ขอบคุณเขา
“เอาล่ะ ข้าขอตัวก่อน!” หลังจากชายวัยกลางคนพูด เขาบีบมือจ้าวปาเทียนและจากไป
หลังจากชายวันกลางคนออกไปแล้ว จ้าวเหมิงลู่พูดกับจ้าวปาเทียน “ท่านปู่ ทำไมนายคนนี้ถึงมาที่นี่อีกแล้ว?”
จ้าวปาเทียนเบะปาก “เฮ้อ…แล้วจะให้ปู่ทำอะไรได้ เอาล่ะ เจ้าเข้ามาใกล้ ๆ แล้วบอกปู่ที เกิดอะไรขึ้นกับการทดสอบของเจ้า ทำไมปู่ถึงรู้สึกว่าระดับการบ่มเพาะของเจ้าก้าวกระโดดขึ้นไปถึงของขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 7 ได้กัน?”